รู้สึกตัว ผ่อนคลาย เฉย ๆ สบาย ๆ **กรุณา .อย่า.ได้บริจาคเงินให้ blog ผม ทาง e-wallet ครับ** **ผมขอสงวนสิทธิการเป็นเจ้าบ้านของ blog ลบข้อเขียนใดๆ ก็ได้ใน blog นี้ตามที่ผมเห็นสมควร**
Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2553
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
14 สิงหาคม 2553
 
All Blogs
 

ทำไมการเจริญอริยมรรค จึงเป็นบุญกุศลขั้นสูงสุด

บทความนี้ขอเอาใจคนไทยสักหน่อย ที่มักสนใจในเรื่องบุญ เื่รื่องบาป

ลักษณะอาการของบาป คือ อาการที่จิตใจมืดมิดถูกปรกคลุมด้วยอกุศล
ซึ่งจะมี 3 ตัวหลักใหญ่คือ โมหะ โลภะ โทสะ
เมื่อใดก็ตามที่ท่านทำกิจอะไรก็ตามด้วยจิตใจแบบนี้ นี่คือจิตใจที่เป็นบาป เป็นกรรมชั่้ว

ส่วนลักษณะอาการของบุญ จะตรงกันข้ามกับบาป
คือการทำกิจอะไรก็ตามด้วยที่จิตใจที่เป็น อโมหะุ อโลภะ อโทสะ

เรื่องของจิตใจบุญ ยังแบ่งเป็น 2 ประเภทอีก คือ ประเภทที่ประกอบด้วยปัญญา
และไม่ประกอบด้วยปัญญา

ที่ว่าประกอบด้วยปัญญานั้น หมายความว่า
เมื่อทำบุญประเภทนี้ จะมีความสามารถในการรักษาจิตใจ ให้สามารถคงอยู่
ในสภาวะแห่ง อโมหะ อโลภะ อโทสะ ได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งก็คือ การทำบุญด้วยการเจริญอริยมรรคนั้นเอง การทีมีความสามารถรักษาจิตใจเป็นบุญแบบมีปัญญานี้ได้เสมอ ๆ จะทำให้เกิดวิปัสสนาปัญญา รู้แจ้งเห็นจริงของสภาวะธรรม จนเกิดการปล่อยวางและทำให้เบาบางจากกิเลสลง ตามลำดับจนสามารถตัดขาดจากกิเลสได้
ดังนั้น การเจริญอริยมรรค จึงเป็นบุญกุศลขั้นสูงสุดด้วยเหตุนี้

ซึ่งถ้าใครก็ตามที่หมั่นทำบุญด้วยวิธีนี้จนเป็นนิสัย บางอาจารย์จะเรียกว่า ความเป็นคนที่ปรกติเจริญสติปัฏฐาน จิตใจของเขาจะเปี่ยมบุญที่เป็นกุศลยิ่ง เมื่อถึงกาลที่กายแตกดับ สุขคติภูมิหรือนิพพานย่อมเป็นที่หมายได้อย่างแน่นอน

ส่วนบุญที่ไม่ประกอบด้วยปัญญา ผมคงไม่กล่่าวถึงนะครับ เพราะหลายท่านอ่านแล้ัวอาจสะเทือนใจ
โกรธผมขึ้นมาก็ได้ อย่่าลืมนะครับ ความโกรธเป็นอกุศล เป็นบาป อย่าโกรธเลยครับท่าน





 

Create Date : 14 สิงหาคม 2553
6 comments
Last Update : 29 มกราคม 2555 16:03:19 น.
Counter : 1168 Pageviews.

 

อนุโมทนาสาธุครับ

 

โดย: shadee829 14 สิงหาคม 2553 21:07:40 น.  

 

คือที่อธิบายมันเป็น
ที่เค้าบอกมาว่า จะได้บุญเป็นกุศลงั้นงี้ครับ

ในความเห็นผม ยังเป็นความเชื่อที่ถูกบอกมา
ผมอยากเสนอคำอธิบายว่า

ในความเห็นของผม คนทำบุญ เมื่อทำสติแล้วจับความ
คิดที่แว๊บมาได้ มันจะมีความคิดวนเวียนของการทำดี
แล้ว จะทำให้ เมื่อเผลอ มีความคิดปรุงแต่งเกิดอิ่มเอิบปิติ มีความสุข ดังนั้น ทำความดี ก็จะมีกรรมดี ก็คือ ความคิดแว๊บๆที่ดีๆ เข้ามาบ่อยๆ หน้าถึงได้ผ่องใสอิ่มเอิบ

สำหรับ กรรมชั่ว คนทำชั่ว มันจะมีความคิดผุดขึ้นไม่
ทราบที่มาบ่อยๆ มาหลอน แล้วเมื่อจิตไม่ตั้งอยู่ในสติ
ก็จะปรุงเป็นความเศร้าหมองใจ เสมือนตกนรก

ก่อนตาย ช่วงสุดท้ายไม่สามารถครองสติได้แล้ว
ก็คงรู้ว่า เกิดอะไรขึ้นครับ ถ้าทำกรรมชั่วมากกว่า
กรรมดี แล้วขอบอกว่า มันตามไม่เลิก (เมื่อขาดสติ)
แต่ก็ไม่แน่อาจจะบุญแรงกว่าบาปก็ได้ randomization

สรุปแล้วมันมาเมื่อตอนขาดสติทั้งคู่
เราจะฝึกอย่างไรไม่ให้ขาดสติเลย เท่านั้นแหละครับ

 

โดย: being IP: 210.246.192.33 15 สิงหาคม 2553 23:09:23 น.  

 

ทราบแล้วเปลี่ยน ไม่เคยโกรธ มีแต่ขอบคุณ

..แวะมาทักทายจ๊ะ..ขอให้มีความสุข สดใส..หัวใจเบิกบาน..

..HappY BrightDaY To You..

 

โดย: *~ต้นกล้า...ของหัวใจ~* 16 สิงหาคม 2553 14:18:02 น.  

 

ไม่โกรธนี่ดีเลิศ ประเสริฐสุดแล้วครับ
ดีต่อตนเองและคนอยู่ใกล้เสมอ

 

โดย: นมสิการ 16 สิงหาคม 2553 16:10:58 น.  

 

โกรธไม่ใช่บาป เพียงแค่ทำให้มีวิบากเท่านั้น...

 

โดย: wbj 17 สิงหาคม 2553 8:55:32 น.  

 

ผมจำเป็นต้องปิดการเขียนของท่านผู้อ่าน เนื่องจากกฏหมายอินเตอร์เนท
ที่อาจมีสิ่งผิดกฏหมายใส่เข้ามาใน blog

ท่านที่จะสนทนา หรือ ถามคำถาม ขอให้ส่ง email ถึงผมได้ที่
asknamasikarn@gmail.com

หรือสำหรับสมาชิก pantip จะส่งมาทางหลังไมค์ก็ได้เช่นกัน

 

โดย: นมสิการ 29 มกราคม 2555 16:30:06 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะ VIP Friend
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


นมสิการ
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 142 คน [?]




หลักปฏิบัติ ...รู้สึกตัว ผ่อนคลาย เฉย ๆ สบาย ๆ

มากกว่า 20 ปีที่ไปหลงทำสมถภาวนาแบบสมาธิแบบฤาษีโดยที่ไม่รู้จักกับคำว่า อะไรคือสัมมาสติ สัมมาสมาธิ ผลที่ได้คือความสงบขณะกำลังนั่งสมาธิจนตัวนิ่งแข็งเป็นก้อนหิน แต่ผลข้างเคียงตามมาก็คือการเป็นคนเจ้าโทสะอย่างรุนแรงขณะเวลาไม่ได้นั่งสมาธิ และ ที่อยู่ในชีวิตประจำวัน....

จนได้พบกัลยณมิตรแดนไกล ที่ได้ชักนำให้มารู้จักวิธีปฏิบัติแบบหลวงพ่อเทียน จนได้พบกับพระอาจารย์ในสายหลวงพ่อเทียน ที่ผมได้เรียนการปฏิบัติจากท่าน จนเข้าใจว่า สัมมาสติ สัมมาสมาธิ คืออะไร แล้วลงมือฝึกฝน การปฏิบัติก็รุดหน้าและได้ลิ้มรสสิ่งบริสุทธิในจิตใจอันเป็นผลจากการปฏิบัติด้วยเวลาเพียง 5 ปี

ธรรมปฏิบัติจากฆราวาสเขียนเป็นสิ่งที่ยอมรับได้ยากในสังคมไทย ผมรู้ได้จากที่เขียนใน blog ผมได้พบกับการก่อกวนใน blog การเขียนเหน็บแนม กระแหนะกระแหน ตำหนิการการปฏิบัติที่ผมเขียนใน blog ว่าผิดทาง เขียนแบบคาดเดาเอา ไม่รู้จริง ให้ผมหยุดเขียนแนวนี้ได้แล้ว และไปโมทนาสาธุแนะนำการปฏิบัติสมาธิแบบฤาษีให้กับผมอีกว่านี่คือทางที่ถูกต้อง ...

บทความใน blog จึงเกิดขึ้นมา เพื่อแบ่งปันประสบการณ์ในการภาวนา
แก่ผู้อื่นที่กำลังเดินทางในสายแห่งอริยมรรคนี้

เมื่อท่านได้เข้ามาอ่านข้อเขียนใน blog กรุณาอย่าได้เชื่อผมจนกว่า ท่านได้ทดลองปฏิบัติแล้วและพิสูจน์ด้วยตัวท่านเอง

**กรุณา .อย่า.ได้บริจาคเงินให้ blog ผมทาง e-wallet ครับ **

******
บทความต่าง ๆ ใน blog นี้
ขอสงวนสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537
ห้ามนำไปดัดแปลง ลอกเลียน หรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต

****
New Comments
Friends' blogs
[Add นมสิการ's blog to your web]
Links
 
MY VIP Friend


 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.