Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2552
 
 
30 ธันวาคม 2552
 
All Blogs
 

สอนลูก 10 สิ่งก่อนเข้าสู่ปีเสือ


* ครอบครัว ปลูกฝังนิสัยที่ดีให้แก่คนที่สุดรัก

เหลืออีกไม่กี่วันก็จะสิ้นปี 2552 กันแล้ว มีอะไรบ้างที่คุณคิดจะทำและยังไม่ได้ทำหรือไม่…!!
นอกจากกิจกรรมสังสรรค์เลี้ยงฉลองส่งท้ายปี ประเภทเคาทน์ดาวน์กันแล้ว ไปฉลองปาร์ตี้ปีใหม่กันแล้ว
มีอะไรบ้างที่คุณควรทำในช่วงนี้ก่อนจะสิ้นปี โดยเฉพาะคนเป็นพ่อแม่ มีอะไรที่ควรจะทำกับลูกดีไหม…
ไหนๆ ก็ไหนๆ ถือโอกาสสอนลูกผ่านช่วงเทศกาลปีใหม่ซะเลย

ฉบับ นี้มีสิบสิ่งที่น่าจะนำมาเป็นบทเรียนสอนลูกในช่วงส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีเสือ
ที่จะมาถึงในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้มาฝากเพื่อนผู้อ่านชาวพ่อ แม่

★1. พาลูกไปเยี่ยมเยียนญาติผู้ใหญ่
สำหรับ ครอบครัวที่มีลูก แน่นอนว่าช่วงเวลาเช่นนี้ พ่อแม่ควรจะพาลูกไปกราบปู่ย่าตายาย
หรือญาติผู้ใหญ่ที่เคารพรัก เพื่อไปขอพรปีใหม่จากท่าน รับรองว่าผู้หลักผู้ใหญ่จะต้องปลาบปลื้มและดีใจอย่างยิ่ง
ที่ลูกหลานยังคิดถึงท่านและมาหาท่านในโอกาสสำคัญ ซึ่งเท่ากับเป็นการสอนเรื่องการกตัญญูให้กับลูกของเรา
ได้เรียนรู้ด้วย ยิ่งถ้าคุณให้ความสำคัญกับพ่อแม่ของคุณมากเท่าไร ก็เท่ากับเป็นการสร้างรากฐานให้ลูกของคุณรัก
และกตัญญูต่อคุณด้วยมากเท่านั้ ตรงกันข้ามถ้าคุณไม่เคยไปเยี่ยมเยียนพ่อแม่ของคุณ
ลูกของคุณแทบจะไม่ค่อยได้เห็นหน้าค่าตาของปู่ย่าตายาย
ก็รับรองได้เช่นกันว่าเขาจะเลียนแบบพฤติกรรมของคุณอย่างแน่นอน


★2. สอนลูกจากของขวัญปีใหม่
ชวน ลูกให้นึกถึงคนที่เขารู้สึกดีด้วย ให้เขาลองจดรายชื่อคนที่เขารู้สึกดีในตลอดทั้งปีที่ผ่านมา
และอยากจะมอบของขวัญให้แก่คนเหล่านั้น
เท่ากับเป็นการสอนให้เขานึกถึงเหตุการณ์ดีๆ ที่มีคนเคยมีน้ำใจหรือดีต่อเขา
และเมื่อถึงเทศกาลส่งความสุขก็อยากจะมอบสิ่งดีๆ ให้กับคนเหล่านั้นเช่นกัน
ซึ่งเท่ากับเป็นการสอนเรื่องการมีน้ำใจต่อคนอื่น


★3. ชวนลูกไปทำบุญปีใหม่
การทำบุญเพื่อความเป็นสิริมงคลในชีวิต เช่น ใส่บาตรในตอนเช้า
โดยอาจจะให้ลูกมีส่วนร่วมในการเตรียมอาหารสำหรับทำบุญด้วย
และสอดแทรกเรื่องการทำบุญที่ถูกวิธีว่าควรจะทำอย่างไร โดยไม่ลืมที่จะสอดแทรกเรื่องธรรมให้กับลูกด้วย
หรืออาจจะชวนลูกไปวัด ให้ได้เห็นพุทธศาสนิกชนจำนวนมากที่มารวมตัวกันทำบุญ
จะได้ทำให้เด็กๆ ได้ซึมซับเอาวิถีวัฒนธรรมของชาวพุทธติดตัวไปด้วย


★4. ชวนลูกทบทวนตัวเอง
พ่อ แม่ควรตั้งคำถามถึงช่วงเวลาหนึ่งปีที่ผ่านมาว่าลูกเป็นอย่างไร มีข้อดีข้อเสียอะไรบ้าง
และอยากจะปรับปรุงอะไรบ้าง โดยที่พ่อแม่ควรมีส่วนในการกระตุ้นให้ลูกฝึกคิด และตั้งใจฟังเขาด้วยความเต็มใจ
พยายามให้เขาอยากพูดออกมาแบบไม่อึดอัด เพื่อให้เขาเรียนรู้จักตัวเองด้วย
และขณะเดียวกัน อาจเปิดโอกาสให้เขาได้วิพากษ์วิจารณ์พ่อแม่ด้วยก็ได้
เช่น มีอะไรที่อยากจะบอกพ่อแม่ไหม หรือมีอะไรที่คิดว่าไม่ชอบที่จะให้พ่อแม่ทำอะไรบ้าง

การเปิดโอกาสให้ลูกได้คิด ได้พูด อาจจะทำให้เราได้สะท้อนอะไรจากลูกด้วยก็ได้
เพราะอาจจะมีนิสัยบางอย่างเช่นกัน ที่ลูกไม่ชอบการกระทำบางอย่างของพ่อแม่
แต่เมื่อพ่อแม่เปิดโอกาสและรับฟังเขา พร้อมทั้งยอมที่จะปรับปรุงพฤติกรรมบางอย่างที่ลูกร้องขอ
ก็จะทำให้ลูกรู้สึกดี และเรียนรู้ว่าพ่อแม่รักเขา และยินดีที่จะรับฟังและแก้ไขตัวเองเช่นกัน


★5. เปิดโอกาสให้ลูกแก้ปัญหา
เป็น การต่อเนื่องจากข้อสี่ เรียกว่าถ้ามีบางเรื่องที่ไม่เหมาะสม ก็ชวนกันพูดคุยว่า แล้วเราจะแก้ไขปัญหานี้อย่างไร
โดยเปิดโอกาสให้ลูกเสนอความคิดเห็นทั้งเรื่องของตัวเอง และเรื่องของพ่อแม่ โดยมีการพูดคุย และรับฟัง
รวมถึงมีข้อเสนอแนะดีๆ ให้กับลูก เท่ากับเป็นการกระตุ้นให้ลูกได้ฝึกคิด ฝึกให้ยอมรับปัญหา
และพร้อมจะแก้ไขปัญหา โดยมีคนที่เขารักพร้อมเป็นกำลังใจอยู่เสมอ


★6. สอนให้ลูกยิ้มในทุกสถานการณ์
แม้ จะต้องเจอะเจออุปสรรค หรือมีปัญหาใดๆ ก็ตาม ควรสอนให้ลูกเป็นเด็กร่าเริง มองโลกด้วยทัศนคติบวก
และใส่เรื่องราวที่สร้างสรรค์ให้ลูกอย่างสม่ำเสมอ
แม้ว่าลูกจะเจอะเจอกับปัญหาหรืออุปสรรคแค่ไหน เขาก็พร้อมที่จะเผชิญปัญหา


★7. ฝึกจิตใจให้ลูกได้เรียนรู้คนที่ด้อยโอกาสกว่า
หลัง จากฝึกให้ลูกคิดแล้ว ก็ควรให้ลูกได้ฝึกจิตใจด้วย อาจจะชวนลูกไปทำทานที่บ้านเด็กกำพร้า เด็กพิการ
หรือบ้านคนชรา ฯลฯ เพื่อให้เขาได้เรียนรู้จักกลุ่มคนที่ด้อยโอกาส หรือขาดโอกาสมากกว่าเขามากมาย
ทั้งยังเป็นการสอนให้เขาเรียนรู้เรื่องการแบ่งปัน การคิดถึงและเข้าอกเข้าใจเพื่อนมนุษย์
ให้เขาเห็นว่าจากสิ่งที่เขามี สิ่งที่เขาเป็น ก็โชคดีกว่าคนอื่นอีกมากมาย
เขาจะได้เห็นคุณค่าในตัวเอง และอยากที่จะแบ่งปันให้กับผู้อื่นด้วย


★8. เรียนรู้จากงานปาร์ตี้
อย่างไรซะลูกของเราก็ต้องได้ไปงานเลี้ยงฉลองปีใหม่ ไม่ที่ใดก็ที่หนึ่ง หรืออาจจะหลายครั้งด้วย
ก็ต้องสอนให้ลูกเรียนรู้ว่าการไปงานปาร์ตี้ต่างๆ ต้องปฏิบัติตัวอย่างไร
งานแต่ละประเภทแต่ละสถานที่มีความแตกต่างกันอย่างไร และลูกควรจะปฏิบัติตัวอย่างไร
เป็นการสอนเรื่องการเรียนรู้ในการเข้าสังคมให้กับเขาด้วย


★9. อาหารการกินก็ต้องเลือก แม้แต่อาหารการกินก็ควรให้ลูกได้เลือกกินให้เหมาะสม
เพราะ ปกติงานเลี้ยงส่วนใหญ่ ก็จะเต็มไปด้วยอาหารมากมาย แต่อาหารส่วนใหญ่จะอุดมไปด้วยไขมัน
และอาหารประเภทเนื้อสัตว์ รวมถึงเครื่องดื่มประเภทน้ำอัดลมก็จะเยอะมาก ก็ต้องสอนให้ลูกเลือกกิน
หรือกินแต่พอเพียง และหลังจากกินแล้ว ก็ต้องกระตุ้นให้เขาได้ใช้พลังงานด้วยการออกกำลังกายด้วย
และถ้าจะให้ดีก็ชวนกันออกกำลังกายกันทั้งครอบครัวซะเลย


★10. ชวนลูกทำความรู้จักสิ่งใหม่ๆ รอบตัว
ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ใหม่ๆ เพื่อนใหม่ หรือสนใจเรียนรู้สิ่งรอบตัวเดิม แต่สังเกตสิ่งใหม่ๆ รอบตัวก็ได้
หรืออาจจะตั้งเป็นโจทย็ให้ลูกก็ได้ว่าลูกอยากจะทำสิ่งใดใหม่ๆ ก่อนจะขึ้นปีใหม่หรือไม่
เราอาจจะได้คำตอบจากลูกชนิดคาดไม่ถึงก็ได้


ทั้ง 10 สิ่ง จะว่าง่ายก็ง่าย จะว่ายากก็ยาก ก็สุดแท้แต่ว่าเราจะจัดลำดับความสำคัญของชีวิตของลูกเราอย่างไร
เพราะทุกๆ สิ่งรอบตัวของเขาก็คือการเรียนรู้ วันเวลาที่เปลี่ยนผ่าน ก็เป็นการบอกถึงอายุที่เพิ่มขึ้น
และเมื่อวัยที่เพิ่มขึ้น การเก็บเกี่ยวสิ่งดีๆ พร้อมกับการเรียนรู้ของลูกก็น่าจะเพิ่มมากขึ้นด้วย
และคนที่มีส่วนต่อการเรียนรู้ของลูก ก็ไม่ใช่ใครอื่น พ่อแม่นั่นแหละค่ะ

สวัสดีปีใหม่ ปีแห่งการเรียนรู้อีกปีหนึ่งของลูกของเรา

ที่มา : //www.thaihealth.or.th/node/13208




 

Create Date : 30 ธันวาคม 2552
0 comments
Last Update : 30 ธันวาคม 2552 21:11:38 น.
Counter : 709 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 200 คน [?]




Friends' blogs
[Add ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.