|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 |
6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 |
13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 |
20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 |
27 | 28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
ภพผูกรัก บทที่ 10/1
บทที่ 10/1 ศักดิ์ศรีหรือชีวิต หลวงอัครเสนาก้าวปราดเดียวประชิดตัวจมื่นพิภพโอสถที่ประคองรุ้งตะวันให้ลุกขึ้นยืนอย่างทุลักทุเล จมื่นพิภพโอสถเพียงใช้สายตาแหลมคมมองรู้สึกพลาดท่าเสียทีรีบชักดาบออกจากฝักแต่ไม่ทันการเพราะอาวุธคู่กายของอีกฝ่ายส่งตรงมาอย่างไม่ทันตั้งตัว รุ้งตะวันเห็นดังนั้นดึงมือจมื่นพิภพโอสถให้ถอยหลังได้ทันแต่คมดาบปาดบั้นเอวจมื่นพิภพโอสถไปเพียงเส้นยาแดงผ่าแปด หญิงสาวนึกโกรธเกรี้ยวที่ความหวังดีของตนต้องทำให้ชายหนุ่มเกือบตายเพราะความไร้เหตุผลของคนตรงหน้า หากแม้ไม่ใยดีต่อชีวิตร่อแร่ที่อยู่บนเรือน ไม่มีวันที่เธอจะแส่หาเรื่องเช่นนี้แน่ “นี่จะฆ่ากันเลยหรือไงกัน! มีเหตุผลบ้างได้ไหม” รุ้งตะวันโพล่งขึ้นก้าวมายืนข้างหน้าขวางร่างสูงใหญ่ที่กุมบั้นเอวเพราะบาดแผลยาว “เอ็งเป็นใครข้ามิเคยเห็นหน้า” “ขะ.. ขะ.. ข้าหรือ” เธอเผลอตะกุกตะกักพูดไม่ออกกระทั่งตั้งสติจึงตอบอีกฝ่าย “ข้าเป็นหมอมาจากแดนไกลบังเอิญเจอคุณภพก็เลย...” “มาจากแดนไกล?” หลวงอัครเสนาทวนคำ “ใช่” “ที่ใดกัน” “ก็...” “เจ้าตะวันอย่าพูดมาก” จมื่นพิภพโอสถปรามแล้วรั้งข้อมือเธอไปด้านหลังเอาตัวบังไว้ หลวงอัครเสนาที่อารมณ์กรุ่นโกรธเริ่มคลายจึงใจเย็นลงเพราะถือว่าได้ทำให้อีกฝ่ายเพลี่ยงพล้ำเพราะน้ำมือตน แต่ไม่ทันลำพองใจได้นานก็นึกได้ถึงเรื่องราวที่พ่อตาฝากฝังจึงเหลือบมองรุ้งตะวันชั่งใจอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะหันไปหาจมื่นพิภพโอสถที่มือเต็มไปด้วยเลือดจากบาดแผล สีหน้าชายหนุ่มสลดลงเล็กน้อยแต่ยังไว้ท่าเช่นเคย “เอ็งสองคนมีลับลมคมในอันใดกันหรือว่ามัน...” “หากจะฆ่าก็ฆ่าเลยอย่าร่ำไร ให้จบกันไปตรงนี้ไม่มีติดค้าง” จมื่นพิภพโอสถเอ่ยทันทีที่อีกฝ่ายสาวเท้าเข้ามาใกล้ แม้เผชิญหน้าระยะประชิดแต่เขาก็มิอยากให้ติดค้างกันต่อไป หลวงอัครเสนาได้ยินดังนั้นก็กำดาบมั่นแต่ไม่ชักออก กลับสบถด้วยความโกรธเกรี้ยวแทน “ไอ้นี่! หากจะฆ่า เอ็งไม่มีวันอ้าปากพูดเป็นแน่” “แล้วต้องการอะไร” “มาแล้วมีหรือจะกลับไปได้ง่ายๆ” “เช่นนั้นเก็บดาบเสียก่อนค่อยพูดจา” “ชิชะ! กล้าดียังไงมาสั่งข้าไอ้ภพ!” “หยุดเถอะ! ทั้งสองคนเลย” รุ้งตะวันร้องห้ามอย่างลืมตัว เสียงหวีดแหลมที่ไม่ได้ดัดของเธอทำให้หลวงอัครวาทินหันมาเพ่งพินิจ เธอถึงกับลอบกลืนน้ำลายด้วยรู้ตัวว่าพลาดขณะสบตาจมื่นพิภพโอสถ ลำพังตัวเองก็เจ็บแผลที่แขนไม่พอเขายังมาโดนฟันที่เอว อีกคนก็ไม่ยอมเลิกรา เธอรู้สึกวิงเวียนเมื่อต้องตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้กระทั่งเสียงห้าวของหลวงอัครเสนาปลุกเธอจากภวังค์ “เหตุใดเสียงเอ็งจึงเหมือน...” “มันป่วย... เสียงเลยเปลี่ยน” จมื่นพิภพโอสถตอบหน้าตาย รุ้งตะวันยิ้มแหย เจ็บก็เจ็บ กลัวก็กลัวจึงแกล้งปิดปากไอโขลกๆ ใส่ทำให้หลวงอัครเสนาหลบหลีกพัลวันด้วยความรังเกียจ “ไอ้นี่ มึงไอโขลกๆ ยังไม่รู้จักปิดปาก ถอยไป!” “ขะ... ขอโทษ ข้ามิได้ตั้งใจ มันห้ามไม่อยู่” รุ้งตะวันพูดจบก็ยิ้มแหยๆ ให้สองหนุ่ม จมื่นพิภพโอสถพยักหน้าเบาๆ ดึงแขนเธอหลบหลังก่อนก้าวมาหาหลวงอัครเสนาช้าๆ “ไอ้อัคร...” “ทำไม!” “ข้ามีเรื่องจะขอร้องเอ็ง” “ขอร้อง? คนอย่างจมื่นพิภพโอสถนี่หรือจะขอร้องข้า” “ใช่ ถึงอย่างไรเราก็เคยเป็นเพื่อนกันมา” “เพื่อนแบบไหนกันถึงคิดจะแทงข้างหลังเพื่อน หือ เอ็งบอกข้ามาสิไอ้ภพ!” “มันมิใช่เช่นนั้น! เอ็งเข้าใจข้ากับเรไรผิดตั้งแต่แรก” แค่ได้ยินอีกฝ่ายเอ่ยถึงผู้เป็นภรรยา หลวงอัครเสนาถึงกับบันดาลโทสะชักดาบออกมาท้าทายทันใด “สู้กันสักตั้งให้รู้แพ้ชนะ ไม่เอ็งก็ข้าวันนี้เห็นดำเห็นแดงกันไปข้าง!” “ไม่สู้” “ไอ้!” “สู้ไปแล้วย้อนเวลากลับคืนมาได้หรือไม่เล่า” “ไอ้ภพ!” “โอ๊ย! สองคนนี้ยังไงกันนะ ยกแรกผ่านไป ยกสองจะมาอีกแล้ว! พอเถอะนะคนจะตายอยู่บนเรือนไม่เข้าใจว่าต้องรีบรักษารึไงหา!” “อย่ามายุ่ง!” สองหนุ่มตวาดขึ้นพร้อมกัน กว่าจะรู้ตัวรุ้งตะวันก็ถูกสายตาทั้งสองคู่เพ่งมองจนแทบจะทะลุปรุโปร่งเสียแล้ว หลังจากนั้นทุกอย่างจึงตกอยู่ในความเงียบงันกระทั่งเฟื้องวิ่งกระหืดกระหอบเข้ามา “มาแล้วขอรับ ที่คุณภพสั่ง คน ชิง นาง ยาย ชุม บ่าวหาแทบตายกว่าจะได้ครบ ท่องจำแทบไม่หวาดไม่ไหว แล้วนี่ก็น้ำซาวข้าว บ่าวให้คนครัวรินใส่กระบอกไม้ไผ่มาด้วยขอรับ!” “ดี” จมื่นพิภพโอสถตอบรับก่อนจะหันไปทางรุ้งตะวันที่สีหน้าลิงโลดมองเฟื้อง “เจ้าตะวัน” “ขอรับ” “เอ็งล่วงหน้าไป” ยื่นให้แล้วถามย้ำ “รู้ใช่ไหมว่าต้องทำกระไรก่อน” “สบมยห.” “เจ้าตะวันจงพูดให้รู้ความ” จมื่นพิภพเน้นเสียงดุชัดถ้อยชัดคำ “ขอร้าบ” รุ้งตะวันทำเสียงยานคางแล้วยิ้มกว้างก่อนตอบ “สบมยห. มือชั้นนี้แล้ว สบายมากคุณภพอย่าห่วงเลยขอรับ” รุ้งตะวันเผยรอยยิ้มสดใส ทันทีที่อีกฝ่ายพยักหน้าอนุญาต เธอก็ออกวิ่งไปยังเรือนคุณหญิงแขไขโดยมีจมื่นพิภพโอสถมองตามด้วยความเป็นห่วงด้วยเห็นแผลเลือดเกรอะกรังเหนือต้นแขนที่เจ้าของมันไม่แม้แต่จะใส่ใจ... ร่างอวบอัดที่นอนหายใจรวยรินอยู่บนเตียงไม้สักหลังใหญ่สีน้ำตาลทองกลางห้องนอนชั้นสองของตัวเรือนช่างดูอ่อนเปลี้ยไร้เรี่ยวแรงราวกับไร้ซึ่งชีวิตจิตใจ ดวงตาสองข้างปรือปรอยแดงก่ำ สองแก้มแดงเรื่อราวกับมีไอร้อนระอุอยู่ภายในใกล้กันคือสะใภ้ผู้คอยบีบนวดมารดาอย่างขมีขมัน เธอรู้แต่เพียงว่าแม่หญิงรูปงามคนนี้ชื่อเรไร เป็นภรรยาของหลวงอัครเสนาที่ตั้งตัวเป็นศัตรูกับคุณภพของเธอ ของเธอ? จะบ้าหรือ! รุ้งตะวันสะบัดหน้าพรืด ตระหนกที่ตัวเองคิดอะไรประหลาดจนไม่น่าให้อภัย จมื่นพิภพโอสถผู้แสนเย็นชาคนนั้นน่ะหรือ สู้อาจารย์ทินพัฒน์ก็ไม่ได้ หญิงสาวพ่นลมหายใจหนักหน่วงก่อนจะรู้สึกตัวว่ายืนค้ำศีรษะคนป่วยเมื่อแม่หญิงเรไรกระแอมเบาๆ “นั่งก่อนดีหรือไม่...พ่อ” “ขอรับ” เธอรับคำแล้วลงนั่งข้างเตียง แม่หญิงเรไรกระแอมอีกครั้งก่อนจะหันหาบ่าวหญิงที่ยืนตาค้างอยู่แล้วออกคำสั่ง “นังเปียกเอ็งเอาตั่งตรงนั้นมาให้พ่อ เอ่อ... พ่อชื่อกระไร” “อะ... อ๋อ! ข้าชื่อรุ้ เอ่อ... ชื่อตะวัน เรียกตะวันเหมือนคุณภพก็ได้ขอรับ” “เช่นนั้นพ่อตะวัน นั่งก่อน” “ขอรับ” รุ้งตะวันยิ้มแหยๆ พลางนั่งลงบนตั่งที่เตรียมไว้ก่อนจะชะเง้อดูอาการคุณหญิงที่นอนไม่รู้สึกรู้สมราวกับปิดสวิตซ์ “คุณหญิงนอนนิ่งอย่างนี้นานแล้วหรือไม่ขอรับ” “สักพักแล้ว ก่อนแม่หมอกลับและบอกว่าไร้หนทางเยียวยาแล้ว” “ขนาดนั้นเชียว งั้นขอตรวจดูอาการก่อนถึงจะบอกแม่หญิงได้” “รบกวนพ่อแล้ว” เรไรเอ่ยเสียงแผ่วจ้องมารดาไม่วางตา รุ้งตะวันขยับเข้ามาใกล้ร่างคุณหญิงแขไข สำรวจดวงหน้ารอบๆ ด้วยสีหน้าจริงจัง เธอช้อนมือคุณหญิงที่วางหงายข้างตัวขึ้นมาวางที่หน้าตักตัวเอง สอดฝ่ามือรองรับข้อมืออ่อนเปลี้ยของคุณหญิงกดเบาๆ ยังจุดชีพจร สีหน้านิ่งเมื่อครู่แปรเปลี่ยนก่อนจะวางมือคุณหญิงลงข้างตัวตามเดิม “คุณแม่เป็นกระไรบ้าง” รุ้งตะวันแค่นยิ้มเล็กน้อยหลังจากฟังคำถามห่วงใยจากเรไร นิ้วเรียวยาวเอื้อมกดหนังใต้ตาและดันเปลือกตาชั้นบนขึ้นครู่หนึ่งจึงใช้นิ้วโป้งรั้งริมฝีปากล่างของคุณหญิงให้เผยอออกดูอย่างถ้วนถี่ “พ่อตะวัน... แม่ท่านเป็นกระไร” เรไรไม่ลดละถามไถ่ รุ้งตะวันถอนหายใจเล็กน้อยก่อนจะปรายตาไปทางบ่าวคนสนิทของแม่หญิงเรไรแล้วเอ่ย “แม่หญิง แม่หญิงคนนั้นน่ะ” บ่าวร่างอวบวัยใกล้เคียงกับเรไรถึงกับผงะตบอกผางก่อนละล่ำละลักตอบ “พ่ออย่าเรียกฉันว่าแม่หญิงเทียบเท่าคุณเรไรเลย บาปจะขบหัวเปล่าๆ” “อ่อ... ลืมไป รบกวนพี่ไปตามคุณภพให้ที” “แม่ท่านอาการแย่รึ” เรไรเอ่ยถามสีหน้ากังวลถึงที่สุด รุ้งตะวันพยักหน้ารับพลันหันรีหันขวางกระทั่งเห็นบ่าวคนเดิมที่กำลังคลานเข่าออกไปไม่ทันถึงประตูจึงเรียกไว้ “เดี๋ยว!” “บะ บ่าวกำลังจะไปตามท่านหมื่นให้บัดเดี๋ยวนี้แล้วเจ้าค่ะ” “ดี เสร็จแล้วให้ใครหาเบียร์มาให้สักกระป๋องนะ” “บะ บะ เบียร์หรือเจ้าคะ?” นางชุ่มทวนคำสีหน้างุนงงไม่ต่างกับผู้เป็นนายที่หน้าเครียดขึ้นมาทันที “ตั้งแต่เกิดมาฉันมิเคยได้ยินคำประหลาดเช่นนี้มาก่อน มันคืออะไรหรือจ๊ะพ่อ” เรไรถามกลับอย่างกระตือรือร้น รุ้งตะวันหน้าเหยเกเพราะนึกได้จึงรีบปฏิเสธ “อ๋อ ข้าลืมไป ข้าหมายถึงพวกเหล้าขาว เหล้าหมัก เหล้าดอง หรืออะไรทำนองนี้แหละขอรับ” “เช่นนั้นพอมีเจ้าค่ะ” เรไรหันไปกวักมือเรียกนางชุ่มรีบคลานเข่าเข้ามาฟังผู้เป็นนายกระซิบกระซาบยกใหญ่แล้วรีบก้มหน้างุดๆ ไม่ยอมสบตารุ้งตะวันที่มองตามไปด้วยความสงสัย พอดีกับจมื่นพิภพโอสถก้าวผ่านธรณีประตูเข้ามา ทั้งรุ้งตะวันและเรไรจึงลุกขึ้น ทั้งสองมองหน้ากันก่อนที่รุ้งตะวันจะเดินนำจมื่นพิภพโอสถเข้ามาหยุดยืนหน้าเตียงที่คุณหญิงเริ่มมีอาการทุรนทุรายจนแม่หญิงเรไรต้องพลิกร่างมารดาตะแคงแล้วพัดวีด้วยความเป็นห่วง จมื่นพิภพโอสถปรายตามองเรไรครู่หนึ่งจึงหันมาหารุ้งตะวันก่อนเอ่ย “เอ็งตรวจดูอาการคุณหญิงแล้วหรือไม่” “ขอรับ” “ว่ามา”
++++++++++++++++++++++++++++++
ว่าจะอัปเมื่อคืนหลังเที่ยงคืนแต่หลับก่อนอีกแล้ว งืออ ตอนนี้คุณภพมาถึงเกือบครึ่งเรื่องแล้วค่ะ ลงๆ หยุดๆ ไม่จบสักที แต่ตอนนี้กำลังเขียนภาค 2 รุ่นลูกคุณภพอยู่ค่ะ อีกนานเลยกว่าจะจบแต่วางโครงเรื่องไว้หมดแล้ว คราวนี้จะพาข้ามมายุคปัจจุบันบ้าง อิอิ
ช่วงนี้มีงานสัปดาห์หนังสือที่สถานีกลางบางซื่อ ขอฝากภพผูกรักกับกระซิบรักฝากหัวใจที่ปลายฟ้าด้วยนะคะ น่าจะมีที่ร้าน 555 bookstall กับร้านต้นสนอยู่ค่ะ
ส่วนอีบุ๊ค ตอนนี้พี่เม็บก็มีงานสัปดาห์หนังสือที่บ้านเหมือนกัน มีจัดโปรลดราคาหลายเรื่องตามสภาพเศรษฐกิจ คืนกำไรให้นักอ่าน ตามลิงก์นี้เลยค่ะ https://www.mebmarket.com/index.php?store=publisher&action=campaign_book_list&head_ text=%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B8%A1%E0%B8% A1%E0%B8%B2%E0%B8%A8&campaign_id=51&publisher_ id=1386215&publisher_name=%E0%B8%9E%E0%B8%B4% E0%B8%A1%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%A8&page_no=1
ส่วนเรื่องนี้จัดเซ็ตล่าสุดค่ะ ยังโปรลดเยอะอยู่ค่ะ https://www.mebmarket.com/web/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3 M6NzoiMTM4NjIxNSI7czo3OiJib29rX2lkIjtzOjY6IjE4OTU1OSI7fQ
ขอบคุณที่ติดตามอ่านค่า คืนนี้ค่อยตามไปเยี่ยมพี่ๆ ที่บล็อกค่า
Create Date : 29 มีนาคม 2565 |
|
41 comments |
Last Update : 29 มีนาคม 2565 8:37:24 น. |
Counter : 3652 Pageviews. |
|
|
|
|
ผู้โหวตบล็อกนี้... |
คุณฟ้าใสวันใหม่, คุณเริงฤดีนะ, คุณจันทราน็อคเทิร์น, คุณtoor36, คุณสองแผ่นดิน, คุณhaiku, คุณไวน์กับสายน้ำ, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณSweet_pills, คุณ**mp5**, คุณmultiple, คุณกะว่าก๋า, คุณNoppamas Bee, คุณtanjira, คุณชีริว, คุณอุ้มสี, คุณtuk-tuk@korat, คุณThe Kop Civil, คุณkae+aoe, คุณNENE77, คุณดอยสะเก็ด |
| |
โดย: **mp5** 30 มีนาคม 2565 11:51:55 น. |
|
|
|
| |
โดย: multiple 30 มีนาคม 2565 22:18:55 น. |
|
|
|
| |
โดย: กะว่าก๋า 30 มีนาคม 2565 22:33:48 น. |
|
|
|
| |
โดย: sawkitty 31 มีนาคม 2565 11:13:16 น. |
|
|
|
| |
โดย: กะว่าก๋า 31 มีนาคม 2565 23:03:04 น. |
|
|
|
| |
โดย: คุณต่อ (toor36 ) 1 เมษายน 2565 0:20:53 น. |
|
|
|
| |
โดย: tanjira 1 เมษายน 2565 14:35:14 น. |
|
|
|
| |
โดย: คุณต่อ (toor36 ) 1 เมษายน 2565 17:21:36 น. |
|
|
|
| |
โดย: ชีริว 1 เมษายน 2565 18:57:44 น. |
|
|
|
| |
โดย: อุ้มสี 2 เมษายน 2565 7:25:25 น. |
|
|
|
| |
โดย: **mp5** 18 เมษายน 2565 11:14:14 น. |
|
|
|
| |
โดย: tanjira 18 พฤษภาคม 2565 7:51:26 น. |
|
|
|
| |
โดย: NENE77 10 มิถุนายน 2565 14:18:09 น. |
|
|
|
| |
โดย: KennethEnums IP: 109.197.199.22 6 กันยายน 2565 0:53:21 น. |
|
|
|
| |
โดย: Davidonele IP: 109.197.199.22 4 มกราคม 2566 5:51:08 น. |
|
|
|
| |
โดย: MichaelTacew IP: 109.197.199.22 15 พฤษภาคม 2566 11:28:34 น. |
|
|
|
| |
โดย: RNS-MO-ehto IP: 109.197.199.22 8 กรกฎาคม 2566 3:02:10 น. |
|
|
|
| |
โดย: Uteplenie_sn IP: 109.197.199.22 10 ธันวาคม 2566 13:23:04 น. |
|
|
|
|
|
|
|
โหย ไม่ทันใจ FC เลยค่ะ 555
มีภาค 2 รุ่นลูกอีกด้วย พอ ๆ กับพรหมลิขิต ละครช่อง 3 เลยนะคะ
ทำเป็นเล่นไป น่าเอาไปทำละครทีวีดูบ้างเนอะ
ช่วงนี้ฮิตละครพีเรียดอยู่ด้วย