ทริปชิล แฉะ ฉ่ำ ย่ำ โกรกอีดก น้ำตกใหญ่ชายขอบป่าเขาใหญ่ตะวันตก
"
คันหน้าเรียกคันหลัง: ถึงสระบุรีแล้วเอาไงต่อ คันหลังเรียกคันหน้า: เลี้ยวขวาครับ มุ่งหน้าปากช่องเซ็ทไมล์ศูนย์ ขับไป 18.7กิโลจะเห็นทางเข้าอยู่ขาวมือ เลยไปกลับรถมา ปากซอยมีป้ายสังเกตง่ายเลี้ยวเข้าไปตามทางอีกยี่สิบโล พบกันที่หน่วยเจ็ดคต (ขญ.๑๘) ย้ำๆ หน่วยพิทักษ์อุทยานฯเจ็ดคตนะไม่ใช่ศูนย์ศึกษาธรรมชาติฯเจ็ดคด อ้อ แวะซื้อข้าวเหนียวไก่ย่างไว้เป็นเสบียงระหว่างทางด้วย เปลี่ยน คันหน้าเรียกคันหลัง:รับทราบ เจอกัน เปลี่ยน ต๊อด ต๊อด ดด ดดด..
"
ณ.หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ขญ.๑๘ (เจ็ดคต) กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่า และพันธุ์พืช อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี พิกัดN14.471936 E101.166324 atl.120m. ^คลิกเพื่อดูแผนที่ Google Maps + Tracks GPS จุดเริ่มต้นติดต่อแจ้งความจำนงและขอเจ้าหน้าที่ป่าไม้นำทางขึ้นสู่น้ำตกโกรกอีดก เดิมทีอีกหน่วยงานหนึ่งที่จัดจนท.พาขึ้นนำ้ตกได้คือศูนย์ศึกษาธรรมชาติฯเจ็ดคด-โป่งก้อนเส้าของสนง.ป่าไม้สระบุรี แต่เนื่องด้วยปัจจุบันภารกิจที่ต้องดูแลนักท่องเที่ยวจำนวนมากในด้านบริการบ้านพักจึงไม่สะดวกนำทาง ต้องติดต่อที่หน่วยพิทักษ์ (ขญ.๑๘) เจ็ดคตที่นี่ที่เดียว
พวกเรา7คน3คันต่างคนต่างเดินทาง พากันออกจากกรุงเทพแต่เช้าตรู่ นัดเจอกันที่ ขญ.เจ็ดคต แต่พลาดเป้าไปคันนึงที่ถลำไปจอดนอนรออยู่ที่ศูนย์ศึกษาธรรมชาติฯเจ็ดคด-โป่งก้อนเส้า ว่าแล้วว่าต้องไม่ราบรื่น 555 กว่าจะตามตัวกันเจอ นึกว่าเบี้ยวทริปซะแล้ว อันเนื่องมาจากในบริเวณศูนย์นั่นไร้สัญญาณมือถือทุกเครือข่าย เหอะๆ รวมตัวกันได้ก็ล่าช้ากว่าที่ตั้งใจไปร่วมชั่วโมง กำหนดการคร่าวๆเราต้องสาวเท้าเดินแต่เช้าเพราะเส้นทางขึ้นลงไปกลับโกรกอีดกระยะทางรวม 8 กิโลเมตร กะเวลาที่ต้องใช้ไปกลับราวราว 7-8 ชั่วโมง
พร้อมแล้วก็ล้อหมุนออกจากที่ทำการหน่วยฯ ตรงสู่จุดเร่ิมต้นเดินเท้าห่างออกไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ ห่างไปราว14 กิโลเมตร แต่เนื่องจากเส้นทางขาด (เส้นส้มไข่ปลาในแผนที่ด้านบน) จนท.จึงนำทางขับอ้อมมา ขอนไม้ล้มขวางถนนตรงหน้าบ่งบอกอย่างน้อยให้รู้ว่าเราคงเป็นนักท่องเที่ยวกลุ่มแรกสำหรับวันนี้ และอาจจะเป็นเพียงกลุ่มเดียว
จุดเริ่มต้นเดินเท้า สู่นำ้ตกโกรกอีดก พิกัดN14.457288 E101.191794 alt.175m. ^คลิกเพื่อดูแผนที่ Google Maps + Tracks GPS
ปลายทางของถนนมาสุดที่ลานโล่งและลำห้วยสายหนึ่งอันเป็นจุดเริ่มต้นของเส้นทางเดินเท้าที่ก้าวแรกต้องข้ามฟากข้ามลำน้ำไปเริ่มต้นเดินกันอีกฟากฝั่ง งานนี่ฝากภารกิจไว้กับรองเท้านินจาพาลุยคู่เก่งที่พิสูจน์ประสิทธิภาพจากทริปลุยเปรโต๊ะลอซูมาแล้ว กันกรวดทรายไม่ให้เข้าไปรำคาญในรองเท้าได้อย่างดี ลานจอดรถโล่งโปร่งตาผิดกันกับเมื่อครั้งแรกที่มา ราวสิบปีที่แล้วนายน้ำฟ้ามาที่นี่เป็นครั้งแรก ครั้งนั้นต้องเรียกว่าที่ซุกรถกลางป่าเลยทีเดียว เมื่อปี 2544 เป็นปีแรกๆเริ่มที่มีการค้นพบน้ำตกแห่งนี้และก็ได้รับความนิยมกันเรื่อยมา ทุกอย่างวันนี้เปลี่ยนแปลงไป แต่เดี๋ยวจะขอขึ้นไปยลหน่อยว่าน้ำตกโกรกอีดกข้างบนต่างกันกับเมื่อสิบปีทีแล้วหรือไม่ ยังคงความบริสุทธิ์อยู่หรือเปล่า
เอาล่ะ แจกจ่ายน้ำ ข้าวเหนียวไก่ย่างกันถ้วนทั่วแล้วก็เริ่มลุยครับพี่น้อง ตามมากัน อ้อ สำหรับคำถามที่ถามบ่อยเส้นโกรกอีดกนี้มีทากมั้ย เส้นทางสายนี้ไม่มีทากครับ
แผนที่เส้นทางเดินเท้าขึ้นนำ้ตกโกรกอีดก ลักษณะเส้นทางเดินเท้า ระยะทางยาวราว 4 กิโลเมตร เป็นเส้นทางเดินขึ้นตามร่องเขา เดินจากปลายน้ำหางน้ำตกสู่ชั้นน้ำตก ผ่านน้ำตกประมาณ 7 ชั้น เดินตัดลำน้ำไปน้ำตลอดเส้นทาง เดินจากระดับความสูง 175 เมตร ณ จุดเริ่มต้นไปถึงระดับความสูง 640 เมตร ณ ปลายน้ำตกชั้นบนสุด
ลำธารแรก ทดสอบกระแสน้ำก้าวแรกก็ต้องย่ำข้ามลำธารกว้างกันเลย ตรงนี้เป็นชั้นน้ำตกน้อยๆ ระดับขั้นบันได กระแสน้ำเอื่อยๆ เย็นๆ วักน้ำมาลูบหน้ามาลูบแขนแล้วสดชื่นมาก ไปกันครับ ข้ามมาๆ
ก้าวย่างสู่โกรกอีดก
ฝ่าป่ารกๆ เป็นที่แน่นอนแล้วว่าพวกเราทั้งเจ็ดและจนท.ป่าไม้ที่นำทางเป็นคนกลุ่มเดียววันนี้ที่จะขึ้นไปบนน้ำตกโกรกอีดก เพราะจากสมุดลงทะเบียนแจ้งความจำนงที่หน่วยฯ นั้นไม่มีนักท่องเที่ยวกลุ่มอื่นเลย เราข้ามน้ำกันหลายช่วงและตัดผ่านป่ารกหญ้าท่วมหัวเสียดาย ลืมเอาปลอกแขนมาใส่
ย่างย่ำไปตามลำน้ำ
ปอ อู ปู เราพบปูเยอะมากทั้งในน้ำทั้งบนบก แต่ละตัวก็ขนาดย่อมๆ อย่างที่เห็นนี้ ไม่รู้จะเรียกมันว่าปูอะไรเหมือนกัน
เส้นทางสาย เห็ด
นอกจากปูแล้ว สิ่งที่ชุมยิ่งกว่า เรียกว่าพบเกือบตลอดทางเลยก็คือ เห็ด เห็ดหลากชนิดจริงๆ โดยเฉพาะเห็ดแชมเปญ เยอะมาก หลายดงเลย แล้วก็ยังมีเห็ดขน เห็ดแผ่น เห็ดอะไรต่อมิอะไร เราค่อนข้างพะวักพะวงกับการทำเวลาจึงไม่ค่อยมีสมาธิกับการถ่ายเห็ดมากนัก อีกอย่างหนึ่งคือแสงน้อยมากถ่ายเบลอกันเป็นแถว ดีว่าทีมงานของเรามีเลนส์ F1.7 เลยได้ภาพสองด้านขวามาฝาก ผลงานน้องนุ่น Eriko สวยมาก
ป่ า เ ขี ย ว น้ ำ ใ ส
เราเดินผ่านกำแพงตะไคร่ กำแพงหินที่ชื้นจนตะไคร่ มอส ขึ้นเกาะเป็นแผ่นหนา ผ่าน ต้นยางใหญ่ ที่โคนมันกว้างหลายคนโอบ และที่น่าสนใจเป็นพิเศษคือ เถาวัลย์ร่างแหยักษ์ ที่รูปร่างแปลกตาคล้ายร่างแห
สองชั่วโมงผ่านไป เพิ่งได้ครึ่งทาง ความเร็วเฉลี่ยของพวกเราไปได้ไม่ดีนัก จากที่คิดว่าจะทำความเร็วได้ 40 นาทีต่อหนึ่งกิโลเมตร ดูจากเวลาตอนนี้เราไปได้เพียง 1 ชม.ต่อ 1 กิโลเมตรเท่านั้นเอง เที่ยงกว่าแล้ว ท้องเริ่มร้อง ภารกิจจกข้าวเหนียวไก่ย่างชมโกรกอีดกยังอยู่อีกไกล แข็งใจไปกันต่อ
ข้ามแล้ว ข้ามอีก
แฉะฉ่ำย่ำดอย ลุยน้ำแล้วลุยน้ำอีก ข้ามไปไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง เริ่มเหนื่อย ช่วงครึ่งหลังของระยะทางเริ่มตัดป่าขึ้นสูง บางช่วงชันเอาการหันกลับไปอีกทีเพื่อนเราบางคนก้มหน้าลมจะใส่แระ 555
ข้ามอีกแล้ว
ดั้นด้นมาจนถึงน้ำตกโกรกอีดกอยู่ตรงหน้าเราแล้ว แต่ยังเห็นไม่ชัดถนัดตา ต้องฝ่ากระแสน้ำอีกครั้ง คราวนี้ค่อนข้างอันตรายนิดหน่อยแต่ก็พอตระกายกำแพงหินผ่านไปไหว และก็ช่วยกันพาข้ามไปหาทำเลเหมาะๆ ที่จะเห็นตัวน้ำตกได้ถนัดตากว่านี้ ดูเวลาก็ปาเข้าไป บ่าย 2 รวมเวลาเดินขึ้นมาถึงบนนี้ 4 ชั่วโมงพอดี วิวตรงหน้าสวยงามมาก ละอองน้ำพัดพาลมเย็นๆ กระเซ็นปะทะหน้า โอ้ว ลืมไปว่ากำลังหิว ว่าแล้วก็พร้อมใจกันปฏิบัติการกับภารกิจหม่ำข้าวเหนียวไก่ย่างชมวิวน้ำตก
เปรียบเทียบภาพเก่าสิบปีที่แล้ว น้ำตกโกรกอีดกผ่านไปสิบปีก็ยังคงความบริสุทธิ์ แต่สองภาพนี้ (ภาพซ้ายและล่าง) ผมถ่ายยามหน้าหนาวเดือนพฤศจิกายน (ปี2545) สำหรับผมแล้วมันงามไปคนละแบบกับโกรกอีดกยามน้ำมากกลางสิงหาคมอย่างทริปนี้ น้ำตกแห่งนี้หันหน้าออกรับแดดทิศตะวันตกยามหน้าแล้งเราจะเห็นเป็นภาพน้ำตกที่งามแปลกตาจากสเกลของสายน้ำตกสายหลักที่แผ่ลงมาขาวๆกระทบแสง และสเกลของน้ำตกสายแขนงเล็กๆที่ซ่อนตัวอมสีน้ำเงินอยู่ในหลืบเงาที่มองไปเหมือนน้ำตกสายใหญ่ๆถ้าลองหรี่ตาไม่ไปเทียบกับน้ำตกสายหลัก เป็นความงามที่แปลกตาชวนมองมาก
ได้เวลาอำลาน้ำตก
จกข้าวเหนียวจนอิ่มแปล้แระ ต่อด้วยถ่ายรูปน้ำตกเป็นที่ระลึกอีกสองสามแช๊ะก็ได้เวลาต้องจากจรเพราะว่าดูเวลามันปาไปบ่ายสามแล้วขืนไม่เร่งสาวเท้าลงมีหวังค่ำกลางทาง พวกเราใช้เวลาก้มหน้าลงรวดพรวดเดียวแบบ non stop ใช้เวลาไปเพียง 2 ชั่วโมงครึ่ง เท่านั้นก็มาถึงลานจอดรถข้ามลำห้วยสุดท้ายมาถึงรถก็ถอดรองเท้านินจาอันเปียกโชกเหวี่ยงขึ้นท้ายรถ ปลดกางเกงท่อนขาออกกลายเป็นขาสั้นลากอีแตะขึ้นรถควบตะเบ็งกลับหน่วยขญ.๑๘ เพื่อไปส่งน้องจนท.ป่าไม้
ปลายเดือนแปดตะวันแทรกขอบฟ้าลาลับ 18:30 นาฬิกา
ความจริงเรากางเต็นท์นอนเสียที่หน่วยขญ.๑๘ ก็ได้ แต่ว่าเราวางแผนว่าจะมากางเต็นท์นอนกันที่ศูนย์ศึกษาธรรมชาติฯเจ็ดคด-โป่งก้อนเส้า กะว่าจะมาฝากท้องที่ร้านอาหารบรรยากาศดีดีที่นี่ด้วย แต่ปรากฎว่างดบริการเนื่องจากจำนวนนักท่องเที่ยวน้อยไปหน่อย ไม่เป็นไรงานนี้ Car Camp พวกเราจัดเสบียงพร้อมอุปกรณ์กันมาเต็มอัตราศึกแล้วเช่นกันไม่ต้องขับย้อนไปหาของกินข้างนอก โอ้ว แต่เจ้ากรรมยังไม่ทั้งตั้งเต็นท์ตั้งกระโจมฝนฟ้าก็เทกระหน่ำชนิดต่อเนื่องยาวนาน หลายชั่วโมงเล่นเอาต้องกางกระโจมกันท่ามกลางสายฝนเทกระหน่ำ
เช้าวันใหม่ สายฝนยังคงโปรยปราย เรานั่งมองไปยังป่าเบื้องตะวันออกผ่านอ่างเก็บน้ำซับป่าว่านตรงหน้า มองผ่านม่านฝน เดิมทีเราตั้งใจจะไปเดินเส้นทางน้ำตกในนั้น ตามแนวห้วยเจ็ดคตชายขอบป่าเขาใหญ่ เป็นเส้นทางเดินป่าสายสั้นๆใช้เวลาไม่เกินสามชั่วโมงวนรอบ มีน้ำตกมากมายอย่างเช่น น้ำตกเจ็ดคดใหญ่ น้ำตกซับป่าว่าน น้ำตกเจ็ดคดใต้ น้ำตกเจ็ดคดกลาง น้ำตกเจ็ดคดเหนือ น้ำตกหินดาด น้ำตกคลองผักหนาม น้ำตกเขาแคบ กระทั่งบ่ายแล้วฝนก็ยังไม่มีวี่แววจะยอมเลิกรา สุดท้ายก็เลยปักหลักทำกินอีกสองมื้อเช้าเที่ยงและนั่งเล่นพูดคุยและถอนเต็นท์เก็บกองบัญชาการกลับเมื่อเกือบเย็น ร่ำลาเจ็ดคด-โป่งก้อนเส้าเดินทางกลับกอทอมอ และบอกกับตัวเองในใจว่าจะกลับมาอีกครั้ง และนายน้ำฟ้าจะมาทำรีวิวฉบับภาคต่อมาฝากให้ได้อ่านกัน ขอลาไปด้วยภาพปิดท้ายบรรยากาศที่พักของคณะเรา
ฝากคอมเม้นท์ไว้เป็นกำลังใจ หรือทิ้งร่องรอยให้รู้ว่าท่านมาเยี่ยมเยือนเรา น้ำ-ฟ้า-ป่า-เขา นะครับ ^O^
ข้อสังเกต เจ็ดคต! หรือ เจ็ตคด! ทางหน่วยขญ.๑๘ เขียน"เจ็ดคต" ต.เต่าสะกด ส่วนทางศูนย์ศึกษาธรรมชาติฯเจ็ดคด-โป้งก้อนเส้า เขียน"เจ็ดคด" ด.เด็กสะกดครับ
Create Date : 24 กันยายน 2555 |
Last Update : 24 กันยายน 2555 9:33:49 น. |
|
80 comments
|
Counter : 25443 Pageviews. |
|
|
ขอบคุณสำหรับภาพและเรื่องสวย ๆ
ขออนุญาตแชร์ผ่าน FB นะคะ