|
| 1 | 2 |
3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 |
10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 |
17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 |
24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 |
31 | |
|
|
|
|
|
|
|
ภพผูกรัก บทที่ 5/2
นับไปนับมาเป็นเวลากว่าสี่ชั่วโมงแล้ว... ทินพัฒน์สะท้อนใจ ดวงตาคมหรุบต่ำหลบสายตาบุพการีทั้งสองของรุ้งตะวัน เป็นความผิดของเขาแท้ๆ เพราะเขาคนเดียวที่ทำให้เธอมีอันเป็นไป... รัชนีพรูลมหายใจอึดอัดหยิบโทรศัพท์จากกระเป๋าสะพายออกมาตั้งท่ากดโทร.ออกโดยไม่ฟังเสียงห้ามปรามใดๆ อีกกระทั่งเสียงสบถดังขึ้น นางจึงชะงักไป “ชิชะ! ดื้อแพ่งเช่นนี้มิน่าเสียของรัก” หมอดูคนดังประจำตำบลที่ท่าทางเหมือนหมอผีมากกว่ากล่าวพลางตวัดหางตามองรัชนีด้วยแววตาขุ่นเคืองหมุนตัวเดินกลับมาเผชิญหน้าสามีภรรยา ทินพัฒน์ โสภิตาและนิลสีที่ลอบฟังเงียบๆ อยู่หลังทินพัฒน์ ต่างรอฟังคำพูดต่อมาของอาจารย์ทองด้วยความระทึกกระทั่งริมฝีปากหยักหนาใต้เคราดำครึ้มเริ่มขมุบขมิบท่องมนตร์ครู่หนึ่งจึงลืมตาโพลง “เด็กคนนั้นยังไม่ตาย...” “ว่าไงนะหมอ!” วันชนะโพล่งถาม “ช่วยจำกัดวงให้แคบหน่อยได้ไหม” “หน้าตาก็ดีไม่น่าเข้าใจยาก” อาจารย์ทองลูบคางพลางหรี่ตามองอย่างไว้ท่า รัชนีฟังคำพูดยียวนของทองแล้วถึงกับมุ่นคิ้วหน้าเครียดลงทันที เพราะแค่คำพูดของคนที่นางไม่คิดเชื่อถือไม่มีน้ำหนักพอแล้ว โดยปกติคนคนหนึ่งจะจมหายไปแค่ไม่กี่วินาทีก็อาจถึงตายแต่นี่บุตรสาวของนางหายไปเกินสี่ชั่วโมง คิดถึงตรงนี้ริมฝีปากบางเฉียบฉาบสีชมพูเข้มก็ยกหยันขึ้นโดยไม่รู้ตัว “หนูเพิ้ง รบกวนช่วยส่งอาจารย์ทองแทนป้ากับลุงด้วยนะ” “เอ่อ คุณป้าคะไม่ลองให้อาจารย์ดูสักหน่อยหรือคะ...” โสภิตาแบ่งรับแบ่งสู้ รัชนีดูจะไม่ใคร่ใยดีทอดถอนใจก่อนตอบ “มันเป็นไปไม่ได้หรอกหนูเพิ้ง” “แต่ว่า...” “ป้าทำใจแล้ว อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด” นางเอ่ยเท่านั้นน้ำตาก็คลอตา “กว่าจะได้รุ้งมาก็แสนจะยากลำบาก เลี้ยงดูกันได้ไม่กี่ปี ไม่ทันได้เห็นเขาเติบโตมีลูกมีหลานก็มาจากแม่ไปเสียแล้ว” “โธ่ คุณ ทำใจดีๆ ไว้” วันชนะคว้าร่างภรรยามากอดปลอบ รัชนีสุดที่จะฝืนจึงได้แต่แนบหน้ากับอกสามีด้วยความเสียใจอย่างสุดซึ้ง ทินพัฒน์เห็นก็ใจหายรีบกุลีกุจอหาอาจารย์ทองทันที “อาจารย์เห็นอะไรบ้างครับ พอจะบอกผมได้ไหม” “เห็น” “เห็น! เห็นอะไรครับ” “แน่ใจหรือว่าพวกคุณอยากให้ผมช่วย” “ครับ หากมันเป็นทางที่จะทำได้ดีกว่าอยู่รอฟังข่าวคราวเฉยๆ” วันชนะชิงตอบ เขารู้นิสัยภรรยาดีที่สุด จึงออกหน้าคุยกับอาจารย์ทองแทนมิให้บัวช้ำน้ำขุ่นไปกว่าเดิม เขารู้ว่าภรรยาไม่เชื่อเรื่องสิ่งลี้ลับหรือศาสตร์ลึกลับที่ไม่สามารถพิสูจน์ด้วยวิทยาศาสตร์ได้ แต่กับเขาที่ศึกษาเรื่องทางนี้มาบ้างจะว่าเชื่อก็ไม่ใช่จะว่าไม่เชื่อก็ไม่เชิง แต่หากเป็นทางที่จะช่วยบุตรสาวได้เขาก็พร้อมจะทำ “ก็ได้ แต่บอกไว้ก่อนว่าผมก็เป็นคนโผงผางแบบนี้แต่หากคุณไม่ใช้ความเป็นคนใหญ่คนโตพูดข่ม ผมก็พร้อมจะช่วย ว่าแต่...” ทองพูดยังไม่จบก็เหลียวซ้ายแลขวาครู่หนึ่งจึงกวักเรียกทั้งหมดให้ล้อมวงเข้ามา นิลสีฉวยโอกาสที่ไม่มีใครให้ความสนใจลอบฟังอยู่หลังทินพัฒน์ทันที “งั้น หากแกยังอยู่แล้วตอนนี้อยู่ที่ไหน ทำไมหาร่างแกไม่เจอล่ะคะ” คราวนี้ทองยิ้มหยันรัชนีเล็กน้อยก่อนปรายตาไปที่เรือนแล้วเอ่ย “เด็กคนนั้นดวงยังไม่ถึงฆาต ตอนนี้ผมบอกได้คำเดียวว่าแกยังไม่ตายและยังอยู่ดี แต่ทุกอย่างก็ขึ้นอยู่แต่กรรม” “กรรมหรือ” ผู้เป็นบิดาถึงกับครางในคอ ใจหายเพราะเป็นห่วงแต่เพราะต้องเป็นเสาหลักให้ภรรยาที่ถึงแม้ดูเป็นคนแข็งนอกแต่อ่อนในอย่างที่ไม่มีใครรู้ “กรรมของใครก็ของคนนั้น บางครั้งเขาอาจจะทำบุญทำกรรมร่วมกันกับใครบางคนมาก็เป็นได้” ทั้งหมดมองตามสายตาหมอดูประจำตำบลไปยังเรือนร้างที่ได้รับการปรับปรุงจนพอดูได้ แต่กระนั้นก็ยังบ่งบอกให้รู้ว่าเป็นเรือนเก่าแก่นานนับหลายร้อยปี ถึงแม้ไม่ค่อยเข้าใจแต่ทุกคนก็เงียบกริบรอฟัง “โธ่! ยายรุ้งลูกแม่” รัชนีที่ฟังมาตลอดถึงกับฟูมฟายหมดอาย อาจารย์ทองหลับตาหันหน้าไปทางเรือน ริมฝีปากหนาใต้หนวดเครารุงรังขยับขึ้นลงบริกรรมคาถาพักใหญ่จึงลืมตาโพลงขึ้นมา ครานี้รัชนีถึงกับขยับเข้ามายืนเคียงข้างถามทันที “ได้ความว่ายังไงบ้าง” “รอ...” “รอ?” นางย้อนถามพลางมุ่นคิ้วสีหน้าเคร่งเครียดตึงหนักกว่าเดิมสบตาสามีก่อนจะหันมาถามทองอีกครั้ง “รออะไร ยังไง แล้วให้อยู่เฉยๆ เหรอ” “ทำได้แค่รอ” ทองว่าพลางส่งสายตาคมกล้าให้สามีภรรยาก่อนเอ่ยต่อ “แต่ถ้าไม่อยากรออย่างไม่รู้จุดหมาย ก็ยังพอมีหนทาง” สองสามีภรรยาฟังแล้วใจชื้นต่างสบตากันสองมือกุมกันมั่นราวกับลืมเรื่องขุ่นข้องหมองใจที่มีต่อกัน นาทีนี้รัชนีละสิ้นอคติในใจตนเพื่อลูกสาวสุดที่รักคนเดียวแล้วออกปากถาม “ต้องทำยังไง” “ทำใจให้สบายเข้าวัดทำบุญ ฝึกนั่งสมาธิบ่อยๆ วันใดวันหนึ่งผลบุญจะส่งผลเอง” ทองเอ่ยเท่านั้นก็ก้าวฉับ ๆ เดินขึ้นบันไดเรือนไป “เดี๋ยวสิคะ!” รัชนีร้องเรียกแต่ตามไปไม่ลดละ วันชนะเห็นท่าทีลนลานของภรรยาก็หันมาหาทินพัฒน์กับโสภิตาเอ่ยน้ำเสียงเอื่อยฝากฝัง “ผมคงต้องตามไปดูแลแม่ยายรุ้งก่อน ทางนี้ฝากอาจารย์ดูแลให้ด้วยนะ มีอะไรคืบหน้าช่วยบอกด้วย” “ผมขอโทษครับอาจารย์ เป็นความผิดของผมเองที่ไม่ห้ามรุ้ง” “ผมเข้าใจ ผมรู้นิสัยลูกตัวเองดี” “แต่หากผมห้าม รุ้งคง...” ทินพัฒน์ยืดอกรับผิด “หากแกตัดสินใจแล้ว คุณไม่มีวันเปลี่ยนใจแกได้หรอกอาจารย์” วันชนะได้แต่ตบไหล่อีกฝ่ายแทนคำตอบแล้วเดินตามรัชนีกับอาจารย์ทองขึ้นไปบนเรือนโดยมีโสภิตาตามติด ทินพัฒน์มองตามจนลับตาก่อนจะถอนหายใจหนักหน่วงออกมาทันใด “พี่ทินคิดว่ายังไง” นิลสีที่ลอบฟังกระซิบถาม อาจารย์หนุ่มปรายตามองคนช่างสอดแล้วลอบถอนใจ แต่ก็ทนนิลสีเซ้าซี้ไม่ได้นานที่สุดก็เดินหนีแต่ถูกนักข่าวสาวรั้งไว้ “นิลสัญญาว่าจะไม่เขียนข่าวละครเวทีกับการหายตัวไปของคุณรุ้งแบบเสียหายแน่นอน นิลรู้ว่าพี่ทินมีเรื่องไม่สบายใจเล่าให้ฟังได้นะ นิลพร้อมจะรับฟัง” “เราเคยได้ยินเรื่องข้ามมิติรึเปล่า” “หืม... อะไรนะพี่” นิลสีโพล่งถามสีหน้าตื่นๆ ทินพัฒน์เห็นดังนั้นจึงส่ายหน้าแล้วเดินจากไปเพราะรู้ว่าถึงพูดไปก็ไม่มีใครเชื่อ แต่เขาเชื่อเพราะเห็นกับตาตัวเอง จะว่าเป็นภาพลวงตาก็มิใช่ เขาเห็นรุ้งตะวันถูกช่วยเอาไว้โดยใครคนหนึ่งซึ่งแค่นึกก็ถึงกับขนลุกซู่เพราะใครคนนั้นช่างมีใบหน้าละม้ายคล้ายคนในภาพวาดที่อยู่ในห้องปิดตายบนเรือนนั้นเป็นอย่างมาก...
++++++++++++++++++
ขอบคุณที่ติดตามอ่านค่า ตอนนี้ลงช้าหน่อยค่ะ ขอฝากอีบุ๊คเล่ม 1 ด้วยค่า ราคาโปร 119.- ค่ะ https://www.mebmarket.com/web/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NzoiMTM4NjIxNSI7czo3OiJib29rX2lkIjtzOjY6IjE3MDI0MyI7fQ
Create Date : 01 ตุลาคม 2564 |
Last Update : 2 ตุลาคม 2564 12:32:02 น. |
|
21 comments
|
Counter : 1027 Pageviews. |
|
|
|
ผู้โหวตบล็อกนี้... |
คุณmultiple, คุณnewyorknurse, คุณไวน์กับสายน้ำ, คุณฟ้าใสวันใหม่, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณเริงฤดีนะ, คุณ**mp5**, คุณThe Kop Civil, คุณtoor36, คุณจันทราน็อคเทิร์น, คุณกะว่าก๋า, คุณทุเรียนกวน ป่วนรัก, คุณhaiku, คุณสองแผ่นดิน, คุณอุ้มสี, คุณkatoy, คุณมยุรธุชบูรพา, คุณSweet_pills, คุณชีริว, คุณkae+aoe |
โดย: multiple วันที่: 1 ตุลาคม 2564 เวลา:2:54:57 น. |
|
|
|
โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 1 ตุลาคม 2564 เวลา:8:11:58 น. |
|
|
|
โดย: **mp5** วันที่: 1 ตุลาคม 2564 เวลา:15:23:49 น. |
|
|
|
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 1 ตุลาคม 2564 เวลา:16:37:03 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 1 ตุลาคม 2564 เวลา:17:09:00 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 1 ตุลาคม 2564 เวลา:23:33:53 น. |
|
|
|
โดย: สองแผ่นดิน วันที่: 1 ตุลาคม 2564 เวลา:23:42:44 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 2 ตุลาคม 2564 เวลา:6:29:10 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 2 ตุลาคม 2564 เวลา:6:40:18 น. |
|
|
|
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 2 ตุลาคม 2564 เวลา:10:09:35 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 2 ตุลาคม 2564 เวลา:23:01:17 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 3 ตุลาคม 2564 เวลา:6:34:13 น. |
|
|
|
โดย: ชีริว วันที่: 3 ตุลาคม 2564 เวลา:10:02:46 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 4 ตุลาคม 2564 เวลา:22:19:46 น. |
|
|
|
โดย: ชีริว วันที่: 4 ตุลาคม 2564 เวลา:22:29:24 น. |
|
|
|
|
|
|
|
หมอดูทองนี่ บุคลิกโผงผาง พูดตรงไม่เกรงใจใคร
แต่เอาจริงน่าจะเป็นคนใจดี ถึงยอมช่วยน้องรุ้ง
แต่ อ.เต๊ะ ไม่รู้ว่า พี่สุดหล่อนี่ เฮี้ยนขนาดไหน แต่ ท่าทาง
จะเอาเรื่องไม่เบา เพราะ อ.ทิน ยังเห็นตอนโผล่ทะลุมิติมาช่วยรุ้งขึ้นจากน้ำ แล้วหันมา ยักคิ้วแผลบๆโชว์ ซะด้วย อิอิ
น้องพิมมาศบอก ข้าเขียนยังงั้นเหรอ สงสัยข้าจะนอนน้อย เย้ย 555
แล้วตอนจบนี่ อ.ทอง ยังมุ่งไปที่เรือนอาถรรพ์ เหมือนจะไปทำพิธีอะไรซักอย่าง อ.เต๊ะ ไม่มั่นใจว่า แกจะเอาพี่สุดหล่ออยู่มั้ย
หรือน้องพิมมาศ จะให้ อ.เต๊ะ ไปตามหมอหน่อย เชิญยิ้ม ที่มีคาถาสะกดวิญญาน มาช่วย ผีตัวไหนแกเอาอยู่หมด ไม่รู้เคยได้ยินมั้ย
บทสวดสะกดวิญญาน ในตำนาน ปราบมาทั่วทิศ บทนี้นี่ไง
อะนันตะปัดชะเย อะปัดติเถเถนา อะปัดติยา อะปัดติเถเถคือ อะปัดติโถ อะปัดติกึด กึด กึดๆๆ 555