รู้สึกตัว ผ่อนคลาย เฉย ๆ สบาย ๆ **กรุณา .อย่า.ได้บริจาคเงินให้ blog ผม ทาง e-wallet ครับ** **ผมขอสงวนสิทธิการเป็นเจ้าบ้านของ blog ลบข้อเขียนใดๆ ก็ได้ใน blog นี้ตามที่ผมเห็นสมควร**
Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2553
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
26 ตุลาคม 2553
 
All Blogs
 

Meet the press ??

เมื่อท่านอ่านหัวเรื่องที่ผมจั่วไว้ที่เขียนว่า Meet the press ??
ท่านจะแปลวลีนี้ว่าอะไร ?
ก่อนทีท่านจะอ่านในเนื้อเรื่องข้างล่าง

***********

เมื่อสมัยที่ผมทำงานอยู่บริษัทข้ามชาติ ผมต้องเดินทางไปประชุมที่ต่างประเทศอยู่เป็นประจำทุกปี จึงมีเพื่อนชาวต่างประเทศที่สนิทกันอยู่จำนวนหนึ่ง มีอยู่คนหนึ่ง เขาเรียนภาษาไทยด้วยตัวเอง เพราะเขาต้องการมาเที่ยวประเทศไทย ด้วยเขาได้ยินชื่อเสียงด้านความงดงามของธรรมชาติและวัฒนธรรมของประเทศไทย ( นี่คือจุดดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติจริง ๆ ในความเห็นของผม ของเราดีอยู่แล้วในเรื่องธรรมชาติและวัฒนธรรมไทย ที่ชาติอื่นเขาไม่มีแบบนี้ ไม่ต้องหาอะไรใหม่ ๆ ที่เป็นวัตถุใหม่ๆ เพื่อไปดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเลย ต่างประเทศเขามีวัตถุใหม่ๆ ดีกว่าเรามาก เขาไม่ต้องการเห็นแบบนั้นอีก เพราะบ้านเขาก็มีแล้ว )

มีอยู่ปีหนึ่ง ผมไปประชุมต่างประเทศ ก็พบเขาด้วย เขาเอาภาษาไทยที่เขาแปลมาจากภาษาอังกฤษ ให้ผมช่วยตรวจดูว่า เขาแปลถูกไหม ผมอ่านดูแล้ว ก็เป็นภาษาไทยแปลก ๆ ที่ไม่ใช่สำนวนคนไทยใช้กัน แต่ก็อ่านพอเข้าใจ แต่มีวลีหนึ่ง ในต้นฉบับภาษาอังกฤษเขียนว่า "meet the press" เขาแปลตรง ๆ ว่า "พบการกด" ซึ่งคำ ๆ นี้ ผมบอกเขาว่า เขาต้องแปลว่า .พบนักข่าว. ไม่ใช่แปลว่า .พบการกด.
แต่เพราะเขารู้จักคำภาษาไทยว่า .กด. ซึ่งภาษาอังกฤษคือ .press. เขาจึงแปลไปอย่างนั้นตามที่เขาเข้าใจ

ผมยกเรื่องนี้ขึ้นมาเป็นการนำเรื่อง เพื่อเข้าสู่เรื่องการปฏิบัติธรรม
ปัญหาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของการปฏิบัติธรรมก็คือ การตีความในสิ่งที่ตนได้อ่านมา ได้ยินมา

หลักการปฏิบัติของศาสนาพุทธเพื่อการพ้นทุกข์ ก็คือ ศีล สมาธิ ปัญญา

คำ 3 คำนี้ เรา ๆ ท่าน ๆ ก็ได้ยินกันจนชาหู แต่ว่า การตึความหมายออกมาเป็นการปฏิบัตินั้นคือสิ่งสำคัญ

1.การมีศีล การถึงพร้อมด้วยศีล การรักษาศีล
2.การมีสมาธิ การทำสมาธิ การทำสมถะภาวนา การทำให้จิตมีกำลัง การทำให้จิตสงบ
3.การมีปัญญาพิจารณาใคร่ครวญในธรรม

ถ้านักภาวนาตีความหมายของทั้ง 3 ข้อออกมาเป็นการปฏิบัติได้ตรง
นักภาวนานั้นก็จะเดินทางถููก เข้าสู่ทางแห่งมรรคเพื่อการพ้นทุกข์ได้ต่อไป

ถ้านักภาวนาตีความหมายของทั้ง 3 ข้อได้ไม่ตรง เขาก็จะเดินย่ำต๊อกอยูุ่กับที่ ไม่ก้าวหน้าไปไหน

คนพูดออกมาไม่สำคัญเท่ากับตอนทีท่านตีความหมาย ถ้าคนพูดออกว่า meet the press
ท่านจะแปลว่า พบการกด หรือ พบนักข่าว ก็อยู่ที่ท่านจะแปลเองทั้งสิ้น

**************
เรื่องท้ายบท

ในบทสวดพุทธคุณ ได้กล่าวถึงว่า พระพุทธเจ้าเป็นผู้ห่างไกลจากกิเลส
ไม่ได้กล่าวเลยว่า พระพุทธเจ้าได้กำจัดกิเลสได้หมดสิ้นแล้ว

แล้วท่านจะแปลคำว่า .ผู้ห่างไกลจากกิเลส. ว่าอย่างไรกัน




 

Create Date : 26 ตุลาคม 2553
6 comments
Last Update : 29 มกราคม 2555 15:56:37 น.
Counter : 2274 Pageviews.

 

ความจริงเราไม่ต้องห่างไกลจากกิเลสหรอกคะ
แค่เราเรียนรู้ รู้กิเลส รู้ให้ทันมัน
อย่าหนีคะ เพราะหนีเท่าไหร่ สุดท้ายมันก็ตามเราทัน
สู้อยู่เผชิญหน้า เรียนจากมัน เรียนให้รู้ถึงมัน

ทุกข์ก็เหมือนกัน
อย่าหนี ให้เผชิญหน้า

แค่รู้ทันความทุกข์ ก็สุขแล้วคะ (อันนี้พี่ก๋าบอกมานะคะ)


สวัสดียามสายๆ คะ

 

โดย: onedermore 26 ตุลาคม 2553 11:11:32 น.  

 

เห็นด้วยครับ

สมมุติสัจจะก็มีทั้้งข้อดีและข้อเสีย บางครั้งก็เป็นอุปสรรคขวางกั้นต่อการเจริญภาวนา เพราะ
....การที่คนเรายอมรับอะไรสักอย่างได้ ก็ต่อเมื่อไม่ค้านกับความเลื่อมใสส่วนตัว ไม่ค้านกับจินตนาการที่ชอบ และต้องไม่ทำลายสัทธาที่ตนยึดมั่นถือมั่น..

 

โดย: ลุง 'บุรีราช' IP: 180.180.112.237 26 ตุลาคม 2553 12:00:31 น.  

 

เราจะห่างไกลหรือกำจัดสิ่งที่ไม่มีอยู่จริง ได้อย่างไรครับ

 

โดย: ... IP: 125.25.16.253 26 ตุลาคม 2553 18:37:56 น.  

 

ถ้าจะห่างไกลหรือกำจัดสื่งที่ไม่มีอยู่จริงได้โดยการเจริญสติ

 

โดย: บุษบา IP: 202.12.97.116 26 ตุลาคม 2553 22:17:12 น.  

 

พระพุทธองค์ทรงสอนว่า สรรพสิ่งเกิดแต่เหตุ เมื่อเหตุดับ ผลก็ดับ
นี่คือ คำสอน แต่ในแง่การปฏิบัตินั้น การที่บอกว่า อยู่ห่างไกลกิเลส นั้นหมายความว่า สภาวะธรรมที่เกิดขึ้นและเรียกกันว่า กิเลส ย่อมเกิดได้เมื่อมีเหตุปัจจัยทำให้เกิด แต่ถ้านักภาวนามี สัมมาสมาิธิ ที่ตั้งมั่น จิตไม่เข้าไปคลุกรวมเข้ากับสภาวะธรรมที่เกิดขึ้นนั้นแล้ว สภาวะธรรมนั้น ๆ ก็จะตั้งอยู่ไม่ได้เอง อันเป็นธรรมชาติของเขา และก็จะดับไปเป็นไตรลักษณ์เมื่อหมดเหตุทีทำให้เกิด

สรุป ก็คือ การอยู่ห่างไกล หรือ ไม่เข้าไปคลุกรวมเข้ากับสิ่งที่เป็นสภาวะธรรมที่เกิดขึ้นได้นั้น จิตต้องตั้งมั่นเป็นสัมมาสมาธิ ครับ

แต่สัมมาสมาธิ ไม่เหมือน สมาธิแบบฤาษี นะครับ ต้องเข้าใจข้อแตกต่างนี้ด้วยในการฝึกฝน จึงจะห่างไกลจากสิ่งนั้น ๆ ได้

 

โดย: นมสิการ 27 ตุลาคม 2553 8:10:20 น.  

 

ผมจำเป็นต้องปิดการเขียนของท่านผู้อ่าน เนื่องจากกฏหมายอินเตอร์เนท
ที่อาจมีสิ่งผิดกฏหมายใส่เข้ามาใน blog

ท่านที่จะสนทนา หรือ ถามคำถาม ขอให้ส่ง email ถึงผมได้ที่
asknamasikarn@gmail.com

หรือสำหรับสมาชิก pantip จะส่งมาทางหลังไมค์ก็ได้เช่นกัน

 

โดย: นมสิการ 29 มกราคม 2555 16:19:21 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะ VIP Friend
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


นมสิการ
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 142 คน [?]




หลักปฏิบัติ ...รู้สึกตัว ผ่อนคลาย เฉย ๆ สบาย ๆ

มากกว่า 20 ปีที่ไปหลงทำสมถภาวนาแบบสมาธิแบบฤาษีโดยที่ไม่รู้จักกับคำว่า อะไรคือสัมมาสติ สัมมาสมาธิ ผลที่ได้คือความสงบขณะกำลังนั่งสมาธิจนตัวนิ่งแข็งเป็นก้อนหิน แต่ผลข้างเคียงตามมาก็คือการเป็นคนเจ้าโทสะอย่างรุนแรงขณะเวลาไม่ได้นั่งสมาธิ และ ที่อยู่ในชีวิตประจำวัน....

จนได้พบกัลยณมิตรแดนไกล ที่ได้ชักนำให้มารู้จักวิธีปฏิบัติแบบหลวงพ่อเทียน จนได้พบกับพระอาจารย์ในสายหลวงพ่อเทียน ที่ผมได้เรียนการปฏิบัติจากท่าน จนเข้าใจว่า สัมมาสติ สัมมาสมาธิ คืออะไร แล้วลงมือฝึกฝน การปฏิบัติก็รุดหน้าและได้ลิ้มรสสิ่งบริสุทธิในจิตใจอันเป็นผลจากการปฏิบัติด้วยเวลาเพียง 5 ปี

ธรรมปฏิบัติจากฆราวาสเขียนเป็นสิ่งที่ยอมรับได้ยากในสังคมไทย ผมรู้ได้จากที่เขียนใน blog ผมได้พบกับการก่อกวนใน blog การเขียนเหน็บแนม กระแหนะกระแหน ตำหนิการการปฏิบัติที่ผมเขียนใน blog ว่าผิดทาง เขียนแบบคาดเดาเอา ไม่รู้จริง ให้ผมหยุดเขียนแนวนี้ได้แล้ว และไปโมทนาสาธุแนะนำการปฏิบัติสมาธิแบบฤาษีให้กับผมอีกว่านี่คือทางที่ถูกต้อง ...

บทความใน blog จึงเกิดขึ้นมา เพื่อแบ่งปันประสบการณ์ในการภาวนา
แก่ผู้อื่นที่กำลังเดินทางในสายแห่งอริยมรรคนี้

เมื่อท่านได้เข้ามาอ่านข้อเขียนใน blog กรุณาอย่าได้เชื่อผมจนกว่า ท่านได้ทดลองปฏิบัติแล้วและพิสูจน์ด้วยตัวท่านเอง

**กรุณา .อย่า.ได้บริจาคเงินให้ blog ผมทาง e-wallet ครับ **

******
บทความต่าง ๆ ใน blog นี้
ขอสงวนสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537
ห้ามนำไปดัดแปลง ลอกเลียน หรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต

****
New Comments
Friends' blogs
[Add นมสิการ's blog to your web]
Links
 
MY VIP Friend


 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.