สี่โมงเช้า แสงแดดสาดส่อง ผ่านต้นไม้เป็นลำ สองข้างทาง
บนดอยสูง ก่อนถึงแม่ขะจาน อากาศบนเขาเย็นสบาย เสียง
รถดังสม่ำเสมอ ลมพัดผ่านหน้าต่างรถ พอขึ้นเนินสูงสุด
ท้ายข้างหน้า เป็นทางลาดลง ถนนค่อนข้างดี คดเคี้ยวผ่าน
ป่าเต็งรัง ซ้ายมือจะเห็นร่องน้ำลำธาร บ้านคนหลังเล็ก
จะอยู่แนบชิดกับลำธาร
เกือบยี่สิบนาที ขับรถเข้าสู่พื้นราบ แห่ง บ้านแม่ขะจาน มีลำธาร
พาดขวาง สพานคอนกรีตทอดยาวรับกับถนนที่เรียบ ด้าน
ขวา ทิวไผ่ยาวบังสายตา แลเลยไป ท้องนาเหลืองสีทอง
กว้างใหญ่ รอให้แก่อีกนิด ชาวบ้านจะได้เก็บเกี่ยว ผมขับ
รถผ่านตัวตลาดบ้านแม่ขะจาน เป็นบ้านไม้ สลับกับบ้านตึก
ตลอดทาง ดูแล้วบ้านเมืองค่อนข้างสงบ พอเลยตลาดไป
ปั้มน้ำมันขนาดกลางอยู่ขวามือ เลยไปเป็นทางแยกขวามือ
ป้ายบอกว่า ไป อ.วังเหนือ ลำปาง
ข้างหน้าเป็นถนนไปสู่ อ.เวียงป่าเป้า เชียงราย ขวามือมี
ลำธารน้ำไหล ขนานคู่กับถนน
เลี้ยวเข้าไปจอด บริเวณบ้านที่มีต้นไม้ล้อมรอบ ร่มเย็น
ตัวบ้าน ครึ่งตึกครึ่งไม้ ทรงไม่เหมือนชาวบ้าน ค่อนข้างสง่า
อยู่ด้านในเข้าไป
ริมเขตบ้านซ้ายมือ จะเป็นรั้วไม้ไผ่ มีที่ตั้งหม้อน้ำไว้ให้คน
มาเยี่ยมดื่มกัน
หลังจากกลับจาก กท.คราวนี้ ก็เก็บเข้าของขึ้นบ้าน ก็เปลี่ยนจากรถ
เก๋งเป็น พิคอัพ พากัน ไปซื้อหัวแง่งพันธ์ขิงสำหรับปลูก
ขับไปใกล้ดอยเข้าไปทุกที สอบถามทางไปบ้านคนที่ขาย
ไม่นานก็เจอ อยู่เชิงเขา พวกเราต่าง ค้นขิงข้างใต้กองขึ้นดู
หัวขิงที่ชาวบ้านเก็บไว้ ค่อนข้างอวบสมบูรณ์ แต่ ผิวมัน ไม่
เหมาะ คงจะอัดปุ๋ยเข้าไปมาก. ต้องขับรถลึกเข้าไปใน
หลึบดอย ไม่นานก็ถึงบ้านผู้ใหญ่บ้าน พอดูหัวพันธ์ที่แก่แห้ง
น่าจะอายุประมาณ 11 เดือนขึ้นไป วางเกลี่ยไว้บนแคร่ไม้
ไผ่ จับดูแล้ว หัวอวบ ผิวไม่มัน ค่อนข้างแห้ง มีตาเยอะ
เหมาะสำหรับ นำไปปาด ปลูก
ผู้ใหญ่ตกลงขายกันราคา กก.ละ 11 บาท พอไหว เลยเหมา
ทั้งหมด แหะ ๆ เพื่อนผู้หญิงที่ซื้อขิงทำอาหารประจำอย่า
บ่นนะว่าทำไมมันถูกจัง ผมไม่ปิดบังนะครับ ก็เรื่องข้างบน
นี้ผมนำมาจากบันทึก กับภาพเก่า ๆ มานำเสนอ ราคาเดี๋ยว
นี้ไม่ได้แล้วครับ.
ช่วยกันยกหลัวเข่งเทขิง ใส่ในพิคอัพ แล้วขับไปหาหัวพันธ์
ที่อื่นอีก หลายเจ้า ได้แต่มัดจำไว้ วันหลังจะมารับหัวขิง
ไปแต่ไม่เกิน 7 วัน. ห้ามขายเด็ดขาด 555 คืองี้ เราต้อง
คอยซื้อตัด ก่อนที่พวกชาวจ.ลำพูนจะมาชิงซื้อ ก็ที่ลำพูน
มีการปลูกขิงเยอะ แต่ไม่เหมาะสำหรับทำพันธ์ ก็เพื่อนอัด
ปุ๋ยไปเต่งตึง ผิวมัน ยังกะสาวอวบ 555 พวกเรากลัวเนื้อมัน
ฟ่าม คือจะเน่าง่าย นี่ผมเปล่าว่า สาวอวบทั้งหลายเนื้อ
ฟ่ามนะ. สาวอวบน่า ก...อดจะตายไป จริงไหม....
เย็นนั้นเรากลับบ้าน ค่อนข้างคำ เพราะแวะสั่งฟาง แล้วก็
ธรรมดา วางมัดจำไว้ส่วนหนึ่ง ไม่นานเราก็เข้าเขตหมู่บ้าน
หน้าบ้านมีถนนสายเชียงใหม่ เชียงรายตัดผ่าน นาน ๆ มีรถวิ่ง
ผ่าน ด้านหลังกับด้านข้าง เป็นท้องนา ดาระดาษไปด้วย
รวงข้าวสีทองเหลืองอร่าม มีกองฟางข้าวที่เกี่ยวรอ นวด
กองสูงเป็นระยะ ดวงอาทิตย์เริ่มคล้อยต่ำลง จะลับยอด
ดอยเตี้ยหลังบ้าน ความมืดค่อย ๆ โรยตัว ลมเริ่มพัดเข้า
มาหาตัวบ้านเบา ๆ
ต้องรีบผลัดเสื้อผ้า เดินไปตักน้ำจากบ่อน้ำ ข้างตัวบ้าน ใช้
น้ำถุ้ง(ภาชนะสานด้วยไผ่เส้นเล็ก ทรงกลมก้นแหลม ทาด้วย
น้ำมันยาง กันน้ำรั่ว) โรยลงด้วยเชือกมะนิลา ตักเทลงราง
น้ำไผ่ซาง ลำโต ให้มันไหลไปที่ห้องน้ำอยู่ห่างบ่อน้ำกว่า
6 เมตร ไม่ต้องหิ้วให้หนัก
แล้วก็ผลัดผ้าเหลือแต่ กก.ในหรือจะชีเปลือยก็แล้วแต่ รีบ
ใช้ขันตัก ลาดตัว ถูสบู่ขี้ใคล แต่บอกตรง ๆ ไม่ค่อยถูเท่าไร
ใช้วิธี แบบ ลวกสะเดา ลูบขึ้นลงสองที ตักน้ำที่เย็นเจี๊ยบลาด
ไม่เกินสามขัน 555 ก็พอแล้ว
เย็นนี้เป็นคิว เพื่อนชื่อ โกสิน ที่มาร่วมลงทุนทำขิง เป็นคน
ทำอาหาร ชื่อแกดีเหมือนกัน โกก็ พี่ไง ส่วนแกมีชื่อ สิน คำ
เดียวเท่านั้นแหละ.
พี่แก ทำอาหารอร่อยดี กินอาหารฝรั่งเศสเชียวนะ ก็ ๆ ๆ
เห็ด แชมปิยองไง ไปซื้อที่ฟาร์มเห็ด ใกล้กับบ้านป่าซาง
แถวบ้านป๋าเบิร์ดธงไชย มาได้กิโลมั้ง
เครื่องปรุงมีไม่มาก แค่ตบกระเทียม พอเหลืองเอาหมูสาม
ชั้นติดมันสับจนละเอียด ลงผัดกับเห็ดโรยพริก โรยน้ำมันหอย
พลิกไปไม่กี่ที ตักใส่จานร้อนควันฉุย
โก แกผัดได้อร่อยจริง ๆ ไม่รู้ว่า หิวอร่อย หรือฝีมือโก แก
ไม่รู้เหมือนกัน 555 เพิ่งรู้จักใหม่ ๆ ไม่กล้าแซว ส่วนใหญ่
เราจะทำอาหารมื้อละอย่าง
รุ่งเช้า แสงแรกแห่งวัน ค่อย ๆ สาดส่อง ผ่านต้นไม้หน้าบ้าน
เกิดแสงเงา เสียงไก่ร้อง สลับเสียงน้ำไหลในร่องน้ำข้าง
บ้านดัง จุ๋งจิ๋ง ไพเราะ อากาศยังเย็น
ล้างหน้าโกนหนวด เสร็จ คว้ากุญแจรถขับไปตลาด บ้านแม่
ขะจาน เจอแม่ค้าวางใบพลวง บ้าง ถุงปุ๋ยกับพี้นดิน วางผัก
กาดจ้อน(กวางตุ้งมีดอก) ชะอม กระหล่ำปลี ผักพ่อค้าตี
เมีย ผักหูด ไม่รู้ภาคกลางเขาเรียกว่าอะไร เขาเก็บเป็นก้าน
ยาวขนาด 4 นิ้วเป็นเส้นแล้วก็ มีปุ่มกลมเรียงไปตามความยาว
มีแม้กระทั่งไม้เกี๊ยะ ที่ไม่ใช่เกี๊ยะที่คนจีนใส่แทนรองเท้านะ
555 เป็นไม้สนชนิดหนึ่ง เนื้อจะมีน้ำมันแห้งเยิ้มติด เขาสับ
มาเป็นชิ้นยาวครึ่งฟุต มัดหนึ่งก็มีประมาณ 10 ชิ้นเขาเอาไว้
จุดให้ติดไฟแล้วแหย่ไปในเตา แล้วเอาฟืนหรือถ่านโปะ ก็
เป็นเชื้อเพลิงชนิดหนึ่ง.
แม่ค้าพวกนี้ขยันครับ พวกผู้ชายไม่เห็นมาขายของเลย หรือ
ว่ายังนอน หรือไม่ก็ มัวเลี้ยงนกเขา แหะ ๆ ล้อเล่นครับ คน
ภาคเหนือ ชายจะลงนา ลงสวนกัน. หญิงบางบ้านก็นำพืช
ที่ฝาละมีปลูก มาขาย.
ที่นี่ขายถูก สด ผมเห็นข้าวเหนียวดำมูลหน้ากระฉีก สังขยา
สั่งไป 10 ห่อ เป็นอาหารเช้าสำหรับพวกเรา 4 คน กะ
ปาท่องโกอีก 15 คู่
อาหารกลางวันไม่ทำ ใช้วิธีซื้อ จิ้นปิ้งก็ หมูที่ตัดขวางติด
กระดูกแล้วทอด ใส้อั่วหมู น้ำพริกแดง. ส่วนผักจิ้มน้ำพริก
ซื้อผักกาดกวางตุ้ง ไปกิโลก็พอ เอาไปต้มใส่เกลือนิด ส่วน
ข้าวเหนียว เพื่อนอีกคนจะนึ่งไว้ที่บ้าน เตรียมเอาไปกินที่
ไร่บนดอย. ข้าวเหนียวไม่ได้ยุ่งยากอะไรแช่ข้าวค้างคืนแล้ว
มานึ่ง ใส่กล่องข้าว(กระติ๊บ)
กินข้าวเช้าเสร็จ เรา 2 คนไปรับคนงานในหมู่บ้านป่าซาง
10 คน ขับไปไม่นานก็ถึงหมู่บ้าน
บ้านเรือนละแวกนี้ จะปลูกเรียงรายสองข้างทาง ที่เป็นเนิน
ขวามือเป็นดอยเตี้ย ซ้ายมือเป็นทุ่งนากว้าง พอคนงานคน
สุดท้ายขึ้นรถ ก็ขับผ่านตัวตลาดแม่ขะจานมุ่งสู่ถนน ไป อ.
วังเหนือ พอเลี้ยวขวาเข้าไปไม่นาน ซ้ายมือเป็นเรือกสวน
ข้างบนดอยนี้จะเป็นที่เราจะปลูกขิง ถนนแคบดินลูกรังเริ่มสูง
ชันคดเคี้ยวไปมา ผมขับพาคนงานขึ้นไปร่วมกิโลได้ ข้างหน้า
เป็นที่โล่งกว้าง รถไถทำงานแต่เช้า ก่อนพวกเรามา ก็พวกนี้
ใช้ผาน 3 ไถไปก่อนเมื่อวันก่อน จนดินได้ที่ก็ใช้ผานเจ็ดไถ
ให้ละเอียดพร้อมกับยกร่อง ตามที่เราต้องการ.
ด้านหน้าของไร่ที่เรา ใช้รถไถ จะเป็นเนินสูง เราปลูกเพิง
พัก กันแดดกันฝน ไว้หลังขนาดย่อม ไม่มีฝา ยกแคร่สูง
แค่เข่าครึ่งหนึ่ง 555 เอาไว้จำวัดกลางวัน ก็เอาไว้นอนไง
ด้านข้าง เอาไม้ขวางสูงขนาด 150 เซนติเมตร ให้คนงาน
ที่ลงจากรถ นำอาหารก็ข้าวเหนียวห่อมาจากบ้าน แขวนไว้กันหมา
แล้วต่างคน ต่างแบกจอบคู่มือแต่ละคนก็ นำมาจากบ้าน
เข้าไปเก็บ เศษรากไม้ หญ้า ออกจากแปลงที่รถไถยกร่องไว้
แล้วก็แต่งร่องให้ดีขึ้นอีก.
ส่วนผมก็นั่งพัก บนแคร่ในเพิงพัก มองไปในตัวตลาดแม่
ขะจาน แสงอาทิตย์สาดไปทั่ว ฟ้าใส เหมาะแก่การตากดิน
ให้แห้ง ลมเริ่มทะยอยพัดมาเบา ๆ ใบตองตึงที่มุงหลังคา
ขยับขึ้นลงตามกระแสลม
ป่านนี้ บ้านที่กรุงเทพ คงจะเงียบ เหงาหงอย เหมือนตัวผมที่
มาอยู่บนดอย มองดูมือ ที่เคย สะอาด เรียบ จับเอกสารปากกา
บัดนี้ ผิวคล้ำ หยาบหนาเข้าทุกวัน.
หันไปมองร่องดินที่ไถยกร่อง คนงานกำลังช่วยกันแต่ง
กลางแดด เสียงตะโกนล้อเล่นกัน เสียงหัวเราะดังมาเป็น
ระยะ เฮ้อ.... ขนาดคนงานเขาทำงานหนัก ยังมีความสุขได้
แล้วเราละ น่าจะมีกำลังใจดีกว่าเขา.... ไม่นานพื้นดินที่
แห้งจะมีต้นขิง ขึ้นเขียวเป็นแถว สลับไปกับดินที่มีสีแดง
ปนดำ คงเป็นวันสำหรับเรามั่ง......