All the girls standing in the line for the bathroom !!!

*** หมายเหตุ : สงวนลิขสิทธิ์ บทความและผลงาน ใน Blog นี้ครับ ***
Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2552
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930 
 
28 มิถุนายน 2552
 
All Blogs
 
*** Transformers: Revenge of the Fallen *** มหาสงครามหุ่นยนต์ ที่มนุษย์คือผู้ชนะตัวจริง

*** Transformers: Revenge of the Fallen ***






หลังจาก Transformers ประสบความสำเร็จอย่างสูงในเรื่องของรายได้ แถมคำวิจารณ์ก็ค่อนข้างดีในสายตาของนักวิจารณ์ ภาคต่อของ Transformers ก็เลยเป็นหนังที่มีคนรอคอยมากที่สุดเรื่องหนึ่งของ summer นี้


และแล้วภาคต่อที่ใช้ชื่อว่า Transformers: Revenge of the Fallen ที่มาพร้อมกับทีมงานหลักแทบจะยกชุด โดยการนำของ Michael Bay ผู้กำกับคนเดิม ก็ได้เวลากลับมาพบกับผู้ชมแล้ว


ซึ่งในการกลับมาคราวนี้ หนังมาพร้อมกับหลายๆอย่างที่ “ใหญ่” และ “มาก” ขึ้นกว่าเดิม


ไม่ว่าจะเป็น เรื่องราวที่ขยายขอบเขตไปไกลถึงอีกซีกโลกอย่าง จีน หรือ อียิปต์, จำนวนหุ่นยนต์ที่เพิ่มมากขึ้น และ ใหญ่ยักษ์กว่าเดิม, ระเบิดลูกโตที่สร้างความหายนะมากขึ้น แม้กระทั่งมุขตลก ก็ยังเพิ่มขึ้นจนแทบจะแทรกอยู่ในทุกตอน






แม้เรื่องราวจะดูยิ่งใหญ่ แต่หนังก็ไม่ได้จริงจังกับตัวเองมากเกินไปนัก หนังมีกลิ่นของความเป็น “หนังการ์ตูน” หรือ “หนังที่สร้างขึ้นสำหรับเด็กๆ” (หรือผู้ใหญ่หัวใจเด็ก) มากกว่าจะเป็นหนังหายนะโลกที่เน้นความจริงจัง


นอกจากจะเข้ามาดู การแปลงร่างของเหล่าหุ่นยนต์ Transformers แล้ว ฉาก action คงเป็นหนึ่งในสิ่งที่ผู้ชมคาดหวัง ซึ่งหนังก็มีให้ดูกันแบบไม่ขาดตอนตั้งแต่เริ่มเรื่องจนถึงฉากสุดท้าย

โดยมีไฮไลต์อยู่ที่ 3 ฉากสำคัญนั่นคือ ฉากเปิดเรื่องในเซี่ยงไฮ้ ฉากต่อสู้ในป่า และฉากใหญ่ที่สุดในตอนท้ายของเรื่องกลางทะเลทรายที่อียิปต์





คงจะเป็นการดูถูก Michael Bay เกินไป หากจะมองว่า Bay ก็แค่ผู้กำกับที่มีดีแค่ใส่ฉากระเบิดตูมตามลูกโต ทำลายล้างเรือรบ หรือ ตึกรามบ้านช่อง


ทั้งที่ความจริงแล้วสิ่งที่โดดเด่นที่สุดของ Bay ในการสร้างสรรค์ฉาก action คือ ความสามารถในการนำเสนอฉากเหล่านี้ ที่ต้องอาศัยจังหวะการตัดต่อที่ลงตัว การวางมุมกล้อง การเคลื่อนกล้อง ที่สามารถสร้างความตื่นตาตื่นใจ เร่งเร้าอารมณ์ และสร้างความลุ้นระทึกได้ในคราวเดียวกัน

ไม่อย่างนั้นต่อให้ระเบิดลูกโตแค่ไหน บ้านพังไปเท่าไหร่ ก็คงได้แค่ความตื่นตาตื่นใจ แต่ไร้ซึ่งความตื่นเต้น






ซึ่งฉาก action ในภาคนี้เรียกได้ว่าใหญ่โตมากขึ้น เมื่อเทียบกับภาคแรก และ Bay ก็ยังรักษามาตรฐานเดิมไว้ได้ เพราะมันยังคงน่าตื่นตาตื่นใจ แม้หลายๆส่วนจะไม่สดใหม่ เพราะเคยเห็นมาแล้วในงานเก่าๆของพี่แก


อีกทั้งระดับความจริงจังที่มีไม่มากของตัวหนัง ก็ส่งผลให้ความลุ้นระทึกยังไม่มากพอที่จะเทียบกับหนังเรื่องเก่าๆของพี่แกได้ แต่โดยรวมแล้ว ฉาก action ก็ยังคงสนุกตามสไตล์ Michael Bay อยู่เหมือนเดิม



ส่วนสาเหตุที่ภาคนี้ เราจะได้เห็นการต่อสู้ของหุ่นยนต์ในทะเลทราย หรือ ในป่า เป็นหลัก ส่วนตัวคิดว่าเป็นเพราะสีเหลืองจางๆของทะเลทราย และ สีเขียวของป่า จะช่วยขับเน้นให้ผู้ชมเห็นเหล่า Transformers ชัดเจนมากขึ้น เมื่อเทียบกับฉากกลางเมือง ในภาคที่แล้ว

นอกจากนี้ หุ่นยนต์ที่มีเหลี่ยมมุม และความซับซ้อนแบบเครื่องจักรกล เมื่ออยู่ท่ามกลางธรรมชาติที่มีความซับซ้อนต่ำ จึงทำให้ผู้ชมเห็นหุ่นยนต์สู้กันถนัดตามากขึ้น ซึ่งถือว่าเป็นความฉลาดของทีมงานในการแก้ปัญหา







นอกจากนี้ Transformers: Revenge of the Fallen ยังมีความเป็นหนังตลกอยู่สูง จะว่าไปสัดส่วนของความเป็นหนังตลกมีมากพอๆกับความเป็นหนัง action เลยทีเดียว

แน่นอนว่ามุขตลกส่วนใหญ่เรียกเสียงฮาได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ แต่สำหรับบางมุขกลับถูกแทรกเข้ามาอย่างพร่ำเพรื่อไม่ถูกเวลา (คิดดูบางตอนที่ควรจะจริงจังอย่างตอนขับรถฝ่าด่านตรวจ พี่แกยังจะเล่นมุข หรือมุขของหุ่นยนต์แฝดในตอนท้ายๆ ที่ผิดที่ผิดเวลาไปหน่อย)



ซึ่งมุขตลกเหล่านี้นี่เอง ที่ไปลด "ความจริงจัง" ของเรื่องราวลงไปมากทีเดียว (ทั้งที่ปกติก็มีน้อยอยู่แล้ว) แถมทำให้อารมณ์ของผู้ชมสะดุดอีกต่างหาก


นี่เองที่ส่งผลให้อาการลุ้นและเอาใจช่วยตัวละครในฉากสำคัญๆ มันลดลงไปกว่าที่ควรจะเป็น




ถ้าถามผมว่า Transformers: Revenge of the Fallen คล้ายกับหนังเรื่องไหนของ Bay มากที่สุด คำตอบคือ Bad Boys II






สำหรับเรื่องของบทหนังที่หลายคนบ่นกันเยอะ ซึ่งส่วนตัวก็คิดว่าบทมันยังไม่ดีพอจริงๆ บางส่วนยังขาดความสมจริง อย่างตอนที่ Sam ถูกประกาศจับ แต่ก็ยังเดินไปเดินมาในเมืองได้สบาย ทั้งที่เรื่องราวใหญ่โตขนาดนี้น่าจะโดนจับไปนานแล้ว


แต่ก็อย่างว่า หนังก็ออกตัวให้รู้กันตั้งแต่ต้นแล้วว่าไม่ได้คิดที่จะจริงจังกับตัวเองมากนัก แถมการเดินเรื่องที่เร็ว และดูได้เพลินก็พอที่จะกลบจุดอ่อนเรื่องบทได้พอประมาณ



ดังนั้นเรื่องความสมจริงของบท เป็น สิ่งที่หนังแทบจะไม่ได้เน้น หรือให้ความสำคัญกับมัน เหมือนกับว่า บทหนังมีหน้าที่หลักเพียงแค่ดำเนินเรื่องราวไปข้างหน้า และสร้างสถานการณ์ที่จะขายฉาก action ต่างๆก็เท่านั้น ทั้งที่ความจริงแล้วคิดว่า ถ้าให้ความสำคัญกับบทให้ดีมากกว่านี้อีกนิด ก็จะดีทีเดียว






สำหรับใครที่คาดหวังว่าภาคนี้เหล่าหุ่นยนต์จะมีบทบาทมากขึ้น อาจจะผิดหวังเล็กน้อย เพราะถึงแม้จะมีหุ่นยนต์ให้ดูมากขึ้นก็จริง แต่พวกมันก็ไม่ได้มีบทบาทมากนัก


จะมีก็แค่ตัวละครหลักๆ ที่เป็นหุ่นยนต์เพียงไม่กี่ตัว อย่าง Optimus Prime, Bumblebee, Megatron และ Jetfire ที่พอจะมีบทบาทอยู่บ้าง แต่ก็เป็นบทที่อยู่ในระดับ "นักแสดงสมทบ" มากกว่า



ซึ่งนับว่าเป็น ชัยชนะของตัวละครที่เป็นมนุษย์ที่มีเหนือหุ่นยนต์ เพราะแม้เวลาอยู่ร่วมจอกัน หุ่นยนต์จะกินพื้นที่บนจอไปเกือบทั้งหมดก็ตาม แต่หนังก็สามารถให้น้ำหนักกับตัวละครที่เป็นมนุษย์ได้อย่างดี โดยไม่โดนตัวละครที่เป็นหุ่นยนต์ที่ทั้งตัวใหญ่ และดึงดูดความสนใจได้มากกว่า กลบจนไม่ได้เกิด ซึ่งนี่เป็นส่วนที่ดีของบทหนัง



คงต้องชมไปที่ทีมเขียนบทที่ประกอบด้วย Ehren Kruger, Roberto Orci และ Alex Kurtzman โดยเฉพาะ 2 คนหลัง ที่โชว์ผลงานที่โดดเด่นในด้านการสร้างตัวละครให้เป็นที่จดจำมาแล้วใน Star Trek เวอร์ชั่น 2009 ทั้งๆที่ลูกเรือบางคนมีบทเด่นในเรื่องแค่ 2-3 ฉาก






พูดถึงนักแสดง กันบ้าง Shia LaBeouf ในบท Sam Witwicky ถือว่ารับผิดชอบหนังทั้งเรื่องได้ดี แม้จะมีเรื่องราวบางส่วนที่หนังตัดสลับไปโดยไม่เกี่ยวข้องกับ Sam มาช่วยแบ่งเบาภาระของ LaBeouf ก็ตาม


แต่ก็รู้สึกได้ว่าตัวละครนี้คือตัวละครหลักของหนัง ที่น่าสนใจก็คือในคราวนี้ หนังพยายามที่จะสร้างพัฒนาการของตัวละครตัวนี้ แต่ก็ทำได้ไม่ดีนัก เพราะระหว่างดูไม่ได้รู้สึกเลยว่าตัวละครนี้มีพัฒนาการเพิ่มขึ้นแต่อย่างใด



หนังยังขนทีมนักแสดงจากภาคแรกกลับมาแทบจะครบทีม โดยคนที่โดดเด่นมากขึ้นก็คือ John Turturro ในบท Agent Simmons ที่ได้รับบทที่มากขึ้นกว่าเดิมในภาคนี้ และกลายเป็นตัวเรียกเสียงฮาร่วมกับหน้าใหม่อย่าง Ramon Rodriguez ในบท Leo เพื่อนร่วมห้องของ Sam ที่เข้ามาร่วมวงปกป้องโลกอย่างไม่ตั้งใจ


ขณะที่ Megan Fox ก็ได้บทในลักษณะเดิมกับภาคที่แล้ว ซึ่งจุดขายสำคัญของเธอก็คงรู้ๆกันอยู่ แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะ เธอก็ทำหน้าที่ของตัวเองได้เต็มที่



โดยรวมแล้วนักแสดงทุกคนทำหน้าที่ของตนเองได้ดี และมีวินาทีที่น่าจดจำของตัวเอง แม้จะไม่ได้มอบการแสดงที่ยอดเยี่ยมหรือน่าประทับใจก็ตาม






ส่วนตัวแล้ว Transformers: Revenge of the Fallen เป็นหนัง Summer ที่มอบความบันเทิงได้ดีทีเดียว ทั้งฉาก action มุขตลก และ ความเพลิดเพลิน ทั้งที่หนังยาวเกือบสองชั่วโมงครึ่ง แต่ก็ดูได้เรื่อยๆ ไม่รู้สึกเบื่อ


แต่การที่หนังคลี่คลายสถานการณ์ต่างๆอย่างง่ายดายเกินไป อีกทั้งอารมณ์ในแบบทีเล่นทีจริงที่มากเกินไป และไม่ถูกที่ถูกเวลาในบางครั้ง ก็ส่งผลให้ ความเข้มข้นของเรื่องราวยังมีไม่มากพอ ถ้าเข้มข้นและได้ลุ้นกันมากกว่านี้ ความสนุกคงจะมีมากขึ้น


ส่วนเรื่องบทไม่ได้คิดว่ามันแย่มากมายนัก ถ้าพิจารณาว่าหนังไม่ได้คิดที่จะจริงจังกับเรื่องราวตั้งแต่แรก แต่ถ้าใส่ใจกับบท และความสมจริงมากกว่านี้ หนังคงดีขึ้นกว่าเดิม



สำหรับ Michael Bay เขาอาจจะเชี่ยวชาญ และแม่นยำในจังหวะของฉาก action แต่กับมุขตลกคงต้องฝึกกันอีกนิดหน่อย ไม่ใช่ว่ามันไม่ตลก แต่มันควรจะมีจังหวะในการนำเสนอ และความเหมาะสมต่อเรื่องราวหลักด้วย






ส่วนที่ยอดเยี่ยมที่สุดของหนังเห็นจะเป็น การที่เหล่านักแสดงที่เป็นมนุษย์ ไม่ได้ถูกกลืนไปกับ ฉาก action และเหล่าหุ่น Transformers ที่เป็นจุดขายสำคัญของหนัง จนกลายเป็นแค่ส่วนประกอบ ในแบบที่หนังขาย CG บางเรื่องเป็น หนำซ้ำตัวละครที่เป็นมนุษย์ยังสร้างสีสันและความบันเทิงให้กับเรื่องราวได้อย่างมากมาย


จะถือว่าเป็น "ชัยชนะของตัวละครฝ่ายมนุษย์ที่มีต่อ เทคนิคพิเศษ และ CG" ที่มีมากมาย แทบจะทุกฉากทุกตอนในหนังก็ว่าได้





สรุปสั้นๆง่ายๆว่า Transformers: Revenge of the Fallen เป็นหนังที่มอบความบันเทิงได้อย่างดีเยี่ยม ในแบบของหนัง action ผจญภัยฟอร์มใหญ่ประจำปี แม้มันจะมีข้อบกพร่องอยู่ไม่น้อยก็ตาม




7 / 10 ครับ





Create Date : 28 มิถุนายน 2552
Last Update : 28 มิถุนายน 2552 5:01:09 น. 9 comments
Counter : 4570 Pageviews.

 
อาจจะงงกับการให้คะแนน

อ่าน "ระบบการให้คะแนน" ของผมได้ ที่นี่ ครับ



ปล. ในนั้นผมพล่ามเยอะนิดหน่อย
ข้ามไปอ่าน ตรง "การให้คะแนนแบบสี่ดาว" และ "การให้คะแนนแบบเต็มสิบ" ได้เลย


โดย: navagan วันที่: 28 มิถุนายน 2552 เวลา:5:13:02 น.  

 
ไปดูมาแล้ว..

เห็นด้วยทุกประการ

นานๆ จะมีคนเม้นต์ด้วยความเป็นกลาง
ไม่ใช่ชอบจนไม่มีข้อบกพร่อง
หรือเกลียดจนหาข้อดีไม่ได้


โดย: ทาสบอย วันที่: 28 มิถุนายน 2552 เวลา:6:19:12 น.  

 
ทำไมเราขำทุกมุขของลุงเบย์เลยอ่า หรือว่าเราเส้นตื้นเกินไป

แต่หนังก็สนุกจริงๆ ดูไป 2 รอบแล้ว ไม่รู้สึกเสียดายตังส์เลย

แต่ที่รู้สึกจริงๆคือ ตอนจบดูรวบรัดเกินไปหน่อย



โดย: pat IP: 124.120.198.220 วันที่: 28 มิถุนายน 2552 เวลา:11:27:16 น.  

 
เป็นแฟน Transformers เหมือนกันครับ
ว่าจะสะสม DVD ไว้ทุกภาคเลย

ภาพสวยได้ใจจริงๆ


โดย: มิสเตอร์ฮอง วันที่: 28 มิถุนายน 2552 เวลา:16:45:23 น.  

 
ผ่านก่อนนะครับ ยังไม่ได้ดู เร็วๆนี้ๆครับ ^^


โดย: Seam -C IP: 58.11.29.183 วันที่: 29 มิถุนายน 2552 เวลา:8:30:12 น.  

 
รอเรื่อง UP นะคะ เพิ่งไปดูมา ชอบมากกกกกกกกก


โดย: i love johnny depp IP: 125.25.225.9 วันที่: 30 มิถุนายน 2552 เวลา:1:44:28 น.  

 
คิดเหมือนผมเลยครับ


ว่ามุขตลกมัน ... มาก


แต่มันก็สนุกที่ฉากแอคชั่น ^^


โดย: แสน IP: 61.90.98.240 วันที่: 1 กรกฎาคม 2552 เวลา:0:47:37 น.  

 
ตอบคุณ i love johnny depp


UP นี่ยังไม่ได้ดูเลยครับ แต่ไม่พลาดแน่นอน (แต่อาจเป็นตอนออกแผ่นแล้วน่ะครับ )


โดย: navagan วันที่: 1 กรกฎาคม 2552 เวลา:17:43:05 น.  

 
ไปดูมาแล้วครับ

กำลังจะเขียนติให้จมดินครับ

เร็วๆนี้

ปล. ผมขำมาำที่แซมถูกหมายตัว แล้วหนังก็สร้างหุ่นอีกตัวเพื่อเทเลพอร์ทไปอียิปต์ มันดูตรงและเล่นง่ายจริงๆครับ


โดย: Seam - C IP: 58.11.27.194 วันที่: 13 กรกฎาคม 2552 เวลา:8:49:44 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

navagan
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 73 คน [?]




นวกานต์ ราชานาค
Navagan Rachanark


สนใจใน ภาพยนตร์, การวิเคราะห์-วิจารณ์ ภาพยนตร์,ดนตรี, งานเขียน และ ศิลปะอื่นๆ

สร้างสรรค์ผลงานภาพยนตร์ทดลอง และ งานดนตรีทดลอง และ งานเขียน


ปัจจุบันทำงานด้านการตลาด การวิจัยและพัฒนายางสังเคราะห์และยางธรรมชาติ

เริ่มจัดเก็บข้อมูลสถิติการเข้าชม

Time 09:00 Date 31/01/2010

by Histats.com

blogger web statistics

ถูกใจบทความ หรืออยากสนับสนุนเจ้าของ Blog

ก็ช่วย click ที่ Link โฆษณาครับ

ขอบคุณครับ

Friends' blogs
[Add navagan's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.