การกอด



การกอด






1.


ทางจิตวิทยาบอกว่า.. มนุษย์จะอยู่รอดและเจริญเติบโตเป็นปกติ เพราะการได้รับการสัมผัส



เด็กทารกจะถูกตบก้นทันทีที่คลอด เด็กทารกจะต้องการการโอบอุ้มและการห่อหุ้มด้วยผ้านุ่มอบอุ่น จะต้องการน้ำนม จะต้องการวัคซีน น้ำสะอาด อาหารย่อยง่ายจากคุณแม่หรือผู้เลี้ยงดู ..มิฉะนั้น เด็กทารกจะไม่มีชีวิตรอด



มนุษย์จะต้องการการได้รับการชี้นำเรื่องการเดิน การกิน การแสดงพฤติกรรมต่างๆ และการใช้ภาษาในการสื่อสาร ..มิฉะนั้นมนุษย์จะไม่อาจเจริญเติบโตเป็นปกติ




คือ อาจจะเดินท่าทางแปลกๆ กินท่าทางแปลกๆ ไม่พูดหรือมีการเปล่งเสียงออกมาเป็นการพูดแปลกๆที่ผู้อื่นฟังไม่เข้าใจ ...หากมนุษย์ไม่ถูกชี้นำ ซึ่งทางจิตวิทยาบอกว่าหากมนุษย์ไม่ได้รับสโตร๊กหรือไม่ได้รับการสัมผัสจากผู้อื่น



การสัมผัสทางจิตวิทยามีความหมายถึง ..การอบรมสั่งสอน การให้ความรู้ การให้ของกินของใช้ การให้เงิน การให้กำลังใจ การให้อภัย รวมทั้งการสัมผัสถูกต้องตัว เช่นการอุ้ม การจูงมือ และการกอด



ทั้งนี้ มนุษย์จะชอบการสัมผัสที่กล่าวถึง แบบสุภาพ และอบอุ่นละมุนละไม



การกอดที่นุ่มนวล อบอุ่น จริงใจ หากกระทำโดยบุคคลที่สนิทสนมใกล้ชิดกัน ในกาลเทศะที่เหมาะ และในปริมาณที่เหมาะ มนุษย์ทุกคนจะชอบ



การกอดคุณพ่อคุณแม่ การกอดลูกหลาน การกอดคุณลุงคุณปู่คุณย่า การกอดเพื่อนสนิท การกอดคู่รัก ...หากกอดในที่ไม่ประเจิดประเจ้อ เป็นเทศกาลที่ควรจะกอด เป็นวาระจะต้องจากลากันไปไกลๆ หรือนานๆได้มาเจอกัน ..หากทำด้วยความเต็มใจ จริงใจ อบอุ่นละมุนละไม และนานพอเหมาะ มีหรือที่คนจะไม่ชอบ



ใครบางคนที่เขาสนิทสนมกับเรามากๆ และเขาเสียใจบางสิ่งบางอย่างอย่างรุนแรง ..ควรมอบความเห็นใจและความรักด้วยการกอดเขาเถิด



ใครบางคนที่เขาสนิทสนมกับเรามากๆ เขาดีใจสุดๆกับบางเรื่องที่ผู้อื่นทำได้ยากแต่เขาสามารถทำได้ เขากำลังปลื้มใจสุขใจเป็นล้นพ้น เขาอยากจะบอกความรู้สึกนั้นให้ผู้ใกล้ชิดทราบ ..อย่ายืนห่างจากเขา อย่าเพียงแค่มองเขา ควรกอดเขาเถิด



















ใครบางคนที่รักเรามากเหลือเกิน ห่วงใยเรามากเหลือเกิน ...ทันทีที่เขาเจอเรา เขาจะตรงเข้ามากอดเรา เพื่อแสดงความรู้สึกรักและความเป็นห่วงเรา ..อย่ารังเกียจ ควรกอดเขากลับคืนเถิด






2.


เขาว่าการกอด คือ การแสดงความรักอย่างสมบูรณ์แบบ ไม่ต้องแต่งหน้าก่อน ไม่ต้องใช้ครีมยูวี ไม่มีไขมัน ไม่ทำให้อ้วน ไม่ต้องใช้แรงมาก ไม่ทำให้เหนื่อย ไม่ทำให้ง่วง ไม่ต้องดาวน์ ไม่มีค่าใช้จ่ายรายเดือน ไม่ต้องจ่ายภาษี ไม่ต้องคอยเปลี่ยนแบต ไม่เป็นพิษเป็นภัยต่อสิ่งแวดล้อม ไม่ต้องต่อเน็ต ไม่ต้องสมัครสมาชิก ..แต่มีอำนาจมหัศจรรย์



1. ทำให้กล้ามเนื้อแขน ไหล่ และขาได้ทำงาน คนตัวเตี้ยจะได้ยืดตัว คนตัวสูงจะได้ค้อมตัว



2. ทำให้การเต้นของหัวใจ การไหลเวียนของโลหิต ความดันโลหิตเป็นปกติ ระบบภูมิต้านทานของร่างกายทำงานดี รักษาภาวะซึมเศร้าได้ ลดความตึงเครียดได้ ..ความรู้สึกน้อยใจ เหงา และความเศร้าโศกจะน้อยลง ความมีชีวิตชีวาจะกลับเข้ามาสู่ร่างกายและจิตใจ



มีงานวิจัยและบทความจำนวนมาก สนับสนุนคุณค่าของการกอดว่า “เป็นวิธีปฏิบัติที่มีพลัง ทำให้ผู้ป่วยมีอาการดีขึ้น หากได้ทำร่วมกับการรักษาทางยา”




3. ทำให้พัฒนาการการเจริญเติบโตของเด็ก เป็นไปด้วยดีและรวดเร็ว เด็กฉลาด มีสมาธิ จำอะไรได้ดี คิดอะไรได้เร็ว มีไอคิวและอีคิวสูงกว่าเด็กที่ขาดคนกอด



4. ทำให้เกิดความสุขทั้งผู้ได้รับการกอดและผู้กอด ..ผู้ได้รับการกอดจะทราบว่ามีคนยอมรับตน เข้าใจตน เห็นใจตน เป็นฝ่ายเดียวกับตน ..เกิดความคุ้นเคยสนิทสนม เกิดความเชื่อใจไว้วางใจ ..เชื่อมั่นตนเองมากขึ้น มีความรู้สึกว่าตนเองมีคุณค่า .. เกิดความพร้อมที่จะทำสิ่งต่างๆให้ดีขึ้น มีความผูกพันกับคำมั่นสัญญามากขึ้น











ฉะนั้น ควรหาเรื่องที่จะกอดกันบ่อยๆ ยิ่งกอดพร้อมกับเอ่ยถ้อยคำดีๆ ยิ่งจะเพิ่มพูนคุณค่าของการกอดให้มีมากยิ่งขึ้น



ทำหลายครั้งต่อวันก็ได้ แต่พึงดูความเหมาะสมของกาลเทศะ ..อย่าทำกลางตลาดสด อย่าทำบนรถประจำทาง อย่าทำกลางถนน อย่าทำในวัด อุอุอุ .. ควรเลือกสถานที่ที่เป็นที่ส่วนตัวหน่อย จะได้ไม่มีคนเขม่นและตาร้อน





มีคลิปวีดิโอของฝรั่ง “อาสากอดฟรี” (Free Hugs Campaign) ถ่ายทำจากเรื่องจริง ..ไม่ได้เมค



ถ้าเพื่อนๆสนใจจะดู ขอเชิญกดที่นี่ ..เนื้อเรื่องแปลกครับ เช่น พอคนเริ่มกอดกัน ภาพก็เริ่มมีสีแทนภาพขาวดำ และกิจกรรม Free Hugs Campaign มีคนเห็นด้วยกับแคมเปญนี้ถึง 10,000 คนตามเป้าหมาย (นี่ ถ้าหากต้องการจำนวนคนมากกว่านี้ ไม่ทราบผลจะออกมาเป็นอย่างไร) เพลงก็ไพเราะครับ



ตอนกด ชมครั้งแรก ภาพอาจจะติดขัดตะกุกตะกักอยู่บ้าง แต่เมื่อกดรีเพลย์ครั้งที่สองและสาม ภาพและเสียงจะไหลลื่นน่าชม



และหากเพื่อนๆสนใจจะดูคลิปวีดิโอ “อาสากอดฟรี” (Free Hugs) แนวนี้อีก จะสามารถหาชมเพิ่มเติมได้อีกเยอะ เพราะมีการถ่ายคลิปวีดิโอจากสถานที่จริงในหลายๆประเทศ เช่น เกาหลีใต้ …อัมสเตอร์ดัม เนเธอร์แลนด์ … กรุงนิวยอร์ค สหรัฐอเมริกา ... และอีกในหลายๆประเทศ จาก youtubeดอทคอม






ขอถาม... นี่ถ้า คาวี หรือเคน ธีรเดช เดินยกป้าย “อาสากอดฟรี” ในเมืองไทยบ้าง ...มีใครจะกล้ากอด เคนธีรเดช ม๊ายยยยยยย?????












3.


บอกรักด้วยการกอด



1. เมื่อเขาหนาวสั่น









2. เมื่อเขาเศร้าเสียใจอะไรรุนแรง


3. เมื่อเขาทำสิ่งที่เขามุ่งหวัง ทำได้สำเร็จ


4. เมื่อเขาได้ทำสิ่งดีๆให้เราหรือมอบของขวัญให้เรา


5. ก่อนเขาจะออกไปทำงานหรือก่อนจะแยกจากกัน


6. เมื่อนานๆเจอกัน


7. หลังจากเขาเพิ่งอาบน้ำเสร็จ ..ก็โถ เขากำลังหนาว


8. ยามที่เขายืนชมจันทร์หรือยืนชมวิวสวยเพลินๆ


9. ขณะเขานั่งเพลิดเพลินดูทีวี หนังรักโรแมนติกหรือหนังผี


10. ขณะนอนด้วยกันใต้ผ้าห่มบนเตียง อุอุอุ ยิ่งเป็นคืนฝนตก


11. เมื่อเขาบอกลาเพื่อจะนอนหลับ




หากท่านเป็นฝ่ายกอด ..ควรกระซิบบอกรัก หรือบอกว่ารู้สึกยินดีกับสิ่งที่เขาได้ทำ หรือบอกให้กำลังใจเขาเบาๆด้วย


หากท่านได้รับการกอด .. กรุณาบอกรัก หรือบอกว่าท่านมีความสุข หรือบอกขอบคุณเขาเบาๆด้วย










เคยเห็นลูกสุนัขเล่นสนุกกับลูกสุนัขอีกตัวมั๊ย? มันใช้หัวดันหัว ดันท้องกับอีกตัว มันใช้ขาก่ายกับอีกตัว มันนอนผลัดกันพลิกคว่ำพลิกหงายไปมากับอีกตัว ..ดูมันเล่น แล้วรู้สึกเพลิดเพลิน อยากมองอยากดูมันนานๆ



แต่เมื่อเห็นสุนัขแสยะเขี้ยวจะกัดสุนัขอีกตัว น้ำลายเยิ้มออกมาราวกับเป็นหมาบ้า ลูกตาจ้องใส่ราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ ..ใครเห็น ใครก็คงจะบอกคล้ายๆกันว่า “ไม่ชอบ กลัวมันกัด ไม่อยากมอง ไม่อยากอยู่ใกล้”



อุปมานี้ เพื่อจะบอกว่านี่แหละความนิยมชมชอบที่คนมีต่อ ‘การกอด’ ล่ะ












4.


มี กวี บทหนึ่งเขียนว่า



อ้อมกอดเป็นสิ่งมหัศจรรย์

A hug is an amazing thing


มันเป็นวิธีการที่แสนวิเศษ

It's just the perfect way


ที่บ่งบอกถึงความรักอย่างจริงใจ

To show the love we're feeling


ซึ่งอาจไม่สามารถบอกได้เป็นคำพูด

But can't find the words to say.





หากได้กอดเพียงวันละนิด

It's funny how a little hug


ทุกคนจะรับรู้ถึงความสุข

Makes everyone feel good;


ในทุกท้องถิ่นและทุกภาษา

In every place and language,


เพราะทุกคนรู้ว่ามันเป็นสิ่งดีงาม

It's always understood.





การกอดไม่ต้องการอุปกรณ์

And hugs don't need new equipment,


และไม่ต้องการพลังหรืออะไหล่

Special batteries or parts -


เพียงแต่แค่เปิดอ้อมแขน

Just open up your arms


และเปิดหัวใจของตน .. เท่านั้น

And open up your hearts.


เขียนโดย Jill Wolf












มีข้อเขียนสั้น อีกบทหนึ่ง ..เขียนโดยเด็กชาย 9 ขวบ



ถ้าเพียงแต่แม่กอดลูกอย่างทะนุถนอม

If you touch me soft and gentle


ถ้าเพียงแต่แม่มองดูลูกและยิ้มให้ลูก

If you look at me and smile


ถ้าเพียงแต่แม่ฟังลูกพูดบ้างแทนที่แม่จะพูดเสียเอง

If you listen to me talk sometimes, before you talk


ลูกก็จะเจริญเต็มวัยทั้งร่างกายและจิตใจ

I will grow, really grow.


เขียนโดย Bradley 9 years





กอดเพียงมือเดียว






นักการเมืองกอด









5.


คุณค่าของการกอดจะเกิดขึ้น ต่อเมื่อ ผู้กอดและผู้ได้รับการกอด มีความเต็มใจและจริงใจที่จะกอด ..ไม่ใช่กอดเพราะธรรมเนียมปฏิบัติ .. ไม่ใช่กอดเพราะเป็นเทศกาล .. ไม่ใช่กอดเพราะหวังจะสร้างภาพลักษณ์ .. หรือไม่ใช่กอดเพราะถูกบังคับ



การกอดหากไม่จริงใจ ..ผู้รับการกอดจะรู้สึกได้ ..ผู้อยู่ใกล้ๆก็มองออกได้ไม่ยาก



ฉะนั้นหาก ”ไม่ประสงค์จะกอด” ...ก็ไม่ควรฝืนกอด



ควรจะใช้การไหว้ หรือการโค้งให้ หรือการสัมผัสมือแทนการกอด ก็ได้



คือ บางคนอาจจะกระดากไม่อยากจะกอด ..หรือไม่อยากจะกอดที่สถานีรถไฟ ที่หน้าโรงเรียน ในห้องประชุม ในห้องสุขา ในห้องทำงานที่มีผู้อื่น ..หรือบางคนไม่ชอบกลิ่นปาก ไม่ชอบกลิ่นตัวผู้อื่น ..หรือบางคนรู้สึกว่าตัวเองมีเหงื่อ ตัวสกปรก และร้อน ...หรือบางคนเกรงใจแฟนที่ยืนมองอยู่ใกล้ๆ .. หรือบางคนรู้ว่ามีผู้สื่อข่าวคอยจ้องจะถ่ายภาพ .. หรือวัฒนธรรมของบางท้องถิ่นที่ไม่นิยมให้มีการกอด ..ทั้งหมดนี้ก็อาจจะเลี่ยงการกอด เป็นการใช้วิธีอื่นทดแทน.




กอดด้วยสองมือด้วยสัมผัสที่อบอุ่นจริงใจ ..การกอดจะมีคุณค่ากว่าการใช้มือเดียว











เจ้าของบล๊อก อยากจะได้คอมเมนต์ .. ช่วยเขียนอะไรให้อ่านสักหน่อย นะครับ

















โดย yyswim








Create Date : 27 เมษายน 2551
Last Update : 29 เมษายน 2551 11:58:14 น. 40 comments
Counter : 7010 Pageviews.

 


บล๊อก "การกอด" ยังไม่จบ

ยังมีข้อมูลการกอดเพื่อรักษาอาการป่วยให้อ่านต่อ แต่หาก ล้าแล้ว ก็ไม่ต้องอ่านก็ได้




6.


คุณ พรวรินทร์ นุตราวงศ์ อาชีพพยาบาลและอาจารย์พยาบาล วัย 50 ปี ทำงานอยู่ที่วชิระพยาบาล ซึ่งเป็นโรงพยาบาลในเครือกรุงเทพมหานครตั้งแต่ปี พ.ศ. 2522 เธอรักอาชีพพยาบาล หน้าที่ของเธอนอกจากจะสอนนักศึกษาพยาบาลแล้ว เธอก็เป็นพยาบาลทั่วไป ...ซึ่งเธอทำหน้าที่นี้มาประมาณ 29 ปี



เมื่อประมาณ 4 ปีที่แล้ว คือปี พ.ศ.2547 แพทย์ได้ตรวจพบว่า คุณภุชงค์ นุตราวงศ์ สามีคู่ชีวิตของเธอ ผู้ที่ทำงานในตำแหน่งรองเลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง -กกต. เป็นมะเร็งระยะสุดท้าย



และคุณหมอบอกเธอว่า ..”ขอให้ทำใจ สันนิษฐานว่าคุณภุชงค์คงจะอยู่ได้อีก ไม่เกิน 8 เดือน”





ระยะเวลา 8 เดือนที่ยังเหลือที่เธอจะได้ปรนนิบัติคนรัก เธอรู้สึกเครียดมากๆ ..แต่สามีของเธอ กลับเครียดยิ่งกว่า เขาได้รับการรักษาด้วยเคมีบำบัด แต่ไม่มีอะไรดีขึ้น ถึงจุดๆ หนึ่ง สามีของเธอก็เกิดอาการท้อแท้ เขาถึงกับจะฆ่าตัวตาย 2 ครั้ง …ในช่วงนี้โลกรอบด้านของเธอ เธอรู้สึกเหมือนกับว่า มันมีแต่เพียงเดือนมืด ไม่มีอีกแล้วที่โลกใบนี้จะเป็นคืนเดือนหงายที่เธอและครอบครัวจะได้ชื่นใจร่วมกัน




บรรยากาศการรักษาในโรงพยาบาล ที่นับวันจะเหลือจำนวนวันสั้นลง ทำให้จิตใจสามีของเธอพลอยย่ำแย่ลงเรื่อยๆ ..เพื่อให้สามีของเธอได้สัมผัสกับบรรยากาศดีๆ อากาศดีๆ เสื้อผ้าดีๆ เธอจึงตัดสินขออนุญาตคุณหมอ ขอนำสามีกลับไปอยู่ที่บ้าน โดยเธอจะทำทุกอย่างเพื่อดูแลสามีของเธอให้ดีที่สุด หากอะไรจะเกิด เธอก็อยากจะให้เขาได้รับสิ่งที่ดีที่สุด ความสะดวกสบายที่สุดเสียก่อน เธอคิดเช่นนั้น ..ซึ่งคุณหมอก็อนุญาต




ด้วยความรักสามี นอกจากเธอจะดูแลเขาด้วยยา ด้วยอาหาร ด้วยบรรยากาศ ด้วยเสื้อผ้าที่ดีที่สุดแล้ว เธอยังกอดสามีทุกวัน วันละหลายครั้ง พร้อมกับกล่าวคำว่ารัก รัก รักสามี ..และพูดถึงคุณงามความดีของสามี พร้อมกับให้กำลังใจสามี




แม้บางครั้งเธอจะพูดไปร้องให้ไป เธอก็ยินดีทำต่อไป อย่างชนิดไม่เคยรู้สึกเบื่อ เธอทำซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทั้งกลางวัน ทั้งกลางคืน ทุกวัน




เชื่อหรือไม่ สิ่งมหัศจรรย์ได้บังเกิด ...วันครบกำหนด 8 เดือนที่หมอสันนิษฐานไว้ ..สามีของเธอยังลืมตาเป็นปกติ ขยับตัวได้ ทานอาหารได้ สื่อความกับเธอได้ และเวลาที่ล่วงไปมากกว่า 8 เดือนต่อมา ..เชื่อหรือไม่ เขากลับร่างกายแข็งแรงขึ้น และยังมีชีวิตมาได้จนถึงทุกวันนี้




เธอบอกว่า นี่คงเป็นเพราะพลานุภาพของความรัก และวิธีการที่เธอปฎิบัติ ..ทั้งการกอดเขาบ่อยๆ สัมผัสเขาอย่างละมุนละไมอ่อนโยน ทำให้เขาได้รับแต่ความสุข ความอบอุ่น ความเพลิดเพลิน คิดแต่ในทางบวก นอนหลับสนิทสบาย




เธอคิดว่าการกอดอย่างอบอุ่น รักและไม่รังเกียจ จะเป็นภูมิคุ้มกันที่ดีต่อโรคร้าย ..หากทำร่วมกันกับยาพร้อมอาหารที่ดี อากาศที่ดี จะทำให้คนป่วยมีอาการดีขึ้นได้อย่างรวดเร็ว




ทุกวันนี้คุณพรวรินทร์ ..เธอพยายามบอกเล่าวิธีปฏิบัตินี้ต่อนักศึกษาพยาบาล และคุณพยาบาลท่านอื่นๆ ให้หันมาให้ความสำคัญต่อผู้ป่วย ด้วยการพูดคุยเรื่องดีงามของผู้ป่วย บอกรักผู้ป่วย และหากเห็นว่าเหมาะสม ควรจะกอดผู้ป่วย หรือควรจะสัมผัสผู้ป่วยอย่างเต็มใจและจริงใจบ่อยๆ







โดย: yyswim วันที่: 27 เมษายน 2551 เวลา:16:48:31 น.  

 



7.


คุณ พรวรินทร์ นุตราวงศ์ นอกจากจะเป็นอาจารย์พยาบาลและเป็นพยาบาลแล้ว เธอยังปลีกเวลาไปเป็นอาสาสมัคร เพื่อดูแลผู้ป่วยแบบประคับประคอง และผู้ป่วยระยะสุดท้ายให้ตายอย่างมีความสุข โดยการมอบความสุขและทำความหวังครั้งสุดท้ายให้กับผู้ป่วยให้สำเร็จก่อนจะจากโลกไป ..ซึ่งเธอเป็นอาสาสมัครในงานนี้ มานานกว่า 10 ปี




1. น้องแดน เป็นลูกคนเดียวของพ่อแม่ น้องแดนป่วยด้วยโรคมะเร็งลำไส้ระยะสุดท้าย ป่วยอยู่ที่โรงพยาบาลนาน 8 เดือน เมื่อเธอถามน้องแดนว่า ถ้าพรุ่งนี้เป็นวันสุดท้าย น้องแดนอยากจะทำอะไร น้องแดนตอบว่าอยากจะไปร้านเซเว่น อีเลฟเว่น เธอจึงพาน้องแดนเดินไปร้านเซเว่น อีเลฟเว่น น้องแดนซื้อของ 2 อย่าง แล้วนำมาให้ขอทานที่หน้าโรงพยาบาล หลังจากนั้นอีก 3 วัน น้องแดนก็จากไป




2. น้องแพท ป่วยด้วยโรคมะเร็งสมอง น้องแพทไม่มีพ่อ – แม่ และป้าที่เลี้ยงน้องแพทก็ไม่เคยมาเยี่ยม เธอจึงทำหน้าที่คล้ายกับเป็นคุณแม่ของน้องแพทไปด้วย น้องแพทบอกว่าอยากจะให้มีดาราสักคนมาเยี่ยม เธอจึงได้โทรศัพท์ไปหาคุณมนตรี เจนอักษร ซึ่งเป็นเพื่อนของเธอ ขอความกรุณาให้คุณมนตรีมาเยี่ยม หลังจากคุณมนตรีมาเยี่ยมได้ไม่นาน น้องแพทก็จากไป และก่อนที่น้องแพทจะจากไป น้องแพทยได้ขอร้องเธอว่า ถ้าวันที่น้องแพทตาย ขอให้เธอช่วยจับมือน้องแพทเอาไว้ตลอด ..เธอก็ได้ทำตามที่น้องแพทขอร้อง จนน้องแพทจากไปอย่างสงบ




3. คุณสมศรี ป่วยด้วยโรคมะเร็งปอด ก่อนตายคุณสมศรีบอกว่า อยากจะพบคน 2 คน ซึ่งโกรธกันมานานกว่า 20 ปี และไม่เคยเจอกันอีก เธอจึงพยายามทุกวิถีทางเพื่อติดต่อคน 2 คนนี้ให้มาพบคุณสมศรี หลังจากที่คุณสมศรีได้พบคน 2 คนนี้และคุณสมศรีได้ขออโหสิกรรมต่อคนทั้ง 2 คนแล้ว ะอีก 2 วันต่อมาคุณสมศรีก็จากไปอย่างสงบ




4. คุณชัยศรี ป่วยด้วยโรคมะเร็งที่ลิ้น ระยะสุดท้าย คุณชัยศรีเขียนหนังสือบอกว่ายังไม่ได้จ่ายค่าเทอมของลูก 2 คน และห่วงลูกทั้งสอง กลัวจะไม่ได้สอบและไม่ได้เรียนต่อ เธอจึงได้ประสานงานไปที่โรงเรียนที่ลูกทั้ง 2 คนเรียน และพยายามขอร้องผู้อำนวยการโรงเรียน กรุณาช่วยยกเว้นค่าเทอมของเด็กทั้งสอง และขอความกรุณาให้เด็กทั้ง 2 คนได้เรียนต่อจนจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ซึ่งผู้อำนวยการก็รับปาก เธอจึงได้กลับมาบอกคุณชัยศรี หลังจากนั้นอีก 2 วัน คุณชัยศรีก็จากไปอย่างสงบ




5. อาแปะ ป่วยด้วยโรคมะเร็งปอด หลังจากป่วยอยู่ที่โรงพยาบาลนานกว่า 3 เดือน อาแปะบอกเธอว่าอยากจะไปตายที่บ้าน แต่ลูกๆและภรรยาไม่ยอมให้กลับบ้าน เพราะกลัวว่าจะให้การดูแลอาแปะไม่ได้ เธอจึงได้พยายามอธิบายให้ลูกๆและภรรยาของอาแปะ ถึงความต้องการสุดท้ายของอาแปะ และได้สร้างความมั่นใจด้วยการจัดอุปกรณ์ที่จำเป็นในช่วงสุดท้ายของชีวิตของอาแปะให้ รวมทั้งได้ไปอยู่เป็นเพื่อนที่บ้านของอาแปะ 1 วัน จนภรรยาและลูกๆมั่นใจว่า สามารถจะดูแลอาแปะได้ หลังจากนั้นอีก 2 วัน อาแปะก็จากไปอย่างสงบท่ามกลางความรักของลูกๆและภรรยา




คุณพรวรินทร์ มีวิธีสอนคนป่วยไม่ให้กลัวความตาย และกล้าที่จะเผชิญกับความตาย เธอแนะนำให้คนป่วยรู้จักสวดมนต์เพื่อจิตใจจะได้สงบ เธอแนะนำให้ผู้ป่วยคิดแต่เรื่องที่ดีงาม ทำแต่ความดีในช่วงเวลาที่เหลืออยู่ และพูดถึงความตายว่าใครๆก็ต้องตาย เพียงแต่ใครจะตายก่อนหลังเท่านั้น ..คนที่รู้ตัวล่วงหน้าจึงนับว่าโชคดีที่ยังมีเวลาทำอะไรๆได้อีกหลายอย่าง




เธอจะพูดคุยกับผู้ป่วยระยะสุดท้ายในเรื่องของความตาย จนผู้ป่วยคุ้นเคยกับคำว่า“ตาย” และเข้าใจดีว่าความตายเป็นเรื่องธรรมดา เป็นเรื่องปกติ เธอจะถามผู้ป่วยว่าหากอยากจะทำอะไร หากอยากจะบอกอะไรกับใคร หรือต้องการพบใคร เธอจะพยายามทำสิ่งเหล่านั้นให้ผู้ป่วยอย่างเต็มที่ เพื่อเขาจะได้หมดห่วง หมดกังวล และมีจิตใจสงบ




สีหน้าของผู้ป่วยทุกราย ณ เวลาสุดท้ายของชีวิต จะแสดงถึงความดีใจ โล่งใจ และสบายใจ ...




เธอจึงได้รับเลือกให้ได้รับรางวัล และเป็นหนึ่งในความภาคภูมิใจของชาวสำนักการแพทย์ กรุงเทพมหานคร ที่เป็นแบบอย่างของการทำความดีต่อสังคม.





คุณ พรวรินทร์ นุตราวงศ์










โดย: yyswim วันที่: 27 เมษายน 2551 เวลา:17:25:21 น.  

 



8.


ความดีที่ได้รับการคัดเลือก …ในการวิ่งคบเพลิงโอลิมปิค ปักกิ่งเกมส์ ที่วิ่งคบเพลิงผ่านประเทศไทยไป เป็นประเทศที่ 13 ของโลก โดยรับมาจากประเทศอินเดีย ..คุณพรวรินทร์ เป็นผู้หนึ่งจาก 80 คน ที่ได้รับการคัดเลือกให้วิ่งคบเพลิงในครั้งนี้ด้วย



นายมนาเทศ อันนวัฒน์ ผู้จัดการการตลาดอาวุโส บริษัท ซัมซุง อิเลคทรอนิคส์ จำกัด ผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการ ของกีฬาโอลิมปิค 2008 (ซ้าย) ร.ต.ต.วิชัย สุริยุทธ์ นักอนุรักษ์ที่ปลูกต้นไม้ นับหลายหมื่นต้น เพื่อถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว (ที่ 2 จากซ้าย) ครูนวลน้อย ทิมกุล ผู้ก่อตั้งสถานสงเคราะห์ ช่วยเหลือเด็กด้อยโอกาส ในขณะที่ตนเองป่วยเป็นอัมพฤกษ์ และขาดแคลนทุนทรัพย์ (ที่ 2 จากขวา) และคุณพรวรินทร์ นุตราวงศ์ พยาบาลผู้มีใจเมตตาและเป็นอาสาสมัครดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้าย และทำความหวังครั้งสุดท้ายของผู้ป่วยให้สำเร็จก่อนที่ผู้ป่วยจะจากโลกนี้ไป (ขวา)









อ่านรายชื่อ 80 คนที่ได้รับเกียรติให้วิ่งคบเพลิงโอลิมปิค ได้ที่ข่าวนี้ กดที่นี่ ..คุณพรวรินทร์ นุตราวงศ์ เป็นผู้วิ่งลำดับที่ 47 ..คุณครูนวลน้อย ทิมกุล เป็นผู้วิ่งลำดับที่ 49 .. น้องอร อุดมพร พลศักดิ์(สู้ว้อย!!) นักกีฬายกน้ำหนักเหรียญทองโอลิมปิค ครั้งที่แล้วที่เอเธนส์ เป็นผู้วิ่งลำดับที่ 50 .. คุณวิจารณ์ พลฤทธิ์ นักกีฬามวยสากลเหรียญทองโอลิมปิค ที่ซิดนีย์ออสเตรเลีย เป็นผู้วิ่งลำดับที่ 52 .. คุณเจ เจตริน วรรธนะสิน นักร้อง นักกีฬาเจตสกี เป็นผู้วิ่งลำดับที่ 79 .. และคุณไก่ ปวีณา ทองสุข นักกีฬายกน้ำหนักเหรียญทองโอลิมปิค ครั้งที่แล้วที่เอเธนส์ และเป็นแชมป์โลกกีฬายกน้ำหนัก เป็นผู้วิ่งลำดับที่ 80 ผู้วิ่งคนสุดท้าย















คบเพลิงโอลิมปิค ถูกวิ่งในประเทศไทย ใช้เวลาวิ่งประมาณ 3 ชั่วโมงเศษ แล้วถูกส่งต่อไปทางเครื่องบินไปยังประเทศมาเลเซีย เพื่อวิ่งคบเพลิงเป็นประเทศที่ 14 แล้วจะมีการส่งต่อไปยังประเทศออสเตรเลีย ญี่ปุ่น เกาหลี เป็นต้น แล้วจึงจะส่งต่อเข้าประเทศจีน เพื่อวิ่งคบเพลิงในหลายมณฑล รวมทั้งในทิเบตด้วย แล้วจะไปสิ้นสุดจุดหมายปลายทาง ณ กรุงปักกิ่ง ในวันพิธีเปิดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิค 2008 อย่างเป็นทางการ ณ วันที่ 8 เดือน 8 ค.ศ.2008 เวลา 08.00 น.









คุณพรวรินทร์ นุตราวงศ์ บอกก่อนจะถึงวันวิ่งคบเพลิงว่า



“เมื่อทราบว่าได้รับเลือกให้เป็นผู้หนึ่งที่จะได้วิ่งคบเพลิงโอลิมปิค ที่บ้านโดยเฉพาะลูกดีใจมาก ตนเองก็รู้สึกภูมิใจที่จะได้เป็นส่วนหนึ่งของมหกรรมกีฬาระดับโลกครั้งนี้ ตอนนี้ที่บ้านตื่นเต้นกันใหญ่ เพราะใกล้จะถึงวันวิ่งจริงแล้ว ผู้ป่วยที่อยู่ในความดูแล ก็ร่วมกันให้กำลังใจด้วยค่ะ ดิฉันคงจะต้องจดจำวันนี้ไปตลอดชีวิต เพราะเป็นโอกาสครั้งสำคัญจริงๆ ไม่น่าเชื่อว่าจะได้รับโอกาสนี้ .. ด้านการเตรียมพร้อม ดิฉันจะเน้นการดูแลร่างกายให้แข็งแรง มีการออกกำลังกายเช่น รำไทเก็ก ดูแลด้านอาหาร และนอนพักผ่อนให้เพียงพอ ยิ่งใกล้ถึงวันงาน ยิ่งต้องดูแลตัวเองเป็นพิเศษ พยายามจะไม่ให้เจ็บป่วยค่ะ”





สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จทอดพระเนตรการวิ่งคบเพลิง ขณะที่กำลังวิ่งผ่านพระตำหนักจิตรลดาฯ พร้อมทรงฉายพระรูปขบวนวิ่งคบเพลิงที่ผ่านไป










โดย: yyswim วันที่: 27 เมษายน 2551 เวลา:17:26:15 น.  

 



ขำขัน


กอดกันทุกวันฉันเพื่อนมิตร


กอดกันนิดนิดจิตแจ่มใส


แต่ช่วงนี้กอดกันมันมากไป


เฮ้ยตกลงมรึงคิดอะไร..ไงกะกรู






โดย: yyswim วันที่: 27 เมษายน 2551 เวลา:17:26:47 น.  

 
ขอบคุณ จ๊ะ ที่นำมาฝาก

อยากให้คนอื่นมากอด กะได้กอดคนอื่น บ้างจัง กะลังหาอยู่แบบว่ากอดแล้วไม่โดนทำร้ายร่างกายนะ ฮิ ฮิ ฮิ...


โดย: บ้าได้ถ้วย วันที่: 27 เมษายน 2551 เวลา:18:09:29 น.  

 
ไม่มีใครให้กอดเล้ย


โดย: Summer Flower วันที่: 27 เมษายน 2551 เวลา:19:36:54 น.  

 
คิดถึงอ้อมกอดของใครบางคน


โดย: มดโตะ วันที่: 27 เมษายน 2551 เวลา:21:10:22 น.  

 
ภาษากายบ่งบอกถึงหัวใจค่ะ...
ลองแอบไปกอดแม่มั่งดีกว่า ไม่กอดมานานแล้ว คราวที่แล้วแม่บอก ทำอะไร..จั๊กจี้...


โดย: ลิตช์ (Litchi ) วันที่: 27 เมษายน 2551 เวลา:23:35:22 น.  

 
กอด......

คือการแสดงออกทางกายที่สัมผัสได้ด้วยใจ
และคนทุกวัยชื่นชม


โดย: ป้ากุ๊กไก่ IP: 124.121.213.183 วันที่: 28 เมษายน 2551 เวลา:16:07:40 น.  

 
อ่อ ก็อัพเดรต ดึกทุกวัน เพราะ ว่าทำงานด้วยคะ นอนดึกทุกวันเลยคะ ก็มีหลายเรื่องที่ไม่เข้าใจ งง อิอิ เพราะสงสัยอัพเดรตดึกไป ก็เลยงง


โดย: ampiza วันที่: 28 เมษายน 2551 เวลา:19:07:07 น.  

 


เข้ามาตอบขอบคุณ ผู้เข้ามาเยี่ยม



ขอบคุณคุณบ้าได้ถ้วย... บล๊อกบ้านคุณ เขียนเก่งนะครับ อ่านสนุกดี ผมดูแต่สวรรค์เบี่ยงเรื่องเดียวครับ


คุณSummer Flower… ไปเจอหนุ่มเรน ที่บล๊อกบ้านคุณแล้ว

ขอขอบคุณครับที่มาเยี่ยม


คุณมดโตะ.....ผมขอเอาใจช่วยให้คนนั้นแข็งแรงและมาอยู่ใกล้ๆคุณ


คุณลิตช์…..ขอแนะนำว่า ตอนกอดคุณแม่ อย่าเพิ่งรีบทำต่อหน้าคนอื่น เพราะคุณแม่ยังเขิน ไม่เคยชิน


เจ๊.....เห็นเจ๊กอดหลามแฟม หลานโฟ เห็นแล้วสุขใจครับ



คุณampiza…..คนพันธุ์ดึกเหมือนกันครับ ดูเวลาตอนที่ตอบเมนต์ ดิ






โดย: yyswim วันที่: 29 เมษายน 2551 เวลา:0:36:53 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณสิน ...

นู๋ว่าจะเข้ามาคุยกับคุณสินเรื่องกรอบรูป อย่างที่คุณสินไปเม้นท์ที่บล็อกนู๋
ตั้งแต่วันที่ 23 น่ะคะ กำลังจะบอกว่าทำไม่ยากเลยเพราะมันสำเร็จรูป
แต่ดูเหมือนว่ามันจะสายไปแล้ว เพราะว่าคุณสินลองเข้าไปเล่นแล้ว ...

เป็นยังไงบ้างค่ะ สนุกและดีไม๊เอ่ย .. นู๋ว่าโปรแกรมนี้ดีนะคะ มีอะไรให้เล่น
เยอะเลย ดีสำหรับคนไม่ค่อยมีเวลาใส่กรอบรูปแบบทำเองล้วนๆ อะค่ะ


.................


เข้าเรื่อง ...

เรื่องการกอดนี่เห็นด้วยเลยนะคะ .. หลายครั้งเลยคนเราปราศจากคำพูด
ก็ด้วยการ "กอด" นี่ล่ะคะ ... มันบอกอารมณ์เราได้เยอะเลย
เมื่อก่อนนู่ก็ไม่นิยมหรอกค่ะ เพราะว่าเขิน .. แต่ว่าตอนนี้เหรอไม่เขินแล้วอ่ะคะ

กอดได้เมื่อเรารู้สึกอยากกอด และต้องเหมาะควรกับกาละเทศะ


เพราะฉะนั้น ถ้าหากว่าพี่เคน เค้ายกป้ายล่ะก็ นู๋บอกได้เลยว่า ถูกกาละเทศะ
เป็นอย่างยิ่งที่จะต้องวิ่งไปกอดค่ะ ถึงแม้ว่าจะไม่ค่อยดูคาวีเป็นประจำ
แต่ก็แบบว่าความหล่อ มันตรึงใจค่ะ เลยคิดว่า ถ้ากอดได้ ก็คงดีเน๊าะ


โดย: JewNid วันที่: 29 เมษายน 2551 เวลา:2:10:55 น.  

 


ขอบคุณคุณพู่มาก.....เรื่อง Photo Scape เนี่ย ที่จริงผมรู้มาบ้างและนานแล้ว แต่ไม่กล้าจับ ไม่กล้าแตะ เพราะต้องเรียนรู้เอง ต้องลองผิดลองถูกเอง ไม่มีใครสอนครับ จึงเลยกลัว รู้ว่ามีให้ใช้ แต่ก็ไม่ยอมใช้ครับ


แต่พักหลัง เห็นคนอื่นเขาทำกันบ่อย ก็ โฮะโฮะโฮะ ฝึกลองเอามาทำดู ผิดๆ ถูกๆ ไปตามเรื่อง


ผมยังมีอีกหลายเรื่องครับคุณพู่ ที่ผมอยากจะรู้ อย่างวิธีเปิดหน้ากล้อง (ผมใช้แต่โหมด ออโต้ ถ่ายเป็นประจำ) อย่าง Photo Shop ….


ที่จริงก็พอรู้ว่า ให้ไปอ่านค้นคว้าที่ไหน แต่ก็ต้องอ่านและทำด้วยสมองตนเอง ที่ไม่ค่อยเก่ง ก็เลยไม่คืบก้าวหน้าเท่าที่ควร


ผมยังต้องเรียนด้วยตนเองอีกมากเลยครับคุณพู่


เรื่องกอด หากใครเป็นลูกสาวคนสุดท้องที่คุณพ่อคุณแม่รัก นับเป็นเรื่องชิวๆ แต่ท่านที่เป็นลูกชาย ที่อยู่ในตระกูลของคนจีน ผมจะเห็นใจครับ เพราะรู้ว่า ไม่เคยกอดใครเท่าไหร่


คงต้องค่อยๆเป็นค่อยๆไป แบบความรู้หลายด้านที่ผมประสบอยู่ กระมัง







โดย: yyswim วันที่: 29 เมษายน 2551 เวลา:12:32:22 น.  

 


พี่สินคะ...

เข้ามาอ่านคุณค่าของการกอด
นกว่า..การแสดงแบบนี้อบอุ่นกว่าคำพูดที่หวานๆ มากมาย
นกมีคนให้กอดค่ะ พ่อ แม่ ไงคะ
กอดทุกสัปดาห์ที่กลับบ้านนะคะ
แต่สำหรับ..การจะเป็นคนถูกกอด..แบบหวามไหว
คงต้องรอคนที่จะก้าวเข้ามาค่ะ

พี่สินสบายดีนะคะ



โดย: Nok_Noah วันที่: 30 เมษายน 2551 เวลา:9:33:17 น.  

 
คิดอยากจะกอดใครบางคนอยู่เหมือนกัน

แต่พอเจอกัน กลับไม่กล้าเข้าไปกอด อิอิ

.
.

เรื่องที่ถามว่าเขาไปไหนหรือครับ ติดต่อกันได้หรือเปล่า

ขอตอบว่า คนที่ผู้เขียนรักคนนั้น เสียชีวิตแล้วค่ะ เมื่อเดือนพย.ปีที่แล้ว

วันหนึ่งเขาฝันถึง จึงเขียนออกมาค่ะ

ขอบคุณมากค่ะ ที่ไปให้ข้อคิดดีๆ


โดย: หยุ่ยยุ้ย วันที่: 30 เมษายน 2551 เวลา:11:59:43 น.  

 
สวัสดีครับพี่สิน


วันนี้เรื่องราวในบล็อกพี่สิน
อ่านแล้วรู้สึกดีมากครับ
อมยิ้มไปเรื่อยๆขณะที่อ่าน


........


ส่วนเม้นท์ที่บล็อกผม
ไม่มีอะไรที่ผมต้องเพิ่มเติมเลยครับ
ขอบคุณมากเลยครับพี่สิน
สำหรับแง่คิดดีดีในวันนี้ครับ



โดย: ก.ก๋า (กะว่าก๋า ) วันที่: 30 เมษายน 2551 เวลา:13:32:04 น.  

 
พี่สินคะ นี่เป็ดเข้ามาตั้งใจอ่านอย่างละเอียด แถมดู campaign การกอดที่ีดิโอคลิปด้วย เจ๋งมากเลยค่ะ ตอนแรกไม่นึกว่าจะมีใครกล้าไปกอดเค้านะคะ ไปๆเริ่มจากคุณยายแก่ๆ แล้วก็คนต่อๆไป พี่เชื่อไหม บีงี้น้ำตาคลอเลยอ่ะ ถ้าหนูเป็นคนที่ไม่มีใครกอด หนูคงเศร้าน่าดู หนูก็คงอยากถูกกอดเหมือนกัน แต่นี่เป็นหนุ่มหล่อถือป้าย หนูไม่กล้าหรอก กลัวโดน นป ยิงจากด้่นหลังตัดขั้วหัวใจ ฮ่าๆๆๆ

ล้อเล่งงงงงง

แต่ถ้ามีคุญยายคุณตาถือป้าย หนูจะเข้าไปกอดท่านค่ะ ก็เหมือนเวลาหนูไปสถานที่พักคนชรา หนูไปกอดคุณตาคุณยาย หนูว่าท่านมีความสุขมาก ท่านกอดหนูแน่นๆ ท่านบอกว่า อยากให้ลูกท่านมาหา มากอดท่านอย่างนี้บ้าง

ฟังแล้วหนูก็ร้องไห้อีกแหละค่ะพี่สิน

คิดถึงตรงนี้แล้วก็อยากกอดป้ากุ๊กไก่ และอยากถูกป้ากุ๊กไก่กอด ไม่รู้เป็นไง หนูมักจะคิดถึงป้ากุ๊กไก่บ่อยๆค่ะ

พี่สินคะ หนูชอบเรื่องราวที่พี่สินนำมาเสนอทุกเรื่องเลยค่ะ แม้หนูจะไม่ใช่แฟนพันธุ์แท้ที่บลอคพี่สิน แต่หนูก็แฮปปี้ทุกครั้งที่เข้ามาและออกไป แล้วทำไมหนูถึงไม่เข้ามาบ่อยๆนะ หนูไปเหลวไหลอยุ่ที่ไหนเนี่ย

บัวใต้น้ำจริงๆ ต่อไปหนูต้องมา sharpen up my brain here ซะแร๊น

ไปก่อนนะคะพี่สิน วันนี้หนูอยากอั่พบลอคค่ะ เมื่อคืนหนูันประหลาด หนูอยากเล่าให้เพื่อนฟังและเก็บไว้ค่ะ

อิอิ


โดย: เป็ดจัง IP: 124.121.106.218 วันที่: 30 เมษายน 2551 เวลา:13:45:28 น.  

 
กอดเบาๆส่งสัมผัสรักอย่างอบอุ่น...
แทนคำได้เป็นล้านคำเลยครับ...


โดย: big-lor วันที่: 30 เมษายน 2551 เวลา:14:06:35 น.  

 
สวัสดีค่ะ คุณสิน

ตั้งใจมาขอบคุณคะ เม้นที่เป็นแรงใจให้ต่อสู้สำหรับนักกีฬา

ที่บ้าน คุณก๋า ที่จริงแล้ว ซพส.เคยเข้ามาอ่านที่บ้านคุณสิน

บ้างแต่ไม่บ่อย ที่เข้าครั้งแรกเมื่อปีที่แล้ว ช่วงก่อนที่คุณสิน

ไปทำบุญกันแหละค่ะ เห็นชื่อบล๊อกเป็น swim ก็คิดว่า

คุณสิน เป็นโคชว่ายน้ำ แต่ไม่ใช่ ก็เลยมาบ้างแต่ไม่เคย

เขียนเม้นท์เลยค่ะ ซพส.ไม่มีบ้านหรอกค่ะ

แต่...แวะบ้านคุณก๋า บ่อยเท่านั้นเอง อ้อ...พอดีลูกสาว

เป็นนักกีฬาว่ายน้ำ ค่ะ พออ่านเม้นท์คุณสินแล้ว ก็ใช่จริง

ดังกล่าวแหละค่ะ แต่ลูกสาวยังไม่ครบทุกข้อ ขาดข้อ 4 6

8 9 10 จะพยามกระตุ้นในฐานะผู้ปกครองค่ะ


กอด กอด กอดแล้วรู้สึกดี ทั้งให้และผู้รับค่ะ

ซพส.เอง มีอ้อมกอดให้เสมอสำหรับคนที่เรารักและคนที่

เรามีไมตรี ยินดี ทุกข์ สุข เศร้า กับเขาเหล่านั้น ไม่มีอะไร

ที่อบอุ่นซึ้งใจ มากไปกว่าการกอดที่ออกมาจากใจ พร้อม

เสียงกระซิบในวาระนั้นๆ กอดกันเถอะเราชาวไทย


มีความสุข กับทุกๆวันนะคะคุณสิน

วันหน้า ซพส. จะแวะรับคำแนะนำ ความรู้สึกดี ดี อีกนะคะ


โดย: ซอมพอแสด IP: 125.25.164.211 วันที่: 30 เมษายน 2551 เวลา:14:10:23 น.  

 
แวะมาทักทายวันพุธจ้า อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อยรักษาสุขภาพด้วยนะคะพี่สิน




โดย: eeh (คิตตี้น้อยสีชมพู ) วันที่: 30 เมษายน 2551 เวลา:17:43:45 น.  

 
ยาครอบจักรวาล

ไม่ใช้ถ่าน และ ไม่มีการเคลื่อนไหว
ไม่มีค่าใช้จ่ายเป็นรายเดือน และ ไม่มีค่าธรรมเนียมใดๆ
ประหยัดทรัพย์ ปลอดภาษี
ในความจริงนี้ มันผ่อนคลายได้เป็นอย่างดี

ขโมยไม่ได้ ไม่สร้างมลพิษ
ให้ผลมหาศาล ใช้พลังงานน้อยนิด
ขนาดเดียวสำหรับทุกคน
ไม่เจือปนจนเจือจาง

บรรเทาเครียด และ ขจัดความเหนื่อยล้า
ปลุกความสุขให้เปี่ยมชีวิตชีวา
สู้กับความเศร้า ดึงเอารอยยิ้มออกมา
และยกระดับความศรัทธาในตัวเอง

ปรับเปลี่ยนการไหวเวียนของโลหิต
ไม่มีผลข้างเคียงที่เป็นพิษ
มันเป็น ฉันว่า มันเป็นตัวยาชั้นยอด
ขอแนะนำหน่อยได้ไหม.. ก็ "การกอด" ไงละเพื่อน!

( และ แน่นอน
สามารถคืนกลับมาใหม่ได้เท่าเดิม!)

เฮนรี่ แมทธิว วอร์ด



โดย: คนขายฝัน (Merchant Dream ) วันที่: 30 เมษายน 2551 เวลา:19:06:14 น.  

 
เจ้าของบล๊อก อยากจะได้คอมเมนต์ .. ช่วยเขียนอะไรให้อ่านสักหน่อย นะครับ


^
^
^

ดี.ก็นึกว่าพี่สินอยากให้กอด


ดี.กอดบ่อยนะ
กอดพี่
กอดน้อง
กอดเพื่อน

กับน้องๆที่ตัวเล็กๆ
เวลาทักทาย
ก็จะบอก...
มาให้พี่ดี.กอดก่อนเร๊ววว

กอดที่มีความหมาย
ก็ตอนร้องไห้
แล้วพี่หรือเพื่อนดึงไปซุ๊กกกอก
รู้สึกเหมือน
ไม่ได้อยู่คนเดียวในโลก

โดยรวม...
ดีดีชอบกอด
เวลายืนคุยกันชอบไปยืนกอดๆ
สุดแท้แต่ว่าพี่ เพื่อน หรือน้องจะเป็นเหยื่ออ่ะค่ะ

เป็นที่รู้กันว่าดีดีขาดความอบอุ่น อิอิ



ดี.สอบเสร็จแล้วค่ะพี่สิน
ขอบคุณมากๆๆๆสำหรับกำลังใจ

ช่วงนี้ แวะมาที่บล็อกได้น้อยลง
เพราะงานสาหัส

แต่คิดว่าอีกสักพัก
ทุกอย่างคงจะเข้าที่เข้าทางขึ้น

ชีวิตดี.ตอนนี้
อยู่กับตัวหนังสือ
อ่านๆๆๆๆๆ ตาลาย

โดยรวม...มีความสุขมากๆค่ะพี่สิน


ฝันดีนะคะพี่สิน
ไม่ได้มาส่งพี่สินเข้านอนนานแล้วนะเนี่ย
แต่ดีดีก็เหมือนเดิมล่ะ
ไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไร
เป็นดีดีอย่างที่ดีดีเป็น...เสมอ




โดย: d__d (มัชชาร ) วันที่: 30 เมษายน 2551 เวลา:22:21:18 น.  

 


โดย: คนสาธารณะ วันที่: 30 เมษายน 2551 เวลา:23:53:35 น.  

 
กอดที่สำคัญไม่แค่กายอุ่น....แต่ใจอุ่นมากมายครับ


ปล. ผมแวะเข้ามาสะกิดทัก ตั้งแต่บล๊อคที่แล้วหนิครับ


โดย: ตงเหลงฉ่า วันที่: 1 พฤษภาคม 2551 เวลา:1:06:43 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณสิน ...

ตอนนี้ผ่านตีสามครึ่งไปได้หน่อยแล้ว แต่ว่ายังไม่ง่วง
เลยได้แวะเวียนอ่านบล็อก เข้าบล็อกไปเรื่อยๆ ค่ะ
แล้วนี่เชื่อป่ะค่ะว่า อ่านบล็อกตอนกลางคืนนี่
มันดีตรงที่ว่าอ่านแบบเงียบๆ มันมีสมาธิดี
อีกอย่างที่ดีคือ เน็ตเต่ากลางวัน มาตอนกลางคืน
กลายเป็นเน็ตอัพเกรดไปซะแล้ว เพราะว่าแรง
มาหน่อยนุงค่ะ 555 ++

.............


หลายเรื่องหลากราว มีอีกเยอะเลยคะที่เรายังไม่รู้
และอะไรที่ยังไม่รู้ เราก็ยังสามารถค้นคว้า
ค้นหามันให้สนองความต้องการของเราได้เสมอๆ ค่ะ
เพียงแตว่าเราจะมีเวลาและโอกาสเท่านั้นหรือเปล่า

คุณสินบอกว่ามีหลายอย่างที่อยากรู้ นู๋ว่านะคะ
คุณสินเก่งหลายอย่างนะคะ อย่างน้อยๆ เลยที่เห็นคือ
คุณสินเป็นคนที่เขียนเก่ง อ่านเก่ง และบอกเล่าเก่ง
ทำให้ตัวหนังสือที่คุณสินเขียนออกมา มันเป็น
อะไรที่สามารถเข้าถึงได้ง่ายๆ


ส่วนอย่างเรื่องกล้อง ว่าไปแล้วคุณสินก็สามารถ
สอบถามเอาได้นะคะ อย่างที่สามารถเป็น
อาจารย์ได้เลยและให้คำแนะนำได้ดีเลยก็คือ
ย่าดาอ่ะคะ เพราะว่าย่าเค้าถ่ายรูปสวย
เรื่องเทคนิคคงไม่ต้องห่วง แต่สำหรับหนูสิค่ะ
ถ่ายเอามันส์บางทีเรื่องเทคนิคและองค์ประกอบ
ยังต้องหาทางเรียนรู้เพิมเติมอีกเรื่อยๆ ค่ะ



....................

เกือบลืม มาต่อหน่อยเรื่องของคู่รักผิดแบบ
ในตีสิบ .. พู่ว่านะคะ ความรักบางทีมันก็บอกอะไรไม่ได้
แต่ว่าสองเพศที่เค้าเอามาออกนี้ เค้าคงเป็นพวก
ขาดอะไร และอยากเติมเต็มอะไรสักอย่าง
สังเกตุว่า กระเทยคนนั้นเค้าจะบอกและพูดบ่อยๆ
ทั้งรายการเลยว่า "มีความรู้สึก่ว่า" ..
นั่นแสดงว่า เค้าเลือกจะรักใคร ก็คงด้วยความรู้สึก
เรื่องเพศนั้นก็ไม่แน่ จริงๆ อาจจะไม่มีก็ได้
แต่คือ อยู่ด้วยกันแบบว่าเป็นเพื่อนกันมากกว่า
ด้วยเพราะใจที่พ่ายต่อการเอาใจใส่กันและกัน
และได้รับการเป็นห่วงเป็นใย อะไรเทือกนี้ด้วยมั้งค่ะ ..

อันนี้ก็สุดจะเดา เพราะว่าเค้าไม่ได้เล่าหรือว่า
นำเสนอออกมาอีกแง่ เพราะคนดำเนินรายการ
ก็มัวแต่จะพูดประเด็นเรื่องแปลกของคู่นี้
และก็อีกอย่าง ดูแล้วอึดอัดนิดหน่อย เพราะบางที
มันเป็นคำถามจ้วงๆ แล้วก็คนถาม ลีลาการถาม
ก็กระตุก และก็ชะงักนิดหน่อย จนเหมือนว่าจะไปเน้น
เรื่องของความผิดปกติของเค้าจัง ..


โดย: JewNid วันที่: 1 พฤษภาคม 2551 เวลา:3:42:32 น.  

 
ขอถาม... นี่ถ้า คาวี หรือเคน ธีรเดช เดินยกป้าย “อาสากอดฟรี” ในเมืองไทยบ้าง ...มีใครจะกล้ากอด เคนธีรเดช ม๊ายยยยยยย?????

ขอตอบคำถามนี้ค่ะ อิอิ
ถ้าคาวี ถือป้ายกอดฟรี ก็จะกอดค่ะขอกอดนานๆด้วย
ตอนนี้กำลังอินกับหนังค่ะ สงสารคาวีจริงๆ

ปล.เปลี่ยนสถานะด้วยนะค่ะคุณพี่เคนเพราะไม่โสดแล้ว


โดย: ดอกหญ้าเมืองเลย วันที่: 1 พฤษภาคม 2551 เวลา:7:04:49 น.  

 

Photobucket

มามอบวันแห่งชนะให้ค่ะ ขอให้มีความสุขตลอดทั้งวันนะคะ



สวัสดีค่ะ คุณสิน

ขอบคุณที่ไปเจิมให้ค่ะ

การกอดคือการ สื่ออย่างหนึ่ง ของ มนุษย์ จากสัมผัสสู่กันค่ะ
จาก ความรู้สึกที่ดี จากความอบอุ่น และรู้สึกแห่งความเป็นมิตร
ต่อจากนั้น ก็จะแผ่ซ่าน สู่กันและกัน เป็นพลังงานอันหนึ่ง มีประสิทธิภาพ และผลทางด้านบวก

แห่ะๆๆ เนี่ยะ ความเห็นจากการกอด ของโรสค่ะ
อืมม์ ว่าแล้ว ขอไป กอดน้องทิชา หลานสาวตัวน้อยก่อนค่ะ
ขอบคุณในแง่คิดวันนี้ค่ะ การกอดคือสื่อแห่งความรัก ความอบอุ่น และสัมผัส แห่งความทนุถนอมจากผู้ให้ ซึ่งทารกต้องการมาก
ไปกอดน้องทิชาละค่ะ

มีความสุขทั้งวันนะคะ


โดย: นายกุหลาบ วันที่: 1 พฤษภาคม 2551 เวลา:8:48:54 น.  

 

คุณสินครับ

ตอนที่อยู่ ตะวันออกกลาง ก็สงสัยอยู่เหมือนกัน เพราะว่า ที่นั่น เจอหน้ากอดกันทุกที กอดกันเป็นปกติ
เจอหน้ากันไม่ไช่กอดอย่างเดียว เอาแก้มแตะกันด้วย ซ้ายที ขวาที
ผู้ชายนะหนวดเครารุงรังนั่นแหละครับ

ตอนนั้นไม่ค่อยชิน เพราะเราอยู่เมืองไทย
ไม่เห็นเขากอดกันมากมายขนาดนั้น
มัน จั๊กกะเดียม เนาะ!

ผมเคยอ่านว่า พ่อ แม่ นี่ควรหาเรื่องกอดลูกทุกวัน
วันละหลายๆครั้ง
ผมเลยกอดน้องโรส น้องรินทุกวัน
แต่ตอนหลังๆ น้องโรส ไม่ค่อยยอมให้กอด
บอกไปกอด แม่โน่น
เป็นงั้นไป

คุณสินหาเรื่องมาให้อ่าน ดีจังครับ
พักผ่อนมั่ง เนาะ!
เป็นห่วง ครับ



โดย: ทวีศักดิ์ ถาวรรัตน์ (คนตาพิการ ) วันที่: 1 พฤษภาคม 2551 เวลา:19:40:54 น.  

 
แวะมาราตรีสวัสดิ์ค่ะพี่สิน

น้องแคทห่างหายไปเลยนะค่ะ
ช่วงนี้งานยุ่งจังเลยค่ะพี่ชายคนดี
วันนี้ได้แวะมาอ่านเนื้อหาที่รู้สึกสุขจังเลยค่ะพี่ชาย

เราไม่เคยได้กอดใครมากมายค่ะ
แต่รู้สึกดีเสมอเมื่อได้สัมผัสถึงความอบอุ่น
เวลาเราได้กอดใครคนหนึ่งที่เรารู้สึกดีค่ะ



น้องสาวจะกอดเขาคนนั้นแรงๆๆเลยค่ะ
แบบว่าเอาให้ขาดใจตายคาอกเลยดีไหมนิ
55555555555
มันรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัยค่ะ
เวลาได้สัมผัสไออุ่นจากคนที่เรารักค่ะพี่ชาย


กอดแบบน้องแคทนี้น่าประทับใจไหมค่ะพี่ชาย
ว้าววววววววววว
อยากกอดใครคนหนึ่งแรงๆๆแล้วสิ


ขออนุญาติพี่สินไปสัมผัสความรู้สึกที่ดูอบอุ่นก่อนนะค่ะ
พอได้อ่านเนื้อหาและความหมายแล้ว
รู้สึกดีกับการกอดจังค่ะ
ขอบคุณมากค่ะพี่ชาย..
สาหรับเนื้อหาวันนี้นะค่ะพี่ชาย



นอนหลับฝันดีนะค่ะพี่ชายคนดีเสมอ






โดย: catt.. (catt.&.cattleya.. ) วันที่: 1 พฤษภาคม 2551 เวลา:21:54:37 น.  

 


ยังไม่ว่างไปเอาพัดลมเลยล่ะพี่สินไว้อาทิตย์หน้า
แวะมาชวนไปเที่ยวบ๊อกอุ้มตอนที่ 3 แล้วเน้อ


โดย: อุ้มสี วันที่: 1 พฤษภาคม 2551 เวลา:23:22:22 น.  

 
ลุงสินจะให้เอ๋อเมนต์อะไรอะ เพราะสิ่งที่ลุงสินเขียนลงมานั้นมันสมบูรณ์พร้อมทั้งข้อมูล และเนื้อหา

งั้นขอกอดชมเชยหน่อยได้ปะ

จะมีใครมาแหกอกเอ๋อไหมอะ

ปล (ง)
1. เรื่องที่ทาบทามนั้นเป็นนวนิยายค้าบลุง เรื่องของหมาชิเอ๋อยังไม่ได้คิดว่าจะทำออกมาในรูปแบบไหนเลยค้าบ

2. เพื่อนในบล็อคลุงสินนี่นะไม่มี แล้วลุงสินไม่นับเอ๋อรวมเป็นเพื่อนด้วยเหยอ

3. อย่ายอมากมายเลยลุงสิน เพราะตอนนี้เอ๋อยังหาแนวทางของตัวเองไม่เจอเลยอะ วานถามลุงหน่อยสิ ว่าแนวที่เอ๋อถนัด แล้วลุงสินเข้าไปอ่าน แบบชอบ แล้วคิดว่าใช่แนวเอ๋อ นั่นเป็นแบบไหนอะ

4. มีความสุขในการทำงานนะค้าบ เอ๋อต้องเดินทางอีกแล้วอะลุง เจอกันอาทิตย์หน้าเลยนะค้าบ

5. จุ๊บๆๆๆ


โดย: err_or IP: 203.155.220.235 วันที่: 6 พฤษภาคม 2551 เวลา:8:37:05 น.  

 
Free hugs ในไทยก็มีแล้วนะคะ กรุงเทพ เชียงใหม่ ภูเก็ต แต่ละอันได้แรงบันดาลใจมาจากต้นฉบับท่านฮวน แมนทั้งนั้นค่ะ
แต่ก็ยินดี ที่ประเทศไทยก็มีด้วย กอดกันทั้งโลก :)


โดย: Poom IP: 118.172.67.242 วันที่: 14 มกราคม 2552 เวลา:16:02:33 น.  

 
ชอบอาจารย์พรวรินทร์ มากมากค่ะ


โดย: เบญจวรรณ ชยางกูร ณ อยุธยา IP: 58.181.214.135 วันที่: 15 มีนาคม 2552 เวลา:15:57:27 น.  

 
การกอดทำให้รู้สึกอบอุ่นค่ะ...


โดย: หมูอ๊วนอ้วน วันที่: 4 มิถุนายน 2552 เวลา:1:24:14 น.  

 
เป็นบทความที่ดีมากเลย ซึ้งๆๆ


โดย: ไก่วัด IP: 58.8.135.123 วันที่: 14 กันยายน 2552 เวลา:15:04:06 น.  

 
ชื่นชอบพี่แอ้(พรวรินทร์)เธอน่ารักเป็นพี่สาวที่แสนดี
น่ากอดที่สุด


โดย: สาว อบต. IP: 112.142.137.200 วันที่: 22 กันยายน 2552 เวลา:22:43:19 น.  

 
อยากมีคนกอดจัง

ได้แต่กอดคนอื่น

แต่ก้รู้สึกดีมากมายที่ได้กอด

รู้สึกดีจริงๆๆๆ

ยิ่งในวันที่เรารู้สึกแย่

ถ้ามีใครมากอด



โดย: cherry IP: 115.87.75.130 วันที่: 16 ธันวาคม 2552 เวลา:20:33:16 น.  

 
ได้เข้ารับการอบรมกับครูแอ้ รู้สึกประทับใจมากและมีกำลังใจที่จะทำงานมากขึ้น โดยมีความมุ่งหวังว่าจะทำดีเพื่อสังคมนับแต่วินาทีนี้ ไม่ต้องสนคนอิจฉา ถ้าเราคิดว่าสิ่งที่ทำเป็นสิ่งที่ดี ไม่ทำให้ใครเดือดร้อน


โดย: แอน IP: 112.142.146.24 วันที่: 12 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:12:23:30 น.  

 
สวัสดี ฉันไม่เคยคิดว่าการกอดสำคัญเพราะอยู่ในครอบครัวไทยแท้ไม่ค่อยนิยมการกอดหรือสัมผัสกันนัก จนกระทั่งมีลูก ดิฉันกอดลูกบ่อยจนเป็นเรื่องธรรมดา ลูกจะชอบให้เรากอด ไม่ว่าลูกจะสนุกหรือทุกข์ เครียดเขาจะมาหาและให้เรากอด บางทีก็ขอกอดหน่อย เขาจะมั่นใจและดูสบายใจมาก เราเองก็รู้สึกสบายใจเช่นกัน พอมาอ่านเรื่องของพี่พรวรินทร์ นุตราวงศ์ ทำให้ซึ้งกับการกอดมาก จนอยากแบ่งปันความรู้สึกดีๆให้กับคนอื่นบ้าง และมั่นใจ ไม่เขินอายถ้าจะกอดคนที่เราอยากให้กำลังใจหรือเขาท้อแท้บ้าง


โดย: เอ IP: 110.49.138.219 วันที่: 11 พฤศจิกายน 2553 เวลา:10:50:48 น.  

 
ขอบคุณครับ เขียนดีนะครับ
ติดตามอยู่นะครับ เดี๋ยววันหลังจะตามมาอ่านใหม่ bookmark ไว้ละ :D
วันนี้พอก่อน วันละนิด จิตแจ่มใส่ :D




_________________________________________________________________________________


cheap halloween costumes | homemade halloween costumes | adult halloween costumes





โดย: lafaellcross วันที่: 13 ตุลาคม 2554 เวลา:4:34:38 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

yyswim
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 40 คน [?]





บล็อกสรรสาระนี้ จขบ.ไม่ได้เขียน-ไม่ได้ถ่ายภาพ-ไม่ได้อัพโหลดคลิปเอง หากแต่ทำหน้าที่เป็นบรรณาธิการบล็อก เสาะหาเรื่องดีๆ รูปสวยๆ คลิปแปลกๆ มาไว้ในบล็อก


ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยม ขอเชิญชมหรืออ่านตามสบาย ไม่ต้องคอมเมนต์ก็ได้ จขบ.ชอบการเข้ามาเยี่ยม แบบกันเอง ง่ายๆ สบายๆ




เริ่มเขียนBlog เมื่อวันที่ 1 มีนาคม พ.ศ.2548


เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม พ.ศ.2550 เวลา 23.30 น.


เริ่มนับจำนวนผู้เข้าเยี่ยมชม




Latest Blogs

New Comments
Group Blog
 
<<
เมษายน 2551
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
27 เมษายน 2551
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add yyswim's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friends


 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.