อาการสภาวะแห่งการตื่น รู้ เบิกบาน เป็นอย่างไร
เมื่อนักปฏิบัติได้หมั่นเจริญสัมมาสติจนมีสติตั้งมั่นได้อยู่แล้ว จะมีอาการตื่นรู้ เบิกบาน เกิดขึ้น ผมจะอธิบายสภาวะแห่งการตื่นรู้ เบิกบาน ที่ผมพบให้ท่านฟัง
*****************************
ท่านเคยเล่นเก้าอี้ดนตรีไหมครับ ถ้าเคย คงเข้าใจได้ง่าย ถ้ายังไม่เคย ผมแนะนำให้ท่านลองเล่นดูก่อน แล้วจะเข้าใจ
เมื่อท่านเล่นเก้าอี้ดนตรี ประสาททุกส่วนของท่านจะตื่นตัว เพราะถ้าไม่ตื่นตัว จะเล่นแพ้ทันที
ในขณะที่ประสาทตื่นตัว ขอให้ท่านสังเกต
ตา ว่องไว ในการจ้องหาจุดเก้าอี้ว่างที่จะิวิ่งเข้าไปหา และ ว่องไวในการจับจ้องคนเล่นอื่น ๆ ไปในขณะเดียวกัน
หู ว่องไว ในการรับรู้เสียงดนตรีทีจะหยุดได้ทุกขณะ
ร่างกาย ว่องไวที่จะวิ่งอย่างรวดเร็วเพื่อไปยังเก้าอี้ว่างที่หมายตานั้น
การตื่นตัวในการปฏิบัติธรรมจะคล้าย ๆ แบบนั้น แต่ต่างกันตรงที่ เก้าอี้ดนตรี จะเครียดเนื่องจากมีความต้องการอันเป็นตัณหาประกอบอยู่ ****
แต่การตื่นตัวจากการปฏิบัติธรรม จะไม่เครียด เพราะมันคือการเป็นไปเองอย่างธรรมชาติ ไม่มีตัณหาเป็นส่วนประกอบ ****
อาการหนึ่งที่เกิดขึ้นเมื่อมีการตื่น คือ สภาวะแห่งมีความรู้สึกถึง ความสว่างบริเวณใบหน้า
ผมจะชี้ให้ท่านเห็นว่า สว่างนั้นเป็นอย่างไร
ท่านเคยดูภาพยนต์ในโรงภาพยนต์ หรือ ดูหนังกลางแปลงไหมครับ ถ้าเคย ก็คงจะเข้าใจได้ง่าย เมื่อท่านเข้าไปในโรงภาพยนต์ ที่ยังไม่ฉาย ที่หน้าจอ จะเป็นหน้าจอทีมืด ๆ มัว ๆ สลัว ๆ ไม่สว่าง สภาวะนี้จะเหมือนกับคนที่จิตยังไม่ืตืนขึ้น มันจะมัว ๆ แบบนี้เอง
แต่เมื่อเริ่มฉายภาพยนต์ จะมีแสงสว่างปรากฏที่หน้าจอที่มัว ๆ นั้น ทำให้หน้าจอเกิดแสงสว่างปรากฏออกมาที่หน้าจอ อาการตื่นก็จะมีลัำกษณะคล้ายเช่นนี้ คือมันจะสว่าง สดใส ขึ้น
เมื่ออยู่ในสภาวะแห่งการตื่นรู้ ประสาทจะว่องไว สว่าง สดใส ไม่มัวซัว เมื่อจิตเริ่มมีอาการอะไรขึ้น จะเห็นได้ทันทีเลยว่า ความสว่าง ที่สดใส นั้นจะเริ่มมัวหมองลงไป ที่เห็นได้ทันทีรวดเร็ว เพราะว่า ประสาทการรับรู้ต่าง ๆ มันว่องไวอยู่แล้ว มันจึงเห็นการแปรเปลี่ยนแห่งการตื่นรู้ได้อย่างรวดเร็วมาก
ถ้าเกิดจะมีการเปลี่ยนแปลงไปในทางมัวซัว ก็จะเห็นการแปรเปลี่ยนได้เร็ว เมื่อจิตเห็นว่าจะมัวซัว จิตมันจะดีดกลับมาสดใส ปิ๊งอีกครั้งหนึ่งได้อย่างรวดเร็วเช่นกัน โดยไม่รู้เลยว่า อาการที่มันมัวซัวไปเมื้อกี้ มันคืออะไร จิตจึงรู้สึกเบิกบานอยู่เป็นเสมอ กิเลส ก็เข้าสิงสู่จิตใจไม่ได้เช่นกัน
ผมสังเกตเห็นว่า อาการจิตตื่นนี้ มันจะมีพลังงานสว่างที่อยู่บริเวณใบหน้า
ในการปฏิบัตินั้น ก่อนที่จะพบกับความสว่างจากการตื่นตัว การตื่นตัว ก็จะเกิดก่อน แต่ยังไม่สว่าง แต่จะมัวซัว ผลแห่งการตื่นตัว แต่มัวซัว นี้ นักปฏิบัติจะเห็นอาการกิเลสต่าง ๆ เห็นอาการทางจิตใจได้เช่นกัน แต่จะไม่ชัด และไม่ว่องไวนัก
แต่ถ้าตื่นตัวแล้วสว่าง การเห็นกิเลส เห็นอาการทางจิตใจ จะเห็นได้ชัดขึ้นและว่องไวมากขึ้น
สภาวะตื่นรู้ เิบิกบาน มันก็แสนจะ ธรรมดา ธรรมดา นี่แหละ แต่ผลของมันนี่ซิ ดีจริง ๆ
Create Date : 17 มิถุนายน 2553 |
|
3 comments |
Last Update : 29 มกราคม 2555 16:10:14 น. |
Counter : 2178 Pageviews. |
|
|
|