รู้สึกตัว ผ่อนคลาย เฉย ๆ สบาย ๆ **กรุณา .อย่า.ได้บริจาคเงินให้ blog ผม ทาง e-wallet ครับ** **ผมขอสงวนสิทธิการเป็นเจ้าบ้านของ blog ลบข้อเขียนใดๆ ก็ได้ใน blog นี้ตามที่ผมเห็นสมควร**
Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2553
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
18 มิถุนายน 2553
 
All Blogs
 
อริยสัจจ์ 4 ระดับปรมัตถ์ธรรม

ผมขอนำเสมอ อริยสัจจ์4 ในแนวของปรมัตถ์ธรรม
ซึ่งผมเกิดเข้าใจขึ้นมา อันเนื่องจากการปฏิบัติการเจริญสมมาสติ

สำหรับ อริยสัจจ์4 ในแนว classic ทุกท่านสามารถหาอ่านได้
มากมายในอินเตอร์เนทครับ

*** 444444 ******

เมื่อท่านได้ลงมือหมั่นฝึกฝนการเจริญสัมมาสติ จนกระทั่งมีสัมมาสติ
ที่ตั้งมั่นเป็นสัมมาสมาธิแล้ว ท่านจะพบกับสภาวะแห่งการตื่นรู้ เบิกบาน
จิตสดใส สว่าง ดังที่ผมได้เขียนอธิบายาสภาวะไว้ที่
อาการสภาวะแห่งการตื่น รู้ เบิกบาน เป็นอย่างไร
//www.bloggang.com/viewdiary.php?id=namasikarn&month=06-2010&date=17&group=8&gblog=35

นี่คือการข้อที่ 4 ของอริยสัจจ์ 4 อันมีชื่อเรียกย่อ ๆ สั้น ๆว่า มรรคมีองค์ 8

*** 33333 ******

เมื่อสภาวะแห่งการตื่นรู้ เบิกบาน จิตสดใส สว่าง เกิดขึ้น
นี่คือ สภาวะแห่ง ข้อที่ 3 ของอริยสัจจ์ 4 ที่มีชื่อเรียกย่อ ๆ สั้น ๆว่า นิโรธ
ซึ่งก็คือ การไม่มีทุกข์ นั้นเอง และก็ไม่มีสุข แต่มันจะเพียงเฉย ๆ สบาย ๆ
นักปฏิบัติที่มีัสัมมาสติทีตั้งมั่นมากเท่าใด สภาวะแห่งนิโรธ ก็ยิ่งปรากฏให้เห็น
ได้ชัด ได้นานมากเท่านั้น ถ้าท่านมีัสัมมาสติที่ต่อเนื่องไม่ขาดสายเลย
สภาวะแห่งนิโรธ ก็จะปรากฏอย่างต่อเนื่องไม่ขาดสายเช่นเดียวกัน

*** 22222 ******

ทีนี้ เมื่้อเกิดการทำงานของขันธ์ 5 ขึ้นมาเช่นการทำงานของสัญญา สังขาร
เช่นกิเลส ตัณหา และเงาของจิตขึ้นมาเมื่อใด
นักปฏิบัติทีทรงอยู่ในสภาวะแห่งนิโรธ ที่จิตสดใส สว่าง จะเห็นพลังงานอย่างหนึ่ง
ก่อตัวขึ้นในความว่างสว่างนั้น
(ขอให้จินตนาการที่คนพ่นควันบุหรี่ออกมาบาง ๆ ท่านจะเห็นควันบาง ๆ
ทีลอยในอากาศที่ว่างเปล่า มันจะคล้าย ๆ แบบนั้น )
นี่คือ อริยสัจจ์ ข้อที่ 2 สมุทัย หรือ สาเหตุที่ำทำให้เกิดทุกข์
ซึ่งจะว่ากันตามปรมัตถ์ธรรม มันก็คือพลังงานที่เกิดแทรกขึ้นในจิตที่สดใส
ทำให้จิตที่สดใส ไม่สดใส ครับ

ในพระไตรปิฏกมีกล่าวไว้ว่า จิตนั้นประภัสสร
แต่เป็นเพราะอุปกิเลสจรเข้ามา ทำให้จิตเศร้าหมอง

ซึ่งก็คือพลังงานที่เกิดขึ้นในจิตที่สดใสนั่้นเองครับ

**** 11111 ********

เมื่อนักปฏิบัติมีสัมมาสติที่ตั้งมั่นเป็นสัมมาสมาธิ ที่ทรงตัวอยู่ในสภาวะแห่งนิโรธเป็นเนื่องนิจ
เมื่อ เกิดพลังงานแทรกซ้อนที่ก่อตัวขึ้นในจิตที่สดใส สว่าง นักปฏิบัติก็จะเห็นพลังงาน
ที่ก่อตัวนี้ได้ทันทีอย่างฉับพลัน
การเห็นพลังงานนี้ในจิตที่สดใส ก็คือ
อริยสัจจ์ข้อที่ 1 ทีว่า ทุกข์ นั้นให้ รู้

เมื่อนักปฏิบัติเห็นพลังงานที่ก่อตัวขึ้นในจิตที่สดใส จิตจะมีขบวนการอะไรสักอย่าง
ทีผมอธิบายไม่ได้ มันเกิดขึ้นเร็วมาก ที่จะสลัดหรือทำลายพลังงานที่ก่อตัวนี้ออกไปอย่างรวดเร็ว
เมื่อพลังงานถูกทำลายไปอย่างรวดเร็วมาก ก็จะเหลือจิตทีสดใสอยู่ดังเดิม นั่นคือ การ
กลับเข้าสู่สภาวะแห่งนิโรธต่อไป

******

ขบวนการอริยสัจจ์มันก็จะวนเวียนอยู่แบบนี้ไปเรื่อย ๆคือ

นิโรธ >> สมุทัย >> ทุกข์ >> นิโรธ >> สมุทัย >> ทุกข์ ... ต่อไปเรื่อย ๆ ครับ

******

ท่านคงมองภาพออกนะครับว่า ผลแห่งการปฏิับัิติ อริยสัจจ์ข้อที่ 4 คือ อริยมรรคมีองค์ 8
นั้นผลมันจะออกมาเป็นเช่นไร

เมื่อมาถึงจุดนี้ ทำไมผมเข้าใจเพิ่มขึ้นอีกว่า

1..ทำไมการดูุจิต เห็นจิต จึงเป็นการปฏิบัติที่ลัดสั้น

>> เพราะว่า เมื่อเห็นจิต ก็เข้าใจในอริยสัจจ์ 4 อันเป็นแก่นแห่งพุทธศาสนา

2.. ทำไมหลวงพ่อเทียน ท่านสอนให้ดูความคิด เมื่อฝีกการเคลื่่อนมือจนจิตมีความสามารถเห็นความคิดได้แล้ว แต่บางอาจารย์ ท่านกลับสอนให้ดูจิตว่าง อันเป็นสภาวะแห่งการไร้ความคิด

>> เพราะว่า เป็นเพียงคำพูดในการสอน แต่การเห็นความคิดจะเห็นได้ก่อนเห็นจิตว่าง
ดังนั้น อาจารย์ที่ท่านสอนให้ดูจิตว่าง จะกระทำได้ในคนที่ผ่านการเห็นความคิดมาก่อนแล้ว
จึงจะเห็นจิตว่างได้แล้วเท่านั้น
แต่ไม่ว่าการสอน ดูความคิด หรือ ดูจิตว่าง ก็จะเห็นทั้ง 2 อย่างเสมอ คือ เห็นทั้งความคิด
และเห็นทั้งจิตว่างในขณะที่ไร้ความคิดนั่นเอง
แต่ถ้าลูกศิษย์ ไม่เข้าใจในเรื่องนี้ ก็จะตีความคำสอนผิดไป ว่า ดูความคิด ต้องไม่มีจิตว่าง
ดูิจิตว่าง ต้องไม่มีความคิด
แต่อันความคิด นี่คือ สมุทัย ที่เกิดขึ้น ทำให้จิตไม่สดใส
การมีัสัมมาสติที่ตั้งมั่นอย่างยิ่งยวดเท่านั้น จึงจะมีพลังในการสลาย
การก่อตัวแห่งความคิดไม่ให้เติบใหญ่มากขึ้นและสลายตัวไปได้เร็วมาก ๆ

***
เรื่องท้ายบท
(เขียนอย่างนี้ ทำให้นึกถึงผงซักฟอกขึ้นมาเลย พลังในการสลาย...)








Create Date : 18 มิถุนายน 2553
Last Update : 29 มกราคม 2555 16:10:07 น. 4 comments
Counter : 1214 Pageviews.

 
สาธุ


โดย: kaoim วันที่: 18 มิถุนายน 2553 เวลา:12:16:19 น.  

 
สาธุเช่นกัน


โดย: ชู IP: 202.28.124.38 วันที่: 18 มิถุนายน 2553 เวลา:12:29:19 น.  

 
คุณนมสิการ บรรยายการเห็นอริยสัจจ์ได้ดีจริง สาธุ สาธุ
สาธุ




โดย: ยิ่งเอก IP: 125.24.15.54 วันที่: 19 มิถุนายน 2553 เวลา:9:56:42 น.  

 
ผมจำเป็นต้องปิดการเขียนของท่านผู้อ่าน เนื่องจากกฏหมายอินเตอร์เนท
ที่อาจมีสิ่งผิดกฏหมายใส่เข้ามาใน blog

ท่านที่จะสนทนา หรือ ถามคำถาม ขอให้ส่ง email ถึงผมได้ที่
asknamasikarn@gmail.com

หรือสำหรับสมาชิก pantip จะส่งมาทางหลังไมค์ก็ได้เช่นกัน


โดย: นมสิการ วันที่: 29 มกราคม 2555 เวลา:16:41:25 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะ VIP Friend
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

นมสิการ
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 142 คน [?]




หลักปฏิบัติ ...รู้สึกตัว ผ่อนคลาย เฉย ๆ สบาย ๆ

มากกว่า 20 ปีที่ไปหลงทำสมถภาวนาแบบสมาธิแบบฤาษีโดยที่ไม่รู้จักกับคำว่า อะไรคือสัมมาสติ สัมมาสมาธิ ผลที่ได้คือความสงบขณะกำลังนั่งสมาธิจนตัวนิ่งแข็งเป็นก้อนหิน แต่ผลข้างเคียงตามมาก็คือการเป็นคนเจ้าโทสะอย่างรุนแรงขณะเวลาไม่ได้นั่งสมาธิ และ ที่อยู่ในชีวิตประจำวัน....

จนได้พบกัลยณมิตรแดนไกล ที่ได้ชักนำให้มารู้จักวิธีปฏิบัติแบบหลวงพ่อเทียน จนได้พบกับพระอาจารย์ในสายหลวงพ่อเทียน ที่ผมได้เรียนการปฏิบัติจากท่าน จนเข้าใจว่า สัมมาสติ สัมมาสมาธิ คืออะไร แล้วลงมือฝึกฝน การปฏิบัติก็รุดหน้าและได้ลิ้มรสสิ่งบริสุทธิในจิตใจอันเป็นผลจากการปฏิบัติด้วยเวลาเพียง 5 ปี

ธรรมปฏิบัติจากฆราวาสเขียนเป็นสิ่งที่ยอมรับได้ยากในสังคมไทย ผมรู้ได้จากที่เขียนใน blog ผมได้พบกับการก่อกวนใน blog การเขียนเหน็บแนม กระแหนะกระแหน ตำหนิการการปฏิบัติที่ผมเขียนใน blog ว่าผิดทาง เขียนแบบคาดเดาเอา ไม่รู้จริง ให้ผมหยุดเขียนแนวนี้ได้แล้ว และไปโมทนาสาธุแนะนำการปฏิบัติสมาธิแบบฤาษีให้กับผมอีกว่านี่คือทางที่ถูกต้อง ...

บทความใน blog จึงเกิดขึ้นมา เพื่อแบ่งปันประสบการณ์ในการภาวนา
แก่ผู้อื่นที่กำลังเดินทางในสายแห่งอริยมรรคนี้

เมื่อท่านได้เข้ามาอ่านข้อเขียนใน blog กรุณาอย่าได้เชื่อผมจนกว่า ท่านได้ทดลองปฏิบัติแล้วและพิสูจน์ด้วยตัวท่านเอง

**กรุณา .อย่า.ได้บริจาคเงินให้ blog ผมทาง e-wallet ครับ **

******
บทความต่าง ๆ ใน blog นี้
ขอสงวนสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537
ห้ามนำไปดัดแปลง ลอกเลียน หรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต

****
New Comments
Friends' blogs
[Add นมสิการ's blog to your web]
Links
 
MY VIP Friend


 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.