ขู่วางระเบิด
ขู่วางระเบิด
ถูกขู่วางระเบิด ....คำๆนี้ ขออย่าให้มีเลย เพราะหากเกิดขึ้นที่ใด ที่นั้นเป็นต้องเกิดสภาพโกลาหลจนไม่ต้องทำงานทำการกัน...ไม่ต้องจัดงาน ไม่ต้องซื้อขาย ไม่ต้องเล่าเรียน หรือไม่ต้องเดินทาง
เพราะสถานที่ที่มักถูกขู่วางระเบิด มักเป็นสถานที่ที่มีผู้คนเข้าออกง่าย หรือค่อนข้างหนาแน่นหรือเป็นระดับวีไอพี หรือมีราคาแพงหลายร้อยล้าน....อาจเป็น อนุสาวรีย์ชัยฯ โรงพยาบาล โรงเรียน โรงแรม ศูนย์การค้า ธนาคาร หน่วยงานราชการ สถานีขนส่ง สถานีรถไฟ หรือบนเครื่องบิน เป็นต้น ..
จะไม่ค่อยขู่วางระเบิดแถวสนามหญ้า ในสนามกอล์ฟ ในเรือกสวน กลางทุ่งนา หรือในกรมกองทหาร ...อ๊ะ ไม่แปลก!!!
เพราะผู้ประสงค์ร้าย เขาหวังผลทางจิตวิทยา หวังจะให้ประชาชนแตกตื่นขวัญเสีย แล้วจะเรียกร้องอะไรบางสิ่งบางอย่าง หวังว่าจะได้ง่าย ..หรือทำเพื่อหวังความสนุกสนาน คิดว่าโก้ เก๋ หนังสือพิมพ์และสื่อมวลชนจะได้ประโคมข่าวผลงาน
เข้าข่ายคนประสาทอ่อนๆ ที่ต้องการเรียกร้องความสนใจ
แต่ตนไม่รู้หรอกว่า กำลังเป็นอาชญากรผู้ทำร้ายเศรษฐกิจของประเทศ นับร้อยล้าน เพราะเมื่อเกิดการแตกตื่นขึ้นจากการขู่วางระเบิด.... ธุรกรรมทุกอย่าง ณ บริเวณนั้นจะหยุดหมด นักเรียนหยุดเรียนหนังสือ การเดินทางสัญจรต้องหยุดชะงัก และต้องย้ายสถานีไปที่ใหม่กันอย่างโกลาหล รถราบนถนนแถวๆใกล้เคียงก็จะติดขัด ซึ่งเป็นการเผาผลาญน้ำมันและเวลาโดยไม่จำเป็น ศูนย์การค้า โรงแรม โรงหนัง และธนาคารแทบจะร้างผู้คน ผู้คนที่เคยติดต่อราชการได้ตามปกติ วันนั้นก็ต้องเลื่อนวัน การติดต่อทำธุรกรรมซื้อขาย ก็ไม่สามารถเกิดขึ้นได้ ดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นแม้เพียงวันสองวัน แต่มันก็เป็นดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นแบบน่าเจ็บใจ
บล็อกวันนี้ อยากจะขอให้ช่วยกันแก้ไขปัญหาการขู่วางระเบิด... เพราะหากแก้ไขปัญหาได้เร็ว เศรษฐกิจและภาพลักษณ์ของประเทศก็จะดีขึ้น
ใครบ้าง?ที่จะมีโอกาสรับโทรศัพท์ขู่วางระเบิด
ก็เป็นได้ทุกคนละครับ คนนั่งทำงานในธนาคาร คนยืนทำงานในห้างในศูนย์การค้า ร้านใดก็ได้ คนนั่งขายตั๋วในสถานีขนส่ง ในสถานีรถไฟ หรือคนนั่งทำงานในบริษัทใดก็ได้ บนตึกสูง ก็มีสิทธิเจอแจ๊คพอตได้ทั้งสิ้น
ผู้บริหารระดับสูงยังมีสิทธิเจอเลย Call Centerก็มีสิทธิเจอ
คนที่ไม่ค่อยจะมีสิทธิเจอ(เฮอะเฮอะ โชคไม่ดี) ก็เช่น หัวหน้ารปภ.ประจำอาคาร และ เจ้าหน้าที่ตำรวจ.... (ไม่รู้เป็นไง)
หากท่านเจอ
ท่านรับโทรศัพท์ แล้วก็ได้ยินเสียงบอกว่า ..นี่ ไม่ใช่คำขู่ พึงรู้ซะด้วยว่า มีระเบิดวางไว้แล้ว...... ...เมื่อท่านฟังคำขู่แล้ว หากท่านวางหู ไม่คิดจะสนใจว่าอะไรจะเกิดขึ้น วางเฉยซะ ... แบบนี้ หากเป็นการวางระเบิดเวลาเอาไว้จริง (ไม่ใช่เพียงแค่คำขู่) เข็มนาฬิกาทุกนาทีที่เคลื่อนไป จะมีค่ามาก ทั้งการแก้ไขการหยุดระเบิด และการเริ่มต้นอพยพผู้คนออกนอกอาคาร
แต่หากเหตุการณ์นั้น เป็นแค่คำขู่จริง เมื่อผู้ประสงค์ร้ายเห็นว่าท่านวางเฉย ไม่ยอมตื่นเต้นตาม ...เขาก็จะโทร.ไปป่วนยังเบอร์โทร.อื่นๆ ในบริเวณนั้นเพิ่มขึ้น และหากไปเจอกับผู้ที่ประสาทหลอน ตกใจตื่นกลัวอะไรง่ายๆ แบบนี้จะเกิดเหตุการณ์แตกตื่นวุ่นวายโกลาหล แบบที่ผู้คนที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ อาจจะเกิดตื่นเต้นตาม และตกใจโกลาหลจนเกิดการบาดเจ็บขึ้นได้
004
005
ทางที่ดี ...หากท่านเจอแจ๊คพอต รับโทรศัพท์ขู่วางระเบิด ...ขอให้ท่านใจเย็น พยายามให้ผู้โทร.มาขู่ จบที่หมายของการโทรศัพท์ขู่ ที่ตัวท่านแต่เพียงผู้เดียว (อุอุ สำนวนนี้ มีใครเคยพูดนะ!!!) พยายามระงับความตื่นเต้น ใช้สติปัญญาพูดโทรศัพท์กับผู้ประสงค์ร้ายแบบดีๆ ฟังไปพูดไปอย่างสุภาพ พยายามถามหารายละเอียดให้มากที่สุด เกี่ยวกับลักษณะระเบิดและสถานที่ โดยพยายามเน้นว่า ไม่อยากให้มีคนบาดเจ็บหรือล้มตายจากการระเบิดในครั้งนี้ และจะพยายามช่วยเหลือเขา ให้เขาบรรลุเป้าหมายที่ต้องการให้มากที่สุด ...บางครั้งก็อาจทำให้ผู้ประสงค์ร้ายใจสงบลง เรื่องร้ายอาจจะกลายเป็นเรื่องเล็กน้อย ไม่เกิดการบาดเจ็บหรือสูญเสียอะไรเลยก็ได้
ในขณะที่พุดคุยนั้น ควรจะใช้ท่าทางหรือเขียนลงบนกระดาษโน้ต เพื่อบอกเล่าเหตุการณ์นี้ให้ผู้อยู่ใกล้เคียงรับทราบไปด้วย เพื่อว่าเขาจะได้เข้ามาร่วมช่วยเหลือ หรือติดต่อผู้บริหาร หรือติดต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ และโดยเฉพาะเตรียมติดต่อนักทำลายล้างวัตถุระเบิด หรือนัก E.O.D. (Explosive Ordnance Disposal) มาช่วยกู้ระเบิด
การพูดคุยโทรศัพท์นานๆ นอกจากจะทำให้ผู้ประสงค์ร้ายใจสงบเย็นลงได้บ้างแล้ว ยังจะช่วยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถค้นหาเบอร์โทรศัพท์ของผู้ที่โทร.มา ได้อีกทางหนึ่ง
หากเขาต้องการจะวางหูโทรศัพท์ก่อน ที่การค้นหาข้อมูลจะได้มากพอ ควรจะชักชวนเขาให้โทรศัพท์กลับมาหาท่านใหม่ โดยบอกว่าท่านหวังจะได้ช่วยเหลือในสิ่งที่เขากำลังทำอยู่ ให้ทำสำเร็จลุล่วงให้มากที่สุด แต่แท้จริงแล้ว เพื่อหวังจะได้ข้อมูลจากเขาให้ละเอียดมากเท่าที่จะมากได้ และยังจะสามารถติดต่อเขาได้อยู่นั่นเอง
ขณะพูดคุยโทรศัพท์ ต้องเป็นฝ่ายฟังเขาให้มาก อย่าขัดจังหวะการพูดของเขาบ่อย แต่สามารถซักถามเขาได้บ้าง และจดบันทึกถ้อยคำคำพูดของเขาให้มากที่สุด หากมีวิธีใดในการอัดเทปเสียงพูดของเขาได้ ยิ่งควรกระทำ(หากเขาโทร.มาใหม่)
006
โดยจุดหมายที่ต้องการจะทราบข้อมูลจากเขา ก็คือข้อมูลสำคัญในเรื่องเหล่านี้
: 1. ระเบิดวางอยู่ที่ไหน? หรือใกล้กับอะไร?
2. เวลาใดที่จะระเบิด?
3. การระเบิดจะมีผลอย่างไร?
4. คุณทราบหรือไม่ว่าอาคารนี้อยู่ใกล้กับโรงเรียน ใกล้กับศูนย์การค้า?
5. ทำไมจึงอยากจะวางระเบิดไว้ที่ตรงนี้? หรืออยากจะได้อะไรจากการระเบิดในครั้งนี้?
6. ระเบิดทำจากอะไร? มีรูปร่างอย่างไร? หรือคล้ายอะไร? มีสีอะไร?
7. คุณเป็นผู้วางระบิดเองหรือไม่? ขณะนี้คุณอยู่แถวไหน?
ขณะพูดคุยโทรศัพท์ ยังมีข้อมูลสำคัญที่ควรสังเกต และจดบันทึกลงไว้ด้วย เช่น
1. เป็นชาย / หญิง / อายุประมาณ...........ปี .(ลักษณะของผู้โทร.)
2. เป็นคนท้องถิ่นใด หรือคนเชื้อชาติใด (ภาษาที่ใช้ และสำเนียง)
3. เขาพูดเสียงดัง / เสียงเบา / เสียงสูง / เสียงต่ำ / เสียงโกรธแค้น / เสียงขี้เล่นกวนๆ / เสียงตื่นเต้น / เสียงเรียบ / เสียงหยาบคาย / เสียงสุภาพ (ลักษณะของเสียง)
4. เขาพูดเร็ว / พูดช้า / พูดไม่ชัด / พูดติดอ่าง / พูดตะกุกตะกัก / พูดวกไปวนมา / พูดแบบคนมึนเมา / พูดชัดถ้อยชัดคำ / พูดคล่อง (ลักษณะการพูด)
5. เขาเป็นคนใจเย็น / มีเหตุผล / โกรธจัด / ฉุนเฉียวง่าย / โวยวาย / ร้องไห้ / น้อยใจ / อัดอั้นใจ,จนใจ / เคียดแค้น (ลักษณะทางอารมณ์)
6. ขณะพูดคุย มีเสียงแทรกเข้ามา คืออะไรบ้าง? ..เสียงเครื่องบิน / เสียงรถไฟ / เสียงเรือ / เสียงรถยนต์ / เสียงบนถนน / เสียงรถจักรยานยนต์ / เสียงเด็ก / เสียงโรงเรียน / เสียงชุมชน / เสียงตลาด / เสียงโรงงาน / เสียงเครื่องจักร / เสียงสวดมนตร์ / เสียงระฆัง / เสียงนก / เสียงน้ำตก / เสียงฟาร์มสัตว์เลี้ยง
7. ข้อมูลอื่นๆ เช่น เบอร์โทร.ที่โชว์, การตรงต่อเวลาของผู้โทรศัพท์ขู่ (หากมีการโทร.ซ้ำ), การแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ(ชื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจผู้รับแจ้ง, เบอร์โทร., เวลาโทร.), ชื่อตนเองผู้แจ้ง, พร้อมเบอร์โทร.
007 ภาพชุดนี้(007-012) นำมาจากเว๊ปของคุณสาธิต
008
009
010
011
012
ข้อควรรู้
1. ในส่วนของการวิเคราะห์ข่าว ในชั้นแรกเจ้าหน้าที่ตำรวจจะตั้งสมมติฐานว่า การขู่วางระเบิด เป็นเรื่องจริง ไว้ก่อน จากนั้นจะสืบสวนจากแหล่งที่มาของข่าว โดยพิจารณาข้อมูลเกี่ยวกับคุณลักษณะของผู้ขู่วางระเบิด และความต้องการของผู้ขู่วางระเบิด พิจารณาตรวจสอบว่าคนๆนี้เคยมีกรณีแบบนี้หรือกรณีใกล้เคียงกันเกิดขึ้นบ้างหรือไม่? พิจารณาถึงสภาพแวดล้อมต่างๆ เช่น การแข่งขันทางธุรกิจ หรือผลประโยชน์ที่ได้จากการระเบิด รวมทั้งความขัดแย้งของสังคมในสถานที่ที่ถูกขู่วางระเบิด
2. ผู้โทรศัพท์ขู่ อาจจะเป็นได้ทั้งคนภายนอกที่เกี่ยวข้องกับหน่วยงาน คนภายนอกที่ไม่เกี่ยวข้องกับหน่วยงาน และเป็นคนภายในหน่วยงาน
3. ในส่วนของการอพยพผู้คนออกนอกสถานที่ จะเป็นขั้นตอนภายหลังจากที่วิเคราะห์ข่าวแล้วคิดว่า น่าจะเป็นการวางระเบิดจริง หรือมีการพบวัสดุหรือหีบห่อต้องสงสัย ที่ไม่มีคนในหน่วยงานยอมรับว่าตนเป็นเจ้าของ
4. ท่านไม่ควรบอกกล่าวเรื่องโทรศัพท์ขู่กับคนภายนอกโดยไม่จำเป็น จะบอกได้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้อง และผู้บริหารที่เกี่ยวข้องเท่านั้น
ขออย่าเกิดเหตุการณ์แบบนี้ ณ ที่ใดๆเลย.......
Create Date : 10 ตุลาคม 2550 |
Last Update : 10 ตุลาคม 2550 20:54:31 น. |
|
32 comments
|
Counter : 4512 Pageviews. |
|
|
|
อ่านแล้วได้ความรู้ดีค่ะ