หลวงพ่อเทียน - ให้รู้สึก คือ อย่างไร - มุมมือใหม่
ถ้าท่านได้เคยศึกษาการปฏิบัติธรรมในแนวทางเคลื่อนมือของหลวงพ่อเทียน 15 จังหวะนั้น ในทุกจังหวะ จะมีคำหนึ่งอยู่เสมอ ก็คือ .ให้รู้สึก. แล้ว .ให้รู้สึก.ของหลวงพ่อเทียน ท่านหมายถึงรู้สึกอะไรกัน รู้สึกอย่างไร รู้สึกที่ไหน เมื่อผมเริ่มศึกษาแนวทางของหลวงพ่อเทียนใหม่ ๆ ผมก็งงกับคำนี้มาก .ให้รู้สึก. หมายความว่าอย่างไร ปฏิบัติอย่างไร ผมได้ไตร่ถามคนหลาย ๆ คนที่ปฏิบัติในแนวทางนี้ สิ่งที่ผมได้รับคำตอบที่แสนประหลาดมาก ทุกคนให้คำตอบไปคนละอย่าง จนแทบไม่น่าเชื่อเลยว่า คำตอบนี้จะมาจากคนที่ปฏิบัติในแนวทางเดียวกัน ทำไมถึงต่างกันได้ จนผมหาข้อสรุปในเรื่องนี้ไม่ได้เลยในตอนนั้น ผมก็ลองปฏิบัติดูไป เดาไป มั่วไป อย่างนั้นแหละ เพราะความไม่เข้าใจ ปฏิบัติไปเรื่อย ๆ จน.จิตรู้.เกิดการแยกตัวออกมาได้ และพอผมปฏิบัติต่อไปเรื่อยๆ อีก จนเข้าใจในสภาวะธรรมต่าง ๆ มากขึ้น ผมจึงเข้าใจในคำว่า .ให้รู้สึก.ของหลวงพ่อเทียนได้ ซึ่งเป็นความเข้าใจที่เกิดขึ้นที่ผมเอง ซึ่งผมรับรองว่า ถ้าท่านไปถามคนอื่น เขาจะตอบไม่เหมือนอย่างนี้ ซึ่งแน่ละ ท่านที่เข้ามาอ่านบทความนี้ อาจจะสับสนว่า เชื่อได้หรือ เพราะผมไม่ได้เป็นพระ ไปถามพระดีกว่า อะไรทำนองนั้น ซึ่งเรื่องนี้ก็แล้วแต่ท่านจะพิจารณาเอง มาดูกันครับ .ให้รู้สึก.ที่หลวงพ่อเทียนที่สอนนั้น ผมเข้าใจว่าอย่างไร ถ้าจะกล่าวให้ชัด คำว่า .ให้รู้สึก. ผมจะแยกให้เห็นเป็นข้อ ๆ ให้ท่านเห็น ดังนี้ 1.. การรับรู้ความรู้สึกที่เกิดขึ้น.เอง. (เน้นย้ำว่า ต้องรู้สึกถึงได้เอง อย่าไปจ้องที่มือ ) เมื่อ 1.1...ในขณะที่เคลื่อนมือขึ้น หรือ ลง ซึ่งก็คือการรับรู้ความรู้สึกถึงอาการที่เคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นเมื่อมือกำลังเคลื่่อนที่อยู่ 1.2...ในขณะที่สัมผัสเช่นขณะที่ฝ่ามือลูบไปตามหน้าอก / การที่มือสัมผัสที่หน้าขา ซึ่งก็คือ การร้บรู้ความรู้สึกได้ถึงการกระทบสัมผัสของฝ่ามือกับอวัยวะส่วนต่าง ๆ 1.3.. การรู้สึกถึงการหยุดเคลื่อนของมือ ซึ่งก็คือ รู้สึกถึงอาการที่ไม่มีการเคลื่อน 1.4.. การรับรู้ทางระบบประสาทอื่น ๆ ด้วย เช่น ตาก็มองเห็น หูก็ได้ยิน จมูกก็ได้กลิ่น กายก็รู้สัมผัสอื่น เช่น ลมพัดมาโดนกายก็รู้สึกถึงได้ หมายเหตุ ในคนที่ฝึกใหม่ หลวงพ่อเทียนสอนให้รู้สึกที่กายล้วน ๆ ถ้ามีอาการนึกคิดเกิดขึ้น หลวงพ่อเทียนสอนว่า ให้ปัดความนึกคิดทิ้งออกไปทันที อย่าไปสนใจมัน ผมให้คำนิยามไปแล้วว่า ให้รู้สึก คือ อย่างไร ซึ่งมี 4 ข้อ แต่ที่สำคัญอีกประการหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับนิยามข้างต้นก็คือ จะปฏิบัติอย่างไร จึงจะ.ให้รู้สึก.อย่างนั้นเกิดขึ้นได้ ถ้าจะกล่าวในแง่การปฏิบัติเพื่อให้อาการให้รู้สึกเกิดขึ้น ขอให้ท่านปฏิบัติดังนี้.... ให้มีความรู้สึกตัวอยู่เสมอ ๆ จิตใจเฉย ๆ ธรรมดา ๆ นี่เอง คือ จิตใจปรกติไม่ขุ่นมัว ไม่มีความอยากรู้อะไร ไม่คิดอะไร ไม่คาดหวังอะไร แล้วก็เคลื่อนมือ หยุดเคลื่อน ไปตาม 15 จัวหวะอย่างช้า ๆ แบบผ่อนคลาย อย่าเกร็ง อย่าเครียด เหมือนทำเล่น ๆ ฉะนั้น ถ้าท่านปฏิบัติอย่างนี้ ท่านจะรู้สึกได้ถึงอาการ.ให้รู้สึก.ได้ โดยที่ท่านไม่ต้องไปจ้องที่มือเลย ที่รู้สึกได้ ก็เพราะว่า มันเป็นธรรมชาติของระบบประสาทและจิตใจ ที่เขาทำงานของเขาเองได้อย่างนี้อยู่แล้ว แนะนำอ่านDo and Don't ขณะฝึกกายานุปัสสนาสติปัฏฐาน -มุมมือใหม่ ขอคำแนะนำในการฝึกแบบหลวงพ่อเทียน ****************** เรื่องท้ายบท ในคนใหม่ ๆ การเริ่มต้นนั้น ก็คือ การศึกษาให้เข้าใจก่อนที่ลงมือปฏิบัติ ถ้าขาดการศึกษาให้เข้าใจ ย่อมต้องปฏิบัติไม่ตรงทางและทำให้เสียเวลา มันเป็นการยากมาก ที่จะกำหนดว่า ศึกษาอะไร ศึกษาแค่ไหน แต่สิ่งที่สมควรศึกษาอย่างแน่นอนก็คือ อริยสัจจ์ 4 และสมควรศึกษา ให้ลึกลงไปว่า จะปฏิบัติอย่างไร จึงจะตรงทางเพื่อเข้าสู่อริยสัจจ์ 4 ได้ ซึ่่งแน่นอนว่า จะต้องมีครูอาจารย์ / กัลยาณมิตร ทีรู้ทางเป็นผู้บอกทางให้ ถึงจะไปได้อย่างถูกต้อง
Create Date : 13 ตุลาคม 2553
Last Update : 29 มกราคม 2555 15:58:00 น.
4 comments
Counter : 1998 Pageviews.
โดย: Littleyogi IP: 110.164.155.90 วันที่: 13 ตุลาคม 2553 เวลา:17:01:49 น.
โดย: ลุง 'บุรีราช' IP: 113.53.196.155 วันที่: 13 ตุลาคม 2553 เวลา:18:24:53 น.
โดย: ทางเดียวกัน IP: 61.19.65.33 วันที่: 30 ตุลาคม 2553 เวลา:15:39:16 น.
โดย: นมสิการ วันที่: 29 มกราคม 2555 เวลา:16:20:49 น.
Location :
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 142 คน [? ]
หลักปฏิบัติ ...รู้สึกตัว ผ่อนคลาย เฉย ๆ สบาย ๆ มากกว่า 20 ปีที่ไปหลงทำสมถภาวนาแบบสมาธิแบบฤาษีโดยที่ไม่รู้จักกับคำว่า อะไรคือสัมมาสติ สัมมาสมาธิ ผลที่ได้คือความสงบขณะกำลังนั่งสมาธิจนตัวนิ่งแข็งเป็นก้อนหิน แต่ผลข้างเคียงตามมาก็คือการเป็นคนเจ้าโทสะอย่างรุนแรงขณะเวลาไม่ได้นั่งสมาธิ และ ที่อยู่ในชีวิตประจำวัน.... จนได้พบกัลยณมิตรแดนไกล ที่ได้ชักนำให้มารู้จักวิธีปฏิบัติแบบหลวงพ่อเทียน จนได้พบกับพระอาจารย์ในสายหลวงพ่อเทียน ที่ผมได้เรียนการปฏิบัติจากท่าน จนเข้าใจว่า สัมมาสติ สัมมาสมาธิ คืออะไร แล้วลงมือฝึกฝน การปฏิบัติก็รุดหน้าและได้ลิ้มรสสิ่งบริสุทธิในจิตใจอันเป็นผลจากการปฏิบัติด้วยเวลาเพียง 5 ปี ธรรมปฏิบัติจากฆราวาสเขียนเป็นสิ่งที่ยอมรับได้ยากในสังคมไทย ผมรู้ได้จากที่เขียนใน blog ผมได้พบกับการก่อกวนใน blog การเขียนเหน็บแนม กระแหนะกระแหน ตำหนิการการปฏิบัติที่ผมเขียนใน blog ว่าผิดทาง เขียนแบบคาดเดาเอา ไม่รู้จริง ให้ผมหยุดเขียนแนวนี้ได้แล้ว และไปโมทนาสาธุแนะนำการปฏิบัติสมาธิแบบฤาษีให้กับผมอีกว่านี่คือทางที่ถูกต้อง ... บทความใน blog จึงเกิดขึ้นมา เพื่อแบ่งปันประสบการณ์ในการภาวนา แก่ผู้อื่นที่กำลังเดินทางในสายแห่งอริยมรรคนี้ เมื่อท่านได้เข้ามาอ่านข้อเขียนใน blog กรุณาอย่าได้เชื่อผมจนกว่า ท่านได้ทดลองปฏิบัติแล้วและพิสูจน์ด้วยตัวท่านเอง **กรุณา .อย่า.ได้บริจาคเงินให้ blog ผมทาง e-wallet ครับ ** ****** บทความต่าง ๆ ใน blog นี้ ขอสงวนสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 ห้ามนำไปดัดแปลง ลอกเลียน หรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต ****
ขอบคุณครับ