All the girls standing in the line for the bathroom !!!

*** หมายเหตุ : สงวนลิขสิทธิ์ บทความและผลงาน ใน Blog นี้ครับ ***
Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2561
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
252627282930 
 
4 พฤศจิกายน 2561
 
All Blogs
 
*** Homestay *** โกง

*** Homestay ***






Homestay ดัดแปลงจากนวนิยายปี 2007 ของ Eto Mori เรื่อง Colorful

หนังว่าด้วยวิญญาณตนหนึ่งที่ได้รับรางวัลในการกลับมามีชีวิตอีกครั้งในร่างของ มิน นักเรียนชั้นม.ปลาย ที่ตายไปแล้ว 1 วันจากการฆ่าตัวตาย

โดยเขาต้องสืบหาสาเหตุการฆ่าตัวตายของมินให้ได้ภายใน 100 วัน ตามเงื่อนไขของรางวัล


ซึ่งถ้าทำได้เขาจะได้ครอบครองร่างมิน แต่ถ้าไม่ได้ เขาจะไม่ได้ไปผุดไปเกิดอีกเลย



(จากนี้ไปเปิดเผยเนื้อหาสำคัญ)






เมื่อได้เข้ามาอยู่ในร่างของมิน เขาพบว่าปัญหาต่างๆที่อยู่รายล้อมตัวมิน คือสิ่งที่ทำให้มินตัดสินใจฆ่าตัวตาย



ทั้งพ่อที่ล้มเหลวด้านการงาน ถึงขั้นขโมยของภายในบ้านไปขาย

แม่ที่แอบคบชู้ที่ต่างจังหวัด

พี่ชายที่แม้จะรักและเป็นห่วงมิน แต่ล้มเหลวในการสื่อสารกับมิน

พาย หญิงสาวที่มินหลงรัก แต่ยอมใช้ร่างกายแลกกับความสำเร็จที่เธอมุ่งหวัง



นี่เองที่ทำให้เขาตัดสินใจเลือกตอบ “ผู้คุม” ว่า ทุกคนเป็นสาเหตุที่ทำให้มินฆ่าตัวตาย แต่นี่เป็นคำตอบที่ผิด เขาจึงเหลือเวลาอยู่ในร่างมินอีกแค่ 3 วัน



ท้ายที่สุดเขาเองก็เข้าใจว่าแม้จะอยู่กับสภาพแวดล้อมที่เลวร้ายแค่ไหน มันก็มีด้านดีอยู่ เพียงแต่เขาไม่เคยมองเห็นมันเลย เขาเลือกที่จะมองแต่ด้านร้ายและด้านแย่ของชีวิต

เมื่อครบกำหนดวันที่ 100 วันที่เขาต้องตาย ผู้คุมกลับมาหาเขาอีกครั้ง เขาจึงมีโอกาสตอบคำถามใหม่ว่า คนที่ทำให้มินฆ่าตัวตายก็คือ ตัวมินเอง และเขาก็รู้ตัวแล้วว่า ตัวเองคือมินที่สูญเสียความทรงจำ



สุดท้ายมินก็ชนะเดิมพันและได้ใช้ชีวิตอยู่ต่อไป



(หนังเปิดโอกาสให้ผู้ชมได้ตีความว่า สิ่งที่เกิดขึ้นกับมิน เป็นเรื่องเหนือธรรมชาติ หรือจะเป็นเพียงอาการเห็นภาพหลอนของมินหลังจากฟื้นจากความตาย)






ประเด็นที่หนังพยายามบอกเล่ากับผู้ชมก็คือ



ชีวิตเป็นสิ่งสวยงาม



แม้จะมีเรื่องราวเลวร้าย ก็ขอให้มองแต่ด้านดีแล้วชื่นชมกับชีวิตต่อไป

(ซึ่งน่าจะขัดใจกับผู้ชมที่มีแนวคิดว่า ในเมื่อเราเป็นเจ้าของชีวิตเราควรจะมีสิทธิในชีวิตเราเอง เราควรมีสิทธิที่จะเลือกในการจัดการกับชีวิตของเรา
อีกอย่างคือการมองแต่แง่มุมที่ดีของชีวิตแล้วมองข้ามความเลวร้ายหรือปัญหา อาจไม่ใช่ความคิดที่ดีนัก)



แต่สิ่งที่แฝงอยู่โดยที่ตัวหนังเองไม่ได้ตั้งใจนำเสนอ (แต่น่าสนใจมากกว่า) นั่นก็คือ เรื่องราวที่ว่าด้วย



การโกง






พิจารณากันอีกครั้งตามเรื่องราวในหนัง จะพบการโกงครั้งใหญ่อยู่ 2 ครั้ง



โกงครั้งที่ 1



วิญญาณมินที่หมดอำนาจในการควบคุมร่างกายเพราะตายไปแล้ว ถูกผู้คุมใช้วิธีพิเศษในการนำมินกลับมามีอำนาจควบคุมร่างกายอีกครั้ง

มินที่ควรจะตายไปแล้วโกงความตายของตัวเอง ด้วยการเข้าควบคุมร่างตัวเองอีกครั้งหนึ่ง

(กฎกติกาพื้นฐานโดยทั่วไปที่ทุกคนทราบกันดีว่าเมื่อตายไปแล้วเราไม่สามารถฟื้นขึ้นมาได้)



โกงครั้งที่ 2



ผู้คุมตั้งเงื่อนไขในการเข้าครอบครองร่างนี้ว่า จะต้องตอบคำถามให้ได้ภายใน 100 วัน

แต่เมื่อไม่สามารถทำได้ตามข้อตกลง แทนที่ผู้คุมจะทำตามกติกา กลับแหกกฎกติกาที่ตั้งไว้เอง แล้วเอื้อประโยชน์ให้วิญญาณมินได้ครอบครองร่างนี้ต่อไป

สุดท้ายหนังก็เฉลยว่า ผู้คุมและมิน อาจเป็นคนเดียวกัน (หรืออย่างน้อยก็เป็นพวกเดียวกันหรือเอื้อประโยชน์ให้แก่กัน)





การโกงทั้ง 2 ครั้งยัง มีเป้าหมายเพื่อให้ได้ครอบครองและมีอำนาจเหนือร่างกายไม่ต่างกัน

ดังนั้น ประเด็นที่ซ่อนอยู่ของหนังจึงว่าด้วย



การโกงเพื่ออำนาจในการควบคุม



แถมการที่ผู้คุมรู้เห็นเป็นใจกับมิน ราวกับเป็นคนเดียวกันหรือพวกเดียวกัน ยิ่งทำให้ประเด็นน่าสนใจขึ้นมาอีก เพราะนี่คือ



การร่วมกันคอรัปชั่น รวบอำนาจเบ็ดเสร็จเพื่อเข้าครอบครอง






ขอนอกเรื่องสักนิด

ถ้าสมมติหนังเป็นเรื่องราวที่ถูกบอกเล่าโดยมินและผู้คุมและให้ผู้ชมเป็นผู้สังเกตการณ์เพื่อเป็นพยาน

พวกเขาอาจหาเรื่องเข้ามาควบคุมร่างนี้อย่างผิดกฏกติกาด้วยการบอกกับผู้ชมว่า จะเข้ามาหาสาเหตุและแก้ปัญหาให้กับร่างนี้

จากนั้นพวกเขาอาจหาเรื่องเพื่อครอบครองร่างนี้ต่อทั้งที่หมดเวลาที่เคยสัญญาไว้ ด้วยการแหกกฎเกณฑ์ที่ตัวเองสร้างขึ้น แล้วสร้างความชอบธรรมว่าเขาก็คือเจ้าของร่างที่ถูกต้อง เพียงแต่ความจำเสื่อมเพิ่งจำได้ในภายหลัง หรือบอกผู้ชมว่าพวกเขาชนะเกมนี้แล้วทั้งที่ตัวเองฉีกกฎกติกาเดิมทิ้งแบบดื้อๆ





หนังยังมีการโกงของตัวละครสมทบในหนังเพื่อเสริมประเด็น (โดยไม่ตั้งใจ) นั่นก็คือ พาย ที่ยอมเอาตัวเข้าแลกเพื่อสิทธิในการเป็นตัวแทนนักเรียนที่ได้เข้าแข่งขันโอลิมปิกวิชาการ






กลับมาที่การวิจารณ์หนังกันบ้าง สำหรับ plot ของหนังนั้นถือว่าน่าสนใจและเรียกร้องความสนใจได้ไม่น้อย แต่กับผลลัพธ์ที่ได้หนังกลับใช้ประโยชน์จาก plot ได้ไม่มากพอ

หนังเต็มไปด้วยประเด็นน่าสนใจมากมาย แต่ไม่สามารถขับเน้นประเด็นเหล่านั้นให้หนักแน่นได้



ปัญหาของหนังคือความแม่นยำของอารมณ์ที่ยังไม่ดีพอ รวมถึงการกระจายน้ำหนักไปที่เรื่องราวส่วนต่างๆนั้นไม่สม่ำเสมอและไม่ราบรื่นนัก

ส่วนที่ควรเน้นกลับถูกละเลย เช่น ส่วนของความสัมพันธ์และแรงขับดันของตัวละครทั้งหลายในเรื่อง

ส่วนที่ไม่ควรเน้นกลับถูกนำเสนอมากเกินไป เช่น ฉาก CG ทั้งหลายที่ถูกใส่เข้ามา รวมถึงเรื่องราวบางส่วนที่กินเวลาของหนังไปมากแต่เนื้อเรื่องไม่เดินไปข้างหน้า

จนรู้สึกว่าเงื่อนไขทางเวลาที่ “ผู้คุม” ตั้งขึ้นเพื่อบีบตัวละครหลัก (และบีบบอารมรณ์ผู้ชมไปในตัว) ไม่สามารถเป็นความกดดันทางอารมรณ์ได้ตามที่ผู้สร้างตั้งใจ






ข้อเสียอีกอย่างคือ หนังไม่ทิ้งพื้นที่ให้ผู้ชมได้ซึมซับอารมณ์ไปกับตัวละครมากพอที่จะเข้าใจตัวละครเหล่านั้น

นั่นทำให้ผู้ชมไม่คล้อยตามไปกับการตัดสินใจของตัวละครและผลกระทบที่เกิดขึ้นกับพวกเขา



อย่างไรก็ตามในภาพรวม หนังยังดูได้เพลินๆและเป็นความบันเทิงที่พอรับได้






6 / 10




Create Date : 04 พฤศจิกายน 2561
Last Update : 4 พฤศจิกายน 2561 12:33:40 น. 1 comments
Counter : 2107 Pageviews.

 
กระทู้ที่ตั้งใน Pantip

https://pantip.com/topic/38235322


โดย: navagan วันที่: 11 พฤศจิกายน 2561 เวลา:12:33:33 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

navagan
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 73 คน [?]




นวกานต์ ราชานาค
Navagan Rachanark


สนใจใน ภาพยนตร์, การวิเคราะห์-วิจารณ์ ภาพยนตร์,ดนตรี, งานเขียน และ ศิลปะอื่นๆ

สร้างสรรค์ผลงานภาพยนตร์ทดลอง และ งานดนตรีทดลอง และ งานเขียน


ปัจจุบันทำงานด้านการตลาด การวิจัยและพัฒนายางสังเคราะห์และยางธรรมชาติ

เริ่มจัดเก็บข้อมูลสถิติการเข้าชม

Time 09:00 Date 31/01/2010

by Histats.com

blogger web statistics

ถูกใจบทความ หรืออยากสนับสนุนเจ้าของ Blog

ก็ช่วย click ที่ Link โฆษณาครับ

ขอบคุณครับ

Friends' blogs
[Add navagan's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.