BlogGang.com : : The Kop Civil : ถนนสายนี้มีตะพาบ ประจำหลักกิโลเมตรที่ 342 : ทิศทางในปีหน้า

โจทย์เป็นของคุณต่อ toor36 ทิศทางในปีหน้า ค่อนข้างเขียนยากเหมือนกันนะ สำหรับผมแวดวงราชการ ต้องมีเป้าหมาย แผนงาน ตัวชี้วัดประจำปีอยู่แล้ว ใช้ประเมินตัวเราเองซึ่งหัวหน้าจะเป็นคนให้คะแนนว่าได้เท่าไหร่ ใช้ในการเลื่อนเงินเดือนครับ

ทิศทางของผมในปีหน้า ผมยังคงไปวิ่งมาราธอนเหมือนเดิมครับ สมัครไว้ 2 สนามแล้ว การวิ่งทำให้ผมมีความสุขมาก ๆ เหมือนได้ปลดปล่อยตัวเอง ได้ฝึกสมาธิ ฝึกความอดทน ต้องแหกขี้ตาตื่นมาซ้อมวิ่งตอนเช้า ทั้ง ๆ ที่ไม่อยากตื่น แต่พอวิ่งเข้าเส้นชัยมันรู้สึกดีมาก ๆ เหมือนเราทำภาระกิจสำเร็จ จึงขอเชิญเพื่อน ๆ มาออกกำลังกายกันนะครับ ไม่ต้องวิ่งมาราธอนก็ได้ แค่ใส่รองเท้าก้าวขาออกจากบ้าน ถือว่าชนะใจตนเองแล้วครับ งั้นขอเล่าเรื่องการวิ่งมาราธอนของผมปีที่ผ่านมาดีกว่าทั้ง 4 สนามเลย ความจริงผมลงในบล็อกแล้วนะครับ

มาราธอนแรกของผมที่ บุรีรัมย์ 1 ปีก่อนที่ผมจะสมัครวิ่งมาราธอน ผมซ้อมเยอะมาก วิ่งงานฮาล์ฟมาราธอนทุกเดือน บางเดือน 3 งานติดเลย น้ำหนักผมลดลงเหลือ 80 กก. ลดลงไป 12 กก. มาราธอนแรกของผม 21 โลแรกผมทำเวลาดีมาก แต่พอครึ่งหลังงานเข้าเลยครับ ยิ่งช่วง 10 โลสุดท้ายเน้นเดินอย่างเดียว มีสลับวิ่งบ้าง แต่ก็เข้าทันเวลา 7 ชม.ครับ มาราธอนแรกสอนให้ผมรู้ว่า อย่าออกตัวแรงเกินไป เผื่อแรงไว้ช่วงท้าย ๆ บ้าง

พอจบมาราธอนแรก เหมือนผมจะชนกำแพง รู้สึกไม่อยากจะวิ่ง เหมือนเราทำสำเร็จแล้ว กว่าจะออกมาวิ่งได้ใช้เวลาเดือนนึงเลยครับ ผมกินเยอะมาก น้ำหนักตัวเริ่มเพิ่มขึ้น แต่ผมก็สมัครงานวิ่งไว้เหมือนเดิมนะครับ แต่ไม่เยอะแบบปีก่อน งานลากูน่ามาราธอนเป็นมาราธอนที่สองของผม งานเข้าเลยครับ ผมเป็นตะคริวที่ขา กม.ที่ 30 แต่ก็ยังวิ่งได้อยู่ ตะคริวขึ้นท้องกม.ที่ 40 ฉีดสเปรย์เดินเร็วจนเข้าเส้นชัยก่อนเวลา 1 นาทีครับ มาราธอนครั้งที่สองสอนให้ผมรู้ว่า สงครามยังไม่จบอย่าเพิ่งนับศพทหาร

มาราธอนที่สามของผมเกิดขึ้นที่ สงขลา ครั้งนี้ผมซ้อมตามตารางโปรแกรมมาราธอนเลยครับ แต่ผมไม่มั่นใจเลยว่าจะใช้ได้ผล จนวันวิ่งจริง ผมถึงได้รู้ว่าที่ซ้อมจริงจังมา 20 สัปดาห์มันได้ผลมาก ๆ 10 โลสุดท้ายผมวิ่งแบบสบายมาก ๆ แม้แดดจะแรงมาก ๆ ก็เอาอยู่ มาราธอนครั้งที่สามสอนให้ผมรู้ว่า ซ้อมดีมีชัยไปกว่าครึ่ง

มาราธอนที่สี่ของผมที่ บางแสน เกิดขึ่นเมื่อเดือนที่แล้วนี่เอง รอบนี้ผมซ้อมเยอะเหมือนกัน แต่น้ำหนักตัวผมเริ่มเพิ่มขึ้นด้วย เหมือนว่าจะวิ่งช้ากว่าเดิม แต่ก็ยังมั่นใจว่าจะจบได้ กังวลแต่เป็นฟูลแรกที่บางแสน พอวันวิ่งจริง ผมวิ่งเหมือนที่ซ้อมมา และคำนวณเวลาวิ่ง เวลาที่จบไว้ตลอด ทำให้หลังจากวิ่งจบมา ผมสบายมาก ๆ วิ่งแล้วไม่เจ็บด้วยครับ มาราธอนที่สี่สอนให้ผมรู้ว่า การบริหารจัดการเวลาก็สำคัญเหมือนกัน

ปีหน้าผมตั้งใจไว้ว่าจะไปวิ่งมาราธอนที่ต่างประเทศบ้าง กำลังเล็ง ๆ ไว้อยู่ครับ เพื่อน ๆ ชวนมาปั่นจักรยานทางไกลที่เคยปั่นด้วยครับ