รู้สึกตัว ผ่อนคลาย เฉย ๆ สบาย ๆ **กรุณา .อย่า.ได้บริจาคเงินให้ blog ผม ทาง e-wallet ครับ** **ผมขอสงวนสิทธิการเป็นเจ้าบ้านของ blog ลบข้อเขียนใดๆ ก็ได้ใน blog นี้ตามที่ผมเห็นสมควร**
Group Blog
 
<<
กันยายน 2553
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930 
 
20 กันยายน 2553
 
All Blogs
 

นี่ อะไร

ถ้าท่านได้เดินทางไปต่างประเทศ อาจพบกับสัตว์หรืออาหารที่ท่านไม่เคย
พบมาก่อน เมื่่อท่านพบเห็นครั้งแรก ก็มักจะมีคำถามตามมาเสมอว่า
นี่ อะไร ?

การเกิดคำถามดังกล่างขึ้นมา เป็นเพราะท่านไม่รู้จักสิ่งนั้นมาก่อน
สิ่งนั้นมันไม่ได้อยู่ในระบบความจำของท่านมาก่อน

ถ้าย้อนกลับมาดูในการปฏิบัติธรรม นักภาวนาจะพบกับสภาวะธรรม
ใหม่ๆ ที่ตนเองไม่เคยพบมาก่อนเลย และ มักจะมีคำถามตามมาเสมอ
ว่า นี่ อะไร ??

เมื่อเกิดความสงสัย ก็จะไต่ถามจากครูบาอาจารย์ หรือ หาอ่านจากตำรา

แต่สิ่งที่ครูบาอาจารย์ตอบ หรือ มีกล่าวในตำรา ล้วนเป็นของ .สมมุติ.
ขึ้นมาเพื่ออธิบายเป็นภาษาให้เข้าใจกันทั้งสิ้น ทั้ง ๆ ที่นักภาวนาได้พบ
สิ่งนั้นมาแล้วในระดับ .ปรมัตถ์. อันเป็นของจริงแท้ โดยที่นักภาวนา
ไม่จำเป็นต้องไปรู้ชื่อเีรียกของมันเลย

ย้ำครับ... ไม่จำเป็นต้องไปรู้ชื่อเรียกของมันเลย
แต่ถ้าต้องการจะรู้จักชื่อ ก็ไม่ผิดอะไร แต่ไม่จำเป็นแต่อย่างใด

การเรียกชื่อนี่แหละ ที่ทำให้เิกิดการโต้แย้งถกเถียงกันในหมู่ชาวพุทธ
ว่าอย่างนี้ถูก อย่างนั้นผิด ทั้ง ๆ ที่ผู้ถกเถียงบางครั้ง ก็ไม่เคยพบกับสภาวะธรรม
อย่างนั้นมาก่อนเลยในชีวิต

ในตำรากล่าวว่า พระสมณโคดม เป็นพระพุทธเจ้าองค์ที่ 4 ในภัทรกัลป์นี้
และองค์ที่ 5 อันเป็นองค์สุดท้ายในภัทรกัลป์นี้ คือ พระศรีอารยเมตไตร

ผมสมมุติว่า เมื่อพระศรีอารเมตไตรทรงตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้ว
ท่านทรงบัญญัติคำสมมุติขึ้นมาที่ต่างจากพระสมณโคคม เช่น
สมมุติว่า พระศรีอารยเมตไตร ทรงบัญญัติว่า มุุ-โป-เส แทนคำว่่า จิต-มโน-วิญญาณ
ที่พระสมณโคดมบัญญัติไว้ ท่านจะเห็นว่า จะชื่อว่าอะไรก็ตาม เรียกอะไรก็ตาม
ถึงแม้ชื่อเรียกต่างกัน แต่ของจริง ๆ อันเป็นปรมัตถ์ มันคือสิ่งเดียวกัน

ถ้าคนกอดคัมภีร์ในยุคพระศรีอารยเมตไตร ได้เข้าเครื่อง Time Machine มายังยุคปัจจุบัน
และไปพบกับนักกอดคัมภีร์ในยุคนี้ ท่านลองจินตนาการในคำสนทนาธรรมระหว่่างคนทั้ง 2 ดูซิครับ ว่าจะมั่่ว ไม่รู้เรื่องขนาดไหน เพราะชื่อสมมุติของทั้ง 2 สมัยมันไม่เหมือนกันนั่นเอง

เรื่อง จิตเกิดดับ ที่ถกเถียงกันอยู่เสมอ ๆ ในเวปบอร์ด ผมมักเห็นมีคนเอาพระไตรปิฏก
มาชี้เลยว่า ในพระไตรปิฏกมีกล่าวว่า จิต มโน วิญญาณ คือ สิ่งเดียวกัน และเกิดดับ
ดังลิงเหนี่ยวกิ่งไม้จากกิ่่งโน้นแล้วป่ล่อยไปจับกิ่งนี้
แต่สายพระปฏิบัติกลับบอกว่า จิตเป็นอมตะ ไม่เกิดไม่ดับ

ผมไม่ได้จะมาชี้ว่า ตำราผิดหรือพระปฏิบัติพูดผิด แต่ผมเชื่อว่ ตำราและพระปฏิบัติไม่ผิด
แต่ที่พูดไม่เหมือนกัน เพราะสิ่งที่พูดมันคนละอย่างกัน ดังเช่่นคำเรียกที่ผมสมมุติในยุคพระศรีอริยเมตไตรกับยุคปัจจุบัน

การถกเถียงดังกล่าว ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ในการปฏิบัติเลย และผมก็ไม่แนะนำให้นักภาวนา
ไปสนใจกับเรื่องเหล่านี้ เพราะถึงรู้ไปก็ใช้ดับทุกข์จริงไม่ได้ ถ้านักปฏิบัติได้พบสภาวะธรรมจริง ๆ ที่เป็นสภาวะแห่งปรมัตถ์ดังที่พระพุทธเจ้า ทรงพบนั่่นแหละ ถึงแม้ไม่รู้จักชื่อ ก็ใช้ดับทุกข์ได้ จะประเสริฐกว่า

******
เรื่องท้ายบท

ความคุ้นเคยกับเรื่องทางโลก ทำให้นักภาวนาเข้าใจในธรรมได้ยากขึ้น ทั้ง ๆที่ธรรมนั้น มันแสนง่ายในตัวของมันเอง แต่เพราะคนก็พยายามสร้างสิ่งต่าง ๆ เพื่อเสริมเข้าไปในธรรมชาตินั้น
อย่างเช่นเรื่อง นี่ อะไร ที่ผมเขียนไว้ข้างต้น

ขอเพียงพบกับ ธรรมชาติ พบแล้วก็ปล่อยผ่านไป ไม่ต้องไปใส่ใจกับสิ่งนั้น
มันจะชื่ออะไรก็ช่่างมัน และไม่ต้องไปหวังว่าจะต้องพบกับมันอีก มันจะพบก็ได้
ไม่พบก็ได้ ไม่สำคัญอีกเช่นกัน

ขอเพียงพบเพื่อรู้ รู้แล้วให้ละ อย่ายึดติดในสิ่งที่พบ ก็ใช้ได้แล้วครับ





 

Create Date : 20 กันยายน 2553
3 comments
Last Update : 29 มกราคม 2555 15:59:55 น.
Counter : 1030 Pageviews.

 

วันนี้เพิ่งไปฟังเทศน์อาจารย์มา

ท่านพูดเรื่องนี้เลยค่ะ โมทนาสาธุ..

ปฏิบัติมาสายไม่ติดสมมติค่ะ ท่านให้เอาของจริงของแท้มาพูดกัน ถ้าอยากรู้จริงๆ ค่อยไปหาสมมติมาเทียบเคียง

กลุ่มที่ทำจริง รู้จริง คุยกันรู้เรื่อง แม้สมมติจะคนละอย่าง

แต่พวกรู้จากสมมตินั้น ฉันยอมแพ้ค่ะ ขอโง่แบบนี้แหละ..
ขี้เกียจเถียงเขา อ่านธรรมมาเยอะก็เห็นว่าที่ท่านพี่เขียนนี่แหละใช่.. มาทางเดียวกัน แม้จะคนละแนว (ที่ฉันเรียนมาเน้นจิตล้วนๆ อย่างอื่นตามมาทีหลัง) ก็ลงกันดี

สิ่งที่ได้เรียนรู้ที่นี่ ช่วยอธิบายสภาวะได้หลายๆ ครั้ง เนื่องจากอาจารย์ฉันท่านไม่พูดมาก

ก็เลยแนะนำเพื่อนๆ เสมอว่า ถ้าจะหาสมมติอ่าน เพื่อช่วยให้เข้าใจสถาวะธรรมมากขึ้น ก็ต้องมาแถวบล็อคนี้แหละ..ปลอดภัย..เพราะของจริงค่ะ

 

โดย: ธัมมทีโป IP: 125.27.204.172 21 กันยายน 2553 0:56:32 น.  

 

เห็นด้วยอย่างยิ่งค่ะ เข้ามาอ่านบล็อคของคุณมนสิการอยู่เสมอๆได้ และเป็นแนวทางในการปฏิบัติได้จริงด้วย ขอบคุณคุณมนสิการและขออนุโมทนาบุญที่ทำบล็อคธรรมะดีแบบนี้มาให้อ่านค่ะ

 

โดย: ไตรโสภณ IP: 58.8.10.151 21 กันยายน 2553 9:49:19 น.  

 

ผมจำเป็นต้องปิดการเขียนของท่านผู้อ่าน เนื่องจากกฏหมายอินเตอร์เนท
ที่อาจมีสิ่งผิดกฏหมายใส่เข้ามาใน blog

ท่านที่จะสนทนา หรือ ถามคำถาม ขอให้ส่ง email ถึงผมได้ที่
asknamasikarn@gmail.com

หรือสำหรับสมาชิก pantip จะส่งมาทางหลังไมค์ก็ได้เช่นกัน

 

โดย: นมสิการ 29 มกราคม 2555 16:23:28 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะ VIP Friend
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


นมสิการ
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 142 คน [?]




หลักปฏิบัติ ...รู้สึกตัว ผ่อนคลาย เฉย ๆ สบาย ๆ

มากกว่า 20 ปีที่ไปหลงทำสมถภาวนาแบบสมาธิแบบฤาษีโดยที่ไม่รู้จักกับคำว่า อะไรคือสัมมาสติ สัมมาสมาธิ ผลที่ได้คือความสงบขณะกำลังนั่งสมาธิจนตัวนิ่งแข็งเป็นก้อนหิน แต่ผลข้างเคียงตามมาก็คือการเป็นคนเจ้าโทสะอย่างรุนแรงขณะเวลาไม่ได้นั่งสมาธิ และ ที่อยู่ในชีวิตประจำวัน....

จนได้พบกัลยณมิตรแดนไกล ที่ได้ชักนำให้มารู้จักวิธีปฏิบัติแบบหลวงพ่อเทียน จนได้พบกับพระอาจารย์ในสายหลวงพ่อเทียน ที่ผมได้เรียนการปฏิบัติจากท่าน จนเข้าใจว่า สัมมาสติ สัมมาสมาธิ คืออะไร แล้วลงมือฝึกฝน การปฏิบัติก็รุดหน้าและได้ลิ้มรสสิ่งบริสุทธิในจิตใจอันเป็นผลจากการปฏิบัติด้วยเวลาเพียง 5 ปี

ธรรมปฏิบัติจากฆราวาสเขียนเป็นสิ่งที่ยอมรับได้ยากในสังคมไทย ผมรู้ได้จากที่เขียนใน blog ผมได้พบกับการก่อกวนใน blog การเขียนเหน็บแนม กระแหนะกระแหน ตำหนิการการปฏิบัติที่ผมเขียนใน blog ว่าผิดทาง เขียนแบบคาดเดาเอา ไม่รู้จริง ให้ผมหยุดเขียนแนวนี้ได้แล้ว และไปโมทนาสาธุแนะนำการปฏิบัติสมาธิแบบฤาษีให้กับผมอีกว่านี่คือทางที่ถูกต้อง ...

บทความใน blog จึงเกิดขึ้นมา เพื่อแบ่งปันประสบการณ์ในการภาวนา
แก่ผู้อื่นที่กำลังเดินทางในสายแห่งอริยมรรคนี้

เมื่อท่านได้เข้ามาอ่านข้อเขียนใน blog กรุณาอย่าได้เชื่อผมจนกว่า ท่านได้ทดลองปฏิบัติแล้วและพิสูจน์ด้วยตัวท่านเอง

**กรุณา .อย่า.ได้บริจาคเงินให้ blog ผมทาง e-wallet ครับ **

******
บทความต่าง ๆ ใน blog นี้
ขอสงวนสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537
ห้ามนำไปดัดแปลง ลอกเลียน หรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต

****
New Comments
Friends' blogs
[Add นมสิการ's blog to your web]
Links
 
MY VIP Friend


 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.