รู้สึกตัว ผ่อนคลาย เฉย ๆ สบาย ๆ **กรุณา .อย่า.ได้บริจาคเงินให้ blog ผม ทาง e-wallet ครับ** **ผมขอสงวนสิทธิการเป็นเจ้าบ้านของ blog ลบข้อเขียนใดๆ ก็ได้ใน blog นี้ตามที่ผมเห็นสมควร**
Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2553
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
19 สิงหาคม 2553
 
All Blogs
 

แบบสำรวจตนเองในการปฏิบัีติธรรม (Self Survey in Meditation)

.

ภาพที่แสดงข้างบนมาจากความเห็นส่วนตัวของผมเอง ที่แสดงเส้นทางการเดินทาง
และจุดที่สมควรปรับปรุงในการปฏิบัติ ท่านอาจไม่เห็นด้วย ซึ่งเป็นเรื่องปรกติของคน
ที่ย่อมมีความคิดต่างออกไป

เส้นสีเหลือง คือ เส้นทางที่เป็นอุดมคติที่สมควรเดินไปเพื่อให้ถึงจุดหมายปลายทาง
จากภาพ คงไม่ต้องอธิบายอะไร เพราะมีลูกศรบอก Flow และ จุด bug เพื่อการปรับปรุง
ไว้แล้ว

ในการใช้งานของภาพ ท่านเพียงสำรวจตนเองว่า ติด bug ใดอยู่ ก็ให้แก้ใข
bug ไปเพื่อเข้าสู่เส้นทางสีเหลือง ไปเป็นขั้น ๆ ไป


ในกรอบสี่เหลี่ยมที่เขียนว่า รู้จักรูปนาม นั้นหมายความว่า
รู้จักอาการและวิธีการของสัมมาสติ สัมมาสมาธิ

ส่วนที่เขียนว่า ไม่รู้จักรูปนาม ก็จะตรงกันข้าม คือ
ไม่รู้จักอาการและวิธีการของสัมมาสติ สัมมาสมาธิ

ที่กรอบสี่เหลี่ยมสีเหลืองสุดท้าย ที่ว่า รู้ว่าไม่มีความอยาก รู้ว่าไม่มีความคิด
เพราะว่า เมื่อนักภาวนาฝึกฝนอยู่ในสภาวะแห่งการรู้ว่าไม่มีความอยาก รุ้ว่าไม่มีความคิด
อยู่นั้น สมองจะว่างเปล่า เมื่อความคิดหรือความอยากโผล่ขึ้นมา นักภาวนาจะเห็น
ต้นทางแห่งความอยาก/ความคิด ว่ามันโผล่มาจากไหนกัน

การเห็นต้นทางนี้ จะเป็นการสร้างเหตุแห่งการทำลายอวิชชา

******
เรื่องท้ายบท

สิ่งที่เหนื่อยเปล่า
>> การพยายามวาดภาพในอากาศด้วยสีและพู่กัน
>> การพยายามอธิบายให้คนอื่นที่ไม่ยอมรับฟังให้เข้าใจ





 

Create Date : 19 สิงหาคม 2553
4 comments
Last Update : 29 มกราคม 2555 16:03:02 น.
Counter : 2065 Pageviews.

 

รู้ว่าไม่มีความอยากคือรู้ว่าไม่มีกิเลสหรือเปล่าคะ และรู้ว่าไม่มีความคิดเพราะปัญญาเกิดหรือเปล่า

 

โดย: Chulapinan 19 สิงหาคม 2553 20:17:20 น.  

 

ตอบคุณ chulapinan

>> ในการปฏิบัตินั้น เราจะใช้สัมมาสติ เข้าควบคุมคนเองเพื่อไม่ให้ิคิด
เรื่องใด ๆ เลย แต่เราจะไม่ได้ห้ามความคิดไม่ให้เกิดครับ
เมื่อสัมมาสติ เข้าควบคุมไม่ให้คิดแล้ว สมองเราจะว่างเปล่า
เมื่อสมองว่างเปล่่า เราไม่สนใจเลยว่า
มีกิเลสหรือไม่มีกิเลส เพียงแต่เราทำสมองให้ว่างเปล่าเท่านั้น

ทีนี้อาจจะถามต่อว่า ทำให้สมองว่างเปล่าทำไม
ก็จะบอกว่า คล้าย ๆ กับว่า เราทำห้องในบ้านให้ว่างเปล่า พอมีอะไร
โผล่มาให้ห้องที่ว่างเปล่านั้น เราจะเห็นสิ่งที่โผล่มาในห้องได้ง่าย เช่น มดตัวเล็ก ๆ ถ้าเดินอยู่ในห้องทีว่างเปล่าจริง ๆ เราก็จะเห็นมดได้ไม่ยากเลย ถ้าห้องรกรุงรัง จิ้งจกตัวใหญ่กว่ามด ก็ยังมองไม่เห็น

การทำสมองให้ว่างเปล่า เพื่อเราจะเห็นความคิดตอนมันเกิดได้ง่าย
นั้นเอง การเห็นความคิดเกิด ถ้าเห็นได้ทันอย่างรวดเร็ว จะทำให้เ้ข้า
ใจได้ว่า มันมาจากไหนกันความคิดนี้ เมื่อทันความคิด ก็จะถึงรังของอวิชชา
อันเป็นการทำลายอวิชชาให้สิ้นไปครับ

 

โดย: นมสิการ 19 สิงหาคม 2553 22:07:34 น.  

 

ขอบคุณมากค่ะ ที่อธิบายให้เห็นภาพเข้าใจได้ง่ายๆ

 

โดย: ปุ่งปิ่ง IP: 125.26.125.139 20 สิงหาคม 2553 10:18:57 น.  

 

ผมจำเป็นต้องปิดการเขียนของท่านผู้อ่าน เนื่องจากกฏหมายอินเตอร์เนท
ที่อาจมีสิ่งผิดกฏหมายใส่เข้ามาใน blog

ท่านที่จะสนทนา หรือ ถามคำถาม ขอให้ส่ง email ถึงผมได้ที่
asknamasikarn@gmail.com

หรือสำหรับสมาชิก pantip จะส่งมาทางหลังไมค์ก็ได้เช่นกัน

 

โดย: นมสิการ 29 มกราคม 2555 16:29:12 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะ VIP Friend
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


นมสิการ
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 142 คน [?]




หลักปฏิบัติ ...รู้สึกตัว ผ่อนคลาย เฉย ๆ สบาย ๆ

มากกว่า 20 ปีที่ไปหลงทำสมถภาวนาแบบสมาธิแบบฤาษีโดยที่ไม่รู้จักกับคำว่า อะไรคือสัมมาสติ สัมมาสมาธิ ผลที่ได้คือความสงบขณะกำลังนั่งสมาธิจนตัวนิ่งแข็งเป็นก้อนหิน แต่ผลข้างเคียงตามมาก็คือการเป็นคนเจ้าโทสะอย่างรุนแรงขณะเวลาไม่ได้นั่งสมาธิ และ ที่อยู่ในชีวิตประจำวัน....

จนได้พบกัลยณมิตรแดนไกล ที่ได้ชักนำให้มารู้จักวิธีปฏิบัติแบบหลวงพ่อเทียน จนได้พบกับพระอาจารย์ในสายหลวงพ่อเทียน ที่ผมได้เรียนการปฏิบัติจากท่าน จนเข้าใจว่า สัมมาสติ สัมมาสมาธิ คืออะไร แล้วลงมือฝึกฝน การปฏิบัติก็รุดหน้าและได้ลิ้มรสสิ่งบริสุทธิในจิตใจอันเป็นผลจากการปฏิบัติด้วยเวลาเพียง 5 ปี

ธรรมปฏิบัติจากฆราวาสเขียนเป็นสิ่งที่ยอมรับได้ยากในสังคมไทย ผมรู้ได้จากที่เขียนใน blog ผมได้พบกับการก่อกวนใน blog การเขียนเหน็บแนม กระแหนะกระแหน ตำหนิการการปฏิบัติที่ผมเขียนใน blog ว่าผิดทาง เขียนแบบคาดเดาเอา ไม่รู้จริง ให้ผมหยุดเขียนแนวนี้ได้แล้ว และไปโมทนาสาธุแนะนำการปฏิบัติสมาธิแบบฤาษีให้กับผมอีกว่านี่คือทางที่ถูกต้อง ...

บทความใน blog จึงเกิดขึ้นมา เพื่อแบ่งปันประสบการณ์ในการภาวนา
แก่ผู้อื่นที่กำลังเดินทางในสายแห่งอริยมรรคนี้

เมื่อท่านได้เข้ามาอ่านข้อเขียนใน blog กรุณาอย่าได้เชื่อผมจนกว่า ท่านได้ทดลองปฏิบัติแล้วและพิสูจน์ด้วยตัวท่านเอง

**กรุณา .อย่า.ได้บริจาคเงินให้ blog ผมทาง e-wallet ครับ **

******
บทความต่าง ๆ ใน blog นี้
ขอสงวนสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537
ห้ามนำไปดัดแปลง ลอกเลียน หรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต

****
New Comments
Friends' blogs
[Add นมสิการ's blog to your web]
Links
 
MY VIP Friend


 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.