เขื่อนรัชชประภา
เขื่อนรัชชประภา
ผมมีโอกาสไปเที่ยวเขื่อนรัชชประภา แบบย่อๆ ...ไม่ได้นั่งเรือเที่ยวถ้ำ ไม่ได้นั่งเรือไปเที่ยวน้ำตก และไม่ได้นอนบนแพ คือไปเพียงเดินเล่นที่สันเขื่อน ราวๆครึ่งชั่วโมง เสียดายตอนนั้น 6 โมงเย็นแล้วและท้องฟ้าปิด เมฆฝนครึ้ม ต้องรีบๆถ่ายรูป สักครู่เดียวฝนก็พรำ ...โห โห อดถ่ายรูปเพิ่มเลย
ถนน คือ สันเขื่อน...เสียดายว่าวันนั้น ห้ามเข้า
เลย อดเข้าใกล้ชิดกับสันเขื่อน มากกว่านี้
ผมได้เข้าพักที่แฟลต ซึ่งเดิมเป็นบ้านพักของชาวเขื่อนรัชชประภา แต่นำมาปรับปรุงเป็นที่พักของผู้มาเที่ยวเขื่อนฯ เป็นตึก 4 ชั้น มี 3 หลัง มีสิ่งอำนวยความสะดวกพอประมาณ ไม่ดีนักไม่เลวนัก แต่ก็ไม่ได้หนักใจ ทานอาหารมื้อค่ำ ที่สโมสรฯ ซึ่งอยู่ติดกับสนามกอล์ฟ
แฟลตกับสโมสรฯ เดินถึงกันได้ เดินลงเนินราวสัก 100 เมตร
รุ่งเช้าตื่นตี 5 ก็ออกลุยชมทะเลหมอกทางเรือ ที่เหนือสันเขื่อน อุ อุ อุ ฝนยังมีเหลือหลงฟ้าอยู่เล๊ยยย ....เห็นหมอกครับ แต่ไม่มากนัก
รูปถ่ายออกมา รู้ว่าไม่สวย แต่ก็อยากจะนำลงบล็อก เพื่อเป็นข้อมูลบันทึกช่วงเวลาหนึ่งของ จขบ. ....ว่าเคยมาเที่ยวที่นี่
หากไม่ชอบอ่าน ตรงข้างล่างนี้ ข้ามไปได้เลย
เขื่อนรัชชประภา เป็นเขื่อนอเนกประสงค์ สร้างปิดกั้นลำน้ำคลองแสง(ต้นน้ำของแม่น้ำตาปี) ที่บ้านเชี่ยวหลาน ต.เขาพัง อ.บ้านตาขุน จ.สุราษฎร์ธานี ชื่อเดิมเรียกว่า เขื่อนเชี่ยวหลาน เป็นเขื่อนหินถมแกนดินเหนียว สูง 94 เมตร ความยาวสันเขื่อน 761 เมตร ความกว้างสันเขื่อน 12 เมตร และมีเขื่อนปิดกั้นช่องเขาขาดอีก 5 แห่ง มีความสามารถกักเก็บน้ำสูงสุด 5,639 ล้านลูกบาศก์เมตร พื้นที่อ่างเก็บน้ำ 185 ตารางกิโลเมตร ปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างเฉลี่ยปีละ 2,598 ล้านลูกบาศก์เมตร ติดตั้งเครื่องผลิตไฟฟ้า จำนวน 3 เครื่อง เครื่องละ 80,000 กิโลวัตต์
เริ่มดำเนินการก่อสร้างเมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2525 สร้างเสร็จในปีพ.ศ. 2530 เมื่อสร้างเสร็จได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานนามให้ใหม่ว่า เขื่อนรัชชประภา มีความหมายว่า แสงสว่างแห่งราชอาณาจักร
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ เสด็จพระราชดำเนินเปิดเขื่อนรัชชประภา และโรงไฟฟ้าพลังน้ำ เมื่อวันพุธที่ 30 กันยายน 2530
ที่บอกว่า เป็นเขื่อนเอนกประสงค์ เพราะเป็นเขื่อนที่มุ่งประโยชน์หลายอย่าง
1. ด้านพลังงานไฟฟ้า มีกำลังการผลิตไฟฟ้ารวม 240,000 กิโลวัตต์ ให้พลังงานไฟฟ้าเฉลี่ยปีละประมาณ 554 ล้านกิโลวัตต์ชั่วโมง ส่งพลังไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้า ด้วยสายส่งไฟฟ้าขนาด 230 กิโลโวลต์ วงจรคู่ไปยังสถานีไฟฟ้าแรงสูงสุราษฎร์ธานี ระยะทาง 50 กิโลเมตร และขนาด115 กิโลโวลต์ วงจรคู่ไปยังสถานีไฟฟ้าแรงสูงพังงา ระยะทาง 82 กิโลเมตร ช่วยเสริมระบบไฟฟ้าในภาคใต้ให้มั่นคงยิ่งขึ้น
2. ด้านชลประทานเพื่อการเพาะปลูก ปริมาณน้ำที่ปล่อยจากเขื่อนให้ประโยชน์ต่อการเพาะปลูก บริเวณสองฝั่งแม่น้ำในตอนล่าง เป็นผลให้พื้นที่ประมาณ 100,000 ไร่ ในเขตท้องที่ อ.คีรีรัฐนิคม และ อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี สามารถปลูกพืชในฤดูแล้งได้ผลดี
3. ด้านบรรเทาอุทกภัย สามารถการกักเก็บน้ำเหนือเขื่อนในฤดูฝน ซึ่งช่วยลดความรุนแรงของสภาวะน้ำท่วมในพื้นที่ตอนล่างได้เป็นอย่างดี
4. ด้านประมง อ่างเก็บน้ำของเขื่อนรัชชประภาเป็นแหล่งประมงน้ำจืดที่สำคัญ สร้างรายได้ให้กับราษฎรในพื้นที่ได้มาก
5. ด้านการท่องเที่ยว ทัศนียภาพในอ่างเก็บน้ำเหนือเขื่อน สวยงามจนได้ชื่อว่า กุ้ยหลินเมืองไทย มีแพพักของอุทยานฯและแพพักของเอกชน ไว้บริการนักท่องเที่ยว ในแต่ละปีสามารถชักชวนนักท่องเที่ยวมาเที่ยว ปีละกว่า 70,000 คน สร้างรายได้ให้กับคนในพื้นที่ ทั้งคนขับเรือนำเที่ยว และการค้าขายบริเวณสันเขื่อน
6. แก้ไขน้ำเสียและผลักดันน้ำเค็ม ในฤดูแล้งลำน้ำตาปี-พุมดวง จะมีปริมาณน้ำลดลง ทำให้เกิดภาวะน้ำเน่าเสีย ขณะเดียวกันบริเวณปากแม่น้ำจะมีน้ำเค็มหนุนขึ้นมา น้ำที่ปล่อยจากเขื่อนรัชชประภาจะช่วยเจือจางน้ำเสียในลำน้ำ และผลักดันน้ำเค็มที่ปากแม่น้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การเดินทางไปยังเขื่อนรัชชประภา
เขื่อนรัชชประภาตั้งอยู่ที่ อ.บ้านตาขุน จ.สุราษฏร์ธานี ห่างจากกรุงเทพฯ 698 กิโลเมตร การเดินทางโดยรถยนต์ ใช้เส้นทางสายเพชรเกษมมุ่งตรงสู่ จ.สุราษฎร์ธานี เมื่อถึงสี่แยกที่จะเข้าตัวเมืองสุราษฎร์ ให้เลี้ยวขวาไปตามเส้นทางหมายเลข 401 มุ่งสู่ อ.บ้านตาขุน ขับตรงไปประมาณ 67 กิโลเมตร จะมีทางแยกขวาเข้าเขื่อนรัชชประภา โดยจะมีป้ายเขื่อนบอกไว้ชัดเจน เลี้ยวขวาไปตามป้ายอีก 12 กิโลเมตร ขับตามที่ป้ายบอก จนกระทั่งถึงสันเขื่อน ก็จะถึงจุดชมวิว
บริเวณจุดชมวิวที่สันเขื่อน จะร่มรื่นสวยงามด้วยต้นไม้ใหญ่และสวนสวยงาม บริเวณอ่างเก็บน้ำเหนือเขื่อน จะมีภูเขาหินปูนจำนวนมาก (บางข้อมูลบอกว่ามากกว่า 100 เกาะ) มีรูปร่างต่างๆที่แปลกตาสวยงามท่ามกลางผืนน้ำสีเขียว และในเวลาตอนเช้าของทุกวันที่เหนือสันเขื่อน จะมีทะเลหมอกเรี่ยรายตามยอดภูเขาหินปูน ...คริ คริ คริ ถ้าฝนไม่ตกลงมา
น้อง 'Hug' กับ หมอโอภาส นั่งอยู่หัวเรือ ก็เลยกดภาพเก็บไว้
เห็นดอกไม้บาน บนภูเขาบางลูก... ไม่รู้เหมือนกันว่าดอกอะไร คนในเรือบางคนบอกว่า 'ดอกพันปี'....จะเชื่อได้มั๊ยเนี่ย
แผนที่รูปถ่ายทางดาวเทียม บริเวณเขื่อนรัชชประภา จาก Google Maps หากต้องการชม
เชิญคลิกได้
มีเพื่อนชาวบล๊อก เขียนบล๊อกเรื่อง เขื่อนเชี่ยวหลาน เอาไว้หลายคนอยู่ สำหรับท่านนี้... เชิญอ่านครับ ผมว่าเขาเขียนเล่าสนุกดี
อีกเว๊ปหนึ่ง เขียนกระทู้เรื่อง ไปเที่ยวเขื่อนเชี่ยวหลานเอารูปมาฝากค่ะ มีรูปสวยๆครับ ขอเชิญชมรูป
yyswim
Create Date : 24 พฤศจิกายน 2551 |
Last Update : 25 พฤศจิกายน 2551 23:39:32 น. |
|
42 comments
|
Counter : 4512 Pageviews. |
|
|
|
ใครๆเขาบอกว่าที่นี่เป็นกุ้ยหลินเมืองไทย
คุณyyswim ว่างั้นไหม
ปล.ณ มน เองก็ถ่ายรูปไม่สวยแต่ก็ชอบถ่าย
เพราะถ่ายแล้วก็เอามาลงประกอบกับเรื่องที่เราเล่านี่ล่ะ
น่าสนใจดีออก