117 .. อย่าให้เงินทำลายลูก
อย่าให้เงินทำลายลูก
เขียนโดย วรากรณ์ สามโกเศศ
นิตยสารแพรว ปีที่ 30 ฉบับที่ 708 หน้า 296
นำมาจาก เว็บ dpu.ac.th
คนไทยมักคิดว่า หากมีเงินมากๆ แล้วทุกอย่างก็จบ จะมีความสุขทั้งกายและใจอย่างมิมีสิ่งใดเสมอเหมือน ยิ่งมีทรัพย์สมบัติทิ้งให้ลูก ยิ่งจะทำให้ลูกสบายไปตลอดชีวิต
ที่คิดอย่างนี้ก็ไม่ผิดแต่ไม่ถูกไปทั้งหมด เพราะเรื่องราวมันไม่ง่าย ๆ อย่างนั้นเลย
ในเบื้องต้น การมีเงินมากอาจสุขได้แต่กาย แต่ใจนั้นรุ่มร้อนหาความสงบไม่ได้ การมีสุขภาพดีเงินก็ซื้อไม่ได้ ถึงมีเงินท่วมตัวก็ช่วยให้พ้นจากสุขภาพย่ำแย่ไม่ได้ และถึงสุขภาพดีมีเงินก็อาจมีชีวิตที่ไม่มีความหมายก็เป็นได้
ชีวิตที่มีความหมาย คือ ชีวิตที่ทำให้รู้สึกว่าตนเองมีความสำคัญต่อผู้อื่น สามารถทำให้ชีวิตของคนอื่นดีขึ้นได้จากการที่เรามีชีวิตอยู่บนโลกนี้
ชีวิตที่มีความหมายซึ่งสร้างความสุขใจเช่นนี้ ไม่มีใครให้เราได้ นอกจากเราต้องสร้างมันขึ้นมาเอง
ในเรื่องสมบัติมรดกที่ไม่ทำร้ายลูกนั้นเป็นเรื่องใหญ่ การโอนทรัพย์สมบัติให้ลูกตามกฎหมายเป็นเรื่องง่าย แต่ที่ยากกว่าก็คือ การโอนอุปนิสัยบากบั่นทำงานหนัก ขยันหมั่นเพียร รู้จักใช้เงิน และรู้จักค่าของเงิน ให้แก่ลูกพร้อมกันไปด้วย เพื่อให้ลูกสามารถรักษาทรัพย์สมบัติไว้ได้ตลอดไป และเหนือกว่าสิ่งอื่นใดเพื่อให้ลูกมีชีวิตที่มีความหมาย โดยเขาเป็นคนสร้างขึ้นมาเอง
เงินทำลายลูก นั้นเป็นเรื่องจริงของคนทุกชาติ เด็กที่เกิดมาท่ามกลางเงินทอง จะเห็นว่าเงินได้มาง่ายๆ จึงไม่เห็นค่าของเงิน จับจ่ายใช้สอยเงินสนุกมือ และเห็นว่าการได้เงินมาใช้นั้น เป็นสิทธิอันชอบธรรมของเขาจากการเกิดมาเป็นลูก
พ่อแม่จำนวนมาก ก็รังแกลูกโดยไม่รู้ตัว ใช้เงินถมหลุมบ่อแห่งปัญหาที่ลูกก้าวเดิน เพื่อลูกจะได้ไม่ลำบากต้องแก้ไขปัญหา โดยหารู้ไม่ว่าการเผชิญกับหลุมเหล่านั้นแหละ คือการเรียนรู้ชีวิต
ผู้เชี่ยวชาญบอกว่า พ่อแม่สามารถช่วยให้ลูกไม่ถูกทำลายด้วยเงินที่พ่อแม่มอบให้ โดยการกระทำต่อไปนี้
(ก) เมื่อเป็นเด็กและเริ่มไปโรงเรียน มอบเงินจำนวนหนึ่งประจำวันหรืออาทิตย์ เพื่อให้เขารู้จักข้อจำกัด รู้จักจัดงบประมาณ รู้จักวางแผนอดออมเงิน เพื่อซื้อของที่ตนเองต้องการ และรู้จักอดทนรอคอยการได้รับความสุข
(ข) เมื่อโตเป็นวัยรุ่น ให้รู้จักทำงานหาเงิน เขาจะได้รู้ว่าการได้เงินมานั้นยากเย็น เงินไม่ได้มาจากอากาศ แต่มาจากการทำงาน การเห็นคุณค่าของเงินเช่นนี้ จะทำให้เข้าใจโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งได้เห็นชีวิตจริงของคนอื่นที่ไม่โชคดีเท่าตนเองชัดเจนขึ้น
(ค) พ่อแม่เป็นซูเปอร์โมเดลที่ดีของการรู้จักให้ รู้จักบุญคุณคน มีจิตสาธารณะ และมีความเมตตากรุณา อย่าลืมว่าเด็กจะเลียนแบบการกระทำของพ่อแม่ มากกว่าฟังคำสอนแต่ไม่ปฏิบัติของพ่อแม่
(ง) พ่อแม่เป็นตัวอย่างของลูกในการใช้เงินเป็น รู้จักการใช้จ่ายอย่างมัธยัสถ์ ไม่ใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่ายในเรื่องที่ไม่ควรใช้จ่ายอย่างเขลา
อย่าประมาทในเรื่องเงินกับลูก อย่าคิดว่าเพียงมีเงินมากๆ ก็แก้ไขปัญหาของครอบครัวแล้ว ยิ่งทิ้งเงินไว้ให้ลูกมาก ลูกยิ่งสบายในวันข้างหน้า
บทเรียนจากทั่วโลกแสดงให้เห็นว่า เงินนั้นเป็นอันตรายต่อลูกได้หากไม่มีการเตรียมตัวลูกไว้แต่เนิ่นๆ และหากพ่อแม่ไม่เข้าใจว่า เงินทำลายลูก ได้
ถ้าลูกไม่รู้ว่าเงินนั้นต้องหามา และต้องดูแลเป็นอย่างดีแล้ว ต่อให้มีเงินท่วมฟ้าก็หมดไปได้ในเวลาไม่นาน ไม่ว่าจากความฟุ่มเฟือย การพนัน การถูกต้มตุ๋น ฯลฯ
เงินจะไม่ ทำลายลูก ให้เป็นคนรกโลก ไม่รู้จักสร้างสรรค์สิ่งดีงามให้สังคม ก็ต่อเมื่อพ่อแม่ซึ่งร่วมกันเป็นคนนำเด็กเข้ามาในโลก และเป็นครูคนแรกของลูก สั่งสอนอบรมลูกอย่างถูกทาง
ธรรมสวัสดี
ร่มไม้เย็น ค่ะ
Create Date : 28 พฤศจิกายน 2553 |
|
77 comments |
Last Update : 29 มีนาคม 2558 16:32:22 น. |
Counter : 4191 Pageviews. |
|
|
|
เขาไม่ได้ต้องการแค่นั้น