คำไทยที่ควรรู้
คำไทยที่ควรรู้
ความถนัดและความชอบของแต่ละบุคคล ปกติจะไม่เหมือนกัน ..แม้จะเป็นพี่กับน้อง หรือพ่อกับลูก
ทั้งนี้มีที่มา จากหลายสาเหตุ
.
ใครก็ตาม หากถนัดและปฏิบัติอะไรบ่อยๆ
เขาผู้นั้นมักจะบอกกับผู้อื่นว่า ทำไม่ย๊ากกกก....
คนที่ถนัดทำอาหาร คนที่ถนัดตีแบด คนที่ถนัดขับรถ
เขาจะมักพูดคำ ไม่ย๊ากกกก.... คำนี้ กับเพื่อนบ่อยๆ
คนที่ถนัดคำนวณ คนที่ถนัดแต่งกลอน หรือคนที่ถนัดแก้ไขโค๊ตคอมพิวเตอร์ เขาก็มักจะบอกคล้ายๆกัน
โธ่ ..ทำแป๊บเดียว ไม่นานหรอก ไม่น่าเบื่อหรอก ..แถมสนุก อ๊อก
แต่กับผู้ที่ไม่ถนัด ผู้ที่ไม่คุ้นกับกิจกรรมดังกล่าว ... เขาจะใช้เวลากับกิจกรรมเช่นนี้นานนับชั่วโมงเลยทีเดียว ..มีสภาพหัวยุ่ง ใบหน้าคิ้วขมวด และมีบ่น!!!
นี่หากไม่ถูกบังคับ หรือหากเพราะไม่มีความจำเป็นละก้อ มีหวังล้มเลิกกลางคันไปนานแล้ว
และแม้ว่าจะทำได้จนสำเร็จก็ตาม แต่เชื่อเหอะว่า
ผลงาน จะออกมาไม่ดีเท่ากับของผู้ที่เขาถนัดทำเรื่องนั้นๆอย่างแน่นอน
คุณเนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์, อาจารย์เฉลิมชัย โฆสิตพิพัฒน์, คุณแอ๊ด คาราบาว, คุณเอกราช เก่งทุกทาง, คุณแอน ทองประสม และ คุณหม่ำ จกม๊ก ...แต่ละท่านถนัดไปคนละอย่าง เป็น กูรู ไปคนละด้าน
ลองให้ท่านเหล่านี้ ทำกิจกรรมที่ถนัด ซิ .. แป๊บเดียว แป๊บเดียวเท่านั้น ท่านก็ทำสำเร็จ และด้วยผลงานที่แสนวิเศษ
เชิญอ่าน "ความรัก" ของคุณเนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์
"ความรัก" ไม่ต้องการ แค่วันเดียว
"ความรัก" ไม่ต้องเกี่ยว กับวันไหน
"ความรัก" ไม่ต้องมี เวลาใด
"ความรัก" ไม่ต้องใช้ ให้ใครชี้
"ความรัก" ไม่ต้องมี ข้อวิจารณ์
"ความรัก" ไม่ต้องการ การกดขี่
"ความรัก" ไม่ต้องให้ ใครตราตี
"ความรัก" ไม่ต้องมี เส้นพรมแดน
"ความรัก" ไม่ต้องรอ ข้อพิสูจน์
"ความรัก" ไม่ต้องพูด ตามแบบแผน
"ความรัก" ไม่ต้องการ การตอบแทน
"ความรัก" ไม่ต้องแค่น หัวใจคน
"ความรัก" ไม่ต้องการ การเป็นต่อ
"ความรัก" ไม่ต้องรอ ขอเหตุผล
"ความรัก" ไม่ต้องย้ำ ความมีจน
"ความรัก" ไม่ต้องทน ที่จะรัก
บล๊อกของวันนี้ จะเกี่ยวข้องกับ ความถนัดและความชอบของเพื่อนบล๊อกบางคน
เป็นเรื่องของภาษาไทย หัวข้อ คำไทยที่ควรรู้
ภาษาไทยนั้น เป็นวัฒนธรรมอย่างหนึ่งของชาติไทย ที่คนไทยทุกคนควรจะหวงแหน รักษาไว้ให้มีต่อเนื่องยาวนาน ตราบที่ประเทศไทยยังคงอยู่
เชื่อหรือไม่ว่า ชาวต่างชาตินับล้านคน ต่างเทอดทูนพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว แถมยังรู้สึกอิจฉาลึกๆ ที่ชาวไทยมีล้นเกล้าล้นกระหม่อม ที่เป็นดั่งสมมติเทพ เป็นศูนย์กลางของหัวใจชาวไทยทั้งชาติ
และเชื่อหรือไม่ เกินกว่า 50% ของชาวต่างชาติ เมื่อเราถามเขาถึงเรื่องภาษาไทยๆของเรา ..เขาจะพูดตรงกันว่า
ภาษาของยู ยาก แต่เพราะ(ไพเราะ) ..มันมีเสียงคล้ายๆดนตรี รู้สึกน่าฟัง น่าทึ่ง
อย่างประโยคว่า.. มีหัวใจอยู่แค่หนึ่งดวง ครึ่งแรกบอกว่าคิดถึง อีกครึ่งหนึ่งบอกว่ารัก ...อู้ว์ว์ว์ พูดยากมั่กมาก แต่ เพราะ(ไพเราะ)มั่กมาก
คำไทยที่ควรรู้ มีอยู่มากมาย.. วันนี้ จะขอนำมาให้ได้อ่าน ให้ได้รู้จักกัน พอหอมปากหอมคอ
เชิญหาความสำราญ.....
1.
สาย - เส้น : เป็นคำลักษณะนาม ..อย่างแม่น้ำ -ลำคลอง เราเรียกเป็น "สาย" = สายน้ำ ..ส่วนถนน เราเรียกเป็น "เส้น" = เส้นทาง
2.
เซ็น : มาจาก คำภาษาอังกฤษว่า "Sign" แปลว่า ลงลายมือชื่อ ..เซ็น คำนี้ไม่มี "ต์" การันต์
ส่วนคำว่า เปอร์เซ็นต์ จะมี "ต์"
3.
ฉับพลัน - เฉียบพลัน : ฉับพลัน หมายถึง ในทันทีทันใด
ส่วน เฉียบพลัน หมายถึง รุนแรงมาก ...มักใช้ในวงการแพทย์ เช่น อาการหัวใจวายเฉียบพลัน
4.
แมง - แมลง : แมงมี 8 หรือ 10 ขา ไม่มีหนวด และไม่มีปีก เช่น แมงมุม .. ส่วน แมลง มี 6 ขา อาจมีปีก 1 คู่ หรือ 2 คู่ แต่บางชนิดก็ไม่มีปีก
หมายเหตุ แมลงเป็นสัตว์ที่มีมากชนิดที่สุดในโลก
5.
ภาพลักษณ์ - ภาพพจน์ : ภาพลักษณ์ หมายถึง ภาพที่เกิดจากความนึกคิด .. ส่วนภาพพจน์ หมายถึง คำพูดที่ทำให้เห็นเป็นภาพ
.หมายเหตุ ทั้งสองคำหากต่อท้ายด้วยคำ ที่ดี กับ ที่ไม่ดี ความหมายจะแตกต่าง
6.
พระบรมฉายาลักษณ์ - พระบรมสาทิสลักษณ์ : พระบรมฉายาลักษณ์ หมายถึง ภาพถ่ายพระมหากษัตริย์ .. ส่วน พระบรมสาทิสลักษณ์ หมายถึง ภาพเขียนที่เหมือนจริงของพระมหากษัตริย์
7.
หมายกำหนดการ กำหนดการ : หมายกำหนดการ เป็นคำราชาศัพท์ หมายถึง ขั้นตอนงานพระราชพิธี เช่น หมายกำหนดการพระราชพิธีจรด พระนังคัลแรกนาขวัญ .. ส่วน กำหนดการ หมายถึง ขั้นตอนงานทั่วไป เช่น กำหนดการสัมมนา กำหนดการแถลงข่าวสื่อมวลชน
8.
ทู่ซี้ - เซ้าซี้ : ทู่ซี้ - หมายถึง ทนไปจนกว่าจะตาย .. ส่วน เซ้าซี้ หมายถึง การแสดงออกทางการพูด รบเร้าเพื่อให้ได้สิ่งที่ต้องการ
9.
เผยแผ่ เผยแพร่ : เผยแผ่ หมายถึง ทำให้ขยายออกไป ส่วนใหญ่ใช้กับการทำให้ศาสนาต่างๆขยายออกไปทั่วโลก ... ส่วน เผยแพร่ ซึ่งมีความหมายเช่นเดียวกันกับ เผยแผ่ แต่มักใช้กับการ โฆษณาประชาสัมพันธ์ให้คนอื่นรู้ เช่น กระทรวงสาธารณสุขเผยแพร่ข่าวสารเรื่องไข้หวัดนกแก่ประชาชนทุกจังหวัดทั่วประเทศ
10.
ขมีขมัน ขะมักเขม้น : ขมีขมัน - ขะมักเขม้น ทั้งสองคำเป็นกริยา .. ขมีขมัน หมายถึง รีบเร่งในทันทีทันใด (อ่านว่า ขะ-หมี-ขะ-หมัน) .. ส่วน ขะมักเขม้น หมายถึง ตั้งใจทำอย่างรีบเร่ง ก้มหน้าก้มตาทำ (อ่านได้สองแบบ คือ ขะ-มัก-ขะ-เม่น และ ขะ-หมัก-ขะ-เม่น)
11.
ผัด-ผลัด : ผัด หมายถึง ขอเลื่อนเวลาไป เรามักจะพบ ในคำว่า ผัดผ่อน, ผัดวันประกันพรุ่ง เช่น ฉันขอผัดผ่อนค่าเช่าบ้านไปอีกสักเดือน .. ส่วน ผลัด หมายถึง เปลี่ยนแทนที่กัน เราจะใช้ ในคำว่า ผลัดเปลี่ยน, ผลัดกัน เช่น พนักงานรักษาความปลอดภัยผลัดเปลี่ยนเวรกันตอนสองทุ่ม
12.
วงการ แวดวง : วงการ หมายถึง กลุ่มบุคคลที่สนใจหรือประกอบอาชีพอย่างเดียวกัน เช่น วงการบันเทิง วงการธุรกิจ .. ส่วน แวดวง หมายถึง กลุ่มบุคคลที่ดำเนินชีวิตเกี่ยวข้องกัน เช่น เขาเห็นคุณค่าของงานศิลปะ เพราะมีชีวิตอยู่ในแวดวงศิลปินมาตลอด
13.
ออมชอม : เป็นคำกริยา มีความหมายว่า ปรองดองกัน ตกลงกันด้วยการไกล่เกลี่ย เช่น สามีภรรยาคู่นี้ทะเลาะกันได้ทุกวัน ไม่รู้จักออมชอมกัน .. คำว่า รอมชอม ที่สะกดด้วย ร และ ลอมชอม ที่สะกดด้วย ล เราสามารถนำมาใช้ได้เช่นเดียวกัน เพราะมีความหมายเดียวกันกับคำว่า ออมชอม
14.
ตกแต่ง ตบแต่ง : ตกแต่ง มีความหมายเหมือนกับคำว่า ตบแต่ง คือ หมายถึง ประดับ ปรุงจัดให้ดี ทำให้งาม ใช้ได้ทั้งกับคนและสถานที่ เช่น ตกแต่งห้องนอน ตบแต่งห้องนอน.... แต่คำว่า ตบแต่ง ยังมีความหมายเพิ่มขึ้นอีกความหมายหนึ่ง คือ จัดให้ลูกสาวมีเรือนตามประเพณี เช่น ตบแต่งให้ลูกสาวเป็นฝั่งเป็นฝา
15.
ประมาณ ประมาณการ : สองคำนี้ มีความหมายแตกต่างกัน ประมาณ หมายถึง กะ หรือ คะเนให้ใกล้เคียงกับจำนวนจริง .. ส่วนคำว่า ประมาณการ หมายถึง กะ หรือ กำหนดปริมาณงานหรือค่าใช้จ่ายอย่างคร่าวๆ
16.
จอง สำรอง : จอง หมายถึง มั่นหมายไว้ ขอกำหนดไว้ ใช้กับสิ่งที่ต้องทำล่วงหน้า เช่น จองตั๋วเครื่องบิน จองบัตรชมภาพยนตร์ .. ส่วน สำรอง หมายถึง เตรียมไว้เผื่อเหลือเผื่อขาด เช่น สำรองน้ำ สำรองเงิน ....แต่ปัจจุบัน มักมีผู้ใช้คำว่า สำรอง ในความหมายเหมือนกับ จอง เช่น ท่านสามารถสำรองที่นั่งชมการแสดงได้ตั้งแต่บัดนี้
17.
รดน้ำ หลั่งน้ำ : รดน้ำ หมายถึง หลั่งน้ำในงานพิธีต่างๆ เช่น รดน้ำดำหัว รดน้ำศพ .. ส่วนคำว่า หลั่งน้ำ หมายถึง ทำให้ไหลลงไม่ขาดสาย เช่น หลั่งน้ำตา .. แต่ปกติคำว่า หลั่งน้ำ นิยมใช้ในงานมงคล เช่น หลั่งน้ำสังข์ หลั่งน้ำพระพุทธมนตร์
18.
มนต์ มนตร์ : เขียนถูกทั้งสองคำ มีความหมายถึง คำศักดิ์สิทธิ์ คำสำหรับสวด คำสำหรับเสกเป่า ...มนต์ มาจากภาษาบาลี มนตร์ มาจากภาษาสันสกฤต
19.
ยนต์ ยนตร์ : เขียนถูกทั้งสองคำ มีความหมายถึง เครื่องกลไก เครื่องจักรที่ให้กำเนิดพลังงานหรือทำให้วัตถุเคลื่อนที่ ...ยนต์ มาจากภาษาบาลี ยนตร์ มาจากภาษาสันสกฤต ตัวอย่างที่มีการใช้ เช่น รถยนต์ ภาพยนตร์
20.
สะสม สั่งสม : คำสองคำนี้ มีความหมายเหมือนกัน หมายถึง รวบรวมให้เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ... แต่คำว่า สะสม มักใช้กับสิ่งที่จับต้องได้ หรือเห็นเป็นรูปธรรม เช่น สะสมแสตมป์ .. ส่วนคำว่า สั่งสม มักใช้กับสิ่งที่จับต้องไม่ได้ หรือเป็นนามธรรม เช่น สั่งสมประสบการณ์
21.
เมล็ด เม็ด : เมล็ด หมายถึง ส่วนภายในผลไม้ที่สามารถเพาะปลูกให้เจริญงอกงามได้ เช่น เมล็ดข้าวโพด เมล็ดถั่วเขียว .. เม็ด มีความหมายเช่นเดียวกันกับ เมล็ด แต่ เม็ด ยังมีความหมายอีกความหมายหนึ่ง หมายถึง ของที่เป็นก้อนกลมๆขนาดเล็ก เช่น เม็ดทราย เม็ดเหงื่อ เม็ดยา
22.
กระบวนการ - ขบวนการ : กระบวนการ หมายถึง ลำดับการกระทำซึ่งดำเนินต่อเนื่องกันไปจนสำเร็จลงในระดับหนึ่ง ...แต่ ขบวนการ หมายถึง กลุ่มคนที่รวมกันเพื่อดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่ง
23.
เกม เกมส์ : เกม และ เกมส์ มาจากคำภาษาอังกฤษ .. เกม หมายถึง การแข่งขันที่มีกติกากำหนด เช่น เกมกีฬา เกมคอมพิวเตอร์ .. ส่วนคำว่า เกมส์ มักใช้ในการแข่งขันที่จัดขึ้นอย่างใหญ่โต มีการแข่งขันหลายประเภท เช่น ปักกิ่งเกมส์ 2008
24.
พึ่ง เพิ่ง : สองคำนี้ มีความหมายช่นเดียวกัน ..ที่จริง พึ่ง มีความหมายอย่างหนึ่ง แปลว่า อาศัยพึ่งพิง ...แต่อีกความหมายหนึ่ง แปลว่า เวลาที่เพิ่งผ่านไปหยกๆ จึงเหมือนกับคำว่า เพิ่ง เช่น เขาพึ่งมาหาฉันเมื่อบ่ายนี้ ..เขาเพิ่งมาหาฉันเมื่อบ่ายนี้ ..ประโยคสองประโยคนี้ใช้ได้เหมือนกัน
25.
สวด เทศน์ : สวด และ เทศน์ เป็นภาษาของพระสงฆ์ ..สวด คือ การพูดเป็นทำนอง เช่น สวดมนต์ ...เทศน์ คือ การพูดแสดงธรรมในทางศาสนา ..ทั้งสองคำจึงมีความหมายแตกต่างกัน แต่เมื่อนำมาใช้เป็นภาษาพูดของคนปกติสามัญ จะมีความหมายในทาง ดุด่าว่ากล่าว หรือสั่งสอนอย่างยืดยาว เช่น ฉันโดนแม่เทศน์ พ่อสวดฉันยับเรื่องเมื่อคืน
26.
วิกฤตการณ์ - วิกฤติกาล : วิกฤตการณ์ หมายถึง เหตุการณ์ที่อยู่ในขั้นอันตราย เป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อถึงขั้นแตกหัก ส่วนใหญ่ มักจะไปในทางร้ายมากกว่าทางดี ส่วน วิกฤตกาล หมายถึง เวลาที่อยู่ในขั้นอันตราย (กาล แปลว่า เวลา)
27.
เลขาธิการ - เลขานุการ : เลขาธิการ คือ ชื่อเรียกตำแหน่งบริหารสำคัญในพรรคการเมืองหรือองค์การใหญ่ เช่น เลขาธิการองค์การสหประชาชาติ ส่วน เลขานุการ คือผู้ที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องกับหนังสือตามที่ผู้ใหญ่สั่ง
28.
ปักษ์ : แปลว่า ข้างหรือฝ่าย ซึ่งมักจะใช้เรียกแทน ภาค ของภาคใต้ คือ ปักษ์ใต้ .. อาจารย์จำนง ทองประเสริฐ ราชบัณฑิตไทย ท่านได้ให้ความเห็นว่า ปักษ์ โดยความหมายคือ กึ่งหนึ่งของเดือนทางจันทรคติ หมายถึง 14 - 15 วัน และภาคใต้ มีจังหวัดทั้งหมด 14 จังหวัด จึงอาจนำคำว่า ปักษ์ มาใช้เรียกแทน ปักษ์ได้
29.
ซี้ : คำนี้เป็นคำมาจากภาษาจีน หมายถึง ตาย ...ปัจจุบัน ซี้ เป็นคำที่ใช้แทนคำไทยว่า ตาย เช่นเดียวกัน เช่น ประโยคว่า คราวนี้ฉันตายแน่ๆ ก็พูดว่า คราวนี้ฉันซี้แหงๆ หรือคำว่า เพื่อนตาย ก็พูดว่า เพื่อนซี้ เป็นต้น
30.
ทำลายสถิติ : คำว่า ทำลาย แปลว่า ทำให้สิ่งที่เป็นกลุ่มก้อนแตกหัก ทำให้พัง หรือกระจัดกระจาย แต่ถ้าใช้ร่วมกับคำว่า สถิติ จะมีความหมายดีขึ้น เพราะหมายถึง การสร้างสถิติใหม่ขึ้นมาให้ดีกว่าสถิติเดิม
คำไทย มีอีกเป็นร้อยเป็นพัน สามารถจะนำมาเขียนให้อ่านได้อีก หากมีคนชอบ
คำไทยคำเล็กคำน้อย เข้าเรียงร้อยประสานอย่างสร้างสรรค์
คำไทยนับร้อยผสานสลับกัน เกิดอัศจรรย์เป็นเรื่องราวแสนงดงาม
yyswim
Create Date : 11 พฤษภาคม 2551 |
Last Update : 26 พฤษภาคม 2551 10:42:27 น. |
|
17 comments
|
Counter : 6013 Pageviews. |
|
|
|
ภาพสวยทุกภาพเลยค่ะพี่ชาย
ชอบภาพสาวสวยคนนี้จังเลยค่ะ
สวยมากๆเลยค่ะ
แถมมีภาษาประกอบเพิ่มความรุ้อีกค่ะ
น้องแคทเขียนหนังสือผิดบ่อยมากค่ะพี่ชาย
พักนี้ห่างหายจากการเรียนรู้ไปแยอะเลยค่ะ
ใช่เลยค่ะพี่ชาย
******************
คำไทย มีอีกเป็นร้อยเป็นพัน สามารถจะนำมาเขียนให้อ่านได้อีก หากมีคนชอบ
คำไทยคำเล็กคำน้อย เข้าเรียงร้อยประสานอย่างสร้างสรรค์
คำไทยนับร้อยผสานสลับกัน เกิดอัศจรรย์เป็นเรื่องราวแสนงดงาม
****************
ภาษาที่เขียนสามารถสร้างสรรค์ได้จริงๆๆค่ะ
ขอบคุณความรุ้วันนี้ที่มอบนะค่ะ
นอนหลับฝันดีนะค่ะ