การฝึกในรูปแบบ คือ จงใจกระทำอย่างนั้นหรือ
มีคำถามทีน่าสนใจในแวดวงการปฏบัติ ผมเห็นว่า คำถามนี้ดี มีประโยชน์ต่อนักปฏิบัติ ผมจึงนำมาเรียบเรียงใหม่ดังนี้..
การฝึกฝนในรูปแบบ คือ การจงใจกระทำใช่หรือไม่ และมีผลอย่างไร เพราะการจงใจกระทำ ก็คือ อัตตาตัวตน แต่ในการปฏิบัติ เราต้องการทำลาย อัตตาตัวตนลงไป แล้วอย่างนี้ การฝึกฝนในรูปแบบ ก็ไปค้านกับความ ต้องการทำลายอัตตาตัวตนซิ
มาดูความเห็นของผมครับ ซึ่งเป็นความเห็นส่วนตัว ผิดถูกอย่างไร ฝากไว้ให้ท่านผู้อ่านพิจารณาเองด้วยปัญญา ******************** ผมท่องเที่ยวในแวดวงกรรมฐานมานานนับ 20 ปีขึ้นไป คำถามนี้ ผมได้เคยได้ยินมาจากหลายอาจารย์ที่ท่านสอนกรรมฐาน เมื่อผมยังไม่ประสาการปฏิบัติ ผมก็เกิดข้อสงสัยเป็นอันมาก เพราะมันเป็นเหตุเป็นผลดีเช่นกัน ค้านไม่ได้เลย แล้วจะให้เชื่อใครกัน ในเมื่อ อาจารย์ที่สอนปฏิบัติก็มักจะพูดว่า ให้ทำฝึกฝนให้มาก ๆ นี่มันขัดกันชัด ๆ เลย
ผมมีเขียนบทความใน blog นี้ไว้แล้วเรื่อง เมื่อจงใจ กระทำสิ่งใด ความเป็นตัวตนก็จะเกิดขึ้นทันที //www.bloggang.com/viewdiary.php?id=namasikarn&month=05-2010&date=27&group=8&gblog=20
กล่าวโดยสรุป เป็นความจริงที่ว่า ถ้าเราจงใจกระทำสิ่งใด นั้นคือการสร้างอัตตาตัวตนขึ้นมา ท่านอาจารย์ที่กล่าวไว้ข้างต้น ท่านกล่้าวไม่ผิดครับ
ทีนี้ ในฐานะที่เราต้องการเจริญสติปัฏฐาน 4 เราจะทำอย่างไรดีละ
เรื่องนี้ ท่านต้องชั่้งใจ บวกลบคูณหาร หาทางหนีทีไล่กันก่อนครับ
ถ้าท่านไม่ตั้งใจฝึกฝนการปฏิบัติ จิตท่านจะไม่มีกำลังสัมมาสติ สัมมาสมาธิ เมื่อไม่มีกำลังสัมมาสติ สัมมาสมาธิ ท่านก็ไม่สามารถเจริญวิปัสสนาได้ครับ นี่ก็เรื่องจริงอีกเช่นกัน
แต่ถ้าท่านใช้อุบายวิธีการปฏิบัติว่า ...... ในเมื่อจิตท่านยังไม่มีกำลังสัมมาสติ สัมมาสมาธิ ท่านสมควรลงมือฝึกฝนในรูปแบบก่อน เพื่อให้จิตมีกำลังตั้งมั่นให้ได้ก่อน โดยไม่ต้องไปสนใจ ในเรื่องอัตตาตัวตนในระยะแรกนี้เริ่มนี้ ต่อเมื่อ จิตมีกำลังตั้งมั่นแล้ว จึงมาสนใจการการทำลายอัตตาตัวตนนี้ในภายหลัง
ซึ่งเป็นอุบายทีสามารถกระทำให้เป็นจริงได้ และจะสอดคล้องกับการสอนทั้ง 2 อย่าง
มาดูประสบการณ์จริงทีเกิดขึ้นที่ตัวผม ผมจะเล่าให้ฟัง
ในชีิวิตจริงของคนทุก ๆคน ไม่มีใครที่สามารถจงใจกระทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งได้ตลอดเวลา ครับ นี่คือความจริง เช่น ถ้าท่านเป็นนักปฏิบัีติ ท่านไม่สามารถฝึกฝนในรูปแบบได้ตลอดเวลา ในยามที่ท่านตื่นอยู่ ท่านจะมีชิีวิตส่วนตัวที่ท่านไม่ไ้ด้ฝึกฝนในรูปแบบเสมอๆ ในวันหนึ่ง ๆ เช่น ท่านต้องอาบน้ำ ต้องกินอาหาร ต้องใส่เสื้อผ้า ต้องซักผ้า ต้องทำโน่น ทำนี่ในชีิวิตประจำวัน ซึ่งท่านไม่สามารถฝึกฝนในรูปแบบได้ครับ
แต่ถ้าท่านฝึกฝนในรูปแบบอยู่ ซึ่งในขณะฝึกนั้นจะสร้่างอัตตาตัวตนขึ้น ก็จริงอยู่ แต่การมีัสัมมาสติที่ได้จากการฝึกฝนในรูปแบบ จะสืบเนื่องมายังในจังหวะที่ ท่านมีชีิวิตประจำวันที่ไม่ได้ฝึกฝนในรูปแบบอยู่ จริงใหมครับ ซึ่งในจังหวะที่อยู่ในชีิวิตประจำวันนี้แหละครับ คือสิ่งประเสริฐ ที่กำลังสัมมาสติที่ได้มาจากการฝึกฝนในรูปแบบ จะเข้ามาเกี่ยวข้องกับในสภาวะที่ไม่ได้จงใจกระทำอันเป็นอัตตาตัวตน แล้วเกิดปัญญารู้แจ้งเห็นจริงของขันธ์ 5 ได้
ผมเคยเขียนบอกไว้ที่ไหนใน blog ของผม ผมจำไม่ได้ครับว่า การเกิดปัญญารู้แจ้งที่เกิดขึ้นที่ผม ไม่เคยเกิดขึ้นเลยในขณะที่ผมกำลังฝึกฝนในรูปแบบอยู่ แต่จะเกิดขึ้นในเวลาที่ผมกำลังทำโน่น ทำนี่ในชิวิตประจำวันนี่เองครับ
และเมื่อผมฝึกไปเรื่อย ๆ ผมพบอีกว่า พอจิตมันเกิดตื่น สว่าง เบิกบาน และเข้าใจสภาวะแห่งการตื่นแล้ว มันจะมีการปฏิวัติอีกแบบหนึ่งขึ้นกล่าวคือ ไม่ว่าฝึกฝนในรูปแบบ หรือ ไม่ึฝึกฝนในรูปแบบ สภาวะมันจะเหมือนกัน ไม่ต่างกันเลย ซึ่งผมคาดว่า สาเหตุน่าจะเกิดจากปัญญาที่มากขึ้นนั้นเอง
กล่าวโดยสรุปสำหรับการปฏิบัติ
การฝึกฝนในรูปแบบ ให้ฝึกไปก่อน เพื่อสร้างกำลังสัมมาสติ สัมมาสมาธิให้ตั้งมั่น อย่าเพิ่งไปสนใจการทำลายอัตตาตัวตนในระยะแรกเริ่มนี้ แต่เมื่อฝึกฝนในรูปแบบ จนจิตมีกำลังแล้ว มันจะทำงานให้ท่านเองในยามที่ท่านอยู่ ในกิจกรรมชีิวิตประจำวัน แล้วปัญญาจะเกิดได้ในเวลานั้นเอง เมื่อได้ฝึกไปมาก ๆ เข้า ก็จะเกิดการเปลี่ยนแปลงอีกว่า ไม่ว่าจะฝึกฝนรูปแบบ หรือไม่รูปแบบ ผลมันจะเหมือนกัน
ท่านคงพอมองเรื่องนี้และแนวทางการปฏิบัติได้นะครับ
**** เรื่องท้ายบท จากที่ผมได้อ่านคำสอนของหลวงปู่ดูลย์ที่ว่า พบผู้รู้ให้ทำลายผู้รู้
ผมพบว่า จิตรู้ ที่มีสภาวะแห่งการเป็นดวงอยู่ ที่เกิดขึ้นใหม่ๆ หลังจาก ที่จิตรู้มีกำลังและสามารถแยกตัวออกจากขันธ์ 5 ได้แล้วที่เกิดในระยะแรก ๆ จิตรู้ นี่เอง คือ ความรู้สึกการเป็นตัวตนของคน
ต่อเมื่อได้ฝึกฝนต่อไป จนเกิดปัญญาเห็นแจ้งขึ้นอีก จะพบว่า จิตรู้ ที่เป็นดวง จะเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้น คือ จิตรู้ ที่เป็นดวง จะสลายไป กลายเป็น จิตรู้ ที่ไม่เป็นดวงอีก แต่เป็นจิตรู้ ที่มีสภาพของความว่างแทน และเมื่อไร ที่จิตรู้ได้แปลสภาพเป็นความว่างแล้ว ความรู้สึกว่า การมีอัตตาตัวตน จะลดลงไปเรื่อยๆ จนหดหายไปเอง อ่านเรื่อง จิตรู้ 2 แบบ ที่ //www.bloggang.com/viewdiary.php?id=namasikarn&month=06-2009&date=05&group=1&gblog=26
Create Date : 22 มิถุนายน 2553 |
|
10 comments |
Last Update : 29 มกราคม 2555 16:09:30 น. |
Counter : 953 Pageviews. |
|
|
|
ขออนุโมทนาด้วยครับผม