ตาแห้ง



ตาแห้ง



บล็อกวันนี้เหมาะกับคนหลักสี่..


แต่ก็น่าสนใจหากใครคิดจะพริ๊นท์ไปให้คุณพ่อคุณแม่ ญาติผู้ใหญ่ที่นับถือ และครูบาอาจารย์ได้อ่านบ้าง



เมื่อถึงวัยเลขสี่นำ วงการแพทย์จะถือว่าร่างกายของคนเรากำลังก้าวพ้นจุดที่เจริญที่สุดของร่างกาย ..นับต่อจากนี้ไปหากคนเราจะรับประทานอะไรเข้าไป จะมีคุณภาพดีแค่ไหน อย่างมากก็จะเข้าไปเพื่อการบำรุงรักษาซ่อมแซมและชะลอส่วนต่างๆของร่างกายให้สึกหรอช้าลงเท่านั้น มีน้อยมากที่จะเข้าไปเพื่อสร้างสิ่งใหม่ๆให้กับร่างกาย



ที่ยังจะพอมีใหม่อยู่บ้าง ก็พวกเม็ดเลือด น้ำย่อย น้ำหล่อลื่น เส้นผม เป็นต้น



พูดถึงเส้นผม นับวันก็จะหลุดร่วงหรือเปลี่ยนเป็นสีขาว ..เรื่องการได้ยินก็นับวันจะเสื่อมถอยลง จะฟังอะไรก็ได้ยินไม่ค่อยชัดเท่าตอนหนุ่มสาว ..เรื่องสายตานับวันก็จะมองใกล้ๆเริ่มจะโฟกัสไม่ชัดเหมือนเดิม กลายเป็นสายตายาวขึ้น ..ส่วนเรื่องฟัน นับวันก็จะอ่อนแอโยกคลอนและหลุดร่วง ต้องเสริมด้วยฟันปลอม ..สำหรับผิวหนัง ไม่ว่าจะเป็นบริเวณใต้ดวงตา ใต้คาง บนหลังมือ หรือบริเวณก้น นับวันก็จะหย่อนคล้อย ไม่ค่อยสปริงตัวกลับ ไม่ค่อยปึ๋งปั๋งฟิตดังเดิมแบบคนหนุ่มสาว



มันเป็นตามวัยน่ะ ไม่ได้ผิดปกติอะไร



เมื่อพูดถึงผิวหนังที่ค่อยๆร่วงโรยลงไป ..หากใครเคยเห็นภาพทารกในครรภ์มารดาตอนที่มีอายุอยู่ในครรภ์ประมาณ 5 – 6 เดือน คงจะเคยเห็นว่าบริเวณดวงตาของทารกยังเป็นเนื้อผิวหนังที่ปิดอยู่ และกำลังพัฒนาการไปเป็นดวงตา ซึ่งนั่นก็คือดวงตาพัฒนามาจากเซลล์แบบเดียวกับผิวหนัง








ฉะนั้นหากมองว่าผิวหนังของเราเริ่มหย่อนไม่ฟิตและไม่แข็งแรงเหมือนเดิม ก็ขอให้เชื่อเถิดว่า ดวงตาของเราก็ไม่ได้สมบูรณ์ดีพร้อมเหมือนเดิมเช่นกัน







อาการตาแห้ง จึงเป็นเรื่องปกติตามธรรมชาติของวัย เมื่อวัยของคนเราล่วงเข้าถึงเลข 40 ..ก็ขออย่าได้ตกใจ เพียงแต่เราจะหาวิธีชะลอสุขภาพที่ดีเอาไว้นานๆ และอยู่ร่วมกับสภาพตาแห้งอย่างคนมีความสุข




ร่างกายของคนปกติทุกคนจะมีน้ำตาธรรมชาติ ซึ่งผลิตขึ้นมาจากต่อมน้ำตาที่อยู่เหนือบริเวณหัวคิ้วทั้งสองข้าง น้ำตาธรรมชาติจะถูกผลิตออกมาตลอดเวลา เพื่อมีหน้าที่สำคัญต่อร่างกาย คือ


1. ให้ความชุ่มชื้นต่อกระจกตาและเยื่อบุตาขาว


2. ปรับสภาพของกระจกตาให้มีความเรียบ เพื่อให้แสงผ่านได้สะดวก การมองเห็นจะได้ชัดเจน


3. ให้สารอาหารและออกซิเจนต่อกระจกตา รวมทั้งขจัดของเสียออกจากกระจกตา


4. มีสารฆ่าเชื้ออย่างอ่อนๆ เพื่อป้องกันการติดเชื้อที่กระจกตา และช่วยล้างสิ่งสกปรกออกจากดวงตา เช่น เวลาผงเข้าตา



น้ำตาธรรมชาติจึงมีความสำคัญอย่างมาก และจะต้องผลิตออกมาตลอดเวลา





น้ำตาธรรมชาติ เป็นสิ่งสำคัญต่อร่างกายที่หล่อเลี้ยงลูกตาให้ชุ่มชื้นเปรียบเสมือนกับเครื่องจักรที่จะทำงานได้ดีก็ต้องมีน้ำมันหล่อลื่นเพียงพอ น้ำตาธรรมชาติของคนเราจะเห็นเป็นน้ำใสๆหล่อเลี้ยงลูกตา เราจะมองว่าใครมีน้ำตามากหรือน้อยโดยการสังเกตความแวววาวของลูกตา ทั้งนี้ในเด็กหรือในหนุ่มสาว ดวงตาจะแวววาวหรือสุกใสเป็นประกายกว่าคนสูงวัย เพราะมีน้ำตาเพียงพอ ไม่ขาดบกพร่องเหมือนคนที่มีอายุมาก



น้ำตาธรรมชาติแม้มีจะปริมาณบางมาก แต่สามารถแยกออกได้เป็น 3 ชั้น ดังนี้










1. ชั้นไขมัน (Lipid Layer) เป็นชั้นนอกสุด สร้างมาจากต่อมไขมันซึ่งอยู่บริเวณเปลือกตาทั้งด้านบนและด้านล่าง มีหน้าที่ป้องกันไม่ให้ส่วนที่เป็นน้ำตาระเหยไปได้ง่าย เพื่อน้ำตาธรรมชาติจะได้คงอยู่นานๆ



2. ชั้นน้ำ (Aqueous Layer) เป็นชั้นที่อยู่ตรงกลางและหนาที่สุด สร้างมาจากต่อมน้ำตาซึ่งอยู่บริเวณหัวคิ้วของตาทั้งสองข้าง เป็นตัวให้อาหารและออกซิเจนหล่อเลี้ยงแก้วตา หน้าที่สำคัญส่วนใหญ่ของน้ำตาธรรมชาติอยู่ที่ชั้นนี้



3. ชั้นเยื่อเมือก (Mucin Layer) เป็นชั้นในสุด สร้างมาจากส่วนเซลล์บุกระจกตา มีหน้าที่ปรับสภาพของกระจกตา ทำให้น้ำตาธรรมชาติกระจายตัวได้อย่างรวดเร็ว เวลากระพริบตา




น้ำตาธรรมชาติ ซึ่งถูกสร้างตลอดเวลา จากต่อมน้ำตาที่อยู่เหนือบริเวณหัวคิ้วทั้งสองข้าง และจะระบายนํ้าตาส่วนเกิน ลงสู่รูเปิดของระบบระบายนํ้าตาที่อยู่บริเวณหัวตาทั้งสองข้าง แล้วไหลลงไปในช่องจมูกแล้วไหลลงคอ (หลายท่านอาจจะเคยสังเกตว่าเมื่อเราหยอดยาตาบางชนิด จะรู้สึกขมภายในลำคอ )











ในร่างกายของคนที่มีสุขภาพดี อัตราการสร้างนํ้าตาและการระบายนํ้าตาลงท่อระบายน้ำตา จะสมดุลกัน ซึ่งจะไม่เกิดปัญหาตาแห้งหรือนํ้าตาคลอเบ้า ..แต่หากผิวกระจกตาเกิดอาการแห้งเนื่องจากการสร้างน้ำตาธรรมชาติลดลงหรือระเหยไปโดยเร็ว ระบบอัตโนมัติในร่างกายจะสั่งให้เกิดการกระพริบตาขึ้นทันที การกระพริบตาจะเป็นการกระจายน้ำตาธรรมชาติ ให้กระจายไปทั่วกระจกตาและเยื่อบุตาขาวอย่างรวดเร็ว เราจึงรู้สึกสบายตา...และหากเราเสียใจโศกเศร้าอาดูรอย่างรุนแรง หรือดีใจปลื้มใจเป็นพิเศษ น้ำตาก็จะถูกขับออกมามากเป็นพิเศษโดยปฏิกิริยาธรรมชาติ จนเต็มเบ้าตาและไหลล้นออกมานอกดวงตาได้เอง





สาเหตุของอาการตาแห้ง


1. อายุ

ผู้ใหญ่อายุตั้งแต่ 40 ปีขึ้นไป การสร้างน้ำตาธรรมชาติจะลดลงไปเรื่อยๆ และเมื่ออายุถึง 70 ปี การสร้างน้ำตาธรรมชาติจะลดลงถึง 90% ..(อย่าตกใจ ยังได้เล่นบล็อกอีกนาน)


2. เพศ

ผู้หญิงจะมีอาการตาแห้งมากกว่าผู้ชายในช่วงอายุเดียวกัน ..ลองถามเพื่อนผู้ชายวัยเดียวกันดูบ้างก็ได้ ..ผมอยากเดาว่า อาจจะเป็นเรื่องฮอร์โมน


3. สภาพแวดล้อม

ในห้องแอร์เย็นมากๆซึ่งมีอากาศแห้ง ในห้องที่มีฝุ่น หรือในห้องที่มีควันมากๆอย่างควันบุหรี่ ผู้ที่นั่งดูโทรทัศน์นานๆ นั่งเล่นคอมพิวเตอร์นานๆ หรือนั่งดื่มสังสรรค์ จะเกิดอาการตาแห้งเร็วกว่านั่งในห้องปกติ


4. ยา

การใช้ยาบางชนิดจะทำให้เกิดอาการตาแห้งได้ในบางคน เช่น ยาลดน้ำมูก ยาแก้แพ้ ยาขับปัสสาวะ ยาคุมกำเนิด เป็นต้น


5. การใส่คอนแทคเลนส์

ผู้ที่ใช้คอนแทคเลนส์นานๆจะมีอาการตาแห้งมากกว่าคนปกติ







6. พฤติกรรมการใช้สายตา

คนที่ใช้สายตาเพ่งมองสิ่งใดสิ่งหนึ่งแบบไม่ยอมกระพริบตา เช่นมองหน้าจอคอมพิวเตอร์ มองหน้าจอโทรทัศน์ แม้ร่างกายจะพยายามกระพริบตาแบบไม่รู้ตัวแล้วก็ตาม แต่เพราะเจ้าของดวงตาฝืนมอง พยายามมองแบบไม่ยอมกระพริบตา จึงทำให้เกิดอาการตาแห้ง ระคายเคืองตา แสบตา ตาแดง ปวดตา ตาพร่า สู้แสงไม่ได้


7. การฉายรังสี

ผู้ที่ได้รับการฉายรังสีเพื่อรักษาเนื้องอกบริเวณใบหน้า อาจทำให้มีการทำลายต่อมสร้างน้ำตาธรรมชาติ


8. โรคบางอย่าง

มีโรคบางอย่างที่ทำให้คนมีอาการตาแห้ง เช่น เยื่อบุตาอักเสบ โรคริดสีดวงตา โรคแพ้ภูมิคุ้มกันตัวเอง โรครูมาตอยด์ โรคเอสแอลอี เป็นต้น





การป้องกันและแก้ไขอาการตาแห้ง


ถ้าอาการตาแห้งเกิดขึ้นจากอายุที่มากขึ้น คงยากที่จะหลีกเลี่ยง ก็เหมือนกับผิวพรรณที่มีอาการหย่อนยานหรือเหี่ยวลง เราจะห้ามไม่ให้เกิดย่อมทำได้ยาก.. แต่เราอาจจะชะลออาการตาแห้งให้เกิดขึ้นเล็กน้อยและเกิดขึ้นช้าได้บ้าง







1. รับประทานอาหารสด สะอาด ให้ครบทั้ง 5 หมู่ และโดยเฉพาะอาหารที่มีวิตามิน A , C และ E ซึ่งจะพบมากในแครอท มะละกอ ฟักทอง มะเขือเทศ มันเทศ ส้ม บรอคโคลี่ ผักบุ้ง เมล็ดอัลมอนด์ น้ำมันตับปลา เป็นต้น จะไม่รับประทานไม่ได้



2. ออกกำลังกายสม่ำเสมอให้ร่างกายแข็งแรง พักผ่อนให้เพียงพอ ทำจิตใจให้แจ่มใส



3. เมื่อต้องอยู่กลางแดดจ้า เจอลมพัดแรงและมีฝุ่นละออง เช่นขับขี่รถจักรยานยนต์ นั่งท้ายรถกระบะ จะต้องสวมแว่นกันแดด รวมทั้งต้องสวมแว่นป้องกันอันตราย(Safety Glasses)เมื่อทำงานที่มีความเสี่ยง เช่น อ๊อกโลหะ เจียรเหล็ก สกัดหิน เป็นต้น หรือเมื่อเล่นกีฬาที่มีความเสี่ยง เช่น ยิงปืน ฟันดาบ เบสบอล เป็นต้น







4. ดูโทรทัศน์ในที่ที่มีความสว่างมากกว่า 20 แรงทียน และดูห่างจากจอเป็น 5 เท่าของขนาดความกว้างของจอภาพ ..ควรตักเตือนลูกหลานเสมอไม่ให้นั่งจ้องดูโทรทัศน์ใกล้จอเกินไป



5. จัดวางคอมพิวเตอร์โดยหันด้านข้างไปทางหน้าต่าง ไม่ควรจะหันด้านหลังหรือหันด้านหน้าคอมพิวเตอร์ไปทางหน้าต่าง แต่หากวันใดข้างนอกแดดจ้ามาก ก็อาจจะปิดม่านหรือปิดบานเกล็ดเพื่อลดปริมาณแสงภายในห้อง แสงไฟที่ใช้เหนือเพดานก็ควรจะปรับความสว่างให้เหมาะสม และควรจะหลีกเลี่ยงการใช้โต๊ะและเฟอร์นิเจอร์ที่มีผิวสะท้อนมันวาว







6. จัดวางหน้าจอคอมพิวเตอร์ห่างจากดวงตาประมาณ 20-28 นิ้ว(นับง่ายๆก็ประมาณ 2 ฟุตหรือประมาณมากกว่า 1 ช่วงแขนเล็กน้อย) ระดับจอภาพควรจะอยู่ต่ำกว่าระดับสายตาประมาณ 4-9 นิ้ว ..อนึ่ง จัดวางคีย์บอร์ดและเม้าส์ต่ำกว่าระดับข้อศอก และปรับความสูงของเก้าอี้ให้เหมาะสม โดยมุมตรงเข่ากับเก้าอี้ควรมากกว่า 90 องศาเล็กน้อย เก้าอี้ที่ดีควรจะมีที่พักแขน



7. ควรใช้แผ่นกรองแสงที่จอคอมพิวเตอร์ หรืออาจเลือกใช้จอคอมพิวเตอร์ชนิด LCD (จอแบน) เพราะจะช่วยถนอมสายตาได้ดีกว่าจอคอมพิวเตอร์แบบเก่า (CRT)



8. เลือกใช้ตัวอักษรขนาดที่เห็นถนัดตาในขณะพิมพ์งาน ควรปรับความเข้มของตัวอักษรให้มากขึ้น ..ซึ่งขนาดตัวอักษรและความเข้มที่เหมาะสมจะสังเกตได้จากการที่เราอ่านตัวอักษรนั้นยังพอได้ในระยะห่างเป็น 3 เท่าของระยะนั่งทำงานปกติ



9. อาการตาแห้ง เกิดจากการที่เรามีสมาธิเพ่งจ้องอะไรนานๆ โดยไม่ยอมกระพริบตาหรือกระพริบตาน้อยครั้ง เช่น 6 - 8 ครั้งต่อนาที ..จึงต้องหมั่นกระพริบตาบ่อยๆ เพื่อให้เกิดน้ำตาหล่อลื่นในดวงตา



10. เปลี่ยนอิริยาบถจากการนั่งจ้องหน้าจอคอมพิวเจอร์หรือจอโทรทัศน์ ทุกๆ 1 ชั่วโมง เพื่อพักสายตาประมาณ 10 นาที ..โดยอาจจะเดินติดต่องาน พูดโทรศัพท์ ไปห้องน้ำ ไปดื่มน้ำ หรือนั่งคิดวางแผน ..โดยช่วงนั่งคิดวางแผน อาจจะถอดแว่นตาชั่วคราว อาจจะมองไปไกลๆ หรือหลับตา หรือกระพริบตาถี่ๆ







11. หากรู้สึกแสบตา เคืองตา ไม่ควรจะใช้นิ้วมือหรือหลังมือขยี้ตา ควรจะเดินไปห้องน้ำ แล้วใช้น้ำสะอาดล้างตา จะสะอาดกว่า



12. หากจะต้องใช้น้ำตาเทียมหยอดตา จะต้องใช้น้ำตาเทียมที่ยังไม่หมดอายุ และเป็นเฉพาะที่เหมาะกับตนเอง เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับดวงตา



13. ไม่ควรใช้น้ำยาล้างตา มาล้างตาโดยไม่จำเป็น เพราะในน้ำยาล้างตามักจะผสมสารเคมีอ่อนๆเอาไว้ ซึ่งจะทำให้ตาแห้ง และระคายเคืองได้ ..หากจำเป็นจะต้องล้างตา เพื่อล้างบางสิ่งบางอย่างที่เข้าตา ควรใช้น้ำสะอาดในขวดน้ำดื่มจะดีกว่า



14. ควรตรวจสายตาประมาณ 1-2 ปี ต่อครั้งโดยจักษุแพทย์ เพื่อวัดความดันตา และตรวจเช็คความผิดปกติของสายตา แต่เมื่ออายุมากขึ้น การตรวจสายตาจะต้องตรวจถี่ขึ้น








อยากบอกทิ้งท้ายว่า ..ควรเตือนสติตนเองบ่อยๆ


อายุของเราไม่ใช่ 20 หรือ 25 ปีแล้ว ซึ่งควรจะต้องใช้สายตาให้น้อยลงกว่าตอนหนุ่มสาว


ฟันหัก ยังมีฟันปลอมได้ ..แต่ดวงตานั้นมีเพียงคู่เดียว หากเสียไป ..ใช้งานไม่ได้แล้ว


เราจะไม่อาจใช้ดวงตาปลอมคู่ไหนๆ เพื่อการมองเห็นได้อีก.















โดย yyswim










Create Date : 05 เมษายน 2551
Last Update : 5 เมษายน 2551 14:00:28 น. 38 comments
Counter : 11418 Pageviews.

 
แวะมาทักทายช่วงเย็นที่แสนเหนื่อยค่ะ

ตาสวยจังแต่น่าสงสารที่โดนมนุษย์แกล้งเสมอ
ตอนนี้เราก็สงสารสายตาเราจังค่ะ
เริ่มจะแย่แล้วมัง

อิๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
มีความสุขวันหยุดนะค่พี่ชาย
ขอเจิมคนแรกนะค่ะ


โดย: catt.&.cattleya.. IP: 58.9.230.254 วันที่: 5 เมษายน 2551 เวลา:18:26:45 น.  

 
เห็นด้วยครับ

ที่ว่า ดวงตาเรามีคู่เดียว เปลี่ยนไม่ได้ ใช้อย่างถนอมๆนะคับ

ปล. พูดซะทีเชียว ผมเองชอบเล่นเกมส์นานๆซะด้วยดิ


โดย: prezcot วันที่: 5 เมษายน 2551 เวลา:20:59:36 น.  

 
หุหุหุ เพิ่งจะโดนแมวที่บ้านข่วนมา ตาเพิ่งหายแดงเลือดหมาดๆเลย

แวะมาเยี่ยมคุณสินค่ะ สบายดีนะคะ


โดย: รวมการเฉพาะกิจ วันที่: 5 เมษายน 2551 เวลา:21:31:54 น.  

 
ยังไม่ถึงหลักสี่ อยู่แค่แถวๆจตุจักรเอง แ๋ฮ่..ล้อเล่นค่ะ

ตาแห้งเหมือนกัน แต่เพราะใส่คอนแทคเลนส์ค่ะ จ้องคอมพ์ทั้งวันด้วย ต้องหยอดน้ำตาเทียมค่ะ


โดย: เนียนอ๋อง วันที่: 6 เมษายน 2551 เวลา:0:39:21 น.  

 
จริงด้วยค่ะ ฟันปลอมยังมีเปลี่ยน ตาปลอมนี่..เอ๊ย...ตามีคู่เดียวไม่มีเปลี่ยน...


โดย: ลิตช์ (Litchi ) วันที่: 6 เมษายน 2551 เวลา:0:39:23 น.  

 

สรรสร้างเสมอเลยนะครับบล็อคนี้
ต้องขอโทษด้วยนะครับที่ไม่มีเวลามาเยื่อน
แต่ไงก็ยังรู้สึกดีๆ กับมิตรภาพเสมอนะครับ

แวะมาทักทายราตรีสวัสดิ์ครับ


ดึกไปหน่อยนะ อิอิ



โดย: ฟ้าสดใส ทะเลสีคราม วันที่: 6 เมษายน 2551 เวลา:1:13:07 น.  

 


คุณแคท....วันเสาร์เป็นวันตรุษไทย เป็นวันหยุดต้นเดือน มีงานเยอะเหรอครับ

เรื่องตา ผมขอแนะนำให้อย่าจ้องทำอะไรนิ่งนานๆ พักเป็นช่วงๆจะดี กระพริบตาบ่อยๆ(ตอนไม่มีใครเห็น ก็ดีครับ) ถ้ารู้สึกแสบตา เคืองตา อย่าขยี้ ล้างน้ำสะอาดดีที่สุด


น้องหมอ....ขอบคุณที่มาเยี่ยม เรื่องนี้หากรู้เยอะ เมนต์แนะนำเยอะก็ได้


คุณหนิง...คุณหนิงโดนแมวข่วนหน้าร้อน แถวดวงตา น่าจะใส่ใจรักษาครับ เป็นห่วง

สำหรับผม สบายดีตามปกติ มีแสบตาเรื่องใช้คอมพ์นานๆบ้าง


เนียนอ๋อง.....ขอบคุณครับที่แวะเยี่ยม เดี๋ยวนี้พลฯเจฟ ก็ไม่ค่อยว่างมา

ใช้คอนแทคเหรอ ผมใช้แว่นครับ ยังไม่เคยใส่คอนแทคเลย

คอนแทค หมอบอกว่าควรถอดบ่อยๆ ก็คล้ายกับแว่น หากไม่จำเป็นก็ถอดออกบ้าง คอนแทคจะทำให้ตาแห้งครับ ทุกเอกสารบอกตรงกัน ขอยืนยัน


คุณลิตช์.....ไม่มีปัญหาเรื่องสุขภาพใช่มั๊ย? โอ เป็นลาภ เป็นน้ำตก


คุณหนุ่ม....มาเยี่ยมบล๊อกผมยามดึก ดีซิ เจอตัวผม เพราะผมเป็นคนนอนดึก

เพิ่งดูบอลจบไปสองคู่ แต่ทีมของผมจะเตะคืนพรุ่งนี้


เรื่องตาแห้งที่บล๊อกนี้ ..น้องหนุ่ม คุณตรี ยังอายุน้อย ยังฟิตปึ๋งปั๋ง แต่พริ้นท์ไปให้คุณแม่อ่าน หรือถ่ายซีร็อกซ์แจกที่วัดก็ได้ มีหลายคนมีปัญหาตาแห้ง แต่เขาจะรำคาญแล้วขยี้ตา ซึ่งไม่ดี ไม่ได้แก้ปัญหา หนำซ้ำอาจจะมีความสกปรกเข้าตาได้






โดย: yyswim วันที่: 6 เมษายน 2551 เวลา:1:53:29 น.  

 
อจ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกส์ พี่สิน
อ้อเข้ามาเห็นข้อความแรกสุดว่า "บล็อกวันนี้เหมาะกับคนหลักสี่.." เหอ เหอ
อ้อนึกว่าสำหรับคนที่อยู่หลั่กสี่ หรือประตูน้ำซ่ะอีกแน่ะ อิอิ

จะว่าไปแล้วเยี๊ยะ อ้อเหลืออีกตั้ง 4 ปีแน่ะค่ะพี่สินถึงจะได้อยู่หลัก 4 กะเขา emo คริ คริ
ใหนว่าอย่างไงบ้างอ่านดูหน่อยชิ........

โฮ...เป็นข้อมูลที่ดีมากเลยค่ะพี่สิน
ว่าแล้วเชียวว่าทำไมพักหลัง ๆ นี้อ้อถึงได้อยากดื่มน้ำแคล็อตอยู่บ่อย ๆ จนทำแคล็อตดื่มอาทิตย์ละ 2 แก้ว ?
เป็นเพราะว่าสถาพร่างกายเราปรับเปลี่ยนไปเองโดยธรรมชาติเนาะ..

" ฟันหัก ยังมีฟันปลอมได้ emo..แต่ดวงตานั้นมีเพียงคู่เดียว หากเสียไป ..ใช้งานไม่ได้แล้ว emo ใช่เลยค่ะพี่สิน

ขอบคุณที่นำข้อมูลดี ๆ มาบอกกล่าวกันตรงนี้น่ะค่ะพี่สิน emo
รักษาสุขภาพด้วยน่ะค่ะ



โดย: sao-aor วันที่: 6 เมษายน 2551 เวลา:2:21:47 น.  

 
ตอนนี้เลยหลัก 3 มาได้ไม่นาน กว่าจะเข้าหลักสี่
อาจจะต้องขับรถนานเลยคะเพราะขับมาตั้งแต่
ลำปาง 55+
(แอบเล่นมุกไม่รู้คุณสินจะขำหรือเปล่าหนอ)

เอาค่ะ มาคุยจริงๆล่ะว่า ตอนนี้อายุเลยหลัก 3 มาได้
นิดหน่อย แต่บอกได้เลยว่าใช้สายตาเปลืองมากค่ะ
กว่าจะเข้าหลักสี่ ที่โอกาสในการตาแห้งได้นั้น
อาจจะต้องผ่านโรคเกี่ยวกับตามาเยอะโข .. อันนี้ถูก
ปรามมาเหมือนกันค่ะจากหมอตา เค้าบอกว่านู๋น่ะ
จะมีปัญหาเรื่องตาเป็นต้อลมบ่อยมาก เพราะกิจวัตรประจำวัน
มันพัวพันอยู่กับคอมพิวเตอร์ซะเยอะ เค้าบอกว่า
โอกาสเป็นเรื่อยๆ น่ะสูงเลย และก็ไม่น่าจะหาย ยังไง
ก็ต้องปรามๆ ตัวเองไว้บ้าง อันนี้เชือ่เลยนะค่ะ
เพราะว่าหลังๆ ก็ห่างบล็อก ห่างคอมบ้างแล้ว แต่ใช่ว่า
จะหยุดนะคะ เพราะมันก็เอาสายตาไปทำอย่างอื่น
เหมือนกันอ่ะค่ะ ..


เป็นอะไรเกี่ยวกับตาต้องระวังเลยเพราะว่าไม่อยาก
ตาบอดก่อนวัยอันควร เพราะว่าโลกนี้ยังมีสิ่งสวยงาม
รอเราให้เห็นอยู่มากมาย ต้องระวังกันล่ะคะ ... แล้วคิดดู
ว่าเราเห็นอะไรมาเยอะ ถ้าตาบอดมา มันคงลำบาก
น่าดูเหมือนกันนะค่ะ กลัวแบบนี้แล้วก็ต้องระวังอย่าให้
มีโอกาสเสี่ยงในการเป็นอะไรก็ได้เกี่ยวกับตา เป็นดีที่สุด
อ่ะนะค่ะคุณสิน

......................


ที่ถามเรื่องถ่ายรูปพระหลวงน้องเอาไว้หรือเปล่านั้น
ถ่ายมาบ้างค่ะ แต่ว่าไม่เยอะมาก แล้วก็ภาพไม่ค่อยสวย
ด้วยอ่ะคะ เสียดายมากๆ เลยด้วย ที่เห็นได้ว่าดีก็มี
แต่ที่เอามาแปะบล็อกที่อัพเกี่ยวกับหลวงน้องเท่านั้น
ล่ะค่ะคุณสิน


โดย: JewNid วันที่: 6 เมษายน 2551 เวลา:10:23:30 น.  

 
เอ้อ พอดีหนูอยู่ลาดพร้าวอ่ะค่ะพี่สินมะถึงหลักสี่ค่ะ อิๆ
ดีค่ะให้ความรู้ดีจะได้รู้จักป้องกันและรักษาหน้าต่างของหัวใจไว้เนิ่นๆ

พี่สินสบายดีนะคะ ช่วงนี้หนูก็วุ่นอยู่คนเดียวละค่ะ
เดี๋ยวสงกานต์ก็หยุดยาวอีก
แต่ไม่ได้ไปไหนหรอกค่ะ


โดย: kai (aitai ) วันที่: 6 เมษายน 2551 เวลา:13:00:44 น.  

 
เย้ๆๆๆๆๆๆ

แวะมาหาคุณสินก่อน กลัวเป็นห่วง

เรื่องตา หนิงไปหาหมอมาแล้วค่ะ หมอบอกว่าไม่เป็นไร ขอบคุณที่เป็นห่วงค่ะ

เรื่องร้าน ตอนนี้ก็มีค่ะ โทรมาสั่งแล้วมารับไปเอง เนี่ย หนิงกำลังคิด อยากย้ายร้าน แต่ลงทุนค่อนข้างสูง กำลังคิดถึงความเป็นไปได้ และความพร้อมของหลายๆอย่าง บางคนเคยบอกว่า ย้ายร้านไปเมื่อไหร่ จะไม่ค่อยดี เหมือนนักร้องเวลาออกเทปมั้ง ชุดแรกจะดี ชุดที่สองเงียบๆ

ตอนนี้กำลังคิดอีกว่า จะติดป้ายสอนอาหารไทยเป็นเรื่องเป็นราวซะทีดีมั้ย ตอนนี้ก็รับสอนนะคะ เป็นกลุ่มเล็กๆ เดือนละครั้ง หนิงอะ มีแต่ความคิด จนเพื่อนๆตั้งให้ว่าเป็นเจ้าแม่โปรเจค

ความคิดร้อยแปดพันเก้า วันนี้ วันหยุด พักผ่อนสบายๆๆนะคะ


โดย: รวมการเฉพาะกิจ วันที่: 6 เมษายน 2551 เวลา:13:24:32 น.  

 
อ่านตอนแรกงงค่ะ ฝากคนหลักสี่ แอนก็นึกว่าสำหรับคนที่อยู่แถวหลักสี่ อ่านไปอ่านมาอ๋อ พูดถึงอายุคน ดีค่ะชอบค่ะ เหมาะกับแอนมากเพราะแอนก็จะเข้าหลักสี่

ปล.ขอบคุณสำหรับกำลังใจเรื่องลูกนะค่ะ


โดย: thattron วันที่: 6 เมษายน 2551 เวลา:13:36:30 น.  

 



รอดตัวไป แค่หลักสาม อิอิ
คุณสินสบายดีนะครับผม


//aqui94.exteen.com/
แวะไปที่บ้านใหม่กันบ้างนะครับ

ขอบคุณครับ



โดย: Marvellous Boy วันที่: 6 เมษายน 2551 เวลา:20:58:49 น.  

 
ขอบคุณครับ เป็นประโยชน์และเป็นสิ่งที่เตือนใจให้คอยระมัดระวัง รักษาดวงตาที่มีค่า คู่นี้ให้ดีที่สุดครับ


โดย: ตงเหลงฉ่า วันที่: 6 เมษายน 2551 เวลา:22:16:40 น.  

 
ได้มาอ่านสาระดีๆวันนี้ขอบคุณ คุณสินจริงๆค่ะ
ช่วงนี้มดทิพย์รู้สึกว่าใช้สายตาบ่อยทำให้ตาพร่ามัวเหมือนคนแก่เลยค่ะ สงสัยอยู่เหมือนกันว่าตัวเองจะเป็น คนสายตาสั้น
ต่อไปคงต้องรักดวงตาให้มากขึ้นกว่าเดิม เพราะที่ผ่านมาใช้งานมันหนักค่ะ
ดึกแล้วป่านนี้คุณสินคงเข้านอนแล้วมั้งค่ะ


โดย: มดทิพย์ วันที่: 7 เมษายน 2551 เวลา:0:41:16 น.  

 


คุณอ้อ....สามโหลแล้ว นิ กำลังแก่และมันพอดี อิอิอิ

ขอบคุณคำชมครับ


คุณพู่.....ยังสดใหม่ แต่คุณภาพเหลือล้ำครับ

ภาพหลวงน้อง ผมยังไม่เคยเห็นครับ เชื่อว่าคงจะผ่องงดงามด้วยเนื้อนาบุญ



คุณไก่ ...สงกรานต์ ไม่อยากเจอคนเยอะ งั้น คงจะอยู่พักผ่อนที่บ้าน ขอให้มีความสุขมากๆนะครับ ถ้าอยู่ใกล้ๆกัน จะไปรดน้ำดำหัวให้



คุณหนิง....คนที่ผมรู้จัก แบบว่าเธอเป็นลูกศิษย์ผมน่ะ เธอเป็นอาจารย์สอนขนมไทยในกรุงเทพครับ ก็ธุรกิจช่วงแรกดี แต่ตอนนี้ตกครับ คนไม่ค่อยเรียน

เรื่องทำอาหารแบบเดลิเวอรี่ หากผมจะขอแนะนำ อย่าโกรธนะ

ควรทำใบปลิวบอกประเภทอาหารพร้อมคำอธิบาย

ควรโทร.ไปสอบถามลูกค้าประจำว่าสนใจจะรับประทานอาหารที่ร้านหรือไม่บ้าง

รสชาติอาหารควรมีสองเกรด เกรดคนไทยรับประทานกับเกรดคนญี่ปุ่นรับประทาน

ความรวดเร็วและความสุภาพในการจัดส่งเป็นหัวใจสำคัญไม่ยิ่งหย่อนกว่ารสชาติ

จำนวนอาหารที่ขายแบบเดลิเวอรี่ควรจะขายปริมาณมากกว่าในร้าน

หากมีอาหารเมนูใหม่ควรแจกให้ลูกค้าประจำทานฟรีสักครั้ง



คุณแอน.....เรื่องความมุ่งหวังมีลูก มีได้นะครับ แต่ผมอยากจะขอแนะนำว่า ควรปล่อยวางจะดีกว่า ยิ่งมุ่งหวังมาก จะยิ่งย้ำคิด แล้วจะเป็นความเครียด

น้องสาวของผม ตอนที่เธอมุ่งหวัง ช่วงแรกๆน้องก็ไม่มีครับ พอผ่านไปหลายปี น้องสาวไม่ค่อยคิดแล้ว เธอบอกว่ามีก็ได้ ไม่มีก็ได้ แล้วเธอกลับได้ลูกที่น่ารักมากครับ



เอก....พระเอกหุ่นดีมาเยี่ยม อู้ว์ ไม่เจอกันนานเลย สบายดีนะ เขียนบล๊อกสนุกนะ

นายเข้ามาเนี่ย ได้ไปเยี่ยมใครมั่ง ซีบวก กุมภีณ ไปหากันมั่งมั๊ย?

เดี๋ยวผมจะตามลิ๊งก์ไปหานะ


ตง.....ว่างๆนำเรื่องนี้ให้คุณแม่ของตง อ่านซิ เผื่อท่านจะแสบตา ท่านจะได้สบายใจว่าไม่ใช่เรื่องแปลกเกินไป และอย่าพยายามขยี้ตา ใช้กระพริบตาบ่อยๆ หรือล้างหน้าแทนการขยี้ตา






โดย: yyswim วันที่: 7 เมษายน 2551 เวลา:0:43:55 น.  

 


คุณตรี.....ผมก็ใช้สายตามากครับ ใช้หนักมาตั้งกะเรียนหนังสือในมหาลัยแล้ว มีแสบตาอยู่เหมือนกัน ก็เลยพยายยามจะหาอ่านเรื่องนี้ และเข้าฟังสัมมนาเรื่องนี้ แล้วก้อนำมาเขียนครับ

อ้อ ตรงไหนที่มีการทดสอบตรวจวัดสายตา ผมก็จะเข้าไปตรวจสายตาเสมอ ยังดีครับ หมอตาบอกว่าดวงตายังมีสุขภาพดีครับ






โดย: yyswim วันที่: 7 เมษายน 2551 เวลา:0:50:55 น.  

 
สวัสดีครับพี่สิน


ตอนนี้มีปัญหาตาหวาน ตาเยิ้ม
แต่ไม่สามารถไปปฏิบัติกับสาวคนไหนได้ครับ
นอกจากมาดาม




5555



พี่สินครับ
เดี๋ยวผมขออนุญาตนำลักษณะการเขียนโคลงแบบต่อเนื่องที่พี่สินเม้นท์ไว้
มาเขียนต่อหน่อยนะครับ
ท่าทางจะสนุกดีครับ



โดย: ก.ก๋า (กะว่าก๋า ) วันที่: 7 เมษายน 2551 เวลา:7:40:58 น.  

 



โดย: อุ้มสี วันที่: 7 เมษายน 2551 เวลา:13:04:28 น.  

 

ก วรกะปัญญา....เมื่อวาน กรุงเทพมีฝนตกตอนกลางคืน วันนี้แดดจ้าอีกครับ

กรุงเทพร้อนมั๊ย? ตัวผมเอง ก้อไม่ค่อยเท่าไหร่ อาจจะเพราะอยู่แต่ในห้องปิดหน้าต่าง แล้วเปิดพัดลม บางช่วงก็เปิดแอร์ ก็สบายใจดี วันนี้สระไม่เปิด อยู่ในห้องตลอดวัน

ทางเชียงใหม่ มาดาม บ่นร้อนมั่งเปล่า? แต่อยู่ใกล้คนรู้ใจอย่างกิจ โลกคงจะมีแต่ดอกไม้ ขอให้กิจน้อยเจริญเติบโตแข็งแรง ผมจะรอฟังข่าวดีครับ


ผมเขียนกลอนไม่เป็นเลยครับ ชอบภาษาไทยนะ แต่หัวสมองด้านเขียนกลอนไม่ค่อยไป อาจจะเพราะเป็นคนไม่เคยคิดเรื่องรัก โศกเศร้า หรือเพ้อฝัน แต่ก็ไม่ได้เครียดหรอก ผมดูพวกดันดารา ชิงร้อยชิงล้าน หรือชิงช้าสวรรค์อย่างสนุกทุกครั้ง

กิจจะเขียนกลอนแบบคำต่อเนื่องเหรอ? ดี นี่ ผมอยากอ่าน ยิ่งหากเปิดโอกาสให้เพื่อนๆร่วม อาจจะสนุก ขำขัน


คุณอุ้ม.....มาแบบแปะรูปเลยเหรอ? เอ้อ ขอบคุณครับ





โดย: yyswim วันที่: 7 เมษายน 2551 เวลา:20:59:41 น.  

 
สวัสดีคุณสิน หนุ่มผู้มีรอยยิ้มหวานจ๋อย
ย่าไม่ค่อยได้เห็นคุณไปทักที่บล๊อกเลยเน๊อะ
สงสัยจะงานยุ่ง

บทความเปี่ยมไปด้วยคุณภาพอีกเช่นเคย
เห็นด้วยค่ะ ถ้าตาเป็นอะไรไปก็จบเห่เลย

อย่างย่านี่จบเป็นสองเท่าเพราะไม่ได้ถ่ายรูปมั๊ง
พักหลังๆก็เริ่มเบื่อแล้วหล่ะ บางทีนะยังคิดอยู่เลย
ว่าถ่ายมาทำไม้ 555


โดย: ดา ดา วันที่: 8 เมษายน 2551 เวลา:10:08:23 น.  

 
ยายเคยว่า แก่แล้วไม่มีอะไรดี ตาที่เคยมองชัดๆก็ฝ้าฟาง ผิวหนังเคยตึงก็หย่อนยาน อนิจจังสังขารเนาะ มาแนวธรรมะนะวันนี้เรา

แต่เรื่องตานี่สมควรต้องไปตรวจจริงๆแหละค่ะเพราะมันไม่มีอะไหล่นะ เพราะฉะนั้นต้องใช้กันแบบถนอมหน่อย


โดย: ณ มน วันที่: 8 เมษายน 2551 เวลา:10:14:36 น.  

 
สวัสดีคร้าบ
ขอบคุณที่แวะไปหย่อนคำทักทาย
เสียดายจริงๆ ไม่ได้เจอกัน
ขนมจีนอร่อยมั้ยคร้าบ

เปิดไปดูเวปพันทิปบันทึกนิยาย "โรงเรียน ฮ นกฮูก"
เออ..หล่นหายไปแล้ว
แต่ไม่เป็นไร เผอิญมีเพื่อนๆที่ชอบเรื่องนี้ขอ save ไว้
ในเวปนี้เลย

//www.7values.tv/?p=73
อ่านให้สนุกนะคร้าบ
เอาใจช่วย หม่าม้ารุ้งพลบด้วย


โดย: กูรูขอบสนาม วันที่: 8 เมษายน 2551 เวลา:12:47:29 น.  

 


ย่าดา.....ขออภัยนะครับหากไปเยี่ยมบล็อกย่าดาน้อยไป

ย่าดาถ่ายภาพสวยมาก บางบล็อกยังแถมค้นคว้าเรื่องราวดีๆมาให้อ่าน สมควรที่จะต้องไปเยี่ยมบ่อยๆ ถูกเลย...

วัดจีน ย่าดาถ่ายเกริ่นเรื่อง ไว้สวยนะครับ ผมจะรออ่านตอนต่อไปนะครับ หากจะกรุณาสะกิดหน่อย ก้อจะดีครับ จะรีบเหาะไปอ่าน

สุขภาพของย่าดาแข็งแรงดีมากๆ ดีกว่ากว่าคนวัยเดียวกัน ผิวพรรณก้อตึงแน่น ขาแขนแข็งแรง แบบนี้ ดวงตาก้อต้องมีสุขภาพดีอย่างแน่นอน

หากย่าดาเคืองนัยน์ตา อย่ารีบใช้มือหรือหลังมือขยี้นะครับ ล้างด้วยน้ำสะอาด ดีที่สุด


คุณ ณ มน....คุณแม่ผมไปหาจักษุแพทย์ เป็นประจำครับ สูงวัยขึ้น ก็มีน้ำตาเทียมช่วยหยอด แต่ก็ยังพอมองเห็นทีวีโดยไม่ต้องใช้แว่น ผมสิ ใช้แว่น โฮะโฮะโฮะ





โดย: yyswim วันที่: 8 เมษายน 2551 เวลา:13:18:17 น.  

 
ใช่ครับหนัง คีอานู รีฟ STREET KINGS

ช่วงนี้ผมเองก็มีปัญหาด้านดวงตานะ
ตาแห้ง แต่ต้องอยู่หน้าคอมบ่อยๆ
เป็นขนาดเส้นเลือดในตาแตกเลย
ต้องหยอดตาบ่อยๆ
เวลาไปเดินห้าง ก็รู้สึกแสบตา
หลังๆใช้คอมที่ไร ก็ต้องหาแว่นถนอมสายตามาใส่ล่ะ


โดย: กำเนิดตั้งอยู่ดับไป วันที่: 8 เมษายน 2551 เวลา:13:23:47 น.  

 
คุณสินย่าส่งโค๊ตไปให้ทางหลังไมค์แล้วนะคะ
จะเป็นทั้งเซท เปลี่ยนสีตัวอักษร,แบคกราวน์,สีลิงค์ และสีสคอลบาร์ ให้เข้าชุดกัน

หากสงสัยสอบถามได้ค่ะ


โดย: ดา ดา วันที่: 8 เมษายน 2551 เวลา:13:53:51 น.  

 
ที่ห้อง ก็มีกระดาษไซส์A4 เยอะ ..อยากจะโละให้ใครเหมือนกัน ใครก็ได้

เพราะหากผมขาย โฮะโฮะ ผมไม่ค่อยรู้คุณค่าเงินครับ แป๊บเดียวก็หมด






โดย: yyswim



โละ ให้แม่โสมค่ะ

ได้โปรด

กระดาษ ทั้งใช้แล้วด้านเดียว สองด้าน

เก่าเหลือง

ยังไมได้ใช้

ได้หมดค่ะ

แม่โสมมีโอกาสได้ใช้แน่นอน

เพราะ แม่โสมเห็นคุณค่าของของทุกอย่าง

ว่าแต่ คุณพี่ y บ้านอยู่ย่านไหนคะ

ของเยอะไหมคะ

จะได้เคยรถไปรับ

เย่


โดย: โสมรัศมี วันที่: 8 เมษายน 2551 เวลา:16:46:17 น.  

 


คุณกำเนิดตั้งอยู่ดับไป....ระมัดระวังหน่อยนะครับเรื่องตา แต่ผมแทบจะไม่ต้องเตือนมาก เพราะคุณคงจะให้ความสำคัญอยู่แล้ว

สุขภาพดีเป็นลาภอันประเสริฐ


ย่าดา......ย่าดาครับ ผมขอบพระคุณย่าดามากๆ ผมคงจะค่อยๆศึกษาโค๊ตครับ คงได้ใช้แน่นอน แต่อาจจะช้าหน่อยเท่านั้น


แม่โสม....ผมอยู่แถวดินแดงครับ เกรงใจครับ ระดับเศรษฐีสาวจะแวะมาบ้าน เกรงใจครับ กระดาษคงได้ไม่กี่ตังค์มั๊ง ...400 บาท ไม่น่าจะถึงหรอก

ผมค่อยแบ่งให้เด็กประถม หรือรปภ.นำไปขายสักวัน ผมพักอยู่ชั้น 5 ครับ ต้องขึ้นมายกไป





โดย: yyswim วันที่: 8 เมษายน 2551 เวลา:23:59:48 น.  

 
อีกหลายปีครับ กว่าผมจะถึงหลักสี่
แต่ก็ ขออาศัยอ่านเป็นความรู้ไว้ล่วงหน้าละกัน
เพราะก็มีปัญหาเรื่องดวงตา สายตา อยู่


โดย: Commencer วันที่: 9 เมษายน 2551 เวลา:8:41:24 น.  

 
สวัสดียามสายค่ะพี่สิน...

คิดงานเพลินๆ
เริ่มเปลี่ยนจากความเพลินเป็นความเครียด
เพราะคิดไม่ออก
เลยแวะออกมาดูโลกภายนอก
แวะมาแถวนี้...
ได้ความรู้เหมือนเคยค่ะ





โดย: d__d (มัชชาร ) วันที่: 9 เมษายน 2551 เวลา:10:00:21 น.  

 
หวัดดีค่า แวะมาเยี่ยม
ขอเบรคแรงๆๆ เด้วเลยไปหลักสี่ปู๊นนนน
ตอนนี้แค่หลักสามก้อรู้สึกหวิวๆ แล้ว ...อิอิ
ตาแห้งเหมือนกันค่ะ เพราะใส่คอนแทคเลนส์
ใส่มาหลายปีแล้วด้วย ชักกลัวเหมือนกัน

อาจารย์คะ ขอกระซิบนิดนุง บล็อคของน้องข้าวปั้นไม่ได้อัพเดท ไม่ได้เขียนอะไรเลย (ด้วยความไม่รู้จะเขียนไร รู้สึกไม่ค่อยสันทัด อีกอย่างนึงได้ไปเขียนเป็นไดอารีในอีกเว็ปนึงไว้ด้วย) จะเป็นไรมั้ยคะ....555 ถามกว้างไปมั้ยเนี่ย ... ตอบด้วยนะคะ


โดย: แอ่นแอ๊นสะแมนแตน IP: 203.152.15.3 วันที่: 9 เมษายน 2551 เวลา:10:08:59 น.  

 
สวัสดีอีกครั้ง
ตอนนี้ได้นำเรื่อง "โรงเรียน ฮ นกฮูก"
มาไว้ที่บล็อคเรียบร้อยแล้ว
เชิญทัศนาตามสบายครับ


โดย: กูรูขอบสนาม วันที่: 9 เมษายน 2551 เวลา:11:19:11 น.  

 
ว๊ายย..พอพูดถึงหลักสี่ สะดุ้งเลยค่ะ
ตอนนี้ใกล้จะลงสะพานรัชโยธินแล้ววว..แงงง ๆ
ไม่อยากถึงไว ๆ

อ่านข้อมูลโดยละเอียดเลย ข้อมูลเป็นประโยชน์มาก ๆ ค่ะ
จะได้รู้ทันระมัดระวัง ทั้งตัวเอง และก็คนที่บ้านด้วย
ดีนะค่ะ ที่ปกติก็ชอบกินผักผลไม้จำพวกนี้อยู่แล้วซึ่งอุดมไปด้วย วิตามินเอ ซี อี

แต่พฤติกรรมบางอย่างนี่สิ เช่นนั่งหน้าจอนาน ๆ กินยาแก้แพ้
ดูทีวีนาน ๆ นอนแอร์เย็น ๆ และอีกหลายอย่างเลยที่ต้องปรับอีกเยอะเลยละค่ะ
ตอนนี้เริ่มรู้สึกได้มาเกือบ ๆ ปีแล้วหละ แงง ๆ กลัวโรคหลักสี่..


โดย: บ้านดินริมสวน วันที่: 9 เมษายน 2551 เวลา:13:09:41 น.  

 


นัท-คุง....เดินสายแถบอีสาน แดดร้อน สวมแว่นกันแดดนะครับ


น้องดี....ที่นี่ เรื่องเครียดนะครับ อย่าเข้ามาบ่อย ไม่ดี


คุณแอน...ผมไปแนะนำให้แล้วครับ อยู่ในกลุ่มเที่ยวนะครับ


น้องกูรู....จะติดตามอ่านครับ ดีนะ รวมไว้ที่บล๊อกแบบนี้ ดีนะครับ ไม่สูญสลายด้วยแดดหรือลม


คุณบ้านสวน......ข้าวต้มมัด มีคนชมและขอชิมมากนะ ขอยินดีด้วย





โดย: yyswim วันที่: 10 เมษายน 2551 เวลา:1:30:23 น.  

 
อ่านแล้วก็รู้สึกว่าต้องถนอมดวงตามากขึ้นครับ
บางวันเวลาทำงานหน้าคอมผมก็ลืมๆ เวลา
รู้ตัวอีกทีแสบตาปวดหลังไปหมด ไม่ค่อยดีเลย
หยุดสงกรานต์ที่ผ่านมาผมแทบไม่ได้เล่นเน็ท
ได้ไปฟิตเนสด้วย รู้สึกดีขึ้นเยอะเลยครับ


โดย: พลทหารไรอัน วันที่: 17 เมษายน 2551 เวลา:21:39:25 น.  

 


เจฟ....หยุดสงกรานต์ ผมกลับตรงกันข้าม เล่นแต่เน็ต(ท่องเน็ตหาข้อมูลเป็นฐานข้อมูลไว้) แต่ไม่ได้เขียนบล็อกหรอก และไม่ได้ไปออกกำลังกาย เพราะสระ มันปิดทั้ง 5 วัน ว้าวววว แมวอ้วน ซะ


ขอเชียร์นะ เรื่องให้เหงื่อออก เหงื่อออกแล้วจะดี

ผมมักคิดเปรียบเทียบ อุปมาเหงื่อ เหมือนกับ การขับถ่าย การให้น้ำตาไหล การเหรอ และการผายลม

ทั้งหมด จะดีต่อร่างกายทั้งหมดเลย ...ว่างๆ อาจจะเขียนเรื่องแนวนี้ครับ





โดย: yyswim วันที่: 18 เมษายน 2551 เวลา:13:26:22 น.  

 
ดีมากๆเลย มีสาระ
ขอบคุณค่ะ


โดย: gig IP: 114.128.27.234 วันที่: 1 ธันวาคม 2551 เวลา:17:09:17 น.  

 
กวนว่ะ


โดย: ป้าเชอร์ IP: 61.7.183.218 วันที่: 26 พฤศจิกายน 2552 เวลา:17:31:12 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

yyswim
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 40 คน [?]





บล็อกสรรสาระนี้ จขบ.ไม่ได้เขียน-ไม่ได้ถ่ายภาพ-ไม่ได้อัพโหลดคลิปเอง หากแต่ทำหน้าที่เป็นบรรณาธิการบล็อก เสาะหาเรื่องดีๆ รูปสวยๆ คลิปแปลกๆ มาไว้ในบล็อก


ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยม ขอเชิญชมหรืออ่านตามสบาย ไม่ต้องคอมเมนต์ก็ได้ จขบ.ชอบการเข้ามาเยี่ยม แบบกันเอง ง่ายๆ สบายๆ




เริ่มเขียนBlog เมื่อวันที่ 1 มีนาคม พ.ศ.2548


เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม พ.ศ.2550 เวลา 23.30 น.


เริ่มนับจำนวนผู้เข้าเยี่ยมชม




Latest Blogs

New Comments
Group Blog
 
<<
เมษายน 2551
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
5 เมษายน 2551
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add yyswim's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friends


 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.