รู้สึกตัว ผ่อนคลาย เฉย ๆ สบาย ๆ **กรุณา .อย่า.ได้บริจาคเงินให้ blog ผม ทาง e-wallet ครับ** **ผมขอสงวนสิทธิการเป็นเจ้าบ้านของ blog ลบข้อเขียนใดๆ ก็ได้ใน blog นี้ตามที่ผมเห็นสมควร**
Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2553
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
18 กรกฏาคม 2553
 
All Blogs
 
ความรู้จากภาวนามยปัญญาจะเป็นเพียงแว๊บ เพียงแว๊บ

มีคำสอนจากบางสำนัก ที่สอนว่า ให้สอนการดูกายเป็นหุ่นยนต์
เห็นกายเป็นเพียงหุ่นยนต์ที่เคลื่อนไหวไปมา หุ่นยนต์กินอาหาร หุ่นยนต์ขับถ่ายของเสีย
เืมื่อนักปฏิบัติได้ยินคำสอนดังนั้น ก็พยายามจะมองร่างกายเป็นหุ่นยนต์
ถามว่า การปฏิบัติอย่างนี้ถูกไหม

*****************
มาอ่านดูความเห็นของผมครับ

เนื่องจากเป็นคำสอนของสำนัก ที่ผมไม่ประสงค์จะไปวิจารณ์ว่าถูกหรือไม่
เพราะผมเอง ดูกาย ก็ไม่ได้ดูกายแบบนั้น ผมเพียงระลึกถึงกาย
ที่มีลักษณะของการเคลื่อนการไหว ดังที่ผมเขียนแนะนำไว้ที่
หลักการเบื้องต้นของกายานุปัสสนาสติปัฏฐานแบบชาวบ้าน
//www.bloggang.com/viewdiary.php?id=namasikarn&month=09-2009&date=02&group=1&gblog=83

แต่เมื่อผมได้ฝึกฝนไปด้วยการดูกายแบบรู้สึกถึงการเคลื่อนการไหว
ไปมาก ๆ เข้า ก็จะพบว่า มีความรู้ ที่เป็นการรู้ การเห็น ร่างกายแบบหุ่นยนต์เกิดขึ้นได้เอง
โดยการรู้ การเห็น เกิดขึ้นเพียงแว๊บเดียว แล้วก็หายไป แต่การเกิดแบบแว๊บเดียวแบบนี้เกิดขึ้นหลายครั้งด้วยกัน และการเกิดก็ไม่ได้มาจากการที่พยายามจะมองว่า
ร่างกายนี้เป็นหุ่นยนต์เลย

นอกจากการรู้ร่างกายเป็นหุ่นยนต์ ในการรู้ที่เกิดจากภวนามยปัญญาอื่น ๆ
ก็จะรู้แบบเดียวกัน คือ รู้แว๊บ รู้แว๊บ เพียงช่วงเวลาสั้น ๆ เท่านั้น
ประมาณเสี้ยววินาทีเดียว ไม่ยาวนานเลย
และการรู้แต่้ละครั้ง ก็มักจะเกิดขึ้นเอง แบบไม่มีปี่ไม่มีขลุย
ไม่ได้จงใจที่จะรู้ แต่จู่ ๆ มันก็โผล่แว๊บขึ้นมาเอง

ท่านคงมองภาพออกนะครับว่า ปัญญาจากการภาวนาที่เกิดนี้มีลักษณะอย่างไร

******
เรื่องท้ายบท
ถ้าท่านที่เป็นนัำกภาวนา ยังไม่เคยเกิดความรู้แว๊บเดียวแบบนี้เลย
ก็ไม่ต้องไปท้อใจ เพราะการเกิดแบบนี้ เกิดได้ยากและนาน ๆ ก็จะเกิดครั้งหนึ่ง
แต่ถ้าท่านภาวนาได้ถูกต้อง สักวันหนึ่งก็จะเกิดแก่ท่านอย่างแน่นอน
ขอให้ท่านอย่ากังวลว่าจะไม่มีัปัญญา




Create Date : 18 กรกฎาคม 2553
Last Update : 29 มกราคม 2555 16:06:55 น. 6 comments
Counter : 836 Pageviews.

 
เคยเกิดแว๊บๆเหมือนกัน. แต่นานๆๆมากๆกว่าจะเกิดสักที. ขอบคุณนะคะสำหรับบทความดีๆ. ติดตามอ่านทุกบทความเลยค่ะ


โดย: จิตติ IP: 124.122.47.77 วันที่: 18 กรกฎาคม 2553 เวลา:17:19:52 น.  

 
การรู้นี้ จะประกอบด้วย สติ สมาธิ ปัญญา เกิดขึ้นพร้อมกันชั่วขณะ
เหมือนกับแสงฟ้าแลบ ที่เกิดขึ้นแต่ละครั้งก็ทำให้ได้เห็นสิ่งของได้

สมาธินี้คือ ขณิกสมาธิที่เกิดขึ้นชั่วขณะ

(สมาธิชนิดนี้เป็นที่ถกเถียงกันมากว่าใช้เจริญวิปัสนาได้ไหม ผู้ที่พบเห็น และถึงวิปัสนาญาณ ย่อมเข้าใจว่า ขณะที่เห็นสภาพธรรมตามความเป็นจริงนั้น เป็นสมาธิชนิดไหน )

ขณิกสมาธิ วัดกันด้วยเวลาทีเิกิดขึ้น ตั้งอยู่ดับไปของสมาธิ ไม่ได้วัดกันที่ความลึกของสมาธิ

การเห็นนามธรรมก็เช่นเดียวกัน จะเห็นชั่วขณะ ทำให้เกิดปัญญารู้ว่าสิ่งที่เห็นนั้น คือ สภาพธรรมล้วนๆ ไม่มีเรา

ขออนุโมทนาครับ.......



โดย: palmgang IP: 119.42.73.183 วันที่: 18 กรกฎาคม 2553 เวลา:17:27:33 น.  

 
ขอบคุณ คุณ palmgang ที่เสริมความรู้ให้ครับ


โดย: นมสิการ วันที่: 18 กรกฎาคม 2553 เวลา:18:16:02 น.  

 
อนุโมทนาครับ สาธุครับ


โดย: ชาดี (shadee829 ) วันที่: 18 กรกฎาคม 2553 เวลา:19:21:41 น.  

 
อย่างที่เค้าเรียกว่า ปิ๊งแว้บ ใช่ไหมเอ่ย


โดย: Mr.Chanpanakrit วันที่: 18 กรกฎาคม 2553 เวลา:20:47:02 น.  

 
ผมจำเป็นต้องปิดการเขียนของท่านผู้อ่าน เนื่องจากกฏหมายอินเตอร์เนท
ที่อาจมีสิ่งผิดกฏหมายใส่เข้ามาใน blog

ท่านที่จะสนทนา หรือ ถามคำถาม ขอให้ส่ง email ถึงผมได้ที่
asknamasikarn@gmail.com

หรือสำหรับสมาชิก pantip จะส่งมาทางหลังไมค์ก็ได้เช่นกัน


โดย: นมสิการ วันที่: 29 มกราคม 2555 เวลา:16:35:34 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะ VIP Friend
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

นมสิการ
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 142 คน [?]




หลักปฏิบัติ ...รู้สึกตัว ผ่อนคลาย เฉย ๆ สบาย ๆ

มากกว่า 20 ปีที่ไปหลงทำสมถภาวนาแบบสมาธิแบบฤาษีโดยที่ไม่รู้จักกับคำว่า อะไรคือสัมมาสติ สัมมาสมาธิ ผลที่ได้คือความสงบขณะกำลังนั่งสมาธิจนตัวนิ่งแข็งเป็นก้อนหิน แต่ผลข้างเคียงตามมาก็คือการเป็นคนเจ้าโทสะอย่างรุนแรงขณะเวลาไม่ได้นั่งสมาธิ และ ที่อยู่ในชีวิตประจำวัน....

จนได้พบกัลยณมิตรแดนไกล ที่ได้ชักนำให้มารู้จักวิธีปฏิบัติแบบหลวงพ่อเทียน จนได้พบกับพระอาจารย์ในสายหลวงพ่อเทียน ที่ผมได้เรียนการปฏิบัติจากท่าน จนเข้าใจว่า สัมมาสติ สัมมาสมาธิ คืออะไร แล้วลงมือฝึกฝน การปฏิบัติก็รุดหน้าและได้ลิ้มรสสิ่งบริสุทธิในจิตใจอันเป็นผลจากการปฏิบัติด้วยเวลาเพียง 5 ปี

ธรรมปฏิบัติจากฆราวาสเขียนเป็นสิ่งที่ยอมรับได้ยากในสังคมไทย ผมรู้ได้จากที่เขียนใน blog ผมได้พบกับการก่อกวนใน blog การเขียนเหน็บแนม กระแหนะกระแหน ตำหนิการการปฏิบัติที่ผมเขียนใน blog ว่าผิดทาง เขียนแบบคาดเดาเอา ไม่รู้จริง ให้ผมหยุดเขียนแนวนี้ได้แล้ว และไปโมทนาสาธุแนะนำการปฏิบัติสมาธิแบบฤาษีให้กับผมอีกว่านี่คือทางที่ถูกต้อง ...

บทความใน blog จึงเกิดขึ้นมา เพื่อแบ่งปันประสบการณ์ในการภาวนา
แก่ผู้อื่นที่กำลังเดินทางในสายแห่งอริยมรรคนี้

เมื่อท่านได้เข้ามาอ่านข้อเขียนใน blog กรุณาอย่าได้เชื่อผมจนกว่า ท่านได้ทดลองปฏิบัติแล้วและพิสูจน์ด้วยตัวท่านเอง

**กรุณา .อย่า.ได้บริจาคเงินให้ blog ผมทาง e-wallet ครับ **

******
บทความต่าง ๆ ใน blog นี้
ขอสงวนสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537
ห้ามนำไปดัดแปลง ลอกเลียน หรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต

****
New Comments
Friends' blogs
[Add นมสิการ's blog to your web]
Links
 
MY VIP Friend


 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.