Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2556
 
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
11 พฤษภาคม 2556
 
All Blogs
 
ภาพยนตร์ :: DEAD MAN DOWN :: แค้นได้ตายไม่เป็น ::


DEAD MAN DOWN ... แค้นได้ตายไม่เป็น




อ่านเรื่องราวอย่างละเอียด 6 บล็อก จุใจค่ะ^^













จัดจำหน่ายโดย เอ็ม พิคเจอร์ส
ภาพยนตร์แนว แอ็คชั่น -ทริลเลอร์
จากประเทศ สหรัฐอเมริกา


กำหนดฉาย 16 พฤษภาคม 2556


ณ โรงภาพยนตร์ โรงภาพยนตร์ในเครือเมเจอร์ซีนีเพล็กซ์
ผู้กำกับ Niels Arden Oplev นีลส์ อาร์เดน ออพเลฟ)
อำนวยการสร้าง Neal H. Moritz (นีล เอช.มอรีทส์)





+ + + นักแสดง + + +


Colin Farrell (โคลิน ฟาร์เรล)
รับบทเป็น Victor (วิคเตอร์)
จากภาพยนตร์เรื่อง Total Recall , Miami Vice , Alexander

Noomi Rapace (นูมี ราเพซ)
รับบทเป็น Beatrice (เบียทริซ)
จากภาพยนตร์เรื่อง Prometheus , Sherlock Holmes: A Game of Shadows , Passion


Terrence Howard (เทอร์เรนซ์ โฮเวิร์ด)
รับบทเป็น Alphonse (อัลฟองซ์)
จากภาพยนตร์เรื่อง Iron Man , The Brave One , The Ledge , Movie 43


Dominic Cooper (โดมินิค คูเปอร์)
รับบทเป็น Darcy (ดาร์ซี)
จากภาพยนตร์เรื่อง My Week with Marilyn,Mamma Mia!,Captain America:The First Avenger

Isabelle Huppert (อิซาเบล ฮัพเพิร์ท)
รับบทเป็น Valentine (วาเลนไทน์)
จากภาพยนตร์เรื่อง Amour , La pianiste , 8 femmes























+ + + เรื่องย่อ + + +





DEAD MAN DOWN เป็นแอ็คชั่นทริลเลอร์ระทึกขวัญที่มีเรื่องราวความรักเป็นศูนย์กลาง เกิดขึ้นในโลกอาชญากรรมของนิวยอร์ก ซิตี้ วิคเตอร์ (รับบทโดย โคลิน ฟาร์เรล) ซึ่งเป็นมือขวาของอัลฟองซ์ (รับบทโดยเทอร์เรนซ์ โฮเวิร์ด) เจ้าพ่ออาชญากรรมตัวเอ้ ที่กำลังโดนลบเหลี่ยมจากแกงค์ศัตรู ส่งมือดีมาปลิดชีพสมาชิกแก๊งของเขาทีละคนๆ แถมยังส่งคำขู่และคำเย้ยหยันมาถึงอัลฟองซ์ งานนนี้ ดาร์ซี (โดมินิค คูเปอร์) เพื่อนของวิคเตอร์ ลูกน้องอีกคนของอัลฟองซ์เริ่มหมกมุ่นกับการหาตัวฆาตกร เพื่อหวังจะเลียแข้งเลียขาอัลฟองซ์และถีบตัวเองขึ้นสู่ตำแหน่งที่สูงขึ้นในองค์กร




















ระหว่างนี้ วิคเตอร์ได้พบกับเบียทริซ (นูมี ราเพซ) สาวหญิงฝรั่งเศสลึกลับ ที่อาศัยอยู่กับวาเลนไทน์ (อิซาเบล ฮัพเพิร์ท) แม่ของเธอในอพาร์ทเมนต์หรูฝั่งตรงข้ามกับห้องพักของวิคเตอร์ และเมื่อวิคเตอร์เริ่มหลงใหลเธอ ไม่นานนักเขาก็ได้ค้นพบว่าเบียทริซไม่ได้เป็นคนอย่างที่เขาเห็น แต่เธอเป็นเหยื่ออาชญากรรมที่ต้องการแก้แค้น และเธอก็ต้องการความช่วยเหลือจากวิคเตอร์ และในขณะเดียวกันเบียทริซก็พบว่าวิคเตอร์ไม่ใช่คนอย่างที่เธอเห็นเช่นกัน แต่เขาคือผู้ต้องการแก้แค้นให้กับการเสียชีวิตของภรรยาและลูกสาวตัวน้อยของเขาที่เกิดขึ้นเมื่อหลายปีก่อน และเมื่อคนสองคนที่มีบาดแผลในใจ ที่ต่างก็หมกมุ่นอยู่กับการแก้แค้นได้มาพบกัน ปฏิกิริยาเคมีและความสัมพันธ์ที่เข้มข้นของทั้งคู่ก็นำไปสู่การวางแผนการแก้แค้นที่รุนแรงและเป็นการชำระล้างจิตใจของพวกเขาด้วย




















+ + + เปิดใจผู้กำกับภาพยนตร์+++

นีลส์ อาร์เดน ออพเลฟ




















นีลส์ อาร์เดน ออพเลฟ ผู้กำกับชาวเดนิชได้รับการทาบทามจากสตูดิโอฮอลลีวู้ด ที่ส่งบทภาพยนตร์มากมายให้เขาอ่านทันที ออพเลฟไม่ได้เลือกจะผูกมัดตัวเองกับโปรเจ็กต์ไหนเลย แต่แล้วเขาก็ได้อ่าน DEAD MAN DOWN
อย่างที่ออพเลฟเล่าว่า ..


“ประเด็นสำคัญเกี่ยวกับ DEAD MAN DOWN คือมันเป็นบทที่ดี และนั่นก็คือความแตกต่างระหว่างบทหนังเรื่องนี้กับอีก 250 เรื่องที่ผมได้อ่าน ในบรรดาบท 250 เรื่องที่ผมได้อ่านมาประมาณสองปีครึ่ง มีเพียงแค่หยิบมือเดียวที่น่าสนใจ บางเรื่องก็ต้องอาศัยการปรับเปลี่ยนอีกหน่อย ซึ่งผมก็พูดได้ว่ามันอาจเป็นเรื่องที่ผมเลือกแสดง แต่บท DEAD MAN DOWN ก็เข้ามาในลักษณะที่เกือบเพอร์เฟ็กต์เลยครับ”




















“แล้วมันก็เป็นเรื่องราวที่น่าสนใจมากๆ ด้วย” ออพเลฟอธิบาย “มันมีอะไรมากมายในเรื่องราวนี้ ตัวละครมีความลึกซึ้ง มันเป็นส่วนผสมที่วิเศษสุดของสิ่งที่น่าจะถูกใจผู้ชมในวงกว้าง แต่ในขณะเดียวกัน มันก็มีแง่มุม ‘อาร์ตๆ’ ที่ดีด้วย ตัวละครของเรื่องมีทั้งอารมณ์และมิติลึกซึ้ง แล้วบทเรื่องนี้ก็มีธีมโปรดของผมด้วย ซึ่งก็คือการไถ่บาปหัวใจ การไถ่บาปโชคชะตาของตัวเอง ในแง่ที่ว่าเมื่อไหร่ก็ตามที่ทุกสิ่งในชีวิตคุณแลดูมืดหม่น สิ้นหวังที่สุด จะมีบางคนหรือบางสิ่งที่จะให้โอกาสที่สองกับคุณเพื่อแก้ตัวและทำให้ชีวิตคุณกลับมาเข้ารูปเข้ารอยอีกครั้ง นั่นเป็นเรื่องราวสำหรับวิคเตอร์และเบียทริซด้วยครับ และที่มันเกิดขึ้นก็เพราะพวกเขาได้พบกันใน ‘ใจกลางแห่งความมืดมิด’ ของทั้งคู่ การพบกันของทั้งคู่และสิ่งวุ่นวายทั้งหลายทั้งปวงที่เกิดขึ้นทำให้พวกเขาสามารถไถ่บาปตัวเอง มาถึงจุดที่พวกเขาได้รับโอกาสครั้งที่สองครับ”



“และสำหรับผมแล้ว นั่นอาจจะเป็นธีมที่งดงามที่สุดก็ได้” ออพเลฟกล่าวต่อ
“ธีมที่อยู่ใน The Girl with the Dragon Tattoo สำหรับทั้งลิสเบธ ซาแลนเดอร์และบลอมค์วิสต์ รวมถึงในหนังเรื่องอื่นๆ ของผมอีกหลายเรื่องด้วย”





















“ผมเชื่อจริงๆ ว่า DEAD MAN DOWN มีองค์ประกอบทุกอย่างของหนังอเมริกันคลาสสิก ในแง่ของความบันเทิงน่ะครับ” ออพเลฟเล่าอย่างกระตือรือร้น


“มันมีการแก้แค้น แอ็คชั่น พล็อตลึกลับน่าสนใจ ที่จะคลี่คลายออกมาเรื่อยๆ ระหว่างที่เรื่องราวเดินหน้าไป หนังเรื่องนี้มีตัวละครที่น่าสนใจและมหัศจรรย์ และมีคุณค่าทางด้านการสร้างที่ยอดเยี่ยม อะไรพวกนั้นน่ะครับ แล้วภายในแพ็คเกจทั้งหมดนี้ก็จะมีเรื่องราวความรักพิลึกพิลั่นนี้ เป็นความรักจริงๆ ระหว่างชายและหญิงในแบบที่คุณไม่เคยเห็นมาก่อน และสำหรับผมแล้ว องค์ประกอบพวกนั้นก็เป็นอะไรที่น่าทำงานด้วยจริงๆ ครับ”





















“ดังนั้น เมื่อคุณมองที่ตัวละครทั้งสองตัว ทั้งวิคเตอร์ ที่รับบทโดยโคลิน ฟาร์เรลและเบียทริซ ที่รับบทโดยนูมิ ราเพซ” ออพเลฟเล่า “รวมถึงเรื่องรักเรื่องนี้ มันก็ชัดเจนว่านี่ไม่ใช่เรื่องรักที่เริ่มต้นแบบธรรมดาๆ มันเริ่มต้นด้วยสิ่งที่คุณคิดว่าเป็นการเดทระหว่างผู้ชายที่ยังเป็นคนลึกลับในแง่ที่ว่าเขาจะเป็นคนดีหรือคนร้ายก็ยังไม่รู้เพราะตอนเริ่มต้นเรื่อง เขาได้ทำบางอย่างที่เลวร้ายไปแล้วด้วย และผู้หญิงคนนี้ที่ดูแปลกๆ ในแง่ของการใช้ชีวิตของเธอและแม่ แล้วเมื่อพวกเขาไปเดทกันครั้งแรก เดทนั้นก็ไปในทิศทางที่แตกต่างกับที่เราเคยเห็นมาโดยสิ้นเชิงเลย พอผมได้อ่านบทที่วิเศษสุดโดยโจเอล วีแมนเป็นครั้งแรก ผมก็นึกถึงว่าความสามารถของเขาในการทำให้ฉากเดทในหนังมีความแปลกใหม่ขึ้นมาก็เป็นความสำเร็จในตัวมันเองอยู่แล้ว ใครอาจจะบอกว่ามันเป็นไปไม่ได้แต่นั่นคือสิ่งที่เรื่องราวนี้ทำครับ”


“ดังนั้น DEAD MAN DOWN ก็เลยมีการหักมุมจำนวนมหาศาลเลยครับ” ออพเลฟกล่าวต่อ “เมื่อคุณคิดว่าคุณรู้อะไรสักอย่าง ก็มีอีกสิ่งหนึ่งเกิดขึ้น และในแง่นั้นเอง หนังเรื่องนี้จะสนุกมากๆ และน่าตื่นเต้นมากๆ ด้วย มันมีองค์ประกอบตามที่ผมต้องการจริงๆ แหละครับ”





















“และ DEAD MAN DOWN ก็เป็นหนังอินดี้ฟอร์มใหญ่ ผมก็เลยมีอิสระที่จะสร้างมันในแบบที่ผมต้องการด้วย” ออพเลฟกล่าวยืนยัน “ผมคิดว่ามันจะต้องเป็นเรื่องยากมากๆ ที่จะสร้างหนังแบบนี้ ที่มีฉากพวกนี้และสิ่งที่คนพวกนี้พูดและทำ ในระบบการสร้างหนังของสตูดิโออเมริกันน่ะครับ”


“โจเอล วีแมนเขียนบทเรื่องนี้มาหกปี และเขาก็พูดคุยกับนีล มอริทซ์และบริษัทออริจินอล ฟิล์มของเขาถึงเรื่องการสร้างหนังเรื่องนี้ขึ้นมา” ออพเลฟเล่า


“แล้วตามที่ผมเข้าใจ ตอนที่โจเอลกำลังจะเขียนบทเรื่องนี้เสร็จ เขาก็ได้ดูหนังเรื่อง The Girl wth the Dragon Tattoo ของผม และเขากับนีล มอริทซ์ก็ตัดสินใจที่จะส่งบทเรื่องนี้ให้ผม ในฐานะตัวเลือกแรกที่จะมากำกับหนังเรื่องนี้ ตอนที่ผมได้บทเรื่องนี้มา ก่อนหน้านั้นหนังที่ผมจะต้องสร้างก็ถูกพับไปก่อนพอดี ดังนั้น พอบทเรื่องนี้ถูกส่งมาให้ผม ผมก็อ่านมันอย่างเร็วมากและผมก็ชอบมันมาก ผมได้โทรคุยกับโจเอล ได้พบกับเขา และชื่อของนักแสดงคนแรกที่เราพูดถึงว่าน่าจะมานำแสดงในหนังเรื่องนี้ในบท..วิคเตอร์.. ก็คือโคลิน ฟาร์เรลครับ”





















“ชื่อของโคลินปรากฏขึ้นเป็นเรื่องปกติเพราะนีล มอริทซ์กำลังทำงานใน ‘Total Recall’ ร่วมกับเขาอยู่ครับ” ออพเลฟเล่า “แล้วผมก็คิดว่ามันฟังดูเป็นไอเดียที่เจ๋งและน่าสนใจจริงๆ ผมกับโคลินเลยนัดพบกันและผมก็ได้ไปพบเขาที่นิวยอร์ก ผมรู้สึกถึงความมุ่งมั่นที่จะทำในสิ่งที่แตกต่างและการสวมบทตัวละครตัวนี้ ที่มีองค์ประกอบคลาสสิก แต่ในขณะเดียวกัน ก็มีมิติด้านอารมณ์ที่ลึกซึ้งและมีความอ่อนไหวแปลกประหลาดอย่างที่ผมต้องการ จากตัวเขา ดังนั้น มันก็เลยเป็นการพบกันที่เยี่ยมมากๆ”



“ในแบบเดียวกับที่โจเอลไม่เคยนึกถึงผู้กำกับคนอื่น” ออพเลฟกล่าว “โจเอล,นีลกับผมก็ไม่เคยนึกถึงนักแสดงคนอื่นเหมือนกัน มันก็เลยเป็นสิ่งที่แน่นอนตั้งแต่ต้น และโชคดีที่โคลินชอบบทเรื่องนี้และตอบ ‘ตกลง’ นั่นเป็นจุดเริ่มต้นโปรเจ็กต์ที่เยี่ยมจริงๆ เมื่อคุณเริ่มต้นได้สวยแบบนั้น คุณก็มีชัยไปกว่าครึ่งแล้วล่ะครับ”




















“สำหรับโคลินในบทวิคเตอร์” ออพเลฟเล่า “ผมคิดว่าสิ่งแรกที่สำคัญจริงๆ สำหรับผม ซึ่งผมก็คุยเรื่องนี้กับโคลินตั้งแต่ที่เราพบกันครั้งแรก คือเราจะนำเสนอภาพเขาเป็นคนจริงๆ ไม่ได้เหมือนกับแอ็คชั่นฮีโร่ และพอผมได้เห็นโคลินในบทนั้น ผมก็กล้าพูดได้เลยว่าเขาถ่ายทอดความอ่อนไหวในตัวละครตัวนี้ออกมาอย่างมืดหม่นจริงๆ การเปลี่ยนแปลงของเขาในฐานะตัวละครได้ก้าวจากความมืดมิดไปสู่แสงสว่าง”


“และตรงนี้นี่เองที่เบียทริซเข้ามาและช่วยฟื้นฟูหัวใจของเขา” ออพเลฟกล่าว
“วิคเตอร์ได้กลายเป็นมนุษย์อีกครั้ง ความรู้สึกของเขากลับคืนมา ระหว่างการดำเนินเรื่องราว หัวใจเขาเริ่มกลับมาเต้นอีกครั้ง และเขาก็เริ่มกลับมามีความรู้สึกแบบมนุษย์ธรรมดาอีกครั้ง ซึ่งคล้ายกับการเปลี่ยนแปลงของลิสเบธ ซาแลนเดอร์ใน The Girl with the Dragon Tattoo’”





















“วิคเตอร์เป็นคนที่สามารถฆ่าคนได้” ออพเลฟอธิบาย “แต่การติดต่อกับเบียทริซและความรักที่แปลกประหลาดที่เธอทำให้เขารู้สึกนั้น ทำให้อารมณ์แบบมนุษย์ของเขาค่อยๆ กลับคืนมา ทีละน้อยๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในองก์ที่สามของเรื่อง และเขาก็กลายเป็นสิ่งที่ผมก็ไม่อาจเรียกว่ามนุษย์ปกติได้ซะทีเดียว แต่เป็นคนที่ผ่านสิ่งเลวร้ายมาก่อนและเริ่มมองเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์น่ะครับ”


“และสำหรับผม หลังจากได้คุยกับโคลินแล้ว ผมก็รู้สึกว่าเขาอยู่ใจจังหวะที่เขาสามารถถ่ายทอดบทวิคเตอร์ในฐานะคนที่เข้มแข็ง แต่ในขณะเดียวกัน ก็มีระดับความอ่อนไหวและมีมิติอารมณ์ลึกซึ้ง ที่สำคัญอย่างยิ่งต่อการสร้างตัวละครที่เป็นมนุษย์ แต่เป็นคนที่ไม่แสดงอารมณ์แบบมนุษย์ออกมาน่ะครับ นี่เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งต่อตัวละครตัวนี้ ไม่อย่างนั้น ตัวละครตัวนี้ก็จะแบนราบ มืดหม่นอย่างเดียวเลย ตัวละครตัวนี้มีคุณสมบัติแบบนั้น แต่ในขณะเดียวกัน เขาก็มีมิติลึกซึ้ง ที่เรารู้สึกว่าภายในตัวเขาคือปริศนาของทุกสิ่งที่เกิดขึ้นกับเขาและปริศนาชะตากรรมของเขา และปริศนาของอารมณ์เขาที่เป็นแรงผลักดันให้เขาก้าวไปข้างหน้าครับ”



















“ผมไม่สามารถทำงานกับตัวละครที่ไม่มีชะตากรรมได้หรอกครับ” ออพเลฟสารภาพ สำหรับออพเลฟ ตัวละครผู้มีชะตากรรมจะเป็น “พวกยอมเสี่ยงหรือตัวละครภายใต้สถานการณ์พิเศษในชีวิต ที่จะมอบชะตากรรมและทิศทางให้กับพวกเขา นั่นเป็นเครื่องมือที่น่าค้นหา น่าสนใจและน่าทึ่ง ถ้าคุณรู้สึกถึงชะตากรรมบางอย่างในตัวละครนั้นๆ คุณก็จะรู้สึกถึงความลึกลับ และจุดหมายปลายทางของการเดินทางนั้น และสำหรับเราในฐานะผู้ชมที่มีชีวิตที่ปกติธรรมดากว่า แรงขับที่เรารู้สึกจากตัวพวกเขานี่เองที่ทำให้เราอยากจะเห็นว่าการเดินทางของพวกเขาจะไปถึงไหนและทำให้เราอยากจะไปกับพวกเขา พอเรารู้สึกเห็นใจตัวละครและเหตุผลของเขาและเธอแล้ว แม้ว่าตัวละครจะต้องการทำในสิ่งที่เกินเลยไป เราก็จะรู้สึกถึงความต้องการให้ตัวละครทำสิ่งต่างๆ เหล่านั้น และเราจะยอมรับว่านั่นคือตัวตนของตัวละครตัวนั้น ถ้าเราไม่รู้สึกเห็นใจพวกเขา เราก็จะไม่อยากอยู่ในการเดินทางนั้นครับ ดังนั้น ความเห็นใจและการเอาตัวเองไปแทนตัวละครก็เป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ”



“และผมก็รู้สึกว่าโคลินจะสามารถให้ชีวิต ความมีมิติและความอ่อนไหวกับวิคเตอร์ ในแบบที่จะทำให้ความมืดหม่นของการเดินทางของเขาน่าสนใจและทำให้เรารู้สึกเห็นใจเขาและอยากจะช่วยเหลือเขา” ออพเลฟอธิบาย “เราอยากให้เขาทำในสิ่งที่ถูกต้อง และโคลินก็แสดงได้อย่างยอดเยี่ยมในหนังเรื่องนี้ มันมีระดับอารมณ์หลากหลายในสิ่งที่โคลินได้ทำในหลายๆ ฉากของเขาและนั่นคือสิ่งที่ทำให้อารมณ์พวกนั้นทั้งซับซ้อนและน่าติดตาม”



















“ตอนที่ผมได้เห็นโคลินรับบท ‘วิคเตอร์’ ในหนังเรื่องนี้” ออพเลฟกล่าว “มันมีความหยาบกระด้างในตัวเขา มีคุณสมบัติ ‘วายร้าย’ ในตัวเขา ที่ทำให้เรารู้สึกว่าผู้ชายคนนี้ เมื่อพิจารณาจากพื้นเพของเขา ได้เปลี่ยนตัวเองตามความจำเป็นกลายเป็นคนรุนแรง ไม่ใช่เพราะความต้องการของตัวเองที่อยากจะเป็นคนรุนแรง แต่เพราะเหตุผลที่เข้าใจได้ แม้ว่าในตอนที่คุณแก้แค้นหรือตั้งศาลเตี้ยด้วยตัวเอง มันก็มีค่าตอบแทนที่เกิดขึ้นตามมา และเขาก็จ่ายค่าตอบแทนนั้นด้วยอารมณ์ของตัวเอง ดังนั้น ทั้งหมดนี้ก็ช่วยเสริมสร้างความซับซ้อนของตัวละครตัวนี้มากขึ้นไปอีกครับ”


“และสำหรับนูมิ แน่นอนครับว่าผมกับเธอรู้จักกัน เราเคยผ่านงานหนักระหว่างการถ่ายทำ The Girl with the Dragon Tattoo มาก่อน” ออพเลฟเล่า “ก่อนอื่นเราก็ต้องดูก่อนว่าโคลินต้องการแสดงเรื่องนี้มั้ย แล้วพอโคลินอยากแสดงเรื่องนี้ แล้วเราก็ค่อยคุยได้ว่าใครจะมารับบทเบียทริซ แต่สิ่งที่แปลกก็คือนูมิได้อ่านบทหนังเรื่องนี้เรียบร้อยแล้วตอนที่เรื่องนั้นเกิดขึ้น กลายเป็นว่าเธออ่านบทเรื่องนี้และชอบมันจริงๆ ผมก็เลยบอกว่า ‘ว้าว มันคงเป็นไอเดียเจ๋งน่าดูที่จะเลือกเธอ’ แล้วเธอก็ได้พบกับโจเอลและนีลในลอสแองเจลิส และแน่นอนว่าเธอทำให้พวกเขาหลงใหลจนพวกเขาพูดอะไรไม่ออกเลย ซึ่งเป็นเรื่องเยี่ยมมากครับ”




















“แต่สำหรับผม สิ่งที่น่าสนใจจริงๆ เกี่ยวกับมันคือ แน่นอนครับผมรู้อยู่แล้วว่านูมิจะนำเอาอารมณ์และมิติมาสู่บทนี้ในแบบที่เธอกับบทลิสเบธใน The Girl With the Dragon Tattoo” ออพเลฟเล่า “แต่สิ่งที่น่าสนใจจริงๆ สำหรับผมคือการพยายามใช้นูมิในฐานะนักแสดงในบทที่ห่างไกลจากลิสเบธ ซาแลนเดอร์ที่สุดเท่าที่คุณจะสามารถคิดออก ผมหมายถึง ใน DEAD MAN DOWN นูมิรับบทเด็กสาวชาวฝรั่งเศส/อเมริกัน ที่เป็นผู้หญิงจ๋า สวมส้นสูง ทำเล็บ ทำผมอย่างดี ดัดขนตางอน อะไรทำนองนั้น เธอเป็นคนร่างเล็ก ดูเปราะบาง แต่ในขณะเดียวกัน หัวใจเธอก็เต็มไปด้วยความขึ้งโกรธและความมืดหม่น ที่ทำให้เธอสามารถดึงเบรคมือรถของโคลิน เพื่อให้มันหมุนคว้างได้ และเธอก็ไม่กลัวตายด้วย ดังนั้น นี่คือเด็กสาวเปราะบาง ที่มีความเป็นผู้หญิงสูง ผู้มีพลังภายในและผมก็คิดว่ามันเป็นวิธีมองเธอที่เจ๋งจริงๆ และบางทีบทที่เธอแสดงใน DEAD MAN DOWN แม้ว่าเธอจะได้แสดงหนังฟอร์มยักษ์หลายเรื่องตั้งแต่ The Girl with the Dragon Tattoo ก็ตาม แต่นี่อาจจะเป็นบทที่ห่างไกลจากลิสเบธมากกว่าบทอื่นๆ ก็ได้ และผมก็คิดว่ามันเป็นเรื่องที่มีเสน่ห์มากๆ และแน่นอนครับ” ออพเลฟกล่าวต่อ “ผมตั้งตารอที่จะได้ร่วมงานกับเธออีกครั้ง และมันก็เป็นประสบการณ์ที่พิเศษสุดจริงๆ”







































+++ การคัดเลือกนักแสดง +++





















หนึ่งในสิ่งที่มีการพูดคุยกันคือนักแสดงชายและหญิงคนไหนที่จะเหมาะกับบทวิคเตอร์และเบียทริซ ซึ่งเป็นสองตัวละครเอกของเรื่องมากที่สุด


“ออริจินอล ฟิล์ม บริษัทของเรามีความสัมพันธ์ที่ยาวนานกับโคลิน ฟาร์เรลครับ” มาร์เมอร์อธิบาย


“เขาเคยแสดง SWAT ให้กับเราเมื่อหลายปีก่อน และในตอนที่เราได้พบกับนีลส์ครั้งแรก โคลินก็กำลังอยู่ระหว่างการถ่ายทำ Total Recall ให้กับเรา เราก็เลยเสนอชื่อเขากับนีลส์ และนีลส์ก็เห็นด้วย เขาคิดว่าโคลินเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยม โคลินก็เลยได้อ่านบท DEAD MAN DOWN ในกองถ่าย Total Recal’ และเซ็นสัญญาอย่างรวดเร็วครับ”




















“ชิ้นส่วนปริศนาต่อไปคือนูมิ ราเพซ” มาร์เมอร์เล่า “แน่นอนครับว่าเธอมีความสัมพันธ์อันดีกับนีลส์จาก The Girl with the Dragon Tattoo และนีลส์ก็คิดว่าเธอน่าจะเพอร์เฟ็กต์สำหรับบทเบียทริซ เราก็เลยส่งบทไปให้เธอดู แล้วเธอก็ตอบสนองกับมันในทันที ผมคิดว่าเธอบอกเราในตอนที่เราพบกับเธอครั้งแรกว่าพอเธอได้อ่านบทเรื่องนี้ เธอก็ส่งข้อความหานีลส์ทันทีเพราะเธอได้ยินว่าเขาตกลงที่จะทำโปรเจ็กต์นี้แล้วน่ะครับ”



“หลังจากโคลินและนูมิแล้ว เราก็ได้เทอร์เรนซ์ โฮเวิร์ดมารับบทอัลฟองซ์ ซึ่งเราตื่นเต้นมาก” มาร์เมอร์เล่า “เทอร์เรนซ์ไม่เคยรับบทผู้ร้ายมาก่อน เขาเป็นคนที่น่าเห็นอกเห็นใจเสมอ ไม่อย่างนั้น เขาก็เป็นคนที่ดูเหมือนจะเป็นผู้ร้าย แต่จริงๆ แล้วเป็นคนดี แต่ใน DEAD MAN DOWN เทอร์เรนซ์เป็นผู้ร้ายชัดๆ และก็คงความเป็นผู้ร้ายอยู่อย่างนั้น เขาทั้งน่าหวาดกลัวและน่าหวั่นสะพรึงด้วยครับ”




















“เทอร์เรนซ์เป็นนักแสดงที่ยอดเยี่ยมและเราก็ตอบสนองกับความต้องการของเขาที่จะทำให้เรื่องมีสีสันขึ้น” มาร์เมอร์กล่าวต่อ “เขาต้องการจะแสดงบทบาทที่ต่างออกไปจากผลงานเรื่องก่อนๆ ของเขา และเขาก็ไม่ได้แสดงบทนี้ในแบบของเจ้าพ่อแก๊งอาชญากรรมตามแบบฉบับที่โอเวอร์ แต่เมื่อได้เทอร์เรนซ์มารับบทนี้ อัลฟองซ์เลยกลายเป็นอาชญากรที่ดูดีมีสกุลมากๆ เขาเป็นคนช่างคิดคำนวณและคุณก็จะรู้สึกได้ถึงความคั่งแค้นที่เดือดพล่านอยู่ภายในตัวเขาครับ”















“เราตัดสินใจคล้ายๆ กันในการเลือกโดมินิค คูเปอร์มารับบทดาร์ซี” มาร์เมอร์อธิบาย “โดมินิคเป็นนักแสดงที่วิเศษสุด เขาเพิ่งจะแสดงใน ‘Devil’s Double’ มา ซึ่งเขาก็ยอดเยี่ยมมาก และผมคิดว่า เขากำลังอยู่ระหว่างการถ่ายทำ `Abraham Lincoln, Vampire Hunter’ ในตอนที่เราทาบทามเขาให้มาเล่น DEAD MAN DOWN เช่นเดียวกับนักแสดงคนอื่นๆ เขาชื่นชอบเรื่องราวนี้และตอบ ‘ตกลง’ กับเราในทันที เช่นเดียวกับการเลือกเทอร์เรนซ์มารับบทอัลฟองซ์ของเรา โดมินิคในบทดาร์ซีก็รับบทที่แตกต่างออกไปสำหรับตัวเขาเองเช่นกัน มันเป็นบทที่ท้าทายจริงๆ สำหรับเขาและเขาก็นำไอเดียที่สดใหม่และออริจินอลมาสู่การตีความบทนี้ของเขาด้วย ดาร์ซีเป็นเพื่อนและเพื่อนร่วมงานของวิคเตอร์ ทั้งคู่ทำงานให้กับอัลฟองซ์ครับ ดาร์ซีเป็นคนที่พยายามตามหาตัวคนที่ขู่บอสของเขาถึงขั้นที่เกือบจะเสียสติ แต่เขาก็ไม่รู้เลยว่าคนที่เขาตามหาอาจอยู่ใต้จมูกเขานี่เอง”



“เราโชคดีจริงๆ ครับ” มาร์เมอร์กล่าวอย่างตื่นเต้น “เมื่อได้โคลิน, นูมิ, เทอร์เรนซ์, โดมินิคและแน่นอน อิซาเบล ฮัพเพิร์ท DEAD MAN DOWN ก็มีนักแสดงระดับโลกอย่างแท้จริงครับ”

















“อิซาเบล ฮัพเพิร์ทเป็นนักแสดงที่ล้ำค่าครับ” มาร์เมอร์เล่า “อย่างที่ทุกคนรู้ เธอเป็นตำนานของวงการแสดงฝรั่งเศส และเธอก็เป็นคนที่นีลส์ต้องการตัวในทันที เราต้องการนักแสดงหญิงฝรั่งเศสที่เก่งกาจมารับบทแม่ของนูมิ ซึ่งไม่ใช่เรื่องที่ทำได้ง่ายๆ เลย แต่แม้ว่าอิซาเบลจะแสดงความสนใจ แต่เธอก็มีตารางการทำงานที่รัดตัวมากๆ เพราะเธอเป็นที่ต้องการตัวสูง ดังนั้น ในการแสดง DEAD MAN DOWN เธอก็จะต้องทำงานกับเราระหว่างการถ่ายทำภาพยนตร์สองเรื่องในฝรั่งเศส การพาเธอไปที่โลเกชั่นถ่ายทำของเราก็เลยเป็นเรื่องใหญ่ แต่ก็คุ้มค่าครับ ฉากที่เธอถ่ายทำกับนูมิทั้งงดงาม ยอดเยี่ยมและสะเทือนอารมณ์ครับ”



“นีลส์คิดถูกครับ” มาร์เมอร์บอก “เขาตั้งใจให้อิซาเบลรับบทนี้ และนั่นก็คือหนึ่งในสิ่งที่เยี่ยมเกี่ยวกับนีลส์ เมื่อเขาหมายตานักแสดงคนใดคนหนึ่งและยึดติดกับความคิดนั้น เขาก็จะไม่ถอยครับ เขาจะตั้งใจแน่วแน่ ยืนกรานท่าเดียว เขารู้ว่าตัวเองต้องการอะไร และการกำกับของเขาก็เหมือนกัน เขาดื้อรั้น มั่นใจ มองโลกในแง่ดีอยู่เสมอ เขารู้ว่าเราจะต้องได้ตัวอิซาเบลมาแน่ๆ แม้ว่าตารางทำงานและระยะทางจะเป็นอุปสรรคก็ตาม แม้ว่าจะมีการเสนอชื่อนักแสดงหญิงคนอื่นๆ ที่ไม่ได้มีปัญหาเรื่องคิวหรือตารางการทำงานหรือข้อผูกมัดอื่นๆ แต่เธอคือคนที่เขาต้องการ เขาคิดภาพของเธอในฉากอพาร์ทเมนต์ รับบทแม่ของนูมิ และผมก็ดีใจที่เขายืนกรานแบบนั้นเพราะนูมิกับอิซาเบลเข้ากันได้อย่างยอดเยี่ยมจริงๆ ครับ”

















“อิซาเบลยกระดับบทนั้นขึ้นมาจริงๆ” มาร์เมอร์ขยายความ “มันเป็นบทที่ท้าทายเพราะเธอเป็นแม่ผู้หัวใจสลายเพราะสิ่งที่เกิดขึ้นกับลูกสาวเธอและเธอก็ต้องทำตัวเข้มแข็งและปะติดปะต่อชีวิตให้กลับคืนมาเหมือนเดิม คุณต้องการคนที่เข้มแข็ง ที่สามารถแสดงถึงแง่มุมที่อ่อนโยน อ่อนไหวและรักใคร่ได้ด้วย แต่เมื่อถึงเวลาจำเป็น เธอก็สามารถยืนหยัดเพื่อตัวเองได้ด้วย และอิซาเบลก็ถ่ายทอดเรื่องเหล่านั้นได้อย่างวิเศษสุด”



“ผมกล่าวชื่นชมทีมนักแสดงของหนังเรื่องนี้ได้ไม่รู้จักจบจักสิ้นเลยครับ” มาร์เมอร์กล่าวอย่างตื่นเต้น “พออยู่นอกจอ พวกเขาก็เป็นคนที่น่ารักมากๆ และพวกเขาก็แสดงความสามารถ 100% เต็มบนหน้าจอ”



ทีมผู้สร้างยินดีอย่างยิ่งที่ตั้งแต่เริ่มต้น องค์ประกอบทั้งหมดของภาพยนตร์เรื่องนี้ก็มาประกอบเข้าด้วยกันในแบบฟ้าบันดาลที่สุด

“ตั้งแต่เริ่มต้น” รี้ด เชนกล่าวอย่างกระตือรือร้น “ด้วยลำดับเหตุการณ์อย่างต่อเนื่อง เราได้ผู้กำกับ ได้พระเอกนางเอก เราไม่เคยส่งบทของเราไปให้กับผู้กำกับคนอื่น นักแสดงชายคนอื่นหรือนักแสดงหญิงคนอื่นเลย บทนี้ไม่เคยออกสู่ตลาด และถึงตอนนั้น เราก็เริ่มหาทุนและนีล มอริทซ์ก็ส่งมันไปให้กับสจวร์ต ฟอร์ด หัวหน้าไอเอ็ม โกลบอล ซึ่งก็มารับหน้าที่ผู้อำนวยการสร้างร่วมกับออริจินอล ฟิล์มครับ”


















Niels Arden Oplev
(นีลส์ อาร์เดน ออพเลฟ) ผู้กำกับ












เป็นที่รู้จักดีที่สุดจากภาพยนตร์ฮิตทั่วโลกเรื่อง “The Girl with the Dragon Tattoo”ที่สร้างจากนิยายเบสต์เซลเลอร์โดยสติ๊ก ลาร์สัน มันเป็นภาพยนตร์เรื่องที่ห้าของออพเลฟและเป็นภาพยนตร์สแกนดิเนเวียนที่ทำรายได้สูงสุดตลอดกาล โดยเป็นภาพยนตร์เรื่องเดียวที่ทำรายได้เกิน 100 ล้านเหรียญ และเป็นภาพยนตร์ยุโรปที่ทำรายได้สูงสุดในปี 2009 ภาพยนตร์เรื่องนี้เปิดตัวในสหภาพอาณาจักร อเมริกา ญี่ปุ่นและออสเตรเลียในปี 2010 และได้รับการเสนอชื่อชิงสามรางวัลยูโรเปียน ฟิล์ม อคาเดมี ได้รับรางวัลพีเพิลส์ ชอยส์ อวอร์ดจากงานเทศกาลภาพยนตร์ปาล์ม สปริงส์และเทศกาลภาพยนตร์พอร์ตแลนด์ในโอเรกอน รวมถึงได้รับรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยม นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมและพีเพิลส์ ชอยส์ อวอร์ดจากเวทีสวีดิช ฟิล์ม อวอร์ดอีกด้วย นอกจากนี้ “The Girl With the Dragon Tatoo” ยังได้รับรางวัลคริติกส์ ชอยส์ อวอร์ดในลอสแองเจลิสในปี 2011 และรางวัลบาฟตา อวอร์ดสาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยมที่ไม่อยู่ในภาษาอังกฤษอีกด้วย










The Girl With the Dragon Tatoo










ผู้กำกับชาวเดนิชผู้นี้สำเร็จการศึกษาจากเนชันแนล ฟิล์ม สคูล ออฟ เดนมาร์ค ในปี 1989 ที่ซึ่งภาพยนตร์เรื่องแรกของเขา “Kyndelmisse” และสารคดีเรื่อง “Hugo fra Himmerland” ของเขา เป็นการเปิดตัวที่น่าประทับใจ สำหรับดีอาร์/เดนิช บรอดคาสติ้ง คอร์ป. ออพเลฟได้กำกับสารคดีดรามาเรื่อง “Den sovende” (1990) และภาพยนตร์ขนาดสั้นเรื่อง “Tusmorke” (1990) และ “Nogen” (1992), สารคดีเรื่อง “Ritualer, enerum” (1992) และภาพยนตร์ที่แพร่ภาพทางโทรทัศน์เรื่อง “En success” (1993)


หลังจากนั้น เขาก็กำกับเก้าเอพิโซดของซีรีส์ทางแชนแนล วัน (ดีอาร์) เรื่อง “Taxa/Taxi” เขายังมีผลงานจอแก้วอย่างต่อเนื่องด้วยซีรีส์ที่ได้รับรางวัล 2002 อินเตอร์เนชันแนล เอ็มมี อวอร์ดเรื่อง “Rejseholdet/Unit One” (2002-2003) ในการกำกับสามเอพิโซดแรก เขาได้พัฒนาคอนเซ็ปต์วิชวลสำหรับซีรีส์เรื่องนี้และได้เลือกนักแสดงสำหรับบทปัจจุบันขึ้นมา หลังจากทำหน้าที่เดียวกันกับซีรีส์ “Forsvar/Defense” (2003-2004) สำหรับทีวีทู/เดนมาร์คแล้ว เขาก็ทำงานคอนเซ็ปต์ต่อในฐานะผู้กำกับ “Omen/The Eagle” (2003-2006 ) ซึ่งได้รับรางวัลอินเตอร์เนชันแนล เอ็มมี อวอร์ดในปี 2005 เช่นกัน









Portland









“Portland” (1996) ภาพยนตร์เรื่องแรกของเขา เป็นภาพยนตร์อื้อฉาวที่สุดเรื่องแรกใน “คลื่นลูกใหม่” ของภาพยนตร์เดนิชจากกลางยุค 90s ภาพยนตร์เรื่องนี้ ที่นำเสนอโลกใต้ดินที่รุนแรงในชนบททางตอนเหนือของเดนมาร์ค ถูกเลือกให้เข้าประกวดในงานเทศกาลภาพยนตร์เบอร์ลิน (1996) ได้เปิดสัปดาห์ภาพยนตร์เดนิช (1997) ในลินคอล์น เซ็นเตอร์ในนิวยอร์กและได้รับเสียงวิจารณ์ชื่นชมจากเดอะ ฮอลลีวูด รีพอร์ทเตอร์และนิวยอร์ก เพรส นอกจากนี้ มันยังได้แพร่ภาพทางดีอาร์ แชนแนลอีกด้วย



หลังจากนั้น เขาก็สร้างคอเมดีตลกร้ายเรื่อง “Fukssvansen/Chop Chop” ขึ้นในปี 2001 ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับสามรางวัลภาพยนตร์เดนิช ภาพยนตร์เรื่องที่สามของเขา “We Shall Overcome/Drommen” เข้าฉายในปี 2006 ภาพยนตร์เรื่องนี้กลายเป็นภาพยนตร์เดนิชที่ทำรายได้สูงสุดในปีนั้นและได้รับรางวัล 30 รางวัลจากทั่วโลก ซึ่งหนึ่งในนั้นคือรางวัลหมีคริสตัลจากงานเทศกาลภาพยนตร์เบอร์ลิน ผลงานล่าสุดของเขา “To Verdener/Worlds Apart” เข้าฉายในปี 2008 ได้รับความนิยมอย่างสูงในเดนมาร์ค และเข้าประกวดในงานเทศกาลภาพยนตร์เบอร์ลิน นอกจากนี้ มันยังได้เข้าฉายในงานเทศกาลภาพยนตร์ไทรเบกาและเอเอฟไอในอเมริกาและได้รับรางวัลซิกนิสที่เฟสทรอยในโปรตุเกสอีกด้วย “Dead Man Down” เป็นภาพยนตร์อเมริกันเรื่องแรกของออพเลฟ








คลิ๊กอ่านได้เลยค่ะ ^^

บล็อกที่ 2 ประวัตินักแสดง :: DEAD MAN DOWN แค้นได้ตายไม่เป็น

บล็อกที่ 3 ประวัตินักแสดง :: Colin Farrell.. โคลิน ฟาร์เรล

บล็อกที่ 4 ประวัตินักแสดง :: Dominic Cooper .. โดมินิค คูเปอร์

บล็อกที่ 5 ประวัตินักแสดง :: Noomi Rapace (นูมี ราเพซ)

บล็อกที่ 6 ประวัตินักแสดง :: Terrence Howard (เทอร์เรนซ์ โฮเวิร์ด)








Create Date : 11 พฤษภาคม 2556
Last Update : 18 พฤษภาคม 2556 9:36:04 น. 14 comments
Counter : 8371 Pageviews.

 
แค้นได้ตายไม่เป็น
ชื่อเรื่องก็ชอบแล้วนะคะ คุณดี
คุณนิโกร คนนี้เล่นไออ่อน แมน ภาคแรก ใช่ปล่าว


โดย: ลงสะพาน...เลี้ยวขวา วันที่: 11 พฤษภาคม 2556 เวลา:16:54:35 น.  

 
ท่าทางจะเครียดค่ะ เรื่องนี้..


โดย: never the last วันที่: 11 พฤษภาคม 2556 เวลา:17:20:17 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณดีดี..

หนังน่าสนุกเร้าใจนะค่ะ..

ไม่ค่อยได้ดูหนังโรง ดูแต่DVDค่ะ

มีความสุขมากๆนะค่ะ



โดย: คนผ่านทางมาเจอ วันที่: 11 พฤษภาคม 2556 เวลา:17:31:01 น.  

 
โคลิน ลุคนี้ดูดีกว่าหน้าหล่อหมดจดอีกค่ะ
ดาร์คดี อิอิ

เนื้อเรื่องน่าสนใจ แต่นางเอกนี่หน้าตายังไงๆอยู่

ขอบคุณสำหรับรีวิวนะคะคุณดี ^^


โดย: lovereason วันที่: 12 พฤษภาคม 2556 เวลา:0:51:28 น.  

 
น่าสนใจครับ หนังแอ็คชั่นยังไงก็สนุกครับ มันได้ลุ้นเรื่อยๆ ด้วย

+


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 12 พฤษภาคม 2556 เวลา:1:02:36 น.  

 
สวัสดีครับคุณดี

ชอบดูหนังแอ็คชั่นครับ พระเอกคนนี้ก็ชอบ

แต่ส่วนใหญ่จะดูจากยูบีซีมากกว่าเพราะไม่มีเวลาจะเข้าโรงหนังเท่าไรครับ ชื่อดาราก็เลยไม่ค่อยได้รู้ได้จำครับ จำได้แต่หน้า

ถ้ามาบล็อกนี้บ่อยหน่อยคงรู้จักชื่อดาราอีกเยอะเลยละ

มีความสุขทุกวันนะครับ



โดย: find me pr วันที่: 12 พฤษภาคม 2556 เวลา:11:59:23 น.  

 
มาอ่านครับ


โดย: ravio วันที่: 12 พฤษภาคม 2556 เวลา:12:24:36 น.  

 
แวะมาเยี่ยมในวันอาทิตย์ สุดขี้เกียจครับ

ขอบพระคุณที่แวะไปเยี่ยมเยียนที่บล๊อกครับ



โดย: Sleeping_prince วันที่: 12 พฤษภาคม 2556 เวลา:13:53:11 น.  

 
แต่ละเรื่องน่าดูทั้งนั้น
ขอบคุณมากค่ะที่หลงไปบล็อกร้างๆ 55


โดย: KooBooK วันที่: 12 พฤษภาคม 2556 เวลา:14:00:50 น.  

 
ตะเองคอหนังฝรั่งจริงๆ
ส่วนเค้าคอหนังไทย
ตอนนี้อยากดู ฤดูที่ฉันเหงา
แบบว่า...ชอบแป้งโกะ โทนี่ และฝีมือแดนมาก

วันหยุดเค้าตื่นสายแหละ
เมื่อวานเข้าไปทำงานที่ทำงานมา

วันศุกร์พายุเข้าสุโขทัย
เจอจังๆเลยที่รัก
น่ากลัวที่สุด
แต่เค้าชอบท้องฟ้าตอนพายุเข้า
มันน่ากลัว แต่สวยมาก


โดย: fonrin วันที่: 12 พฤษภาคม 2556 เวลา:14:08:51 น.  

 
ข้อมูลแน่นปึ๊ง

ไลค์ แล้ว โหวตค่ะ


โดย: ร่มไม้เย็น วันที่: 12 พฤษภาคม 2556 เวลา:14:09:57 น.  

 
สวัสดีครับน้องดี

พี่ก๋าหยุดดูหนังไปตั้งหลายปี
ครั้งนี้ซื้อแผ่นมาตุนเอาไว้เป็นร้อยแผ่นเลยครับ
ดูวันละเรื่องเลยล่ะครับ







โดย: กะว่าก๋า วันที่: 12 พฤษภาคม 2556 เวลา:15:23:46 น.  

 
ชอบพระเอก โตลิน ค่ะ หล่อเถื่อนๆดี
แม้จะเล่นหนังยังไม่ถึงกับในตัวละครที่เขาpresent แต่อย่างใด
สักวันหวังว่าเขาคงเข้ากันได้ดี กับบทใดบทหนึ่งที่ส่งให้แวว "ซุปตาร์" บรรเจิด



โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 13 พฤษภาคม 2556 เวลา:8:25:44 น.  

 
โคลิน ฟาเวล เท่ห์ทุกเรื่อง


โดย: untalai วันที่: 14 พฤษภาคม 2556 เวลา:23:02:53 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

มัชชาร
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 72 คน [?]




Friends' blogs
[Add มัชชาร's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.