การCopyอย่างสร้างสรรค์
การCopyอย่างสร้างสรรค์
การลอกเลียนแบบหรือการCopy ทั้งหมด(เหมือนต้นแบบทุกอย่าง) ไม่ใช่สิ่งที่ดีงาม หากทำออกมาเพื่อการค้าแข่งขันกับสินค้าต้นแบบ
แต่ในขณะเดียวกัน หากสินค้าทุกสินค้าจะคิดนวัตกรรมของตนเองขึ้นมา ..แบบนี้ก็มักจะช้าเกินการ และค่าใช้จ่ายก็มากเกินความจำเป็น
หลายองค์กรในปัจจุบัน นอกจากจะหาคนเก่งเข้ามาร่วมงานในองค์กรแล้ว อีกอย่างหนึ่งที่มักจะทำกัน ก็คือ การCopyอย่างสร้างสรรค์
โดยใช้หลักการ วิศวกรรมย้อนรอย(Reverse Engineering) ...คือ จากสินค้าตรงหน้าขององค์กรอื่น ก็จะวิเคราะห์ว่า สินค้าตัวนี้ใช้หลักการการทำงานอย่างไร อาจจะค่อยๆพิจารณาไล่ดูไปทีละพาร์ท ทีละจุด หรือหากต้องแกะภายในสินค้าออกมาดู ก็ต้องทำ เพื่อจะวิเคราะห์ด้วยเหตุผล(อาจจะมีการทดสอบเพื่อยืนยัน)ว่ามันทำงานเพราะสิ่งนั้นๆจริงหรือไม่ มันเกิดขึ้นจากตัวใดที่เป็นแกนหลักของการทำงาน บางครั้งอาจจะต้องตรวจสอบไปถึงโพรเซสของการทำงาน ที่ต้องจดนับเป็นเวลานาทีหรือวินาทีด้วย
แน่นอนว่าในบางสินค้า ผู้ผลิตสินค้านอกจากจะจดสิทธิบัตรในตัวสินค้าแล้ว เขายังอาจจดสิทธิบัตรของบางพาร์ท หรือบางโปรเซสเอาไว้
แบบนี้ การCopyอย่างสร้างสรรค์ ก็จะต้องขุดหาแก่นลึกของความรู้ลงไปอีก เพื่อจะไปหาให้เจอแก่นของความรู้ของบางพาร์ทของสินค้าด้วย
แล้วจึงCopy Knowledge ที่เจอ นำออกมาขยายเป็นสินค้าขององค์กรตนเอง ที่เป็นดีไซน์ใหม่ วัตถุดิบใหม่ สีใหม่ หรือเป็นสินค้าเพื่อประโยชน์การใช้สอยใหม่
ตัวอย่างเช่น สินค้าบางชิ้นที่ให้ความร้อนสูง หรือให้ความเย็นสูง แต่ประหยัดพลังงาน องค์กรก็จะมอบหมายให้ผู้มีความรู้ของตนทำ วิศวกรรมย้อนรอย ...ไปวิเคราะห์ดูว่า สินค้าตัวนั้นต้นแบบของความรู้ เกิดจากอะไร เมื่อรู้แล้ว องค์กรของตนก็จะผลิตสินค้าตัวใหม่ออกมา
อาจจะ ย่อขนาด ขยายขนาด เปลี่ยนรูปทรง เปลี่ยนสีสัน เปลี่ยนใช้วัตถุดิบ มีการต่อเติมหรือลดบางส่วนออกไป หรือนำไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์การใช้งานชนิดใหม่
แต่ข้อสำคัญ ยังคงใช้แก่นของความรู้เดิม ที่ค้นพบจากตัวสินค้า
ตัวอย่างเช่น ขยายบาตรพระ ออกเป็นแท๊งค์น้ำ ...ย่อบาตรพระ มาเป็นกระปุกออมสิน ....การเปลี่ยนหุ่นยนตร์ที่เดินด้วยพลังแบตเตอรี่ เป็นไดโนเสาร์หรือเด็กที่เดินด้วยพลังแบตเตอรี่
ตัวอย่างเช่น ..การเปลี่ยนป้ายคัตเอาต์ขนาดใหญ่ เป็นนาฬิกาเรือนใหญ่ ริมถนนแทนป้ายคัตเอาต์ แต่มีโฆษณาสินค้าแทรกเล็กน้อย ...หรือการเปลี่ยนโฆษณาสินค้าแถวป้ายรถเมล์ ไปเป็นร่มขนาดใหญ่ เพื่อให้คนกันแดดกันฝนได้ แต่มีโฆษณาสินค้าแทรกเล็กน้อย เป็นต้น
ร่ม มีเรืองแสงให้ความสว่างที่ด้าม
โคมไฟ ใช้แทนตู้ปลา
เทียนไข วิทยาศาสตร์
เช่นนี้ ก็จะมีสินค้าที่จะออกวางจำหน่าย หรือให้บริการสู่ท้องตลาด ได้รวดเร็ว ประหยัดค่าใช้จ่ายและเวลาของการทำ Research ต้นแบบสินค้า ได้พอสมควร ... จะทำก็เพียง Development ตัวสินค้าหรือการให้บริการเท่านั้น
การCopyอย่างสร้างสรรค์ อาจรวมไปถึง การนำจุดดีของสินค้าหนึ่งๆ ที่เขาไม่ได้จดสิทธิบัตร นำออกมาใช้กับ สินค้าที่มีประโยชน์การใช้สอยอีกชนิดหนึ่ง
เช่น นำบางส่วนของลวดลายของหน้าจั่วบ้านชาวมุสลิม หรือบางส่วนของลวดลายของเรือกอและ มาเป็นลวดลายของการจักสานหรือฉลุลายกรงนกเขา หรือมาเป็นลวดลายการปักบนหมวกผู้ชายหรือบนผ้าคลุมไหล่ผู้หญิงมุสลิม ...หรือการนำสีของหน้าโฮมเพจที่สวยงาม หรือสีประจำมหาวิทยาลัยที่มีอิมเมจที่ดี นำไปเป็นสีประจำโลโก้ขององค์กร ....หรือการนำดีไซน์ของเฟอร์นิเจอร์หลายๆชิ้น แล้วคัดสรรเฉพาะส่วนที่ เก๋ชวนมอง นำมาประกอบเป็นเฟอร์นิเจอร์หรือสินค้าใช้สอยตัวใหม่
การCopyอย่างสร้างสรรค์ สามารถนำไปใช้ได้กับการคิดเมนูอาหารใหม่ของร้านอาหารได้ด้วย เช่น เมื่อไปเจอเมนูอาหารอร่อยและแปลกของร้านอื่น ก็เพียงแต่นำแก่นความรู้ของอาหารอร่อยหรือแปลกของร้านนั้น แล้วนำมาสร้างเป็นเมนูอาหารจานใหม่ของร้านของตนบ้าง ...เช่น ร้านอื่นใส่กาแฟ ใส่ผลสละ ใส่ใบบัวบกในอาหารบางจาน แล้วปรากฏว่ารสชาติดี เราก็นำมาใส่ในอาหารเมนูใหม่ของร้านอาหารเราบ้าง
การCopyอย่างสร้างสรรค์ที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการ ก็สามารถทำได้เช่นเดียวกัน เช่น เมื่อเจอการให้บริการดีๆเป็นระบบ มีน้ำใจ ของโรงแรม คลินิกหมอ หรืออู่ซ่อมรถ เราดัดแปลงนำมาใช้ในองค์กรของเรา เพียงแต่ดูความเหมาะสมสอดคล้องกับลักษณะงานและสภาพแวดล้อมขององค์กร.
yyswim 
| Create Date : 20 พฤษภาคม 2551 |
| Last Update : 20 พฤษภาคม 2551 15:36:02 น. |
|
17 comments
|
| Counter : 5132 Pageviews. |
 |
|
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 40 คน [
