สำนักข่าว 'อิระวดี' ตีพิมพ์เรื่อง 'Behind Closed Bordes' = "เบื้องหลัง(การปิดชายแดน)" เขียนโดยท่านอาจารย์ Yeni,
ผู้เขียนขอนำมาเล่าสู่กันฟัง เพื่อให้คนไทยรู้เขารู้เรา เข้าใจเมียนมา(พม่า) และ "ทำใจ" กับเรื่องนี้กันครับ [ Irrawaddy ]
...
ภาพ: ที่ตั้งเมืองเมียวดี ใกล้แม่สอดของไทย, ขอให้สังเกตว่า พม่าไม่ได้อยู่ทางตะวันตกของไทย ทว่า... อยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของไทย [ Wikipedia ]
...
เบื้องหน้าของการปิดด่านเมียวดี (Myawaddy - เมี้ยะวดี) คือ ปัญหาการสร้างผนังกั้นด้านข้างแม่น้ำเมย
ทว่า... เบื้องหลังของการปิดด่าน คือ การกดดันกลุ่มกะเหรี่ยงพุทธ
(Democratic Karen Buddhist Army / DKBA)
ให้เข้าร่วมเป็นกองกำลังรักษาชายแดน (border guard force / BGF)
ซึ่งต่อไปขออนุญาตเรียกในสไตล์ไทยๆ ว่า "ตชด.พม่า"
...
"ตชด.พม่า"
เป็นส่วนขยายของกองทัพที่จะนำนายทหารพม่าเข้าไปควบคุมกองกำลังชนกลุ่มน้อย
ส่งนายทหารจากกองกำลังชนกลุ่มน้อยไปฝึกใหม่ และให้รับเงินเดือนจากพม่า
เรื่องนี้, ถ้าทำได้... ปัญหาการสู้รบกับชนกลุ่มน้อยน่าจะสงบลงในระยะยาว
...
การปิดด่าน
แม่สอดคราวนี้เป็นการปิดแบบ "บูรณาการ (integrated)" หรือ "สนธิกำลัง"
อะไรทำนองนี้ คือ ปิดสะพานที่มีการค้าขายแบบเป็นทางการ (เสียภาษี) ด้วย,
และปิดช่องทางการค้าอื่นๆ ที่ไม่ต้องใช้สะพานนี้อีกกว่า 20 แห่ง
การค้าผ่านชายแดนพม่า-ไทยส่วนใหญ่ไม่ผ่านสะพานมิตรภาพ
ไม่เสียภาษีให้รัฐบาลพม่า ทว่า... ไปผ่านกองทัพมดบ้าง
ผ่านกองกำลังชนกลุ่มน้อยบ้าง ทำให้รัฐบาลพม่ามองว่า ถ้าไม่ตัด "น้ำเลี้ยง"
แล้ว... จะทำให้กองกำลังชนกลุ่มน้อยปีกกล้าขาแข็งไปเรื่อยๆ
...
กล่าวกันว่า
การ "เก็บภาษี" เป็นแหล่งรายได้สำคัญของกองกำลังชนกลุ่มน้อย และรายได้อื่นๆ
อาจมาจากการผลิต-จำหน่ายยาเสพติด เช่น ยาบ้า ฝิ่น ฯลฯ โดยเฉพาะ DKBA
นั้น... รายได้หลักๆ มาจากการค้าต่างประเทศที่ "รั่ว"
และไม่ผ่านด่านของรัฐบาลพม่า
การปิดด่านการค้าชายแดนพม่า-ไทยมีมาแล้วรวม 9 ครั้ง,
ครั้งนี้เริ่มตั้งแต่วันที่ 8 มิถุนายน 2553 และเป็นการปิดด่านที่นานที่สุด
(น่าจะบันทึกลง Guinness Book of Record ได้)
...
สินค้าส่งออกจากไทยได้แก่ รถมือสอง จักรยาน ชิ้นส่วนรถยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า น้ำมันพืช และสินค้าประเภทปัจจัยสี่อีกมากมาย
สินค้าส่งออกจากพม่าที่ำสำคัญได้แก่ ผลิตผลทางการเกษตร เช่น หอม หอมแดง
มันฝรั่ง พริกแห้ง อาหารทะเล ข้าว ฯลฯ, และสินค้าสารพัด เช่น ไม้
ยาสมุนไพรพม่า เสื้อผ้า หยก เครื่องแกะสลัก ฯลฯ
...
หอการค้า
แม่สอดประมาณการณ์ว่า ความสูญเสียครั้งนี้ตกประมาณ $2.7M/day = 86.4
ล้านบาท/วัน, และถ้าปิดด่านจนถึงเดือนสิงหาคม 2553 จะมีความสูญเสียเกิน
$30M = 960 ล้านบาท [ คิดที่ 32 บาท/$ ]
รัฐบาลพม่ากำหนดให้วันที่ 10 สิงหาคม 2553 เป็นวัน "เส้นตายสุดท้าย (final
deadline)" ที่ DKBA จะเข้าร่วมเป็น "ตชด.พม่า" ได้, และนี่ก็ใกล้
"วันนั้น" เข้าไปทุกที
...
ปี 1994 หรือ พ.ศ. 2537 กองกำลังกะเหรี่ยงอันเกรียงไกรได้แตกกันครั้งแรก และแยกเป็นกองกำลังกะเหรี่ยงคริสต์กับพุทธ
สาเหตุที่แตก คือ ผู้บริหารส่วนใหญ่เป็นกะเหรี่ยงคริสต์
เป็นฝ่ายคิด-วางแผน-ไม่ค่อยรบ,
ทหารราบส่วนใหญ่เป็นกะเหรี่ยงพุทธเป็นด่านหน้า
เสี่ยงต่อการเสียชีวิต-บาดเจ็บ-พิการมากกว่า... ทำให้แตกเป็น 2 ฝ่าย
และอ่อนกำลังลงไปมาก
...
แหล่งข่าวกล่าว
ว่า เร็วๆ นี้ทหารพม่าเสริมกำลังเข้าไปประชิด DKBA เพิ่มขึ้นอีก 400 นาย
ทำให้มีความเป็นไปได้สูงว่า การปิดท่อ "น้ำเลี้ยง"
ครั้งนี้น่าจะออกฤทธิ์เสริมกับการกดดันทางการทหารเช่นกัน
หอการค้าและอุตสาหกรรมพม่ารายงานว่า ยอดการค้าระหว่างพม่า-ไทย
"ที่เป็นทางการ (ไม่รวมหนีภาษี)" เพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่าในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา
คือ เพิ่มจากปีละ 50,880 ล้านบาท เป็น 102,400 ล้านบาท ($1.59bn to
$3.2bn) ทำให้ไทยมีเป็นประเทศคู่ค้าอันดับ 2 ของพม่า
...
ในจำนวนนี้เป็นยอดการค้าผ่านชายแดน (2551-2552) = 10,464 ล้านบาท ($327M)
ปัจจัยหนึ่งที่เสริมการค้าข้ามชายแดน คือ กฏหมายยกเว้นภาษี (Alien Business
Lay of 1972 / ABL) ของ BOI ที่ยอมให้สินค้า เครื่องยนต์
ชิ้นส่วนเครื่องยนต์ และวัตถุดิบผ่านไทยได้โดยไม่ต้องเสียภาษี
(แต่ห้ามจำหน่ายในไทย)
...
กฏหมายนี้ทำให้มีการขนส่่งรถยนต์ เครื่องยนต์ ชิ้นส่วนรถ จักรยาน ชิ้นส่วนจักรยาน เครื่องใช้ไฟฟ้า และชิ้นส่วนอีเล็คโทรนิคส์ผ่านชายแดน
ของเหล่านี้นำเข้าจากญี่ปุ่นหรือประเทศอาเซียนอื่นๆ ผ่านท่าเรือกรุงเทพฯ ส่งผ่านด่านแม่สอด-เมียวดี และขายไปทั่วพม่า
...
ประสบการณ์
ทั่วโลกสอนเราว่า กองกำลังชนกลุ่มน้อยส่วนใหญ่จะได้ "น้ำเลี้ยง"
ผ่านชายแดนเสมอ... การปิดชายแดนก็คล้ายการ "ตัดน้ำตัดไฟ" หรือ
"ตัดน้ำตัดอาหาร" ซึ่งถ้าทำได้แบบเบ็ดเสร็จแล้ว
กองกำลังชนกลุ่มน้อยมักจะแพ้
ซึ่งแม้เีวียดนามจะยกทัพเข้าไปยึดกัมพูชาก็ยังตีไม่แตก, ทว่า...
เมื่อไทยปิดด่านชายแดน เพียง 1-2 เดือนก็แตกพ่ายไป
...
กองกำลัง
ชนกลุ่มน้อยที่อยู่ระหว่างชายแดนพม่า-ไทยมีส่วนทำให้พม่าไม่ไว้ใจไทย
และในทางกลับกันก็เป็นช่องทางผลิต-ขนส่ง-จำหน่ายยาเสพติดเข้าไทย
โดยเฉพาะยาบ้าและฝิ่น
ถ้าพม่ามีความสงบตลอดแนวชายแดน... พม่าจะพัฒนาประเทศได้เร็ว เช่น
อาจเปิดเมืองชายแดนเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษได้ทั้งฝ่ายพม่าและไทย
(ควรทำเป็นเมืองคู่ หรือพี่น้องกัน เช่น เมียววดี-แม่สอด ฯลฯ),
อาจเปิดเส้นทางท่องเที่ยวเชื่อมกันไ้ด้ ฯลฯ
...
เรื่องผนังกั้น
ตลิ่งทำให้ตลิ่งฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งพังนั้น,
น่าจะเป็นเรื่องเล็กเมื่อเทียบกับปัญหาชนกลุ่มน้อย และ้ถ้าจะทำควรทำพร้อมๆ
กันทั้งสองฝั่ง ไม่ใช่ทำฝ่ายเดียว
สันติภาพในพม่าจะดีกับพม่าด้วย และจะดีกับไทยด้วยในระยะยาว
...
ถึงตรงนี้... ขอให้ท่านผู้อ่านมีสุขภาพดีไปนานๆ ครับ
...
ที่
มา
-
Thank Irrawaddy
-
นพ.วัลลภ พรเรืองวงศ์ รพ.ห้างฉัตร
ลำปาง. 31 กรกฎาคม 2553.
-
ข้อมูลทั้งหมดเป็นไปเพื่อ
การส่งเสริมสุขภาพ ไม่ใช่วินิจฉัยหรือรักษาโรค
ท่านที่มีโรคประจำตัวหรือความเสี่ยงต่อโรคสูงจำเป็นต้องปรึกษาหมอที่ดูแล
ท่านก่อนนำข้อมูลไปใช้.
บางอย่างไม่รู้มาก่อน เพิ่มความรู้และเข้าใจ
ทั้งพม่า และ รบ.ไทย ขึ้น
ขอบพระคุณ....และจะติดตามต่อครับ