รถสะอาด
ส่วนใหญ่ เราและคนที่เรารัก จะใช้เวลาอยู่ในรถมากกว่ายืนพิงข้างรถ ซึ่งเสื้อผ้าและมือจะต้องสัมผัสกับสิ่งต่างๆภายในรถ และจมูกก็จะต้องดมกลิ่นต่างๆอยู่ภายในรถ ตลอดเวลา จึงควรจะให้ความสำคัญกับการทำความสะอาดภายในรถ ให้มากกว่า การทำความสะอาดภายนอกรถ
เช่น ใช้ผ้าที่สะอาดกว่า ใช้น้ำที่สะอาดกว่า ออกแรงมากกว่า ใช้เวลามากกว่า เช็ดถี่กว่า และเช็ดก่อน
เก็บขยะ ของสกปรก และของที่ไม่ใช้แล้วออกจากรถ ดูดฝุ่นตามที่ต่างๆภายในรถ ถ้าไม่มีเครื่องดูดฝุ่นและฝุ่นมีไม่มาก อาจใช้กระดาษกาวพันรอบฝ่ามือ ให้ด้านที่มีความเหนียวสามารถจับติดกับสิ่งอื่น อยู่ด้านนอก ใช้เก็บสิ่งต่างๆบนพื้นรถ เช่น เศษขนม เม็ดดิน หรือเส้นผม แล้วจึงใช้ผ้าชุบน้ำบิดหมาดเช็ดซ้ำอีกรอบ
ถ้าพรมเปียกน้ำเล็กน้อย ใช้ผ้าหรือทิชชู ช่วยซับน้ำ แล้วนำรถไปจอดกลางแดด เปิดกระจกรถทิ้งไว้ ความร้อนจะช่วยทำให้พรมแห้ง
อนึ่ง ควรมีแผ่นยางซึ่งมีขายอยู่ทั่วไป ปูทับบนพื้นพรม บริเวณที่รองเท้ามักจะสัมผัสบ่อยๆ และตอนจะก้าวขึ้นรถ ควรสลัดสิ่งสกปรก เช่น ทราย ใบไม้ เศษขยะที่ติดมากับรองเท้า ให้หลุดร่วงก่อนจะก้าวขึ้นรถเสมอ
หมากฝรั่งติดพรม ใช้น้ำแข็งประคบที่หมากฝรั่ง ทำให้เย็นแข็งตัว แล้วจึงใช้ช้อนขูดหมากฝรั่งออกจากพรม
พรมเปื้อนสารเคมี พวกน้ำยาทาเล็บ จารบี ใช้แชมพูสำหรับซักพรม ทำการล้างออก แล้วเปิดรถตากแดด
ทำความสะอาดเบาะผ้า โดยนำรถจอดกลางแดด เปิดประตูรถทุกบาน ใช้ไม้ตีที่นอนที่ทำจากหวาย มาตีเบาะและพนักพิงให้ทั่วทั้งเบาะหน้าและหลัง จะสังเกตเห็นฝุ่นฟุ้งกระจาย ผู้ที่ทำความสะอาดควรอยู่ทางต้นลม
ทำความสะอาดเบาะหนังแท้หรือหนังเทียม ใช้ฟองน้ำชุบน้ำสบู่อ่อน หรือชุบน้ำยาเช็ดเอนกประสงค์ บิดหมาด มาเช็ดเบาะ แล้วเช็ดออกด้วยฟองน้ำจุ่มน้ำบิดหมาด เมื่อสะอาดและแห้งแล้ว จึงใช้ผ้าชุบน้ำยาเคลือบเงา เช็ดเบาะให้ทั่ว ปล่อยให้น้ำยาขัดเงาแห้งเอง
ใช้น้ำยาเคลือบเงา เคลือบเงาที่แผงหน้าปัดรถ และแผงประตูรถ ส่วนที่เป็นไวนีลได้ด้วย
สร้างบรรยากาศบริสุทธิ์ภายในรถ โดยปกติ กลิ่นจะเกิดจาก2สาเหตุ คือ กลิ่นจากแอร์รถ
ขณะที่แอร์ทำงานจนมีอุณหภูมิต่ำ จะเกิดหยดน้ำสะสมอยู่ภายในตู้คอยล์เย็น น้ำบางส่วนจะไหลออกไปทางท่อน้ำทิ้ง แต่ก็ยังมีบางส่วนเหลือตกค้างอยู่ ทำให้เกิดการอับชื้นและเกิดเชื้อราขึ้น ดังนั้นก่อนจะถึงที่หมายสัก 2-3 นาที ให้กดปุ่ม A/C ในตำแหน่งปิด พร้อมกับเปิดพัดลมในตำแหน่งแรงสุด เพื่อให้แรงลมไล่หยดน้ำและความชื้นให้ระเหยออกจากตู้คอลย์เย็นให้หมด เพื่อขจัดความชื้นและกลิ่นอับ และยังจะช่วยยืดอายุการใช้งานของคอยล์เย็นให้มีอายุการใช้งานที่นานขึ้น
อีกสาเหตุหนึ่งของกลิ่น มาจากการนำอาหารเข้ามากินในรถ สูบบุหรี่ภายในรถ หรือเก็บของที่มีกลิ่นภายในรถ เช่น ปลาเค็ม ทุเรียน ผ้าเปียกชื้น ถ้ามีกลิ่นให้นำรถไปจอดกลางแดด ปิดกระจกไว้สักชั่วโมง แล้วจึงค่อยเปิดประตูเพื่อให้ลมนำกลิ่นออกไปพร้อมกับความร้อน
ไม่ควรล้างรถกลางแดดหรือขณะรถยังร้อน เพราะหยดน้ำจากการล้างจะเป็นแว่นขยายอย่างดี ทำให้เกิดจุดรวมแสง เมื่อหยดน้ำระเหยออกไปจะทำให้สีผิวรถ ด้านเป็นจุดๆ
ไม่ควรล้างรถกลางคืน เพราะการระเหยของน้ำเป็นไปได้ยาก ทำให้อาจก่อสนิมในวันหน้า
ขั้นตอนการล้าง ใช้ไม้ปัดขนไก่ ปัดเม็ดทรายและฝุ่น รอบตัวถังรถออกให้หมด ใช้น้ำฉีดไล่ฝุ่นหรือใช้น้ำชุบเปียกล้างให้ทั่วอีกครั้ง ผสมน้ำยาล้างรถกับน้ำลงในถัง อย่าให้เข้มข้นเกินไป มิฉะนั้นเวลาล้างออก จะทำได้ยาก ใช้ฟองน้ำชุบน้ำยาล้างรถให้เปียก เช็ดทำความสะอาด โดยไล่จาก หลังคา ด้านข้างตัวรถ ฝากระโปรงหน้า - หลังตามลำดับ ข้อสำคัญควรซักฟองน้ำบ่อยๆ เพื่อป้องกันสีรถเป็นรอย เพราะอาจมีเม็ดทรายติดอยู่ในฟองน้ำ ส่วนบริเวณซอกมุม อาจใช้แปรงสีฟันอ่อนๆทำความสะอาด
เช็ดออกด้วยน้ำเปล่า 1-2 ครั้ง เพื่อทำความสะอาดคราบน้ำยาให้หมด ไม่ควรปล่อยให้น้ำยาแห้งเอง เพราะจะเป็นอันตรายต่อสีรถ
ใช้ผ้าแห้งสะอาด เช็ดคราบน้ำ ให้แห้งทั่วทั้งรถ อย่าปล่อยให้แห้งด้วยแรงลม เพราะฝุ่นจะไปเกาะที่คราบน้ำ ทำให้เกิดรอยด่างขึ้นมา
ทำความสะอาดล้อรถ โดยใช้น้ำฉีดล้อ ยาง ใต้ซุ้มล้อให้เปียก และใช้แปรงจุ่มผงซักฟอกขัดทำความสะอาดล้อรถ แล้วล้างด้วยน้ำเปล่าอีกครั้ง
รถสะอาดแล้ว
.เหนื่อย แต่ก็คุ้มค่า นะครับ
Create Date : 22 เมษายน 2548 |
Last Update : 22 เมษายน 2548 22:45:57 น. |
|
10 comments
|
Counter : 1978 Pageviews. |
|
|
|
พรุ่งนี้ ..จะล้างรถต้อนเช้าพอดีเลยคะ ``
V
V
V
แอบมาดูชาย ..เจ้าระเบียบคะ