.
ศัพท์ที่น่าสนใจในเรื่องนี้ได้แก่
.
การศึกษาใหม่พบว่า นักดับเพลิง (firefighters) เป็นอาชีพหนึ่งที่ต้องทำงานหนักแบบรีบเร่ง ทันทีทันใด ทำให้มีความเครียดต่อหัวใจสูง เสี่ยงต่อโรคหัวใจ (หลอดเลือดหัวใจตีบตัน) กำเริบมากกว่าอาชีพอื่นๆ
.
สถิติที่ผ่านมาพบว่า นักดับเพลิงเสียชีวิตจากโรคหัวใจมากกว่าไฟไหม้ (burns) และการหายใจเอาควันเข้าไป (smoke inhalation)
.
ทีมวิจัยจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด สหรัฐฯ ทำการศึกษาหาสาเหตุการตายของนักดับเพลิง หรือนักผจญเพลิง (ตีพิมพ์ใน NEJM) ที่เสียชีวิตในระหว่างการทำงาน (on-duty) ปี 1994-2004 (พ.ศ. 2537-2547) 1,144 ราย
.
สาเหตุการตายจากโรคหัวใจพบมากถึง 40% ของการตายทั้งหมด โดยแบ่งเป็นช่วงเวลาดังต่อไปนี้
- 32% ช่วงผจญเพลิง
- 13% ช่วงที่ได้ยินเสียงหวอ (alarm) และรีบออกทำงาน > ความเสี่ยง = 14 เท่า
- 17% ช่วงขากลับ (หลังผจญเพลิง) > ความเสี่ยง = 10 เท่า
- 13% ช่วงฝึก
.
คณะนักวิจัยแนะนำว่า ถ้ามีการจัดหาอุปกรณ์ออกกำลังไว้ที่หน่วยดับเพลิง ส่งเสริมให้มีการออกแรง-ออกกำลังเป็นประจำ และตรวจคัดกรองหาปัจจัยเสี่ยงโรคหัวใจ เช่น เบาหวาน ความดันเลือดสูง ไขมันในเลือดสูง ฯลฯ น่าจะลดความเสี่ยงโรคหัวใจลงได้
.
เราๆ ท่านๆ ที่ไม่ได้เป็นนักดับเพลิงก็น่าจะได้ข้อคิดจากเรื่องนี้ไปไม่มากก็น้อย โดยเฉพาะถ้าจะต้องเดินทางไกล เช่น ช่วงวันหยุดเทศกาล ฯลฯ, ถ้ามีการฝึกร่างกายไว้ก่อนน่าจะดี
.
วิธีหนึ่งที่จะช่วยเพิ่มระดับการออกแรง-ออกกำลังได้ คือ เดินให้มากขึ้น-เร็วขึ้น โดยเดินให้ได้ช่วงละ 10 นาที แล้วนำเวลามารวมกัน
.
การเดินขึ้นลงบันไดสลับเดินแนวราบ มีส่วนช่วยให้ระดับความฟิตเพิ่มขึ้นได้ เช่น ถ้าเราพักหรือเบรคการทำงาน 5-10 นาทีทุกๆ 1-2 ชั่วโมง ฯลฯ แล้วขึ้นลงบันไดสัก 1 ชั้น เดินอีก 5 นาที ฯลฯ จะทำให้สุขภาพดีขึ้นได้มากในระยะยาว
.
ถึงตรงนี้... ขอให้ท่านผู้อ่านมีสุขภาพดีขึ้นไปนานๆ ครับ
.
> [ Twitter ]
ที่ มา