เช้าวันอันสดใส
เช้าวันอันสดใส
ผมผ่านวันส่งท้ายปีเก่าและเริ่มต้นวันขึ้นปีใหม่ด้วยความสุข ภายในกรุงเทพ ...ช่วงวันหยุดยาว 5 วันนับเป็นวันหยุดพักผ่อนที่แท้จริง สำหรับผม ... เพราะได้ไปเยี่ยมและกอดคุณแม่ พาคุณแม่ไปเยี่ยมคุณน้า พาคุณแม่ไปเที่ยวเมืองโบราณ และพาคุณแม่ไปทานกุ้งเผาที่อยุธยา
แถมช่วงวันหยุดยาว 5 วันนี้ รถบนถนนกรุงเทพและปริมณฑลก็ไม่ติดเลย ขับรถบนถนนแบบเพลิดเพลินใจมีความสุขมากท่ามกลางแดดจ้าและฟ้าใส
งานสังสรรค์ปีใหม่ของผมก็มีเช่น ร่วมงานปีใหม่ ณ ที่ทำงานของผม เป็นงานรื่นเริงระดับกรม จัดหลังเลิกงาน คนมาร่วมงานหลายร้อยคน อาหารคาวหวานมีเป็นซุ้มๆ อุ อุ ทานไม่หมดทุกซุ้มหรอก มันจุกซะก่อน มีการแสดงของเพื่อนๆในที่ทำงาน แสดงไปได้ ไง ...ขำ มาก หัวเราะกันแบบท้องคัดท้องแข็ง งานนี้มีการจับสลากแลกเปลี่ยนของขวัญด้วย ผมกลับบ้านก่อนงานจะเลิก กลับราวทุ่มครึ่ง
เพื่อนเก่ามหาวิทยาลัยเดียวกัน ก็มีจัดงานปีใหม่ที่บ้านของเขา ผมไปร่วมงานตั้งแต่ 11 โมง มีเพื่อนๆไปร่วมราว 50 คน แต่ละคนก็นำอาหารอร่อยที่ตนชอบไปคนละมือคนละหม้อ บางคนมาไกลจากภูเก็ต บางคนมาจากเชียงใหม่ บางคนมาจากสมุทรสงคราม และลพบุรีก็มี ดนตรีที่เล่นก็ใช้พวกเพื่อนๆนี่ละ เล่น ...ใครเบื่อดนตรีก็เข้าไปร้องคาราโอเกะภายในห้องแอร์ งานนี้อยู่กันยาว เริ่มงาน 11 โมง เลิกงานราว 3 ทุ่ม
และที่บ้านของผมเอง ก็มีการจัดงานปีใหม่เล็กๆ คือชวนเพื่อนที่ว่ายน้ำด้วยกัน มาทานอะไรด้วยกัน มาราว 8 คน อาหารเป็นพวกส้มตำ ข้าวเหนียว หมูทอด ไก่ทอด และน้ำผลไม้ งานนี้เตรียมเหล้าไว้ขวดนึง ...โฮะ โฮะ ไม่มีใครเปิดขวดเลย รักสุขภาพกันทั้งนั้น
ช่วงวันเปลี่ยนพ.ศ. ผมนั่งเล่นเน็ตพร้อมชำเลืองดูรายการทีวี ทำให้มีโอกาสได้ดูพลุจากหลายประเทศของโลก และได้ดูพลุ(จากการถ่ายทอดสด)ที่เซ็นทรัลเวิร์ล ที่สยามพารากอน และที่ชายหาดพัทยา พร้อมๆกันนั้นผมก็เปิดหน้าต่างระเบียงห้อง ชมพลุของจริงนับหลายสิบดอกด้วย ....เป็นพลุที่ถูกจุดขึ้นจาก 3 ที่ มองออกไปเห็นพลุถูกจุดขึ้น 3 มุมบนท้องฟ้าพร้อมๆกัน สวยประทับใจทีเดียว เสียดายไม่ได้ถ่ายรูปเอาไว้
ผมเลยนอนหลับฝันดี แถมตื่นได้ค่อนข้างสายเพราะไม่มีห่วงอะไร ตื่นขึ้นมาก็อาบน้ำสระผม ทานกาแฟร้อนๆกะซาละเปา แล้วก็เข้าเล่นบล๊อก กิจกรรมสุดโปรด ....อุ อุ อุ เป็นเช้าวันอันสดใสตอนต้นปีจริงๆ
ปีใหม่นี้ ผมขอให้เพื่อนบล๊อกทุกท่าน มีสุขภาพแข็งแรงนะครับ
หากท่านใดรู้สึกอึดอัด อ้วน ไม่ค่อยสบาย ขอชักชวนให้ไปออกกำลังกายให้เหงื่อออกบ่อยๆ เปลี่ยนนิสัยเป็นทานผักมากๆ ลดสิ่งเสพติดลงบ้าง
และหากเป็นการเจ็บป่วยเล็กน้อย ผมมีข้อมูลมามอบให้ครับ
วิธีเลือกซื้อยาสามัญประจำบ้าน
หากเป็นยาสามัญประจำบ้านที่ขึ้นทะเบียนกับ อย.จะสังเกตว่ามีเลขทะเบียนตำรับยาอยู่บนฉลาก ..แรกสุด ควรจะเลือกซื้อยา จากร้านที่มีผู้คนซื้อยาบ่อยๆเพราะจะได้ยาใหม่ ..แล้วสังเกตดูวันผลิตยาและวันที่หมดอายุบนฉลากยาก่อนจะซื้อยา หากยานั้นหมดอายุหรือใกล้จะหมดอายุ ต้องขอเปลี่ยนยาใหม่หรือเลือกซื้อยาจากร้านอื่น
ยิ่งกว่านั้น ควรดูสภาพภาชนะบรรจุยาที่เรียบร้อยใหม่ มีฉลากใหม่ ตัวหนังสืออ่านได้ชัดเจน ..หากเป็นยาเม็ด ต้องไม่แตก สีเรียบไม่เป็นจุดด่าง ..หากเป็นยาหยอดตาต้องไม่ตกตะกอน .. หากเป็นยาน้ำแขวนตะกอน เมื่อเขย่าแล้ว ยาต้องกระจายตัวอย่างสม่ำเสมอ .. หากเป็นยาขี้ผึ้งหรือครีม ต้องมีเนื้อเนียนผสมเป็นเนื้อเดียว ไม่มีน้ำไหลเยิ้มหรือมีส่วนที่แห้งแข็ง
การใช้ยาที่ปลอดภัย
1. อ่านฉลากและเอกสารกำกับยา ก่อนใช้ยา
2. ใช้ยาให้ถูกต้อง ....โดยถูกโรค ถูกคน ถูกทาง ถูกวิธี ถูกขนาด ถูกเวลา และถูกจำนวนครั้ง
กรุณาอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
1) ยาน่ารู้
2) ใช้ยาอย่างไรให้ถูกวิธี โดย yourhealthyguide.com
3) ใช้ยาอย่างไรให้ถูกวิธี โดย เภสัชกรมนตรี สุวณิชย์ ฝ่ายเภสัชกรรม รพ.ศิริราช
3. หลีกเลี่ยงการใช้ยาไปในทางที่ผิด
การเก็บรักษายา
1. กรณียาทั่วไป ที่ไม่ระบุการเก็บรักษาไว้เป็นการพิเศษ ให้เก็บยาที่ระดับอุณหภูมิห้องบริเวณที่ไม่ร้อน และไม่มีแสงแดดส่อง ...ห้ามทิ้งยาไว้ในรถยนต์ เพราะเมื่อรถจอดกลางแดด อุณหภูมิที่ร้อนภายในรถจะทำให้ยาเสื่อมคุณภาพได้
2. กรณียาที่ระบุว่าให้เก็บยาในตู้เย็น ห้ามแช่แข็ง หมายถึง ให้เก็บในตู้เย็นช่องปกติ ไม่ต้องเก็บไว้ในชั้นช่องแช่แข็ง แต่หากที่บ้านใคร มีการเปิด ปิดประตูตู้เย็นบ่อย ก็ไม่ควรเก็บยาไว้ที่ประตูตู้เย็น เพราะอุณหภูมิอาจจะเปลี่ยนแปลงบ่อยจนทำให้เย็นไม่เพียงพอต่อการรักษาคุณภาพยา
3. ยาที่บรรจุในขวดสีชา หมายถึง ยาที่ป้องกันไม่ให้ถูกแสง จึงไม่ควรจะเปลี่ยนภาชนะบรรจุไปเป็นแบบใส เพราะจะทำให้ยาเสื่อมคุณภาพได้จากแสง
4. ยาเม็ดที่ต้องระมัดระวังเรื่องความชื้น มักจะมีสารกันชื้นสอดอยู่ในขวดยา(มักเป็นซองเล็กๆภายในมีเม็ดกันชื้น) ไม่ควรจะนำสารกันชื้นนี้ออก และควรปิดขวดยาให้แน่นเสมอ
5. ควรเก็บยาไว้ในภาชนะบรรจุเดิม ซึ่งจะมีสลากระบุชื่อยาและวันที่ได้รับยานั้น จะทำให้สามารถพิจารณาระยะเวลาที่ควรเก็บยาที่เหลือนั้นได้
6. ควรแยกเก็บยาทานกับยาทา แยกห่างจากกัน อาจจะเก็บคนละชั้นคนละช่องหรือคนละกล่อง อาจจะมีสีเขียวบ่งชี้สำหรับยาทาน และมีสีแดงบ่งชี้สำหรับยาทา
7. ควรเก็บยาในที่ที่เด็กหยิบเองไม่ได้
8. ควรเก็บยา ให้หยิบออกมาใช้งานสะดวก หากเป็นยาซองหรือยาขวดเล็กๆ ควรจะใส่ไว้ในกล่อง เมื่อจะใช้ยา ก็นำกล่องออกมาคัดเลือกยา ภายนอกตู้ยา
9. บริเวณที่เก็บยา ควรจะมีแสงสว่างเพียงพอสำหรับการอ่านฉลากยา
เก็บยาที่เหลือไว้นานเท่าใด
1. ยาปฏิชีวนะที่ต้องผสมน้ำและเก็บในตู้เย็น จะมีอายุของยา 7-14 วัน ...หลังจากผสมน้ำและเก็บในตู้เย็น 7-14 วันแล้ว ประสิทธิภาพของยาจะลดลง ทำให้การรักษาไม่ได้ผล
2. ยาน้ำทั่วไป หลังจากเปิดขวดแล้ว ควรเก็บไว้ ไม่เกิน 6 เดือน หรือตามกำหนดวันหมดอายุ อันใดอันหนึ่งที่จะมาถึงก่อน และพิจารณาลักษณะภายนอกของยาประกอบด้วย เช่น ดูขุ่นผิดปกติ หรือมีการตกตะกอน หรือสีเปลี่ยนไป ถ้าไม่แน่ใจ ควรทิ้งไปจะดีกว่า
3. ยาเม็ดที่ไม่ได้บรรจุใน Foil ควรเก็บไว้ไม่เกิน 6 -12 เดือน โดยพิจารณาลักษณะภายนอกของยาประกอบด้วย เช่น เม็ดร่วน แตกหัก หรือ สีเปลี่ยนไป ควรทิ้งยาที่พบนั้น
4. ยาเม็ด ที่บรรจุ Foil สามารถเก็บไว้ได้ ถึงวันหมดอายุของยา
5. ยาใช้ภายนอก เช่น ครีมต่างๆ ควรเก็บไว้ไม่เกิน 6 เดือน หรือตามกำหนดวันหมดอายุ อันใดอันหนึ่งที่จะมาถึงก่อน และพิจารณาลักษณะภายนอกของยาประกอบด้วย
6. ยาหยอดตา ยาป้ายตา ที่เปิดใช้แล้ว ควรเก็บ ไว้ไม่เกิน 30 วัน หลังจากเปิดใช้
ขอให้ทุกวันของเพื่อนๆ เป็นเช้าวันอันสดใสนะครับ
yyswim
Create Date : 03 มกราคม 2552 |
Last Update : 3 มกราคม 2552 8:00:08 น. |
|
25 comments
|
Counter : 3188 Pageviews. |
|
|
|
[ของตกแต่งโดนๆคลิกเลย]