All the girls standing in the line for the bathroom !!!

*** หมายเหตุ : สงวนลิขสิทธิ์ บทความและผลงาน ใน Blog นี้ครับ ***
Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2562
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
1 สิงหาคม 2562
 
All Blogs
 
*** Parasite *** คน - ส้วม - หิน - บ้าน - ฝน

*** Parasite ***






ผลงานล่าสุดของผู้กำกับ Bong Joon-ho ที่คว้ารางวัล Palme d’Or จากเทศกาลภาพยนตร์เมือง Cannes ปี 2019

หนังว่าด้วยเรื่องราวของ 2 ครอบครัวที่มีฐานะแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง แต่แล้วทั้ง 2 ครอบครัวก็ต้องมาเกี่ยวพันกัน



คำว่า Parasite (ปรสิต) หมายถึง สิ่งมีชีวิตที่อาศัยผู้อื่นหรือเซลล์ชนิดอื่น (ซึ่ง ผู้อื่นหรือเซลล์ชนิดอื่นถูกเรียกว่าโฮสต์, Host) เป็นที่พักอาศัยและแหล่งอาหาร และบางครั้งก็ทำร้ายโฮสต์จนเจ็บป่วยหรือถึงกับชีวิต

ความสัมพันธ์ของสิ่งมีชีวิตที่ฝ่ายหนึ่งได้ประโยชน์ ฝ่ายหนึ่งเสียประโยชน์ หรือไม่ได้ประโยชน์อะไร เรียกว่า “ภาวะปรสิต”



น่าสนใจว่า ผู้กำกับ Bong เคยทำหนังที่มีชื่อว่า The Host มาก่อนและมีประเด็นบางอย่างคล้ายกับเรื่องนี้



(จากนี้ไปเปิดเผยเนื้อหาสำคัญ สำหรับผู้ที่ดูแล้วเท่านั้น)






หนังเปิดเรื่องด้วยครอบครัว Kim ในฐานะชนชั้นล่างที่ยากจน โดยหนังพาเราสำรวจบ้านและทำความรู้จักตัวละครทั้งหมดในเวลาอันรวดเร็วด้วยวิธีที่ฉลาดและไม่ยัดเยียด ด้วยการให้ตัวละคร Ki-Woo (Choi Woo-shik) ลูกชายคนโตของบ้าน เดินหาสัญญาน wifi ไปทั่วบ้าน เพื่อให้ผู้ชมทราบว่า Choong-Sook (Jang Hye-jin) ผู้เป็นแม่คืออดีตนักกีฬาระดับเหรียญรางวัล


และเมื่อผู้เป็นพ่อ Ki-taek (Song Kang-ho) แนะนำให้ยกโทรศัพท์มือถือให้สูงๆเพื่อหาสัญญาน wifi
(ซึ่งก็คืออุปมาอุปไมยว่า “ถ้าอยากจะหาประโยชน์ฟรีๆโดยที่ไม่ต้องเสียอะไรนั้น คนในระดับเดียวกันไม่สามารถให้ได้ ดังนั้นต้องไปหาประโยชน์กับคนที่ชนชั้นสูงกว่า”)



จากนั้นหนังก็แสดงให้เห็นว่าครอบครัวนี้เป็นชนชั้นล่างขนาดไหน เพราะ Ki-woo และน้องสาว Ki-jung (Park So-dam) เจอสัญญาน wifi ฟรีที่ตำแหน่งที่เป็นส้วมของบ้าน ซึ่งเป็นตำแหน่งที่อยู่สูงที่สุดในบ้าน



นี่คืออีกสัญลักษณ์ที่แสดงให้เห็นว่า “ครอบครัวนี้อยู่ต่ำกว่าส้วมเสียอีก”






ด้วยคำแนะนำแกมขอร้องจากเพื่อนสนิท Ki-woo ได้โอกาสไปสอนพิเศษให้กับนักเรียนมัธยม Da-hye (Jung Ji-So) ที่เป็นลูกสาวของ Mr. Park (Lee Sun-kyun) มหาเศรษฐีผู้ร่ำรวย และคุณนาย Yeon-kyo (Cho Yeo-jeong) ผู้เป็นภรรยา

ทั้งคู่ยังมีลูกคนเล็ก Da-song (Jung Hyun-joon) เด็กชายวัยกำลังซนอีกหนึ่งคน โดย Da-song ชอบวาดภาพและดูเหมือนจะมีพรสวรรค์ทางด้านศิลปะ Ki-woo จึงได้โอกาสในการพา Ki-jung น้องสาวของเขาเข้ามาหาประโยชน์ในบ้านหลังนี้อีกคนในฐานะ “ครูสอนศิลปะที่จบมาจากต่างประเทศ”

ก่อนที่โอกาสเล็กๆจะกลายมาเป็นแผนต้มตุ๋นขนาดใหญ่ ที่นำพาทุกคนในตระกูล Kim ไม่ว่าจะเป็น “พ่อ” ที่เข้ามาแทนที่คนขับรถคนเก่า และ “แม่” ที่เข้ามาแทนแม่บ้านคนเก่า โดยการแอบอ้างเป็นบุคคลอื่น



ดังนั้น หากความหมายของ “ปรสิต” คือ สิ่งมีชีวิตที่อาศัยผู้อื่นหรือเซลล์ชนิดอื่นเป็นที่พักอาศัยและแหล่งอาหารแล้วล่ะก็



ครอบครัว Kim = ปรสิต

ครอบครัว Park = โฮสต์






อันที่จริง ครอบครัว Kim เองก็ทำประโยชน์โดยทำงานรับใช้ครอบครัว Park ดังนั้นไม่ใช่ว่าครอบครัว Kim จะอยู่ในภาวะปรสิตอย่างสมบูรณ์แบบตลอดเวลาเสียทีเดียว

แต่ตอนที่ครอบครัว Park ไม่อยู่ ครอบครัว Kim ก็ทำตัวเหมือนแมลงสาบที่มักจะออกมาตอนไร้ผู้คน ตอนนี้ถือเป็นสภาวะปรสิตของครอบครัว Kim อย่างสมบูรณ์



หนังนำเสนอประเด็นความเป็นปรสิตของครอบครัว Kim ในเชิงสัญลักษณ์อยู่ในหลายฉาก เช่น ฉากพ่นยาฆ่าแมลง ที่พวกเขาทั้งหมดต่างก็ถูกพ่นยาไม่ต่างกับแมลงเหล่านั้น

หรือฉากที่ครอบครัว Kim ยึดครองบ้านตอนที่เจ้าของบ้านตัวจริงอย่างครอบครัว Park ออกไปตั้งแคมป์ ก่อนที่จะผิดแผนเมื่ออดีตแม่บ้านและครอบครัว Park กลับเข้ามาก่อนกำหนด ครอบครัว Kim ก็แตกกระเจิงเหมือนฝูงแมลงสาบที่พบว่ามนุษย์กำลังเข้ามาใกล้ บ้างก็แอบอยู่ใต้โต๊ะ บ้างก็แอบอยู่ใต้เตียง



และถ้าจริงจังกับความหมายของคำว่าปรสิตแล้วล่ะก็ ครอบครัว Kim เข้าข่ายเป็นปรสิตอยู่ในบางสภาวะเท่านั้น

แต่ปรสิตตัวจริงที่ตรงตามความหมายมากที่สุด (อาศัยประโยชน์จากผู้อื่นโดยไม่ได้ทำประโยชน์อะไรให้ผู้อื่นเลย) ก็คือ Geun-se (Park Myung-hoon) สามีของอดีตแม่บ้าน ที่แอบอยู่ในชั้นใต้ดินในบ้านของครอบครัว Park มายาวนาน



ดังนั้นช่วงกลางเรื่องมันจึงกลายเป็นการปะทะกันระหว่างชนชั้นล่าง 2 ครอบครัว ที่แย่งกันหาประโยชน์จากครอบครัว Park






เราแทนสมการง่ายๆได้ดังนี้



ครอบครัว Park = ชนชั้นบน = โฮสต์

ครอบครัว Kim = ครอบครัวอดีตแม่บ้าน = ชนชั้นล่าง = ปรสิต



ฉากความโกลาหลในงานวันเกิด Da-song ที่ Geun-se สามีของอดีตแม่บ้าน เดินขึ้นมาจากใต้ดินเพื่อแก้แค้นครอบครัว Kim กลับบานปลายกลายเป็นความตายของ Mr. Park คนที่เขาเทิดทูนสุดชีวิต

(ก่อนที่ Guen-se จะตายจากการถูกเสียบด้วยไม้ย่างบาร์บีคิวราวกับอุปมาอุปไมยว่า "บางทีเขาอาจไม่ใช่ปรสิตแต่เป็นอาหารของชนชั้นสูง" ต่างหาก)



นี่คือบทสรุปของความสัมพันธ์แบบปรสิตได้อย่างน่าสนใจ


การต่อสู้เพื่อแย่งผลประโยชน์จากครอบครัว Park (โฮสต์) ของครอบครัว Kim (ปรสิต) กับ ครอบครัวอดีตแม่บ้าน (ปรสิต) ก็บานปลายกลายเป็นสาเหตุให้ครอบครัว Park (โฮสต์) ต้องล่มสลายในที่สุด

และเมื่อครอบครัว Park (โฮสต์) ล่มสลาย ทั้งครอบครัว Kim (ปรสิต) และ ครอบครัวอดีตแม่บ้าน (ปรสิต) ก็ล่มสลายไปด้วยกัน



นั่นก็เพราะว่าหัวใจสำคัญของความสัมพันธ์แบบปรสิตก็คือ



ปรสิตต้องมีโฮสต์ ถึงจะอยู่รอดได้






หากพิจารณาที่ฉากน้ำท่วมบ้านครอบครัว Kim เราจะพบว่าตัวละครแต่ละตัวต่างก็มุ่งไปเก็บข้าวของที่สำคัญของตัวเองเพื่อหนีน้ำ

พ่อรีบไปเก็บเงินที่ซ่อนไว้ใต้หลังคาและเก็บเหรียญทองของแม่, น้องสาวรีบไปเก็บบุหรี่ที่ซ่อนไว้ใต้ฝ้าเพดาน



แต่ Ki-woo กลับไปเก็บ "หิน" ที่เพื่อนสนิทมอบให้



ซึ่ง “หิน” คืออีกหนึ่งสัญลักษณ์สำคัญของหนังเรื่องนี้ และมันสะท้อนตัวตนของตัวละครนี้ได้อย่างดี



- เมื่อพิจารณาตามจริงจะพบว่า หินนี้เป็นแค่หินธรรมดาที่สวยงามก้อนหนึ่ง แต่ถูกให้คุณค่าว่าเป็นของประดับราคาแพง และเป็นเครื่องรางนำโชคลาภมาให้

[เช่นเดียวกับตัว Ki-woo ที่เป็นชนชั้นล่างธรรมดา แต่เขาสร้างตัวตนจากเรื่องราวโกหกให้ตัวเองกลายเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัย และนำมาสู่โอกาสในการเลื่อนระดับชนชั้นมาให้]



- ด้วยความที่เป็นหินก้อนใหญ่ มันจึงมีน้ำหนักมากเมื่อต้องเคลื่อนย้าย แต่ Ki-woo ก็ต้องแบกมันไปโดยไม่รู้ตัว

[เช่นเดียวกับที่ Ki-woo ที่สร้างเรื่องโกหกขึ้นมาจนใหญ่โตเรื่อยๆ เขาก็ต้องแบกรับความรับผิดชอบนี้ต่อไป]



- สุดท้าย Ki-woo ก็เข้าใจว่ามันคือหินธรรมดา เขาปล่อยวางมันลงในแม่น้ำ และพบว่ามันไม่ต่างอะไรกับหินก้อนอื่นๆเลย

[เช่นเดียวกับ Ki-woo ในตอนสุดท้ายที่ไม่ต้องแบกรับเรื่องโกหกที่เขาสร้างขึ้นมาอีกต่อไป เขายอมรับว่าเขาคือคนธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้น]






การจัดวางตำแหน่งของตัวละคร การจัดวางองค์ประกอบของภาพ และตำแหน่งของสิ่งของ ถูกจัดทำขึ้นเพื่อขับเน้นประเด็นของหนัง

ดังนั้นผู้ชมจะได้เห็นการเปรียบเทียบระดับสูง – ต่ำ ด้วยภาพแทบจะตลอดเวลา เช่น



- บ้านครอบครัว Park อยู่บนเนินเขา - บ้านครอบครัว Kim อยู่ลึกลงไปใต้ดินต่ำกว่าส้วม

- ครอบครัว Park นอนบนโซฟา – ครอบครัว Kim แอบอยู่ใต้โต๊ะ





การออกแบบหน้าต่างบ้านก็สะท้อนสภาวะของตัวละครได้อย่างดี



- ครอบครัว Park มีหน้าต่างที่กว้างโล่งมองเห็นทิวทัศน์ เหมือนอนาคตที่สดใสของครอบครัวนี้

- ครอบครัว Kim มีหน้าต่างแคบ พร่ามัว และยังมีเหล็กดัด ราวกับว่าสมาชิกในครอบครัวจะถูกขังอยู่กับความเป็นชนชั้นล่างต่อไป





ฉากในมุมกว้างที่ถ่ายให้เห็นว่าครอบครัว Kim หนีจากบ้านครอบครัว Park ตั้งแต่เนินเขาลัดเลาะมาตามถนนจนมาถึงบ้านของตนที่น้ำท่วมยิ่งแสดงให้เห็นความต่างชนชั้นอย่างชัดเจน





และฝนที่ตกในฉากนี้ยังทำให้ตระหนักว่า

ฝนตกอาจเป็นความสุนทรีย์เมื่อนั่งมองจากบ้านของครอบครัว Park บนเนินเขา แต่มันคือหายนะสำหรับชนชั้นล่างอย่างครอบครัว Kim



ราวกับว่าธรรมชาติอย่างฝนก็ยังเลือกปฏิบัติต่อชนชั้นอย่างไม่เท่าเทียม






Parasite เป็นหนังที่เล่าเรื่องได้สนุก ซึ่งสาเหตุหลักก็คือหนังเลือกที่จะนำเสนอตัวเองให้เข้าถึงได้ไม่ยาก แต่ก็มาพร้อมกับเรื่องราวที่คาดเดาได้ยาก


หนังยังสอดแทรกสัญลักษณ์และใส่ใจกับประเด็นความแตกต่างระหว่างชนชั้นในแทบจะทุกส่วนของหนัง ที่สำคัญก็คือหนังบอกเล่าสัญลักษณ์เหล่านี้ออกมาได้อย่างเข้าใจง่าย ไม่ต้องตีความให้ซับซ้อน



อย่างไรก็ตามในหลายๆฉาก หนังก็ดูยัดเยียดสัญลักษณ์เหล่านี้จนเกินไป และหลายๆฉากเป็นการนำเสนอที่ยังไม่มีชั้นเชิงมากนัก เพราะมันถูกจับยัดใส่บทสนทนาของตัวละครกันแบบตรงๆ



ส่วนข้อเสียเล็กๆน้อยๆของหนังคือการที่แผนการต่างๆของครอบครัว Kim ดูง่ายดายและอาศัยความบังเอิญมากเกินไป ความลุ้นระทึกและความน่าเชื่อของเนื้อเรื่องจึงถูกลดทอนลงไป






ผู้กำกับ Bong Joon-ho ผสมผสานหนังที่เต็มไปด้วยสัญลักษณ์และการเสียดสีเข้ากับหนังขายความบันเทิงได้อย่างลงตัว นั่นทำให้ Parasite เป็นความบันเทิงในหลายระดับ

หนังยังเป็นเหมือนภาพสะท้อนของพฤติกรรมและความสัมพันธ์ที่เป็นสากลและอยู่คู่กับมนุษย์มาหลายยุคหลายสมัย


ถือเป็นหนังอีกหนึ่งเรื่องที่ไม่น่าพลาดด้วยประการทั้งปวง






8 / 10 ครับ





Create Date : 01 สิงหาคม 2562
Last Update : 1 สิงหาคม 2562 23:00:41 น. 3 comments
Counter : 6205 Pageviews.

 
กระทู้ที่ตั้งใน Pantip

https://pantip.com/topic/39106278


โดย: navagan วันที่: 3 สิงหาคม 2562 เวลา:19:00:53 น.  

 
ชอบเรื่องนี้ครับ มีทัศนะ 2-3 เรื่อง ครับ

เรื่องแรก คือ เรื่องของปรสิต บางทีครอบครัวของคุณคิมเองไม่ได้อยากเป็นปรสิตก็ได้ เพราะ มีความสามารถหรืออดีตก็สามารหาเงินได้ และจากการตีความไดอะรอคในแต่ละช่วง เช่น ช่วงที่ครอบครัวต้มตุ๋นจนได้งานจากคุณพัคทั้งครอบครัวแล้วมาดื่มฉลอง "โชคดีที่เราได้งาน ถ้าเป็นคนจบใหม่คงต้องหางานเป็นยามกันอยู่" -> ถามว่าทำงานได้เงินหาได้มั้ยแน่นอนว่าหาได้ แต่โอกาสได้เงินง่ายๆสบายยิ่งทำให้สั่งสมอุปนิสัยที่ไม่ดีเข้าไปอีก หรือตอนนที่ต้องไปนอนโรงยิมเพราะน้ำท่วมลูกทั้งสองถามพ่อว่ามีแผนอะไร พ่อตอบว่า"มีแผนแล้ว ทำยังไงก็ไม่ได้ตามแผน เลยสุดท้ายไม่มีแผนก็จะได้ไม่ผิดแผน" ดังนั้นสิ่งเหล่านี้ถึงหล่อหลอมเป็นวิสัย หรือที่เรียกว่า habits ของ unsuccessful people ซึ่งตัดกับอีกฝั่งที่เป็น successful people ตอนจบพระเอกได้คิดวางแผนจะช่วยพ่อแต่สุดตื่นขึ้นมาก็ยังเป็นแผนที่รอลงมือทำอยู่ดี ซึ่ง ตรงนี้อาจสอนได้ว่า ตราบไดที่ ไม่คิด-เริ่มคิด แต่ไม่ลงมือ มันก็เป็นเพียงเเค่ความฝัน

เรื่องที่สอง ปรสิตในสังคมน่าจะหมายถึง ทั้งคนจนที่เกาะกินคนรวยหรือภาครัฐ คนจนที่เอาเปรียบคนจน ซึ่งถ้าเล่นประเด็นนี้ด้วยน่าจะให้เกิดมิติมากขึ้นครับ

เรื่องที่สาม น่าจะมีซีนอารมณ์หรือบรรยากาศสถานที่อื่นบ้าง เพราะมีแต่ซีนที่สื่อถึงอารมณ์เชิงเปรียบเทียบจนบางทีก็รู้สึกอึดอัด
ไปนิด

ขอบคุณคุณ navagan ที่วิเคราะห์ได้น่าติดตามเช่นเคย ติดตามตลอดนะครับ


โดย: PR (สมาชิกหมายเลข 5448984 ) วันที่: 10 สิงหาคม 2562 เวลา:22:41:12 น.  

 
ขอบคุณคุณ PR ที่ติดตามกันมาตลอดครับ เป็นกำลังใจที่ดีเลยครับ

แล้วก็ขอบคุณสำหรับทัศนะที่เขียนมานะครับน่าสนใจมากเลย



เรื่อง Habits ที่ต่างกันของสองฝั่งน่าสนใจดีครับ ผมเห็นด้วยนะ

เรื่อง ความหมายของปรสิตในสังคม เห็นด้วยในแง่ของคนจนที่เอาเปรียบคนจน หนังไม่ได้แสดงให้เห็นเท่าไร

เรื่อง ซีนอารมณ์เชิงเปรียบเทียบ อันนี้ผมไม่ค่อยอึดอัดเท่าไรครับ อันนี้ความชอบส่วนตัวของผมน่ะครับ นานาจิตตัง


โดย: navagan วันที่: 11 สิงหาคม 2562 เวลา:1:32:15 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

navagan
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 73 คน [?]




นวกานต์ ราชานาค
Navagan Rachanark


สนใจใน ภาพยนตร์, การวิเคราะห์-วิจารณ์ ภาพยนตร์,ดนตรี, งานเขียน และ ศิลปะอื่นๆ

สร้างสรรค์ผลงานภาพยนตร์ทดลอง และ งานดนตรีทดลอง และ งานเขียน


ปัจจุบันทำงานด้านการตลาด การวิจัยและพัฒนายางสังเคราะห์และยางธรรมชาติ

เริ่มจัดเก็บข้อมูลสถิติการเข้าชม

Time 09:00 Date 31/01/2010

by Histats.com

blogger web statistics

ถูกใจบทความ หรืออยากสนับสนุนเจ้าของ Blog

ก็ช่วย click ที่ Link โฆษณาครับ

ขอบคุณครับ

Friends' blogs
[Add navagan's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.