เรื่อง "ขึ้นรถ
ลงเรือ-ไปเหนือล่องใต้ (มาจากสำนวนโฆษณา TV)" นี่, หนีปัญหาเมารถ เมาเรือ
หรือเมาคลื่นได้ยากทีเดียว
ขอนำวิธีป้องกันเมารถเมาเรือจากอาจารย์แห่งเว็บไซต์ 'ehow';
'MedlinePlus';
'Mayoclinic';
มาเล่าสู่กันฟังครับ
...
สมองคนเรามี
ระบบรับรู้การทรงตัว เพื่อบอกว่า เราอยู่ในท่าใด เช่น ยืน นั่ง นอนหงาย
นอนคว่ำ นอนตะแคง ฯลฯ หรือเคลื่อนที่ไปในทิศทางใด เช่น ขึ้นบน ลงล่าง
ไปทางซ้าย-ขวา, หน้า-หลัง ฯลฯ 2 ระบบใหญ่ได้แก่ ผ่านทางตากับทางหูชั้นใน
ภาวะที่มีการเคลื่ีอนไหวโยกเยก โดยเฉพาะการนั่งรถลงเรือ
ทำให้ระบบเหล่านี้ตีรวนได้ เนื่องจากหูชั้นในมีระบบท่อของเหลวรูปครึ่งวงกลม
วางตั้งฉากกัน เพื่อรับรู้การเคลื่อนไหวในแนวนอน-ตั้ง-ขวาง
...
เมื่อมีการ
เคลื่อนไหว... จะเกิดการเคลื่อนไหวภายในระบบท่อของเหลวในหูชั้นใน
เมื่อการเคลื่อนไหวหยุดแล้ว ของเหลวที่มีแรงเฉื่อยจะเคลื่อนที่ต่อ
ทำให้ระบบหูส่งสัญญาณคล้ายกับว่า การเคลื่อนไหวยังไม่หยุดทันที
ส่วนระบบตาไม่มีแรงเฉื่อยแบบนี้ ทำให้สัญญาณการทรงตัวของระบบตากับหูขัดแย้ง
ตีรวนกัน (ทำไมเหมือนการเมืองไทย หรือการเมืองในหน่วยงานต่างๆ ก็ไม่ทราบ)
และเกิดอาการเมารถเมาเรือ
...
คนที่เสี่ยง
ต่ออาการเมารถเมาเรือมากที่สุด คือ คนอายุน้อย โดยเฉพาะเด็กเล็กอายุ 2 ปี,
ความเสี่ยงจะลดลงไปตามอายุ และพบน้อยลงไปมากเมื่ออายุ 50 ปีขึ้นไป
จึงอาจกล่าวได้ว่า อาการเมารถเมาเรือเป็นอาการของคนที่ยังอ่อนเยาว์
กล้ามเนื้อและข้อต่อของคนเราก็มีระบบรับรู้การทรงตัว เพื่อให้คนเรารู้ว่า
หัว-แขน-ขาอยู่ตรงไหน พิกัดใดเช่นกัน
...
วิธีป้องกัน
เมารถเมาเรือได้แก่ [
ehow ]; [
MedlinePlus ]; [
Mayoclinic ];;
(1). กินยา
ป้องกัน-แก้เมารถเมาเรือล่วงหน้า เช่น dimenhydrinate (Dramamine) ฯลฯ,
ยานี้ใช้เวลาในการดูดซึม และออกฤทธิ์ประมาณ 20-30 นาที
ยานี้ทำให้ง่วงนอน จึงต้องระวังอันตรายเสมอ เช่น ระวังหลับแล้วของหาย ฯลฯ
ผู้เขียนมีประสบการณ์นั่งรถทัวร์จากท่าขี้เหล็กไปเชียงตุง (กุมภาพันธ์
2552), บริษัททัวร์ที่นั่นมีบริการแจกยานี้ฟรีคนละเม็ดด้วย
นับว่าเท่ไม่เบาทีเดียว
...
(2). ใช้ยาจาก
ธรรมชาติ คือ ขิง เช่น กินอาหารที่มีขิงหรือน้ำขิง ฯลฯ ก่อนเดินทาง
(3). กินอาหาร
มื้อเล็ก หลีกเลี่ยงการดื่มน้ำมากๆ หรือกินอาหารที่มีลมหรือแก๊ส เช่น
น้ำอัดลม ฯลฯ ระหว่างเดินทาง เนื่องจากกระเพาะอาหารที่โป่งพองจากปริมาตรของ
"อาหาร-น้ำ-ลม" จะทำให้คลื่นไส้ได้ง่ายกว่าตอนท้องว่าง
อาหารที่ควรหลีกเลี่ยง คือ อาหารที่มีกลิ่นแรง เช่น ทุเรียน ฯลฯ,
เครื่องเทศฉุน และอาหารที่มีไขมันสูง เช่น อาหารทอด ฯลฯ
ก่อนเดินทาง... ควรดื่มน้ำให้พอล่วงหน้า 1 วัน
เนื่องจากภาวะขาดน้ำอาจเพิ่มเสี่ยงอาการเมารถเมาเรือได้
...
(4). หลีกเลี่ยง
แอลกอฮอล์ (เหล้า เบียร์ ไวน์ ฯลฯ) เนื่องจากจะเพิ่มเสี่ยงต่อการเมาซ้ำซ้อน
(5). ถ้าทำ
ได้... ควรเลือกที่นั่งตรงกลางซึ่งโยกเยกน้อยที่สุด
รองลงไปเป็นที่นั่งด้านหน้า พยายามหลีกเลี่ยงที่นั่งด้านหลัง
ซึ่งมักจะโยกเยกมากที่สุด
กรณีนั่งเรือหรือรถที่ไม่ได้ติดแอร์...
กระแสลมวนมักจะพัดไอเสียบางส่วนกลับไปทางด้านหน้า
ทำให้คนที่นั่งหลังเสี่ยงเหม็นควันไอเสียมากกว่าที่นั่งส่วนอื่นๆ
ถ้าทำได้...
ควรเลือกที่นั่งที่หันไปทางด้านหน้าดีกว่าที่นั่งที่หันไปทางด้านข้างหรือ
ด้านหลังรถ เลือกนั่งรถ-เรือค่อนไปทางด้านหน้า นั่งเรือชั้นบน
(เห็นวิว-ทิวทัศน์ดีกว่านั่งโดยไม่เห็นวิว-ทิวทัศน์),
นั่งเครื่องบินใกล้หน้าต่าง (window / wing seats)
ควรมองวิว-ทิวทัศน์ไกลๆ ในแนวนอน
หลีกเลี่ยงการมองสูง-ก้มหน้า-หรืออ่านหนังสือทั้งๆ
ที่รถหรือเรือโคลงไปโคลงมา
ทีนี้ถ้าโดยสารเรือทางไกล เช่น ต้องนอนบนเรือ ฯลฯ... ควรเลือกเคบิน (ห้อง)
ตรงกลางลำเรือ หรือบริเวณใกล้เคียง
เนื่องจากจะมีการโยกเยกน้อยกว่าส่วนอื่นๆ
...
(6). การหลับตา
หรือดีกว่านั้น คือ พยายามนอนให้หลับไปเลย
มีส่วนช่วยบรรเทาอาการได้ดีกว่าการลืมตา
(7). พยายามให้
ส่วนหัวอยู่นิ่งๆ หลีกเลี่ยงการส่ายหัวไปมา
ซึ่งจะทำให้ของเหลวในช่องหูชั้นในเคลื่อนไหวไปมามากขึ้น
...
(8). ไม่สูบ
บุหรี่ และไม่นั่งใกล้คนสูบบุหรี่
(9). ระวังอาหาร
เป็นพิษ ซึ่งพบบ่อยในอาหารประเภทข้าวผัด (นิยมใช้ข้าวเก่ามาผัดใหม่),
ขนมจีน, แกงกะทิ (เสียง่าย)
อาหารเป็นพิษมักจะทำให้ปวดท้อง คลื่นไส้ อาเจียน
ซึ่งจะทำให้อาการเมารถเมาเรือแย่ลงไปอย่างมากมาย
...
(10). ระวังไข้
หวัดลำไส้อักเสบ ซึ่งติดต่อผ่านทางการไอ-จาม
โดยเฉพาะในห้องแอร์จะฟุ้งกระจายไปได้ไกลมาก
และติดต่อผ่านการปนเปื้อนเสมหะ-น้ำมูก-น้ำลาย
โดยเฉพาะติดผ่านมือที่ไปป้ายข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ
โรคนี้มักจะทำให้เกิดอาการหวัด คัดจมูก น้ำมูกไหล ปวดท้อง แน่นท้อง ท้องอืด
ท้องเีสีย และทำให้น้ำย่อยนมลดลงไปนานประมาณ 2 สัปดาห์
การล้างมือด้วยสบู่บ่อยๆ
หรือถูมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ช่วยลดความเสี่ยงโรคนี้ได้
ถ้าเป็นโรคนี้... ควรลดปริมาณนมลงครึ่งหนึ่ง เช่น ถ้าเคยดื่มนมครั้งละ 1
กล่อง ควรลดลงเหลือ 1/2 กล่อง เว้นห่างไป 4
ชั่วโมงแล้วค่อยดื่มส่วนที่เหลือ
...
(11). เลือกเท่
ให้ถูกท่า
ท่าเดินและยืนมักจะทำให้เมารถเมาเรือน้อยกว่าท่านั่งหรือนอนนานๆ
...
(12). หลังเดิน
ทางนานๆ
หลังเดินทางโดยรถหรือเรือนานๆ อาจเกิดอาการ "เมาบก (landsickness)" ได้
เนื่องจากสมองปรับตัว หรือปรับจังหวะโยกเยกให้เข้ากับการเดินทางได้แล้ว
และปรับตัวเข้ากับแผ่นดินนิ่งๆ ยังไม่ได้
อาการ "เมาบก" มักจะหายไปได้เองภายใน 1-2 วัน
...
ถึงตรงนี้...
ขอให้ท่านผู้อ่านมีสุขภาพดีไปนานๆ ครับ
...
ที่
มา
-
-
นพ.วัลลภ พรเรืองวงศ์ รพ.ห้างฉัตร
ลำปาง. 25 มิถุนายน 2553.
-
ข้อมูลทั้งหมดเป็นไปเพื่อ
การส่งเสริมสุขภาพ ไม่ใช่วินิจฉัยหรือรักษาโรค
ท่านที่มีโรคประจำตัวหรือความเสี่ยงต่อโรคสูงจำเป็นต้องปรึกษาหมอที่ดูแล
ท่านก่อนนำข้อมูลไปใช้.
เป็นคนเมารถเมาเรือเมาเครื่องบิน แย่จริงๆ
เป็นความทรมานกายและใจ ^^" หน่ายมากๆ
ต้องพก Dramamine ติดตัวไว้เสมอค่ะ
กินทีทั้งเบลอ และง่วงทั้งวันเลยค่ะ