ผ้าขี้ริ้ว
ผ้าขี้ริ้ว
1. คุณค่าของผ้าขี้ริ้ว
ผ้าขี้ริ้วยอมสกปรก เพื่อให้สิ่งอื่นสะอาด
คนดีจะยอมลำบากเพื่อให้ผู้อื่นเป็นสุข เช่นเดียวกับพ่อแม่ที่ยอมเหนื่อยยาก ยอมลำบากเพื่อให้ลูกๆมีความสุขสบาย
ผ้าขี้ริ้วดูดซับความสกปรกก็จริง แต่ก็ยินดีสลัดความสกปรกออกจากตนเอง
คนดีเมื่อรู้ว่าตนเองสกปรก ก็จะยินดีชำระล้างความสกปรกออกไปจากตน ไม่ใช่เก็บซ่อนความสกปรกเอาไว้ แล้วแกล้งโกหกผู้อื่นว่าตนเองสะอาด
ผ้าขี้ริ้วเปรียเทียบได้กับคนที่มีจิตใจสะอาด แม้ว่าผู้อื่นจะมองว่าสกปรก
คนดีจะถ่อมตนและอ่อนโยน จะไม่โอ้อวดยโสต่อผู้อื่น หากตนมีข้อมูลน้อยก็จะไม่อวดรู้ข้อมูล แต่จะยอมที่จะบอกผู้อื่นว่า ตนเองยังไม่พร้อม
ผ้าขี้ริ้ว แม้จะเป็นผ้าธรรมดา เก่าๆ แต่มีคุณค่าในการใช้งานได้เสมอ
คนดีจะทำตนให้เป็นประโยชน์ต่อสังคม แม้การศึกษา หรือวงษ์ตระกูล หรือตำแหน่งการงานจะแสนธรรมดา ...จะมุ่งหวังทำประโยชน์ให้สังคมโดยไม่หวังรอนักข่าว หรือไม่หวังรอให้ตนเองพร้อมเสียก่อนจึงจะเริ่มทำ
เช่นเดียวกับคนทำบุญแท้จริง จะทำบุญโดยไม่เคยหวังให้ผู้อื่นรู้ ไม่เคยจะรอให้ตนถูกหวยเสียก่อนแล้วจึงจะทำ ...หรือลูกที่รักพ่อแม่โดยแท้จริง จะทำดีต่อพ่อแม่ได้ทุกวัน ไม่ต้องรอให้ถึงวันเทศกาลหรือวันที่มีการถ่ายรูป
ผ้าขี้ริ้วจะไม่เกี่ยงงอนว่าตนจะถูกใช้ให้เช็ดอะไร
คนดีจะทำงานตามที่ได้รับมอบหมายได้ทุกตำแหน่งไม่เกี่ยงงอน เพราะคิดว่าทุกตำแหน่งหรือทุกงาน มีคุณค่าต่อประสิทธิภาพของทีม หรือมีคุณค่าต่อความสวยงามของบ้านโดยภาพรวม
ผ้าขี้ริ้วจะยอมถูกใช้งานที่สกปรกที่สุด
คนดีจะไม่รังเกียจงานต่ำต้อย เช่น งานทำความสะอาดท่อน้ำ งานทำความสะอาดห้องน้ำ งานกำจัดขยะ หรืองานล้างจานชาม เพราะทุกงานที่สุจริตจะเป็นงานที่มีเกียรติ ทำให้งานอื่นและสภาพแวดล้อมสะอาด ดำเนินการตามปกติต่อไป ...หากไม่มีใครทำงานที่สกปรกที่สุดที่กล่าวถึง งานอื่นและสภาพแวดล้อมก็จะติดขัดและมีปัญหาแน่นอน
ผ้าขี้ริ้วจะพอใจที่ได้อยู่เบื้องหลังความสะอาด แม้จะถูกจัดเก็บไว้ที่หลังบ้าน
คนดีจะพอใจที่ได้ทำหน้าที่เบื้องหลังความสำเร็จของใครบางคน ...เป็นผู้สนับสนุนให้ใครบางคนก้าวขึ้นสู่จุดสูงสุด เป็นผู้ปิดทองหลังพระโดยไม่เคยแสดงตัวตนให้คนอื่นเห็น ความสุขที่แท้จริงของคนดี คือการได้ยืนแอบยิ้มอยู่เบื้องหลังความสำเร็จและความสุขของผู้อื่น
ผ้าขี้ริ้วทนทานต่อการขัดถูซักล้าง ไม่เปราะบาง
คนดีจะเป็นคนอดทน แม้จะเหน็ดเหนื่อย อ่อนล้า หรือเจอปัญหาทุกข์ยากขนาดไหน ก็ไม่ปริปากบ่นหรือออดอ้อนผู้คน ยังคงมีจิตใจที่หนักแน่น ไม่ล้มเลิกอะไรง่ายๆ
ผ้าขี้ริ้วแม้จะถูกเรียกชื่อว่า ขี้ริ้ว แต่ก็ไม่เคยทำตัวตามชื่อ
คนดี แม้ชื่อในบัตรประชาชนจะไม่ไพเราะ จะมีบุคลิกที่ไม่หล่อสวยอย่างพระเอกนางเอก แต่จะทำตัวเป็นประโยชน์ต่อสังคมและต่อผู้คนตลอดเวลา แม้ใครจะเรียกชื่ออย่างไรก็ไม่เคยหวั่น
เปรียบเทียบเช่น มังคุด ระกำ แม้จะชื่อไม่ไพเราะ ก็ไม่เคยจะเปลี่ยนความอร่อยหอมหวานของตน จะยังคงสร้างความตราตรึงในหัวใจของผู้ลิ้มลองได้ทุกครั้ง...จนปัจจุบัน คนทั่วไปต่างยอมรับในคุณค่าของมังคุด ระกำ มากกว่าการนึกรังเกียจชื่อ
คนเราหากมองตนเองให้มีคุณค่า มองผู้อื่นอย่างเขามีคุณค่า อย่ามองตนเองหรือมองผู้อื่นแต่ในแง่ลบ ชีวิตของตนเองก็จะสุขใจ เกิดมาก็จะคุ้มค่าที่ได้เกิดมาในโลก
ขอให้มองผ้าขี้ริ้วเป็นเยี่ยงอย่าง
2. ผ้าขี้ริ้วเทคโนโลยี
ในยุคที่อะไรๆก็เทคโนโลยี
จากเขียงไม้ ก็เป็นเขียงวิทยาศาสตร์ ....จากผ้าอ้อม ก็เป็นผ้าแพมเพอร์ส ....จากผ้าธรรมดา ก็เปลี่ยนเป็นผ้านาโน
.และจากผ้าขี้ริ้ว ก็พัฒนาเป็นผ้าขี้ริ้วเทคโนโลยี หรือชื่อจริงๆว่า ผ้าชามัวร์วิทยาศาสตร์ (Plas Chamois)
ผ้าชามัวร์วิทยาศาสตร์ เป็นผ้าขี้ริ้วที่ผลิตขึ้นมาใหม่แทนผ้าขี้ริ้วแบบดั้งเดิม ที่อาจจะเก่า ขาด สีตก เป็นขุย และที่สำคัญ สกปรกด้วยเชื้อแบคทีเรีย ...เพื่อหวังจะได้ประสิทธิภาพของผ้าใช้งาน ที่ดีกว่า เช็ดถูได้สะอาดกว่า ประหยัดแรงกว่า ซักล้างได้ง่ายกว่า และจัดเก็บได้สะดวกกว่านั่นเอง
ผ้าชามัวร์วิทยาศาสตร์ เป็นผ้าไมโครไฟเบอร์ซึ่งผลิตขึ้นมาจากเส้นใยไมโครไฟเบอร์ ที่ละเอียดกว่าเส้นผมมนุษย์หลายเท่า สามารถเช็ดทำความสะอาดพื้นผิวได้ทุกชนิด และสะอาดกว่าผ้าขี้ริ้วแบบดั้งเดิม เพราะความสกปรกจะไม่แทรกซึมเข้าไปภายในเนื้อผ้า เนื่องจากเส้นใยไฟเบอร์เล็กและแน่นเกินไป ทำให้เมื่อนำไปเช็ดที่ไหนๆจะไม่มีความสกปรกแทรกลงไปในเนื้อผ้า และไม่มีการสั่งสมเชื้อแบคทีเรียในเนื้อผ้า
ผ้าชามัวร์วิทยาศาสตร์ จะเป็นผ้าที่เหนียว ซึมซับน้ำได้ดีกว่าผ้าขี้ริ้ว จึงใช้เช็ดคราบน้ำได้แห้งสนิทกว่าผ้าขี้ริ้ว จึงประหยัดเวลากว่า ....เช็ดแล้วจะไม่ทำให้พื้นผิวเป็นรอย เพราะจะไม่มีตะเข็บ ไม่มีกระดุมหรือมีซิปติดอยู่อย่างผ้าขี้ริ้ว ....จะไม่มีเศษขุยตกหล่นลงบนพื้นผิวอย่างผ้าขี้ริ้ว ....สามารถจะนำไปซักน้ำหรือซักผงซักฟอกเพื่อชำระสิ่งสกปรกที่ติดมาให้ออกได้ง่ายกว่าผ้าขี้ริ้ว เพราะความสกปรกไม่ได้แทรกซึมลงไปในเนื้อผ้า(ล้างน้ำแป๊บเดียว เศษฝุ่นผงก็จะหลุดออกหมด) ....อายุการใช้งานจะได้นานกว่าผ้าขี้ริ้ว(ผืนหนึ่งใช้งานปกติได้ประมาณ 3 ปี จึงจะบางและขาด) ....ไม่ขึ้นรา ปลอดจากเชื้อแบคทีเรีย ไม่มีกลิ่น ....และเก็บรักษาโดยบรรจุในกล่องพลาสติก ทำให้ไม่ต้องตาก ไม่ต้องเกะกะ ..พกพาไปไหนๆก็ไม่สะดุดตา ว่าได้นำผ้าขี้ริ้วไป
ผ้าชามัวร์วิทยาศาสตร์ จะใช้ทำความสะอาดพื้นไม้ พื้นปูน พื้นเซรามิค พื้นผิววัสดุอื่นๆ เช่น ตู้เย็น กระจกเงา คอมพิวเตอร์(แต่อย่าใช้เช็ดหน้าจอคอมพ์ ควรใช้ผ้านุ่มแห้งเช็ดหน้าจอคอมพ์จะดีกว่า) รถยนต์ หนัง หรือเฟอร์นิเจอร์ที่อยู่ภายในบ้าน ภายในห้องน้ำ ภายในห้องครัว หรืออาจใช้เช็ดแห้งสุนัขหลังจากอาบน้ำก็ได้
อยากบอกว่า ...หากใครเคยทดลองใช้ผ้าชามัวร์วิทยาศาสตร์แล้ว จะไม่อยากกลับไปใช้ผ้าขี้ริ้วแบบดั้งเดิมอีกเลย... อ้อ ผมเคยเห็นนักกีฬาว่ายน้ำและนักกระโดดน้ำจะพกพาผ้าแบบนี้ไปตอนแข่งขันกีฬาด้วย เพราะซับตัวให้แห้งเร็วมาก
ข้อแนะนำ : เมื่อใช้ครั้งแรก ให้จุ่มผ้าชามัวร์ลงแช่น้ำก่อน แต่ห้ามใช้น้ำร้อน ผ้าชามัวร์วิทยาศาสตร์ก็จะนุ่มพร้อมใช้งาน หากผืนใหญ่อาจจะไม่ต้องตัดแบ่ง อาจพับเป็นสี่ส่วน แล้วเช็ดไปทีละส่วน ส่วนไหนที่สกปรกแล้วก็สลับไปใช้ส่วนที่ยังไม่สกปรก เมื่อสกปรกอีกก็พลิกผ้าไปใช้ส่วนยังไม่สกปรกมาใช้งานต่อ จนกว่าจะสกปรกเกือบทั้งผืน จึงจะนำไปล้างน้ำสักทีหนึ่ง เมื่อล้างน้ำสะอาดแล้วก็บีบให้สะเด็ดน้ำจนผ้าหมาด(ออกกำลังมือนิดหน่อยคงไม่เป็นไร) ไม่ควรจะบิดผ้าเป็นเกลียวเพราะจะเร่งให้ผ้าเสียรูปทรงและเสื่อมคุณภาพเร็ว แล้วจึงนำผ้าผืนนั้นไปใช้งานใหม่อีก หรือจะเก็บไว้ในกล่อง เก็บไว้ทั้งหมาดๆนั่นละ
ผ้าชามัวร์ในกล่องก็จะชื้น พร้อมใช้งานอยู่เสมอแต่ผ้าจะไม่ขึ้นรา ไม่ควรจะนำผ้าชามัวร์ไปตากแดดตากลมที่ราวตากผ้าจนแห้งสนิท หรือเก็บกล่องนั้นถูกแสงแดดโดยตรง
Create Date : 07 กุมภาพันธ์ 2551 |
Last Update : 7 กุมภาพันธ์ 2551 0:04:50 น. |
|
41 comments
|
Counter : 11768 Pageviews. |
|
|
|
ผ้าขี้ริ้วถึงจะดูไร้ค่า แต่จริง ๆ ซุกซ่อนคุณค่าและอยู่เบื้องหลังความงดงามมากมายค่ะ
สวัสดีค่ะพี่สิน งิงิ แหม ๆ ถึงบีจะผิวไม่เหมือน แต่ก็ลูกหลานคนจีนนะคะ ตอนนี้ยังนอนไม่ได้ค่ะ รอไหว้เทพเจ้าไฉซิงเอี๊ยะ (เทพเจ้าแห่งโชคลาภฉลองวันขึ้นปีใหม่) รอบ ตี 3 อยู่ค่ะ
พี่สินก็นอนดึกเหมือนกันนะคะนี่ รักษาสุขภาพด้วยนะคะ