สำนักข่าว 'Telegraph'
ตีพิมพ์เรื่อง 'Caffeine
can boost endurance racing' = "กาเฟอีน
กระตุ้น (โด๊ป) แข่งกีฬา (ประเภทอึด / ใ้ช้แรงนานๆ) ได้",
ผู้เขียนขอนำมาเล่าสู่กันฟังครับ [
Telegraph ]
----//----
การศึกษาใหม่
พบว่า กาเฟอีนซึ่งเป็นสารที่พบมากในกาแฟ เครื่องดื่มกระตุ้นกำลังบางยี่ห้อ
ชา และชอคโกแล็ต ช่วยเพิ่มสมรรถภาพในการแข่งกีฬาระยะไกล
ประเภทใช้ความอึดหรือออกแรงนานๆ เช่น วิ่งระยะไกล จักรยานระยะไกล ฯลฯ
ได้มากถึง 6%
สำนักงานต่อต้านการโด๊ปโลก (World Anti-Doping Agency / WADA - วาดะ)
ได้ตัดกาเฟอีนออกจากรายการยาโด๊ปในปี 2004 หรือ พ.ศ. 2547
...
การออกแรง
ของกล้ามเนื้อมีทั้งชนิดเต็มที่-ระยะสั้น (maximal) เช่น วิ่งระยะสั้น
(sprinting), ยกน้ำหนัก (weightlifting)
และชนิดเกือบเต็มที่-ระยะยาว (sub-maximal) เช่น วิ่งระยะไกล
จักรยานระยะไกล ออกแรง-ออกกำลังเบาๆ ฯลฯ
...
อ.ดร.ร็อบ
เจมส์ และคณะจากมหาวิทยาลัยโคเวนทรี ทำการศึกษาในหนูทดลองพบว่า
กาแฟอีนเพิ่มสมรรถภาพในการออกแรงได้ 6% ทั้งชนิดเต็มที่-ระยะสั้น
และเกือบเต็มที่-ระยะยาว
ความเชื่อเดิม คือ กาเฟอีนออกฤทธิ์กระตุ้นระบบประสาทส่วนกลาง
หรือสมองเป็นหลัก, การศึกษาใหม่ๆ พบว่า
กาเฟอีนมีแนวโน้มจะออกฤทธิ์ที่กล้ามเนื้อ
โดยเฉพาะการเพิ่มความสามารถในการเผาผลาญไขมัน
...
การใช้ไขมัน
เป็นแหล่งพลังงานได้มากขึ้น
ทำให้กล้ามเนื้อมีแป้งและน้ำตาลสำรองเหลืออยู่มากขึ้น
และส่งผลทำให้ความเหนื่อยล้าลดลง
ข้อควรระวังในการใช้กาเฟอีน คือ ควรใช้ระดับต่ำๆ มากกว่าขนาดสูง,
ระวังอย่าใช้มากจนใจสั่น-มือสั่น-ตื่นเต้นหรือตกใจง่าย-นอนไม่หลับ
...
ไม่จำเป็นต้อง
ซื้อกาแฟแพงๆ มากิน... ควรซื้อชนิดที่ราคาถูกหน่อย ชงเอง
(จะได้ไม่กล้าใช้น้ำตาลมาก หรือใช้น้ำตาลเทียม
นมไขมันต่ำหรือนมถั่วเหลืองเสริมแคลเซียม-วิตามิน D)
และดื่มก่อนออกแรง-ออกกำลัง 20-40 นาที
หลังออกแรง-ออกกำลัง... พักให้หายเหนื่อย
แล้วกินอาหารที่มีโปรตีน-น้ำตาลพอประมาณ ที่ดีมาก คือ นมไขมันต่ำ
นมถั่วเหลืองเสริมแคลเซียม-วิตามิน D, หรือถ้าหิวมาก...
ถั่วลิสงต้มอีกหน่อยจะช่วยให้กล้ามเนื้อฟื้นตัวได้เร็วขึ้น
...
การออกแรง-ออก
กำลังควรเริ่มจากน้อยไปหาหนัก จากไม่นานไปหานาน,
ถ้ามีโรคประจำตัวหรือมีความเสี่ยงต่อโรคสูง
ควรปรึกษาหมอที่ดูแลท่านก่อนเสมอ
ถึงตรงนี้... ขอให้ท่านผู้อ่านมีสุขภาพดีไปนานๆ ครับ
...
ที่
มา
-
Thank Telegraph;
-
นพ.วัลลภ พรเรืองวงศ์ รพ.ห้างฉัตร
ลำปาง. 30 มิถุนายน 2553.
-
ข้อมูลทั้งหมดเป็นไปเพื่อ
การส่งเสริมสุขภาพ ไม่ใช่วินิจฉัยหรือรักษาโรค
ท่านที่มีโรคประจำตัวหรือความเสี่ยงต่อโรคสูงจำเป็นต้องปรึกษาหมอที่ดูแล
ท่านก่อนนำข้อมูลไปใช้.