รู้สึกตัว ผ่อนคลาย เฉย ๆ สบาย ๆ **กรุณา .อย่า.ได้บริจาคเงินให้ blog ผม ทาง e-wallet ครับ** **ผมขอสงวนสิทธิการเป็นเจ้าบ้านของ blog ลบข้อเขียนใดๆ ก็ได้ใน blog นี้ตามที่ผมเห็นสมควร**
Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2553
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
3 มิถุนายน 2553
 
All Blogs
 

อย่าไปหาอะไรในสิ่งที่เที่ยง นอกจากธาตุรู้

เมื่อผมกำลังเดินทางในอริยมรรค ผมมักได้ยินคนพูดกันบ่อย ๆ ว่า
เมื่อเห็นไตรลักษณ์ของขันธ์ 5 แล้ว ก็คือรู้ความไม่เที่ยง
ต่อไป ให้หาอะไรในสิ่งที่เที่ยง

ผมเชื่อว่า เหล่านักปฏิบัติที่กำลังเดินทางในอริบมรรค เมื่อได้ยินคำพูดแบบเซ็นข้างต้นแล้ว ก็มักจะคิดต่อไปเองว่า สิ่งที่เที่ยงนะหรือ คงเป็นนิพพาน
และนิพพาน ก็จะมีลักษณะของสุญญตา อันเป็นความว่าง แล้วก็เที่ยวควานหา เที่ยวจ้องหาไปเรื่อย เอ...มันอยู่ไหนหว่า...

ในขบวนการปฏิบัติธรรมเพื่อการพ้นทุกข์ เมื่อกำลังแห่งสัมมาสติ สัมมาสมาธิ ตั้งมั่นในระดับหนึ่ง จะไปพบกับความว่างครับ เมื่อผมพบความว่าง
เข้า ผมก็แสนจะยินดีมาก และเข้าใจไปเองว่า นี่ไง พบแล้ว สิ่งทีเที่ยง คือความว่าง และมันก็คือ นิพพาน แต่ผมเข้าใจผิดครับ เพราะถึงแม้ว่า
จะพบความว่าง ความสงบทางจิตใจก็จริง แต่เมื่อกำลังสมาธิตกลงเมื่อไร
ทุกข์มันยังเข้าครอบงำจิตได้อีก ผมก็เลยรู้ว่า นี่ไม่ใช่แล้วครับ
แต่ผมยอมรับว่า เมื่อความว่างปรากฏให้เห็นอยู่ กิเลสไม่สามารถเข้าครอบงำจิตได้เลย และบ่อยครั้งมาก ที่ความว่างปรากฏให้เห็นอยู่เสมอ บางครั้งปรากฏให้เห็นเป็นวัน ๆ เป็นสัปดาห์ทีเดียว มันหลอกเก่งมากครับ

ผมยังพบอาการหนึ่ง ที่เป็นเม็ดสว่างภายในร่างกาย ผมไม่รู้ว่านี่คืออะไร
แต่เช่นกัน เมื่อเม็ดสว่างปรากฏอยู่เสมอ ทุกข์ก็ไม่สามารถปรากฏขึ้นได้อีกเช่นกัน ถ้าเม็ดสว่างหายเมื่อไร สมาธิตก ทุกข์ก็จะเข้ามาเยือนได้ครับ

เมื่อผมพบความจริงของจิตว่าง ของเม็ดสว่างว่างภายในแล้วว่า มันคือผลแห่งสมาธิที่แข็งแรงเท่านั้น แต่สมาธิเป็นของไม่เที่ยง มันเสื่อมได้ครับ
และนี่คือของจริง ที่ว่า ถ้าเสื่อม ทุกข์จะมา ถ้าไม่เสือม ทุกข์จะหาย

เมื่อได้เจริญสัมมาสติต่อไปอีก ผมได้พบกับธาตุรู้ มันคืออาการรู้นี้แหละครับ รู้ที่แสนจะธรรมดา แต่มันจะต่างจากเมื่อก่อน ที่มันว่องไวครับ
มันไวมาก พอจะมีอะไรเกิดขึ้นในจิตใจ มันจะรู้ทันที จะเรียกว่า รู้ล่วงหน้าก็พอจะได้ ( อ่านเรื่อง //www.bloggang.com/viewdiary.php?id=namasikarn&month=05-2010&date=22&group=8&gblog=16 )
พอรู้แล้ว สิ่งที่กำลังจะเกิดมันจะหยุดทันที ไม่ไปต่อ เลยไม่รู้ว่า สิ่งที่กำลังจะเกิดมันคืออะไร

เมื่ออยู่ในสภาพปรกติ ก็จะเหมือนคนทั่ว ๆ ไป ไม่มีอะไรวิเศษเลย
แต่ถ้ามีอะไรจะมาแล้ว ธาตุรู้จะทำงานทันที ถ้าเปรียบเหมือนกับว่า ท่านรู้ภาษาต่างประเทศ แต่ถ้าท่านไม่ต้องการใช้มัน มันก็ไม่ปรากฏออกมา
แต่ถ้าท่านต้องฟัง ต้องพูดภาษาต่างประเทศ มันก็จะโผล่ออกมาให้ท่านใช้ได้ครับ

นี่คือ ความมหัศจรรย์ของธาตุรู้ มันทำงานของมันอย่างนั้นเอง

เมื่อจิตไม่ทุกข์ มันก็สบาย แต่สบายแบบรู้ว่าสบาย ผมก็ไม่รู้ว่า สิ่งนี้จะคือนิพพานหรือไม่ เพราะมันไม่มีอะไรเลยจริง ๆ มันคือวิชชาที่ซอนอยู่ภายใน
นี่เอง เพียงแต่ว่า เมื่อจะใช้มันเมื่อไร มันพร้อมจะทำงานให้โดยไม่เกี่ยงงอน

การปลุกธาตุรู้ให้ตื่น ก็จะมาจากการเจริญสัมมาสติ จนตั้งมั่นเป็นสัมมาสมาธิ แล้วนั่นเอง พอได้ที่ของมัน มันจะมาปรากฏให้เราเห็นเอง แต่จริง ๆ มันมีอยู่แล้วแหละ แต่เราไม่รู้จักมันเท่านั้นเอง

อย่าไปหาอะไรที่มันเที่ยงเลยครับ ของมันมีอยู่แล้ว ในตัวเราทุกคนนี่แหละ เพียงแต่ปลุกมันให้ตื่นขึ้นมาทำงานก็เท่านั้น มันนอนมานานแล้ว สมควรตื่นได้แล้วครับ




 

Create Date : 03 มิถุนายน 2553
3 comments
Last Update : 29 มกราคม 2555 16:11:09 น.
Counter : 1004 Pageviews.

 

ขอเรียกธาตุรู้ในที่นี้ว่าปัญญาธรรมอัศจรรย์อย่างไม่น่าเชื่อคงได้มังคะ

 

โดย: Chulapinan 3 มิถุนายน 2553 19:10:04 น.  

 

สาธุค่ะ...

 

โดย: ตั้งไข่ IP: 112.142.95.177 4 มิถุนายน 2553 7:01:31 น.  

 

ผมจำเป็นต้องปิดการเขียนของท่านผู้อ่าน เนื่องจากกฏหมายอินเตอร์เนท
ที่อาจมีสิ่งผิดกฏหมายใส่เข้ามาใน blog

ท่านที่จะสนทนา หรือ ถามคำถาม ขอให้ส่ง email ถึงผมได้ที่
asknamasikarn@gmail.com

หรือสำหรับสมาชิก pantip จะส่งมาทางหลังไมค์ก็ได้เช่นกัน

 

โดย: นมสิการ 29 มกราคม 2555 16:45:32 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะ VIP Friend
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


นมสิการ
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 142 คน [?]




หลักปฏิบัติ ...รู้สึกตัว ผ่อนคลาย เฉย ๆ สบาย ๆ

มากกว่า 20 ปีที่ไปหลงทำสมถภาวนาแบบสมาธิแบบฤาษีโดยที่ไม่รู้จักกับคำว่า อะไรคือสัมมาสติ สัมมาสมาธิ ผลที่ได้คือความสงบขณะกำลังนั่งสมาธิจนตัวนิ่งแข็งเป็นก้อนหิน แต่ผลข้างเคียงตามมาก็คือการเป็นคนเจ้าโทสะอย่างรุนแรงขณะเวลาไม่ได้นั่งสมาธิ และ ที่อยู่ในชีวิตประจำวัน....

จนได้พบกัลยณมิตรแดนไกล ที่ได้ชักนำให้มารู้จักวิธีปฏิบัติแบบหลวงพ่อเทียน จนได้พบกับพระอาจารย์ในสายหลวงพ่อเทียน ที่ผมได้เรียนการปฏิบัติจากท่าน จนเข้าใจว่า สัมมาสติ สัมมาสมาธิ คืออะไร แล้วลงมือฝึกฝน การปฏิบัติก็รุดหน้าและได้ลิ้มรสสิ่งบริสุทธิในจิตใจอันเป็นผลจากการปฏิบัติด้วยเวลาเพียง 5 ปี

ธรรมปฏิบัติจากฆราวาสเขียนเป็นสิ่งที่ยอมรับได้ยากในสังคมไทย ผมรู้ได้จากที่เขียนใน blog ผมได้พบกับการก่อกวนใน blog การเขียนเหน็บแนม กระแหนะกระแหน ตำหนิการการปฏิบัติที่ผมเขียนใน blog ว่าผิดทาง เขียนแบบคาดเดาเอา ไม่รู้จริง ให้ผมหยุดเขียนแนวนี้ได้แล้ว และไปโมทนาสาธุแนะนำการปฏิบัติสมาธิแบบฤาษีให้กับผมอีกว่านี่คือทางที่ถูกต้อง ...

บทความใน blog จึงเกิดขึ้นมา เพื่อแบ่งปันประสบการณ์ในการภาวนา
แก่ผู้อื่นที่กำลังเดินทางในสายแห่งอริยมรรคนี้

เมื่อท่านได้เข้ามาอ่านข้อเขียนใน blog กรุณาอย่าได้เชื่อผมจนกว่า ท่านได้ทดลองปฏิบัติแล้วและพิสูจน์ด้วยตัวท่านเอง

**กรุณา .อย่า.ได้บริจาคเงินให้ blog ผมทาง e-wallet ครับ **

******
บทความต่าง ๆ ใน blog นี้
ขอสงวนสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537
ห้ามนำไปดัดแปลง ลอกเลียน หรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต

****
New Comments
Friends' blogs
[Add นมสิการ's blog to your web]
Links
 
MY VIP Friend


 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.