วิธีการให้ลูกเลิกเล่นเกม
ใครก็คิดว่าวิธีที่ง่ายที่สุดในการหยุดเล่นเกมคือเลิกเล่นเกม ยิ่งพ่อแม่จะบังคับซะอย่าง เดี๋ยวลูกก็ต้องเลิกเล่นจนได้ แต่จริงๆ แล้วมันไม่ง่ายอย่างนั้น เช่นเดียวกับการเลิกบุหรี่ คุณลองแนะนำคนสูบบุหรี่ให้โยนบุหรี่ทิ้ง จะได้ไม่ต้องสูบบุหรี่ ไม่ง่ายนักที่เขาจะทำตามได้ทันที ความจริงแล้ว ทุกคนรู้ว่าการติดอะไรบางอย่างมากไปนั้นไม่ดี บางคนสามารถเลิกได้ทันที แต่บางคนต้องมีขั้นตอน มีวิธีการต่างๆ การเลิกเล่นเกมก็เช่นกันต้องมีวิธีการดังต่อไปนี้
เริ่มจากการจัดตารางเวลาที่เล่นเกมว่าจะเริ่มเล่นเมื่อใด และจะเลิกเมื่อใด ห้จดบันทึกเวลาที่เริ่มเล่นและเวลาที่เลิก แต่ยากที่สุดคือการจดบันทึกเวลาที่เลิกเล่นเกมนั่นเอง
การทำดังกล่าวนับเป็นการเริ่มต้นที่ดี พ่อแม่อาจช่วยจดบันทึกให้ในครั้งแรกๆ และเริ่มพูดคุยถึงเวลาที่เล่นเกมว่าควรจะเป็นเท่าใด
ดังนั้นพ่อแม่คงต้องมีส่วนร่วมในการช่วยให้ลูกเล่นเกมน้อยลง ก่อนที่จะลงไปช่วย ควรหันมาสำรวจก่อนว่า คุณเองมีความคิดว่าจะจัดการกับลูกของตนอย่างไร บางคนจัดการโดย วิธีเด็ดขาดคือ เอ็ดตะโร ดุด่า ตี เพื่อให้เลิกเล่นเกมไปเลย แต่วิธีนี้ได้ผลไม่มากนัก
วิธีที่ดีคือ อย่าประกาศตัวเป็นศัตรูกับการเล่นเกมโดยตรง อย่างที่เคยบอกมาข้างต้น ค่อยๆ ปรับค่อยๆเปลี่ยน ลูกจะรับได้และเข้าใจคุณ จงอดทนกับการต่อต้านอย่างรุนแรงที่คุณอาจได้รับจากการที่คุณเข้าไปปรับการเล่นเกมของลูก จงทำในสิ่งที่สมควรทำเพื่อสิ่งที่ดีกว่าสำหรับลูก และเพื่อความสัมพันธ์ที่ดีขึ้นในครอบครัว
แรงต่อต้านเมื่อผู้เล่นเกมโดนห้ามเล่นหรือถูกบอกให้เล่นเกมลดลง ทุกคนจะบอกว่ารู้ตัวว่ากำลังทำอะไรอยู่ บังคับ ตนเองได้ ไม่ต้องให้พ่อแม่เข้ามายุ่ง บอกว่าพ่อแม่เข้ามาขัดขวางความสำเร็จของตนกำลังจะชนะเกมนี้อยู่แล้ว บอกว่าเห็นพ่อแม่เป็นศัตรูที่มากีดกันความสุข บอกว่าพ่อแม่ไม่เคยเข้าใจตนเลย แค่นี้ก็ยังห้ามอีก บอกว่าพ่อแม่ทำให้เสียสมาธิ แทนที่จะเล่นเกมให้เสร็จเร็วๆ ทำให้ต้องเล่นเกมนานขึ้น
กฎเหล็กการออนไลน์ ก่อนการเล่นเกมออนไลน์ พ่อแม่ควรตั้งกติกาในการเล่นไว้ก่อนดังนี้
- ห้ามให้ข้อมูลส่วนตัวแก่ผู้อื่น
- ห้ามให้ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์อย่างเด็ดขาด ถ้ามีใครพยายามตีสนิทเกินไป หรือพูดจาไม่ดีหรือมีพิรุธ ให้จดชื่อ
- ของผู้นั้นไว้ เลิกติดต่อกับเขาทันที ส่งชื่อเขาไปยังเว็บมาสเตอร์ และบอกให้พ่อแม่ทราบ
- ห้ามโทรศัพท์ถึงคนที่ไม่เคยรู้จักจริงๆ มาก่อน แม้ว่าจะได้พบเขาในโลกออนไลน์มานับสิบครั้งแล้วก็ตาม
- ห้ามนัดพบกับผู้ที่เจอกันในโลกออนไลน์ ในสถานที่จริง โดยไม่ได้ปรึกษาพ่อแม่ก่อนโดยเด็ดขาด
- อยู่ในโลกออนไลน์ได้ครั้งละไม่เกิน 2-3 ชั่วโมง ในวันหยุด
กฎเหล็กนี้โปรดท่องให้ขึ้นใจ แม้ว่าวัยรุ่นจะไม่ค่อยทำตามกฎก็ตาม แต่ขอให้ลูกท่องไว้และ สำนึกอยู่เสมอว่าการคบหาสมาคมกันในโลกแห่งความเป็นจริงนั้นแตกต่างจากโลกออนไลน์
พ่อแม่ช่วยได้อย่างไร พ่อแม่ควรหาความรู้เกี่ยวกับเกมออนไลน์ที่ลูกเล่นเข้าไปร่วมอยู่ในโลกเกมออนไลน์ร่วมกับเขา โดยไม่รบกวนเขา หรือเข้าไปโดยมุ่งหวังจะจัดการให้เขาออกมาจากการออนไลน์ แต่ให้เขารู้ว่าครอบครัวยังยืนอยู่ข้างเขา แม้จะอยู่ในโลกแฟนตาซีก็ตาม ใครที่ได้ดูหนังเรื่อง spykid-3 คงจะเข้าใจที่คุณตาของเด็กได้เข้าไปมีส่วนร่วมในเกมด้วย
พ่อแม่ต้องค่อยๆชี้ให้เห็นถึงข้อดีและข้อเสียของเกมที่เกิดขึ้น ให้เครื่องคอมพิวเตอร์อยู่ในสถาน ที่ที่มองเห็นได้ง่าย จะได้รู้ว่าลูกๆ ของคุณออนไลน์ไปอยู่ที่ไหน ตั้งกฎที่น่าจะเป็นไปได้ เช่น ให้เล่นเกมออนไลน์ได้หลังจากการทำการบ้านเสร็จเรียบร้อยแล้ว เล่นได้ไม่เกิน 1 ชั่วโมง ในวันธรรมดาและครั้งละไม่เกิน 2-3 ชั่วโมงในวันหยุด ให้ลูกรู้ว่าสามารถทำอะไรได้หรือไม่ได้
ผู้ปกครองบางคนกลังว่าถ้าตั้งกฎแล้วจะไปขัดใจลูก ลูกจะยิ่งเป็นใหญ่ ขอบอกได้เลยว่า ลูกหลายคนอยากจะให้มีกฎขึ้นมา เพื่อเขาจะได้บังคับตัวเองได้ และเพื่อให้รู้ว่าพ่อแม่สนใจเขา ใส่ใจเขา ไม่ใช่เขาไม่มีตัวตนอยู่ในบ้าน ฉันจะทำอะไรก็ไม่มีใครสนฉันอีกแล้ว ฉันเลยยิ่งทำอะไรออกนอกฎระเบียบไปใหญ่
อยากจะให้พ่อแม่ได้อ่านข้อความของศาสตราจารย์เกียรติคุณแพทย์หญิงวันเพ็ญ บุญประกอบ ในวารสารสมาคมจิตแพทย์แห่งประเทศไทย ฉบับเดือนมกราคม มีนาคม พ.ศ. 2544 เรื่องการเลี้ยงดูลูกกับสุขภาพจิต โดยผมขออนุญาตคัดลอกย่อหน้าหนึ่งมาให้อ่านดังต่อไปนี้
"จะเห็นว่าการใช้เวลาในโลกออนไลน์ หรือโลกแฟนตาซี ลูกจะสนุกมากที่ได้บังคับตัวละคร นอกเหนือจากที่เคยโดนบังคับให้ทำโน่นทำนี่ในโลกแห่งความจริง ซึ่งเป็นสิ่งที่ลูกต้องพบจริงๆ ในการดำเนินชีวิตประจำวัน ดังนั้นพ่อแม่ควรหากิจกรรมต่างๆ ให้ลูกทำแทนการเล่นเกม เป็นการใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ ได้ความสนุกที่แท้จริงมากกว่า ไม่ว่าจะไปถีบจักรยาน ว่ายน้ำ เล่นดนตรี เตะฟุตบอล เล่นเทควันโด หรือเดินทางท่องเที่ยวในโลกแฟนตาซีเสียอีก ในไม่ช้าลูกจะพบว่ามีความสุขกับโลกแห่งความจริงมากกว่า
สังคมในปัจจุบันกลายเป็นสังคมที่มีสิ่งเร้าอยู่ตลอดเวลา มีโฆษณาให้ทำโน่นทำนี่ไม่มีหยุด จนแทบจะหาที่พักผ่อนหย่อนใจจริงๆ ไม่พบ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ทำให้เด็กหลายคนในปัจจุบันมี ความอดทนต่ำ ความอดกลั้นน้อย มักแสดงออกเพื่อให้ตัวเองเด่นขึ้นมา โดยไม่แยแสผู้อื่น เพื่อตนจะได้เป็นที่ยอมรับของผู้อื่น ถึงกระนั้นก็ตาม เด็กยังต้องการความอบอุ่นจากครอบครัว ต้องการที่ที่สามารถคุ้มครองตนเองให้รู้สึกปลอดภัย หรือสามารถกลับมาได้เมื่อตนเองไม่มีทาง ไปแล้ว และยังต้องการความเข้าใจจากครอบครัวว่า ในวัยของเขาขณะนี้เขาต้องการอะไร เช่น เขาอายุ 14 ปีแล้ว ไม่ใช่ยังเลี้ยงแบบ 7 ขวบอยู่ นอกจากนี้ ยังมีการแสดงออกเหมือนไม่ต้องการให้ใครบังคับ แต่ก็อยากรู้ว่าตนเองสามารถทำอะไรได้บ้าง ทำอะไรไม่ได้บ้าง ทำได้เมื่อใด เพื่อให้เป็นไปตามกฎเกณฑ์ของสังคมหมู่มาก
ที่สำคัญคือพ่อแม่ต้องไม่ใช้เกมเป็นตัวที่ทำให้ลูกสงบไม่มารบกวน มีพ่อแม่หลายคนที่พลอย ยินดีไปกับลูกที่นั่งเล่นเกม เพราะจะได้ไม่มากวนใจ หรือเวลาไปไหนกลัวลูกจะรอนาน ก็ซื้อ เกมบอย (Gameboy) ให้เล่น หรือกลัวลูกเหงาเวลานั่งรอพ่อแม่ไปรับที่โรงเรียนก็ให้ไปนั่งรอ ในร้านเล่นเกม แทนที่จะให้นั่งรอหรือวิ่งเล่นกับเพื่อนในโรงเรียน หรือซื้อเกมบอยให้ได้โดยกลัว ว่าลูกจะไม่มีเล่นเหมือนลูกคนอื่น ขนาดเด็ก 3 ขวบบางคน พ่อแม่ยังซื้อเกมบอยให้ลูกเล่น เพราะเห็นว่าญาติๆ เขามีจึงซื้อให้เล่นบ้าง ให้เล่นน่ะง่ายแต่พอจะให้เลิกนี่สิยากกว่า ดังนั้นอย่าพยายามเอาเกมเข้ามาเพื่อให้ลูกอยู่นิ่ง หรือให้ลูกไม่น้อยหน้าคนอื่น ให้เกมห่างไกลจากลูกได้เป็นดีที่สุด
การมีวินัยในบ้าน การร่างกฎกติกาในบ้านเป็นสิ่งสำคัญ การฝึกวินัยกันตั้งแต่เล็กๆ จะช่วยได้ แม้เด็กโตก็ยังต้องฝึกต่อให้มีวินัยในตนเอง เด็กที่มีวินัยจะรู้สึกภาคภูมิใจในตนเอง เพราะทำอะไรก็มักประสบผลสำเร็จ ดังนั้นจงช่วยกันสร้างระเบียบวินัยให้แก่ลูกเถิดครับ
วิธีช่วยเหลือลูกที่ติดเกม
- เริ่มจดตารางการเล่นเกมของลูก วัน......วันที่......เริ่มเล่นเวลา.......เลิกเล่น - เวลา...............รวมเวลา............ชั่วโมง.............นาที - แสดงตารางเวลาการเล่นเกมให้ลูกเห็นเวลาที่ลูกนั่งเล่นเกม
- จัดทำข้อตกลงในการเล่นเกมกับลูกว่า ในวันธรรมดาควรเล่นได้ไม่เกิน 1 ชั่วโมง วันหยุดควรเล่นได้ไม่เกินวันละ 2-3 ชั่วโมง
- คุยกับลูกเรื่องกำหนดเวลาเล่นเกมโดยไม่ใช้อารมณ์นำ แต่ใช้เหตุและผลมาคุย แม้ว่าเขาอาจจะไม่ค่อยรับฟังก็ตาม
- ให้เวลากับลูกของคุณให้มากขึ้น ทำกิจกรรมร่วมกัน เช่น พาไปเดินเล่นสวนสาธารณะร่วมกันไปออกกำลังกายร่วมกัน
- หาหนังสือนิยาย หนังสือการ์ตูนสนุกๆให้ลูกอ่าน
- เบี่ยงเบนความสนใจ โดยหากิจกรรมอื่นเข้ามาทดแทน เช่น เล่นเกมหมากกระดานแทน โดยคุณเข้าร่วมเล่นกับลูกด้วย
- ให้พี่น้องเล่นเกมร่วมกัน แทนที่ต่างคนต่างจะเล่นเกมคอมพิวเตอร์ เพื่อให้มีการสื่อสัมพันธ์ ในครอบครัว เพราะเวลาเล่นเกมคอมพิวเตอร์ ส่วนใหญ่มักจะต่างคนต่างเล่นแล้วพยายามจะให้ ตนเองเด่นที่สุดตลอด
- เมื่อถึงเวลาให้ลูกเลิกเล่นเกม พ่อแม่ก็ต้องใจแข็ง ถึงบังคับก็ต้องทำกัน
- มานั่งพิจารณาสิ่งที่เกิดขึ้นด้วยความสุขุมและอารมณ์ชื่นบาน โดยไม่นั่งโทษตัวเองหรือลูกหรือ สังคมว่าทำไมลูกฉันถึงติดเกมขนาดนี้ ฉันไม่ดีรึเปล่า ลูกจึงติดเกมมากกว่าติดอย่างอื่น
- ตั้งใจว่าจะทำทุกอย่างให้ดีที่สุด เพื่อลูกและครอบครัว และเข้าใจว่าการที่ลูกติดเกมนี้ ไม่ได้เป็นสิ่งที่เลวร้ายน่ารังเกียจ ทนไม่ได้ ให้คิดเสียว่า ยังมีทางแก้ไขได้
- ตั้งใจให้ดีก่อนว่า การช่วยเหลือลูกไม่ให้ติดเกมนั้นไม่ง่าย ต้องใช้เวลาและความเข้าใจ แต่ทำได้ การช่วยเหลือลูกไม่ให้ติดเกม อาจมีระดับว่าลูกไม่เล่นเกมอีก หรือยังเล่นเกมอยู่บ้างแต่สามารถบังคับตนเองได้ เช่น รู้ว่าใกล้สอบก็เลิกเล่น
ถ้าทำตามคำแนะนำแล้วแต่ยังไม่สามารถช่วยเหลือลูกของคุณได้ หรือคุณรู้สึกอ่อนอกอ่อนใจ ที่จะสู้กับลูก หรือลูกของอยู่ในภาวะติดเกมมาก ขอให้ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญในการแก้ไขปัญหานี้ นำลูกไปพบจิตแพทย์ เพื่อช่วยดูแลปรึกษาและรักษา ซึ่งการรักษากรณีที่มีอาการติดเกมและ ปัญหาด้านอารมณ์ไม่มากนัก จิตแพทย์จะใช้วิธีจิตบำบัด พฤติกรรมบำบัด แต่หากลูกของคุณ ติดเกมมากหรือมีปัญหาด้านอารมณ์ร่วมด้วยค่อนข้างมาก อาจจะพิจารณาใช้ยาเข้าร่วมรักษาด้วย
อ้างอิงจาก คู่มือ เมื่อลูกติดเกม ของ นพ.ปราการ ถมยางกูร หน้า 40-58
Create Date : 07 กุมภาพันธ์ 2552 |
|
2 comments |
Last Update : 7 กุมภาพันธ์ 2552 15:58:49 น. |
Counter : 1231 Pageviews. |
|
|
|
ทำไงครับ ผมอยากรู้วิธีที่ทำให้เล่นเกมส์ไม่ได้
แต่ยังมีไฟล์เกมส์อยู่
kong_sound_@hotmail.com