สภาวะธรรมที่เกิดขึ้นในขณะต่าง ๆ กัน - มุมมือใหม่
บทความนี้ ผมเขียนขึ้นสำหรับท่านมือใหม่โดยเฉพาะ ท่านมือเก่าผ่านไปก็ได้ครับ
ท่านมือใหม่ที่เพิ่งเข้าสู่การสนใจปฏิบัติธรรม จะมีอาการงงหรือไม่เข้าใจกันเป็นส่วนมากว่า ที่ครูบาอาจารย์ให้ไปดูลมหายใจ ให้ไปเดินจงกรม ให้ไปเคลื่อนมือ ให้ไปดูท้องพองยุบ นี่ กำลังทำอะไรกัน เพราะไม่เห็นมันได้อะไรเลย แล้วผลมันจะทำให้พ้นทุกข์ได้อย่างไร
ขอให้ท่านมือใหม่ดูภาพข้างบนครับ ผมจะอธิบายให้เห็นภาพ เพื่อคลายความสงสัย ในภาพจะมี 2 ส่วน คือ ส่วนที่อยู่เหนือเส้นประ และ ส่วนที่อยู่ใต้เส้นประ
----ส่วนที่อยู่เหนือเส้นประ------- ส่วนตรงเหนือเส้นประ คือ สภาวะที่ท่านมือใหม่กำลังมีสติสัมปชัญญะ หรือพูดง่าย ๆ ก็คือ กำลังรู้สึกตัวได้อยู่และจิตใจก็ยังดีอยู่ ซึ่งสภาวะแบบนี้ คือ สภาวะที่บรรดาครูบาอาจารย์ท่านสอนลูกศิษย์ให้ดูลมหายใจ เดินจงกรม เคลื่อนมือ ดูท้องพองยุบ
ในขณะท่านมือใหม่กำลังฝึกฝนอยู่ในสำนักหรือที่บ้านก็ได้ จะเรียกว่าการฝึกฝนในรูปแบบ ที่มีหลายอย่างแล้่วแต่สำนักที่เขาสอนว่าเป็นแบบใด ขอให้ท่านมือใหม่สังเกตตนเองครับว่า ในขณะทีท่านมือใหม่กำลังฝึกอยู่นั้น -1-ตาจะยังเห็นภาพได้อยู่ -2-หูยังได้ยินเสียงได้อยู่ -3-จมูกยังได้กลิ่นได้อยู่ -4-ลิ้่นยังรู้รสได้อยู่ -5-กายยังรู้อาการทางกายได้อยู่
นี่คือสภาพที่เป็นปรกติของท่านมือใหม่ในขณะกำลังฝึกฝนในรูปแบบ แล้วท่านมือใหม่ก็จะเห็นว่าไม่เห็นมันได้อะไร ไม่เห็นมันมีอะไรเลย
ท่านมือใหม่พูดอย่างนั้น ถูกต้องครับ ถูกที่สุดครับ
แต่ผมจะชี้ให้ท่านมือใหม่เห็นครับ
ท่านมือใหม่สังเกตใหมครับ ตอนที่ท่านมือใหม่ฝึกฝนในรูปแบบนั้น และบอกว่าไม่มีอะไรนั้น ท่านมือใหม่มีทุกข์ใจใหมครับ
นี่คือ กุญแจสำคัญครับ ที่ท่านมือใหม่บอกว่า ไม่มีถูกครับ แต่ท่านมือใหม่ต้องเพิ่มเข้าไปด้วยว่า และก็ไม่มีทุกข์ใจด้วย
ที่ท่านมือใหม่ ไม่ทุกข์ใจ ในขณะฝึกฝนในรูปแบบ ...ผมถามท่านมือใหม่ว่า ดีไหมครับที่ไม่มีทุกข์ใจ ...และ ถ้าท่านมือใหม่สามารถไม่มีทุกข์ใจอีกเลยตลอดไปอีก ถ้าเป็นอย่างนี้ดีไหมครับ
ท่านมือใหม่คงตอบตัวเองได้
ที่ท่านมือใหม่ ไม่มีทุกข์ใจ ในขณะฝีกฝนในรุปแบบ เพราะว่า ในขณะนั้น ท่านมือใหม่กำลังมี .สติสัมปชัญญะ. เกิดขึ้นในจิตใจ
**อำนาจของ .สติสัมปชัญญะ. ที่เกิดขึ้นในจิตใจ จะมีผลทำให้ .จิตใจไม่มีทุกข์. ครับ**
คำสอนของพระพุทธศาสนาก็คือการหลุดพ้นจากทุกข์ เมื่อท่านมือใหม่ จิตใจไม่มีทุกข์ ก็คือปฏิบัติตรงคำสอนในพระพุทธศาสนา่แล้ว
ขอให้่ท่านมือใหม่ ดูภาพเหนือเส้นประต่อไป
ด้านขวาสุดของภาพจะมี 2 วงรี วงรี ตัวบนสีขาว คือ สภาพจิตใจทีว่างเปล่า ไม่มีอะไร อันเนื่องจากท่านมือใหม่กำลังมีสติสัมปชัญญะอยู่ ซึ่งปรกติ ท่านมือใหม่ จะไม่เห็นสิ่งว่างเปล่าของจิตใจนี้ได้ เพราะกำลังจิตยังไม่แข็งแกร่งพอ แต่ไม่เป็นไรครับ ขอให้ฝึกต่อไปเรื่อย ๆ ก็จะแข็งแกร่งขึ้นเอง
ดังนั้น ในยามที่ท่านมือใหม่ฝึกฝนนั้น ท่านมือใหม่จะรับรู้ได้ถึงอาการ 5 อย่างนี้ทางระบบประสาท -1-ตาจะยังเห็นภาพได้อยู่ -2-หูยังได้ยินเสียงได้อยู่ -3-จมูกยังได้กลิ่นได้อยู่ -4-ลิ้่นยังรู้รสได้อยู่ -5-กายยังรู้อาการทางกายได้อยู่
สำหรับการฝึกฝนนั้น ขอให้ท่านมือใหม่ฝึกฝนด้วยการมีสติสัมปชัญญะแล้วท่านมือใหม่จะรับรู้อาการข้อ 1 ถึง 5 ได้เอง
การที่ต้องฝึกฝนในรูปแบบ ก็เพื่อให้ท่านมือใหม่ มีความคุ้นเคย กับสภาพของการมีสติสัมปชัญญะ เพราะว่า คนทั่ว ๆ ไปทีไม่ได้ฝึกฝน จิตใจของเขาจะขาดสติสัมปชัญญะอยู่เสมอ เมื่อจิตใจขาดสติสัมปชัญญะ ก็จะเกิดเหตุการณ์ดังภาพที่ใต้เส้นประ คือ จิตใจจะดำมืด ที่ถูกปรกคลุมด้วยกิเลส (ราคะ โทสะ โมหะ) แล้่วเขาก็จะเกิดทุกข์ใจ เพราะอำนาจอันดำมืดของกิเลสนั้น
้เมื่อท่านมือใหม่ฝึกฝนการมีสติสัปชัญญะอยู่เนือง ๆ ก็จะมีความคุ้นเคยกับการมีสติสัมปชัญญะขึนในจิตใจ ซึ่งจะเกิดการคุ้นเคยขึ้นอย่างช้า ๆ
ทีนี้จะมีเหตุการณ์บางอย่างเกิดขึ้น บางครั้ง จิตใจท่านมือใหม่จะมีการเปลี่ยนแปลงขึ้น ดังภาพเหนือเส้นประที่เป็นวงรีตัวล่างที่เป็นสีเหลือง การเปลี่ยนแปลงในจิตใจนี้จะต้องเกิดขึ้น เมื่อท่านมือใหม่ไปพบเห็นอะไรเข้า เช่นไปพบกับสิ่งที่ไม่น่าพอใจ ก็จะเกิดการเปลี่ยนแปลงในจิตใจ จากที่จิตใจว่างเปล่าไม่มีอะไร เป็นมีอะไรสัีกอย่างเกิดขึ้น แต่ถ้าท่านมือใหม่มีการฝึกฝนที่มีกำลังสติสัมปชัญญะอยู่ตัวดีพอสมควร การเปลี่ยนแปลงในจิตใจ ที่เกิดขึ้นเป็นสีเหลือง จะถูกเห็นได้ด้วยกำลังของสติสัปมชัญญะ
เมื่อวงรีสีเหลืองเกิดการเห็นด้วยกำลังของสติสัมปชัญญะ วงรีสีเหลืองจะหยุดเปลี่ยนแปลงและจะกลับไปเป็นวงรีสีขาวตัวบนอีกครั้งหนึ่งที่จิตใจว่างเปล่าไม่มีอะไร ซึ่งถ้าเป็นแบบนี้ ทุกข์ใจก็จะเกิดต่อไปไม่ได้
แต่ถ้าคนที่ไม่ได้ฝึกฝน เมื่อเกิดวงรีสีเหลืองขึ้น กิเลสก็จะเข้าครอบงำกลายเป็นวงรีสีน้ำเงินที่อยู่ใต้เส้นประ และคนที่ไม่ได้ฝึกฝน ก็จะตกอยู่ทุกข์ใจที่เกิดจากอำนาจของกิเลสที่เกิดขึ้นและได้เข้าครอบงำจิตใจเขาไปแล้ว
ขอให้ท่านมือใหม่หมั่นฝึกฝนไปมาก ๆ ที่ว่าไม่มีอะไรอะไรนั้น ก็ขอให้ฝึกแบบไม่มีอะไรในจิตใจ แต่ขอให้ยังมีข้อ 1 ถึง 5 ได้่อยู่ืืคือ -1-ตาจะยังเห็นภาพได้อยู่ -2-หูยังได้ยินเสียงได้อยู่ -3-จมูกยังได้กลิ่นได้อยู่ -4-ลิ้่นยังรู้รสได้อยู่ -5-กายยังรู้อาการทางกายได้อยู่
แล้วกำลังความตั้งมั่นก็จะเกิดขึ้นทีละน้อย ๆ เองจากที่ไม่มีอะไรนี้แหละครับ
ท่านมือใหม่คงพอมองภาพออกในข้อสงสัยแล้วว่า ที่ปฏิบัติอยู่ในรูปแบบนั้นที่ว่า ไม่มีอะไร แล้วการฝึกฝนจะได้อะไร แล้วการฝึกฝนจะดับทุกข์ได้อย่างไร
************ สรุป การฝึกฝนก็คือ การฝึกให้มีความคุ้นเคยกับการเป็นคนมีสติสัมปชัญญะนั้นเอง โดยอาศัย การดูลมหายใจ การเดินจงกรม การเคลื่อนมือ การดูพองยุบ เป็นเครื่องมือฝึก
Create Date : 30 กันยายน 2553 |
|
4 comments |
Last Update : 29 มกราคม 2555 15:58:51 น. |
Counter : 2381 Pageviews. |
|
|
|