รู้สึกตัว ผ่อนคลาย เฉย ๆ สบาย ๆ **กรุณา .อย่า.ได้บริจาคเงินให้ blog ผม ทาง e-wallet ครับ** **ผมขอสงวนสิทธิการเป็นเจ้าบ้านของ blog ลบข้อเขียนใดๆ ก็ได้ใน blog นี้ตามที่ผมเห็นสมควร**
Group Blog
 
<<
กันยายน 2553
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930 
 
7 กันยายน 2553
 
All Blogs
 
ประโยชน์ของการฝึกสติปัฏฐานเมื่อได้ผล จะดับทุกข์ได้

ประโยชน์ของการฝึกสติปัฏฐานโดยตรง คือ การดับทุกข์

ทุกข์นั้นคือเวทนา มีทั้งทางกายและทางจิตใจ

ทุกคนที่เกิดมา ย่อมต้องเคยพบเวทนากันทั้งนั้น
เมื่อสุขก็ต้องการ แต่ถ้าเป็นทุกข์ก็อยากจะหนี แต่หนีอย่างไรก็ไม่พ้น
การฝึกสติปัฏฐาน จะช่วยเรื่องนี้ได้โดยตรง

การดับทุกข์ คือ การไม่ยึดมั่นถือมั่นในทุกข์นั้น
การไม่ยึดมั่นถือมั่นนี้ไม่ใช่เพียงหลุดออกมาจากปากอย่างง่าย ๆ
พูดอย่างไรก็สั่งให้จิตไม่ยึดมั่นถือมั่นได้ เมื่อไปพบกับทุกขเวทนาตัวจริงเข้า

แต่การไม่ยึดมั่นถือมั่นนั้น มาจากที่ จิตรู้ ไม่วิ่งเข้าไปจับ เวทนา นั้นต่างหาก เมื่อ จิตรู้ เป็นอิสระ ไม่วิ่งเข้าไปจับยึดใน เวทนา ที่กำลังเกิดขึ้น
นี่ืคือการไม่ยึดมั่นถือมั่นที่แท้จริง จิตรู้ จะอยู่ส่วนจิต เวทนา ที่เกิดอยู่ก็อยู่ส่วนเวทนา
ไม่ปะปนกัน อาการนี้ ผู้ปฏิบัติสติปัฏฐานที่ได้ผลแล้ว ย่อมเห็นชัด และได้รับประโยชน์นี้กันทุกคน
แต่ปุถุชนผู้ไม่ได้ปฏิบัติย่อมมองไม่ออก ไม่เข้าใจว่าเป็นอย่างไร และรับทุกขเวทนาไปเต็ม ๆ

เมื่อยามเจ็บป่วยทางกาย ทุกขเวทนาย่อมมีอยู่แล้ว แต่ยามที่ใกล้จะสิ้่นลม
ทุกขเวทนายิ่งแก้กล้ามากขึ้น การไม่เตรียมพร้อมกับสภาพเช่นนี้ จิตใจย่อมแปรปรวน
หวาดหวั่น ยามสิ้นลมแล้ว ทุกขคติย่อมมีที่ไปในที่สุด

การปฏิบัติสติปัฏฐานนั้น ก็เืพื่อเพียงนี้ เป็นการเตรียมรับมือกับทุกขเวทนาที่ต้องมีเกิิดขึ้น
และเตรียมตัวที่จะสิ้นลมไป

เมื่อมีเกิด ย่อมมีแก่ ย่อมมีเจ็บ ย่อมมีตาย
แต่สติปัฏฐานมีอยู่ ถ้าไม่ปฏิบัติ ก็คือความประมาทของตนเอง
อย่าได้โทษใคร หรือ ศาสนาว่าไม่ช่วยเลย

**********
เรื่องท้ายบท

เมื่อกัลยาณชนได้ฝึกฝนสิตปัฏฐานจนมีกำลังแห่งสัมมาสติที่แก้กล้าตั้งมั่นเป็นสัมมาสมาธิ
อาการที่จิตรู้จะไม่วิ่งไปจับยึดทุกขเวทนาจะเกิดได้เอง โดยที่ไม่ต้องไปทำอะไรเลย
นี่คือพระพุทธคุณที่ยิ่งใหญ่ที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ประทานไว้กับพุทธบริษัท

Free TextEditor



Create Date : 07 กันยายน 2553
Last Update : 29 มกราคม 2555 16:01:12 น. 17 comments
Counter : 2568 Pageviews.

 
แวะเข้ามาดูครับ ทักทายเพื่อนใหม่ ^^


โดย: MaFiaVza วันที่: 7 กันยายน 2553 เวลา:7:23:57 น.  

 
สาธุ สาธุ สาธุค่ะ

จะขออนุญาติส่งลิงก์ของบล็อกนี้ให้เพื่อนผู้ปฏิบัติธรรมได้ไหมคะ..


โดย: ธัมมทีโป IP: 125.27.206.91 วันที่: 7 กันยายน 2553 เวลา:10:09:11 น.  

 
ได้ครับ


โดย: นมสิการ วันที่: 7 กันยายน 2553 เวลา:12:15:41 น.  

 
ขอ copy ไปลง FB ของเราหน่อยนะคะ

และขอบคุณมากที่ช่วยชี้นำสิ่งดีดีค่ะ


โดย: Jigkiw IP: 125.25.250.255 วันที่: 7 กันยายน 2553 เวลา:17:04:58 น.  

 
สาธุฯ อนุโมทนาครับคุณนมสิการ

เข้ามาอ่านบทความดีๆ ที่ช่วยให้ผู้ปฏิบัติไม่หลงทางครับ


โดย: ในความฝันของใครสักคน วันที่: 8 กันยายน 2553 เวลา:20:51:58 น.  

 
การปฏิบัติด้วยความหวัง ก่อให้เกิดอาการเพ่ง เพราะกลัวที่จะไม่รู้สึกตัวชัด ถ้าปล่อยสบายๆใจมันก็จะไหลไปคิดโน่นคิดนี่ไปเรื่อย แต่นานๆทีจะรู้สึกตัวขึ้นมาเองก็ไม่มากนัก ถ้าตั้งใจจะทำถูกมันยิ่งไม่ถูก ถ้าปล่อยมันก็ไม่ถูกอีกเช่นกัน ผมรู้สึกว่าจะทำยังไงมันก็ไม่ถูกอยู่ดี แต่ทุกๆครั้งที่ผิดรู้สึกว่าจิตมันกำลังเรียนรู้ มันยังหาทางสายกลางยากครับ

แต่การยกมือช้าๆนี่ผมยังทำไม่ค่อยได้ มันจะแน่นอึดอัด ถ้าเคลื่อนเร็วขึ้นมาหน่อยมันรู้สึกผ่อนคลายถึงแม้ว่าจะรู้สึกตัวมั่ง ไม่รู้มั่ง ไม่ทราบว่าทำแบบนี้ได้หรือเปล่าครับ ยังสับสนอยู่


โดย: virut IP: 183.89.119.161 วันที่: 9 กันยายน 2553 เวลา:20:06:52 น.  

 
ตอบ คุณ Virut

การปฏิบัตินั้น อย่าได้กังวลมากว่าจะไม่รู้สึกตัวชัด นี่เป็นเพราะทางโลก
มันคุ้นกับการชัด ๆ แต่การปฏิบัตินั้น มันจะเบาๆ ไม่ชัดนะครับ
และบางเบาชนิดที่ว่า บางทีก็จะรู้ บางทีก็เหมือนไม่รู้
แต่จริง ๆ มันรู้อยู่ แต่นักภาวนาไม่เข้าใจมันเท่านั้นว่าจริง ๆ มันรู้อยุ่

ถ้าจะรู้ชัดกว่านี้ ต้องแรง ๆ ครับ เช่น การวิ่งจะรู้การสั่นสะเทือนได้ชัด
การชกกระสอบทราย เมื่อหมัดสัมผัสกับกระสอบทรายจะชัด
(อ่านเรื่อง การพิจารณากาย https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=namasikarn&month=08-2010&date=27&group=8&gblog=108)

แต่ถ้าฝึกแบบหลวงพ่อเทียน มือขณะเคลื่อน หยุด จะเบามาก
รู้จะไม่ชัด แต่ขณะทีฝ่ามือถูไปตามลำตัว นี่จะรู้สึกได้ชัด เพราะมันแรง
ถ้าลำบากใจว่าต้องการรู้ชัด ก็ฝึกเพียงแค่ ถูลำตัวไปอย่างเดียวก็ได้
ครับ เมื่อถูไปมาก ๆ เข้า กำลังสติจะเพิ่มขึ้นอีก แล้วค่อยไปฝึกใหัครบ
15 ท่าของหลวงพ่อเทียน

สำหรับการเคลื่อนมือช้า ๆ นี่อย่าได้ช้าแบบ slow motion แต่ให้ช้าแบบสบาย ๆ เหมือนเราเคลื่อนไหวแบบปรกติแ่ต่ช้าลงนิดหน่อย
เคยดูหนังประเภท Romantic ไหมครับ เวลาพระเอกเอื่อมมือไปจับมือนางเอก เขาจะเคลื่อนมือช้า ๆ แบบนั้นเลยครับ

การเคลื่อนเร็ว ไม่ดีแน่ครับ ผมไม่แนะนำ เพราะผลที่ได้มันต่ำกว่าการเคลื่อนช้ามาก ที่เคลื่อนช้าแล้วอึดอัด ผมคาดว่า น่าจะมาจากการเกร็ง
อะไรสักอย่าง เช่น พยายามให้ช้ามากไป หรือ ต้องการรู้การเคลื่อนด้วย

การปฏิบัตินั้น เพียงรู้สึกตัว เท่านั้นที่นักภาวนาต้องประคอง แล้วก็อาศัยการสัมผัสแบบกายานุปัสสนา (ตาม Link ที่เขียนไว้ ) นั่นแหละ ให้สติเข้าไปจับสัมผัส ก็จะเป็นการเพิ่มกำลังสติเอง
ซึ่งคนใหม่ๆ ผมแนะนำการสัมผัสที่แรง ๆ ก่อน เช่นการลูบตัว ลูบแขน ขา ฝึกไปสัก 1 เดือน กำลังสติจะแรงขึ้น แล้วจึงมาฝึกเคลื่อนไหวต่อไป เ่ช่น 15 จังหวะแบบหลวงพ่อเทียน


โดย: นมสิการ วันที่: 10 กันยายน 2553 เวลา:6:27:02 น.  

 


โดย: virut (viroot ) วันที่: 10 กันยายน 2553 เวลา:10:13:56 น.  

 
"บางทีก็จะรู้ บางทีก็เหมือนไม่รู้ แต่จริง ๆ มันรู้อยู่ แต่นักภาวนาไม่เข้าใจมันเท่านั้นว่าจริง ๆ มันรู้อยุ่" ->หายข้องใจแล้วครับ ตรงจุดนี้ ทีแรกผมก็กังวลตรงนี้อยู่ แต่ผมสังเกตุว่า ความอึดอัดทั้งหลายที่ผมมีเกิดจากความอยากตัวเดียวครับ แต่การเดินช้าๆผมจะไม่อึดอัดจะรู้สึกสบาย คือเดินแบบไม่คาดหวังอะไร เหมือนกับการเดินเล่นเฉยๆ และไม่สนใจแล้วว่าจะรู้สึกตัวหรือไม่ คือ จิตใจมันรู้สึกเหนื่อยกับการนั่งแล้วอึดอัดแล้วพอไปเดินแล้วรู้สึกว่าเป็นการเดินพักผ่อนซะมากกว่า ซึ่งก็ปรากฏว่าเดินไ้ด้อย่างสบายๆ โดยที่ไม่รู้ว่ารู้สึกตัวหรือเปล่า เพราะมันเดินโดยไม่หวังอะไรแล้ว

อยากให้ท่านมนสิการทำลิงค์แบบที่ผมทำข้างบนได้ไหมครับ เพราะจะได้คลิกได้สะดวกหน่อย


โดย: viroot วันที่: 10 กันยายน 2553 เวลา:10:38:24 น.  

 
ที่เขียนมาตอนเดินนั้นแหละถูกต้องแล้ว รู้สึกแบบนั้นก็พอแล้ว

ส่วน Link มันยากสำหรับผมที่จะทำครับ ขออภัยด้วยครับ


โดย: นมสิการ วันที่: 10 กันยายน 2553 เวลา:12:00:28 น.  

 
ขออนุญาต เรียนคุณ viroot
ช่วยอธิบายวิธีทำ Link ให้ทราบหน่อยครับ ผมพิมพ์ใน Mail ก็ไม่ได้ครับ
ขอบคุณครับ


โดย: คนใหม่ IP: 222.123.212.12 วันที่: 11 กันยายน 2553 เวลา:7:34:28 น.  

 
<'a' href='ชื่อลิงค์'>ชื่อลิงค์<'/a'>

จาก 'a' และ '/a' ลบเครื่องหมาย ' ' ออกครับ


โดย: viroot วันที่: 11 กันยายน 2553 เวลา:21:43:28 น.  

 
ขอบคุณครับ คุณ viroot


โดย: นมสิการ วันที่: 11 กันยายน 2553 เวลา:23:54:37 น.  

 
<'a' href='ชื่อลิงค์' target='_blank'>ชื่อลิงค์<'/a'>

อันนี้จะขึ้นหน้าใหม่ให้ครับ


โดย: viroot วันที่: 13 กันยายน 2553 เวลา:16:12:54 น.  

 
ขอบคุณครับ คุณ viroot


โดย: นมสิการ วันที่: 13 กันยายน 2553 เวลา:17:06:11 น.  

 
ขอบคุณมากค่ะ คุณนมสิการ
ชอบอ่านบล็อกของคุณค่ะ เพราะตนเองเริ่มปฏิบัติธรรมตามแนวทางของหลวงพ่อเทียน ได้แนวทางปฏิบัติจากคุณเยอะเลย

ตั้งใจจะปฏิบัติไปเรื่อยๆ เพื่อจัดการกับความโกรธของตัวเองให้ได้ ตอนนี้ก็ลดลงมากแล้วล่ะค่ะ

ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีๆ นะคะ แล้วจะเข้ามาอ่านบ่อยๆ


โดย: ต้นไผ่ IP: 111.84.34.220 วันที่: 26 กันยายน 2553 เวลา:12:24:32 น.  

 
ผมจำเป็นต้องปิดการเขียนของท่านผู้อ่าน เนื่องจากกฏหมายอินเตอร์เนท
ที่อาจมีสิ่งผิดกฏหมายใส่เข้ามาใน blog

ท่านที่จะสนทนา หรือ ถามคำถาม ขอให้ส่ง email ถึงผมได้ที่
asknamasikarn@gmail.com

หรือสำหรับสมาชิก pantip จะส่งมาทางหลังไมค์ก็ได้เช่นกัน


โดย: นมสิการ วันที่: 29 มกราคม 2555 เวลา:16:24:48 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะ VIP Friend
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

นมสิการ
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 142 คน [?]




หลักปฏิบัติ ...รู้สึกตัว ผ่อนคลาย เฉย ๆ สบาย ๆ

มากกว่า 20 ปีที่ไปหลงทำสมถภาวนาแบบสมาธิแบบฤาษีโดยที่ไม่รู้จักกับคำว่า อะไรคือสัมมาสติ สัมมาสมาธิ ผลที่ได้คือความสงบขณะกำลังนั่งสมาธิจนตัวนิ่งแข็งเป็นก้อนหิน แต่ผลข้างเคียงตามมาก็คือการเป็นคนเจ้าโทสะอย่างรุนแรงขณะเวลาไม่ได้นั่งสมาธิ และ ที่อยู่ในชีวิตประจำวัน....

จนได้พบกัลยณมิตรแดนไกล ที่ได้ชักนำให้มารู้จักวิธีปฏิบัติแบบหลวงพ่อเทียน จนได้พบกับพระอาจารย์ในสายหลวงพ่อเทียน ที่ผมได้เรียนการปฏิบัติจากท่าน จนเข้าใจว่า สัมมาสติ สัมมาสมาธิ คืออะไร แล้วลงมือฝึกฝน การปฏิบัติก็รุดหน้าและได้ลิ้มรสสิ่งบริสุทธิในจิตใจอันเป็นผลจากการปฏิบัติด้วยเวลาเพียง 5 ปี

ธรรมปฏิบัติจากฆราวาสเขียนเป็นสิ่งที่ยอมรับได้ยากในสังคมไทย ผมรู้ได้จากที่เขียนใน blog ผมได้พบกับการก่อกวนใน blog การเขียนเหน็บแนม กระแหนะกระแหน ตำหนิการการปฏิบัติที่ผมเขียนใน blog ว่าผิดทาง เขียนแบบคาดเดาเอา ไม่รู้จริง ให้ผมหยุดเขียนแนวนี้ได้แล้ว และไปโมทนาสาธุแนะนำการปฏิบัติสมาธิแบบฤาษีให้กับผมอีกว่านี่คือทางที่ถูกต้อง ...

บทความใน blog จึงเกิดขึ้นมา เพื่อแบ่งปันประสบการณ์ในการภาวนา
แก่ผู้อื่นที่กำลังเดินทางในสายแห่งอริยมรรคนี้

เมื่อท่านได้เข้ามาอ่านข้อเขียนใน blog กรุณาอย่าได้เชื่อผมจนกว่า ท่านได้ทดลองปฏิบัติแล้วและพิสูจน์ด้วยตัวท่านเอง

**กรุณา .อย่า.ได้บริจาคเงินให้ blog ผมทาง e-wallet ครับ **

******
บทความต่าง ๆ ใน blog นี้
ขอสงวนสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537
ห้ามนำไปดัดแปลง ลอกเลียน หรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต

****
New Comments
Friends' blogs
[Add นมสิการ's blog to your web]
Links
 
MY VIP Friend


 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.