รู้สึกตัว ผ่อนคลาย เฉย ๆ สบาย ๆ **กรุณา .อย่า.ได้บริจาคเงินให้ blog ผม ทาง e-wallet ครับ** **ผมขอสงวนสิทธิการเป็นเจ้าบ้านของ blog ลบข้อเขียนใดๆ ก็ได้ใน blog นี้ตามที่ผมเห็นสมควร**
Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2553
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
17 พฤษภาคม 2553
 
All Blogs
 
เพียงดู เพียงรู้ แล้วละกิเลสได้จริงหรือ

พอดีได้พบคำถามนี้ในอินเตอร์เนท ผมเห็นว่าเ็ป็นสิ่งที่น่าสนใจ
ผมจึงขอนำแสดงความเห็นดังนี้

จากคำถามมีว่า เพียงดู เพียงรู้ แล้วละกิเลสได้จริงหรือ

ในทางธรรมนั้น สรรพสิ่งล้วนมาจากเหตุและปัจจัย
ดังนั้น การทีจะตอบแบบฟันธงว่า จริง หรือ ไม่จริง จึงไม่ใช่ทางที่ถูกต้อง
กับความเป็นจริง

มาดูเหตุและปัจจัยกันครับ

1. การเพียงดู เพียงรู้ โดยไม่มีกำลังแห่งสัมมาสติ สัมมาสมาธิ
ไม่มีทางละกิเลสได้เลย เพราะจิตไร้กำลังแห่งสัมมาสติ สัมมาสมาธิ
การดูแบบนี้ ผู้ดูจะเห็นว่า กิเลสนั้นเป็นตัวเขา เป็นของเขา
นี่คือสภาพของปุถุชนทั่ว ๆ ไปที่ไม่มีการฝึกฝนสัมมาสติ สัมมาสมาธิ

2. สำหรับผู้ที่ฝึกฝนจนจิตมีกำลังสัมมาสติ สัมมาสมาธิ
และสามารถเห็นการเกิดขึ้นของกิเลสได้บ้าง ไม่ได้บ้าง
ลักษณะเช่นนี้ แสดงว่า เขาเริ่มจะมีการพัฒนาการของจิต
ขึ้นมาแล้ว ผู้เห็นแบบนี้ สามารถละกิเลสได้ด้วยกำลังของสมาธิ
และเขาจะละกิเลสได้ในกรณีที่ สมาธิของเขาที่ยังดีอยู่ในขณะที่กิเลสเกิด
ถ้าในจังหวะที่กำลังสมาธิของเขาตกลง และเผอิญเกิดกิเลสขึ้่นในตอนนั้น
เขาจะไม่สามารถละกิเลสได้ เขาจะยังโดนกิเลสเล่นงานอยู่บ่อย ๆ
แต่ก็ยังดี ที่เริ่มสามารถละได้เป็นบางครั้ง

3. สำหรับผู้ที่ฝึกฝนจนจิตมีกำลังสัมมาสติ สัมมาสมาธิตั้งมั่นมากขึ้น
จนสามารถเห็นจิตที่นิ่งสงบอยู่ภายในได้ เขาจะมีความสำเร็จในการจัดการ
กับกิเลสได้ดีกว่าคนในข้อ 2 กิเลส เล่นงานเขาได้ยากขึ้น

4.สำหรับผู้ทีฝึกฝนจนจิตมีกำลังสัมมาสติ สัมมาสมาธิตั้งมั่นอย่างมาก
เขาเห็นจิตที่นิ่งสงบอยู่ภายในได้อย่างมั่นคงแล้ว
เขาจะเห็นการทำงาน การก่อตัวเกิดขึ้นของ
กิเลสได้ เขาจะมีปัญญารู้ว่า อันว่า กิเลส ก็คือ ธรรมชาติอย่างหนึ่ง
ที่มาจากการปรุงแต่งของจิตใจ มันเป็นไตรลักษณ์
ไม่มีอะไรน่ากลัว เขาไม่มีการยึดมั่นถือมั่นในกิเลสที่เกิดขึ้นอีกต่อไป
เมื่อกิเลสกำลังจะก่อตัวขึ้นในจิตใจ เขาจะเห็นการไหวตัวนี้ทันที
แล้วกิเลสที่กำลังจะเกิดขึ้น ก็จะดับลงไปทันทีอย่างรวดเร็ว
ถึงตอนนี้ ไม่มีกิเลสแล้วมีแต่ธรรมชาติ

*************
ท่านจะเห็นว่า กำลังของสัมมาสติ สัมมาสมาธิ คือ ตัวหลักใหญ่
แห่งการจัดการกับกองกิเลส
ดังนั้น การตอบคำถามที่ว่า เพียงดู เพียงรู้ แล้วละกิเลสได้จริงหรือ
จึงอยู่ที่กำลังของสัมมาสติ สัมมาสมาธิ

ถ้ามีกำลังสัมมาสติ สัมมาสมาธิ เมื่อกิเลสเกิดไม่ต้องทำอะไรเลย
กิเลสมันก็จะสลายไปเองอย่างอัตโนมัติ
แต่ถ้าไม่มีกำลังสัมมาสติ สัมมาสมาธิ เมื่อกิเลสเกิด เขาจะโดนกิเลสเล่นงานทันที
ถ้าเขาต้องการละกิเลสตัวนั้น เพื่อให้จิตใจสงบลง
เขาต้องใช้สมถภาวนาเข้ามาช่วย

******
จากบทความนี้ ท่านจะเห็นว่า
การปฏิบัติธรรมเพื่อการพ้นทุกข์นั้น จะขึ้นกับกำลังแห่งสัมมาสติ สัมมาสมาธิ
ในจิตใจของนักปฏิบัติ ดังนั้น การที่ท่านลงมือฝึกฝนใด ๆ ถ้าเป็นไปเพื่อ
การแข็งแกร่งตั้งมั่นของสัมมาสติ สัมมาสมาธิแล้วละก็ ท่านจะฝึกแบบใด
ใช้ได้ทั้งสิ้น

แต่ถ้าการฝึกฝนปฏิบัติไม่เป็นไปเพื่อความตั้งมั่นแห่งสัมมาสติ สัมมาสมาธิแล้วละัก็
ท่านกำลังเดินทางผิดแล้วครับ ท่านจะเสียเวลาเปล่าและจะหมดกำลังใจไปในที่สุด

************









Create Date : 17 พฤษภาคม 2553
Last Update : 29 มกราคม 2555 16:12:11 น. 1 comments
Counter : 1053 Pageviews.

 
ผมจำเป็นต้องปิดการเขียนของท่านผู้อ่าน เนื่องจากกฏหมายอินเตอร์เนท
ที่อาจมีสิ่งผิดกฏหมายใส่เข้ามาใน blog

ท่านที่จะสนทนา หรือ ถามคำถาม ขอให้ส่ง email ถึงผมได้ที่
asknamasikarn@gmail.com

หรือสำหรับสมาชิก pantip จะส่งมาทางหลังไมค์ก็ได้เช่นกัน


โดย: นมสิการ วันที่: 29 มกราคม 2555 เวลา:16:47:10 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะ VIP Friend
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

นมสิการ
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 142 คน [?]




หลักปฏิบัติ ...รู้สึกตัว ผ่อนคลาย เฉย ๆ สบาย ๆ

มากกว่า 20 ปีที่ไปหลงทำสมถภาวนาแบบสมาธิแบบฤาษีโดยที่ไม่รู้จักกับคำว่า อะไรคือสัมมาสติ สัมมาสมาธิ ผลที่ได้คือความสงบขณะกำลังนั่งสมาธิจนตัวนิ่งแข็งเป็นก้อนหิน แต่ผลข้างเคียงตามมาก็คือการเป็นคนเจ้าโทสะอย่างรุนแรงขณะเวลาไม่ได้นั่งสมาธิ และ ที่อยู่ในชีวิตประจำวัน....

จนได้พบกัลยณมิตรแดนไกล ที่ได้ชักนำให้มารู้จักวิธีปฏิบัติแบบหลวงพ่อเทียน จนได้พบกับพระอาจารย์ในสายหลวงพ่อเทียน ที่ผมได้เรียนการปฏิบัติจากท่าน จนเข้าใจว่า สัมมาสติ สัมมาสมาธิ คืออะไร แล้วลงมือฝึกฝน การปฏิบัติก็รุดหน้าและได้ลิ้มรสสิ่งบริสุทธิในจิตใจอันเป็นผลจากการปฏิบัติด้วยเวลาเพียง 5 ปี

ธรรมปฏิบัติจากฆราวาสเขียนเป็นสิ่งที่ยอมรับได้ยากในสังคมไทย ผมรู้ได้จากที่เขียนใน blog ผมได้พบกับการก่อกวนใน blog การเขียนเหน็บแนม กระแหนะกระแหน ตำหนิการการปฏิบัติที่ผมเขียนใน blog ว่าผิดทาง เขียนแบบคาดเดาเอา ไม่รู้จริง ให้ผมหยุดเขียนแนวนี้ได้แล้ว และไปโมทนาสาธุแนะนำการปฏิบัติสมาธิแบบฤาษีให้กับผมอีกว่านี่คือทางที่ถูกต้อง ...

บทความใน blog จึงเกิดขึ้นมา เพื่อแบ่งปันประสบการณ์ในการภาวนา
แก่ผู้อื่นที่กำลังเดินทางในสายแห่งอริยมรรคนี้

เมื่อท่านได้เข้ามาอ่านข้อเขียนใน blog กรุณาอย่าได้เชื่อผมจนกว่า ท่านได้ทดลองปฏิบัติแล้วและพิสูจน์ด้วยตัวท่านเอง

**กรุณา .อย่า.ได้บริจาคเงินให้ blog ผมทาง e-wallet ครับ **

******
บทความต่าง ๆ ใน blog นี้
ขอสงวนสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537
ห้ามนำไปดัดแปลง ลอกเลียน หรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต

****
New Comments
Friends' blogs
[Add นมสิการ's blog to your web]
Links
 
MY VIP Friend


 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.