วันก่อน อ่านหนังสือไปเจอเพื่อนเขียนถึง วัยหวาน
มานึกดู เราก็มีประสพการณ์แบบนั้นเหมือนกันนี่ แต่ก็ไม่เชิง
หรอก คืองี้ เมืองที่พวกเราอยู่บรรยากาศมันให้ด้วย
เช้า ๆ เราจะขี่จักรยานจากบ้าน ริมคูเมือง หมอกลงหนา
เห็นข้างหน้าไม่เกิน 20 เมตร ความหนาวเย็นไม่ต้องพูดถึง
หนาวมาก ใส่เสื้อกันหนาวหนาบึก สีแดงสด สวมถุงมือ
สีดำทำให้อุ่นขึ้นเยอะ แต่ให้ตายเถอะ ขณะนั้นไปเรียน
เลยต้องใส่ กางเกงขาสั้น มันหนาวเย็นแค่ไหน ขี่ไปไม่
นานก็ถึงโรงเรียน พอจอดรถคู่ชีพ ก้มมองดูหน้าแข้ง มันขาว
โพลนไปด้วย หมอกที่จับตัวติดกับ ขนหน้าแข้ง ต้องเอามือ
ลูบทิ้ง หันไปมองเพื่อนที่เพิ่งเข้ามาจอด ก็มีสภาพไม่ต่าง
กันเท่าใด เอามือซุกกระเป๋ากางเกง เดินตัวงอ ขนคิ้วขาว
ก็เจ้าหมอกนั่นแหละจับ
สถานที่เรียนเหรอ สวยครับ
นี่เป็นภาพ ที่เรียนกันในสถานที่แห่งนี้แหละ
พอถึงเวลา ก็ต้องไปยืนเคารพธงชาติกันทุกคน ส่วนผม
มีหน้าที่เชิญธงชาติขึ้นเสา มองลงไปเห็น
เพื่อนนักเรียนแต่ละห้อง ยืนแถวเรียงสาม เป็นตับ ส่วนด้าน
หลัง มีนักเรียน ม.ปลายเป็นหญิงกับชาย ก็เรียนสูงกว่าพวก
เรา ยืนแถวเหมือนกัน ใส่เสื้อหนาวสีเขียว แดง ชมพู
ก็หลากสี ด้านหลังสุดมีอยู่คน สวยสดุดตา ก็เธอสูงกว่าเพื่อน
ใส่เสื้อกันหนาวสีขาว มีฮูดสวมหัวด้วย เธอชื่อ แป้ง แหะ ๆ
ผมแอบเหล่ มานานแล้ว
เธอเป็นพี่สาวเพื่อนผมเองแหละ
เจ้าจรูญตั๋น เคยเอารูปมาให้ดู นัยตาสวย โศกซึ้ง ขนตา
งอน ก็เป็นรูปในอัลบั้มเรียกว่าอะไรน้า แหะ ๆ เรียกไม่ถูกก็
เป็นเล่มที่พวกเพื่อนที่เรียน จะต้องจากกันตอนเรียนจบมัธยม
เขียน "แป้งแกอย่าลืมบอก ลูก แกนะว่า ฉันชื่อ บ่งเบ๊งเป็น
เพื่อนกัน" (เปล่าล้อนะ 555)
แป้งเรียนเก่งด้วยมั้ง เลยสอบเข้าเรียน ม.5 ที่เรา
เรียนนั่นแหละ พอเพื่อนเอาดูรูปเปิดดูปุ๊บ โห เห็นภาพสาว
สวยสุดซึ้ง มองไม่คลาดสายตา ตลึงติดใจจริง ๆ พอเพื่อน
วางไว้บนโต๊ะ ก็แอบเปิดดูอีก
พอเลิกเรียนก็ขอยืมไปดูที่บ้าน อ้างว่า จะเอาไปให้พี่สาวดู
ว่า เขาทำกันอย่างไร ว่าเข้านั่น
พอไปบ้าน จัดการอาบน้ำตอนบ่าย 4 โมงเย็น คืองี้เมืองที่
ว่ามันหนาว ตอนเช้าจะตักน้ำใส่ปิ๊บตากแดดไว้ ของใครของ
มันให้น้ำมันอุ่น ไม่กล้าอาบน้ำในบ่อน้ำนะ เย็นเจี๊ยบ
จัดการอาบน้ำแบบด่วน ไม่ลืมล้างจักกะแร้แน่นอน กลัวมัน
เหม็น สวมกางเกงยาวเสื้อกันหนาว คว้าอัลบั้มมาดู
เส อยู่ไหน มาช่วยพี่ทำกับข้าวก่อน
อ่านหนังสือเรียนครับ พรุ่งนี้ครูเขาจะทดสอบ ว่าเข้านั่น
เออ ขยันดูหนังสือดีแล้วพี่ทำกับข้าวให้กินเอง
พอสิ้นเสียงพี่ ก็เปิดดูใบหน้าสวยซึ้ง ต่อ นั่งอยู่บนโต๊ะ
หน้าต่างเปิดโล่งมองเห็น แปลงผักกาด กับ
แปลงเผือกหอม เป็นแถวยาว สวย แสงอาทิตย์กำลังลด
แสงลง อากาศเย็น มองภาพถ่ายแล้ว ก็มองอีก แหะ ๆ
เอาความลับของหนุ่มมาเปิดเผย... ยอมรับว่า หลงรูปถ่าย
ระหว่างที่เรียน ก็มีโอกาศเดินไปเจอเธอบ้าง พอเห็นผมเดิน
อยู่กับเจ้าจรูญตั๋นปั๊บ แป้งเขาหันหน้ามามองนิ่ง แล้วโบกมือ
ให้ ก็โบกมือให้น้องชายนะแหละ แล้วยิ้ม โห... สวยครับ
ใบหน้าแบบคนภาคเหนือ จมูกมีสัน คิ้วเข้ม ริมฝีปากสีชมภู
แก้มแดงเรื่อ ๆ คงเพราะอากาศหนาว.
บอกตรง ๆ หลังจากวันที่เห็นตัวจริงของแป้งแล้ว ผมมักจะ
เดินเรียบเคียง เมียงมองเข้าไปในห้องเรียน
ตอนหลังเจ้าจรูญบอกว่า พี่สาวถามว่า ผมที่ตัวสูง ๆ
ชอบเล่นฟุตบอลกับ ซ้อมวิ่งในสนาม ชื่ออะไร
ทีนี้แหละ ทำเอาผมยิ่งฝันกลางวันในห้องเรียนบ่อย จนถูกครู
อเนก ขว้างด้วยชอค ให้สนใจเรียนมั่ง
เพื่อน ๆ ที่แวะเข้ามาอ่าน คงคิดว่าผมนี้ริรัก เพื่อนสูงอายุ
กว่าใช่ปะ ไม่หรอก อายุเท่ากันกับผมนะแหละ เพียงแต่
ผมเข้าเรียนช้า ก็เธอสวยนี่นา
วันนั้นโรงเรียนมีการแข่ง บาสเก็ตบอล ระหว่างชั้น ผมก็ไป
เชียร์ด้วยแหละ แถมขอเขาเป็นพี่เลี้ยง คอยเสริพน้ำให้ก็
นักบาสเก็ตบอล แป้งลงแข่งด้วยนี่นา
แป้งรูปร่างประเปรียว สูง 170 ขึ้นเวลาแครรี่โยกซ้ายโยก
ขวาหลบหลีกได้ดี ปรีน่องสวยครับ แหะ ๆ
เธอถนัด ส่งให้เพื่อนเล่นอยู่วงนอก คู่ต่อสู้ไม่ค่อยสนใจเท่าใด
เผลออยู่ นอกหัวกระโหลกเมื่อใด เธอชู๊ตระยะไกลแม่นที่สุด
ทำคะแนนทิ้งห่าง
พอกรรมการเป่าพัก ครูเรียกนักบาสเข้ามารวมกลุ่ม
ชี้ให้แต่ละคน แก้เกม
ส่วนผมเหรอ รีบส่งน้ำกับผ้าเย็น ให้นักบาส ซึ่งแต่ละคน
มีใบหน้าแดงก่ำ เหงื่อหยดลงติ๋ง ๆ หายใจฝึดฟาด เสื้อ
เปียก ดูมีชีวิตชีวา เห็นแป้งอยู่ติดกับครู รีบส่งผ้าเย็นให้
นักบาสอีกคน คงเห็นว่า ผมอยู่ไกลส่งไม่ถึง รับผ้าแล้วส่ง
ให้แป้ง ๆ ก็ยิ้มให้ โห... สวย ทำเอาตัวลอย
เอาวะ ยังส่งไม่ถึงมือ ก็เดินไปอีกด้าน ส่งขวดน้ำให้แป้ง
ครูหันมาเห็น รีบคว้าขวดน้ำไปดื่มมั่ง ส่งไม่ถึงอีกตามเคย
แป้งคงเห็นผมชะเง้อมอง เลยเดินออกมาหาแล้ว
ยื่นมือ ขอผ้าเย็น แล้วยิ้มให้ พอนิ้วก้อยสัมผัสกันนิดเดียว
ผมว่ารอบกายเป็นสีชมภู สวยงาม.
แต่ไม่ทันทำอะไร เสียงกรรมการเป่านกหวีดเริ่มเล่นต่อ
เกมส์บาสเก็ตบอล ยังคงดำเนินต่อไปอย่างสนุกสนาน เสียง
เฮ ดังลั่นเวลาแป้งชู๊ตลง ทั้งสองทีมเก่ง ผลัดกันทำแต้ม
กรรมการดูเวลาแล้วให้เล่นต่อ พอดีอีกฝ่ายฟาวล์แป้งเลย
ยืนปั้มบอลขึ้นลง จนมั่นใจ แล้วก็ชู๊ต ดังช๊วบ พอลูกที่สอง
ปั้มบอลอีก แล้วชู๊ต แต่ไม่เข้า ไม่เป็นไร. ยังไงแป้งก็ยังสวย
สง่าอยู่นะแหละ
ไม่กี่อึดใจกรรมการเป่านกหวีด หมดเวลา ผมรีบเดินไป
ส่งน้ำให้ถึงมือแป้ง เลยแหละ เธอมองหน้านิด รับขวดน้ำ
แล้วเอามือแตะข้อศอกผมนิด แค่นั้นแหละ โลกจะถล่มทลาย
บุ้ยหน้าให้ไปที่แสตนด์นั่ง เลยมีโอกาศได้คุยกัน ผมในฐานะ
พี่เลี้ยงให้น้ำ ก็ส่งผ้าเย็นให้อีก นั่งคุยซักพัก ได้กลิ่นแปลก
ออกมาฉุยเลย คงจะเป็นกลิ่นเต่าของนักบาสคนข้าง
พอคนนั้นเดินออกไป เหลือผมอยู่แค่สองคน
สงสัยกลิ่นเต่าจากจักกะแร้ผมเอง ยกแขนขึ้นดม มีนิด ๆ
เพื่อนหญิงอีกคนฉุดมือแป้งให้ออกไปรวมกลุ่มถ่ายรูป
กัน ทีนี้แหละโลกทั้งโลก เหมือนจะหลุดลอยปลิวไปจาก
ตัว โธ่แป้งจากไปซะแล้ว ถึงอย่างไรก็กลิ่นตัวแป้งก็ยัง
หอมอยู่แหละ ก็กลิ่นเนื้อสาวไง...จริง ๆ
นั่งคิดถึงเรื่องนี้ทีไร อดจะยิ้มไม่ได้ ไม่ใช่เรื่องของแป้งนะ
คืองี้ พวกผมเป็น นักฟุตบอล และเป็นนักวิ่งระยะกลาง
10.5 กม. เวลาไปซ้อมแล้ว เหงื่อไคลไหลย้อย กลิ่นเต่า
ก็ต้องมีเป็นธรรมดา จนครูปรียาที่สอนวิชาศิลธรรม บ่นอุบ
แถมสอน ห้ามนินทาคนอื่นนะแหละ 555
ครูเข้าสอนผมมักจะนั่งค่อนไปข้างหลัง ในฐานะค่อนข้าง
สอบได้คะแนนใช้ได้ ก็ได้ที่ 1 - 3 เป็นประจำ จากท้ายนะ
มีหน้าที่ ลบกระดานดำที่เขียว จริง ๆ ไม่เห็นจะดำซักหน่อย
เนาะ ทาสีเขียวแท้ ๆ วันนั้นมัวคุยกับเพื่อนเพลิน ครูปรียา
เข้ามาเห็นกระดานยังไม่ได้ลบ เลยเรียกมาให้ลบให้สอาด
ยกแขนขึ้นลงลบไปได้หน่อยเดียว นี่ นายเสรี กลับไปหลัง
ห้องเลย ครูลบเองได้ ว่าเข้านั่น สงสัยครูจะมีเมตตามั้ง
พอเริ่มสอน ครูปรียา เรียกเสรี กะ จรูญยืนขึ้น
นี่เธอทั้งสอง ช่วยไปร้านขายยา ขอซื้อสารส้ม แล้วเธอ
ทั้งสองจัดการ เอาสารส้มจุ่มน้ำแล้ว ทาจักกะแร้ก่อนมาเรียน
นะ เต่าเธอจะได้ไป
เสียงฮา กันเกรียว จริง ๆ แล้วพวกเราเต่ากระจาย
กันทั่วทุกคนแหละ ฤดูหนาวรูขุมขนมันเปิด วิ่งหน่อยเดียว
ก็ออกมาโชยแล้วฮอโมนหนุ่มมันเยอะ พอ ๆ กับสิวโผล่
รุ่งขึ้น พอถึงวิชาครูปรียา
เอ้า จรูญ เธอเอาสารส้มทาหรือยัง
ทาแล้วครับครู มันเจ็บจักกะแร้ที่สุด จรูญลุกขึ้นตอบพลาง
ใช้มือจับใกล้หัวไหล่กันมันเจ็บ ครางอุ้ย...
เอ้า ทำไมถึงเจ็บละ
ก็สารส้ม มันเป็นตะปุ่มตะป่ำคม พอจุ่มน้ำถูไปมา เจ็บจน
เป็นรอยครูดแดงหมดครับครู
โธ่ เวรกรรม นายจรูญทำไมไม่ฝนกับ พื้นซิเมนต์ก่อนจะได้
ลื่น แล้วนายเสรีละ ใช้ฝนกับพื้นแล้วถูแล้วเจ็บบ้างหรือ
เปล่าละนั่น
ผมรีบลุกขึ้นอย่างไว เปล่า เจ็บ ครับครูแล้วรีบนั่งลง แหะ
ๆ ไม่กล้าขยับแขนเลยแหละ กลัวคนอื่นรู้
คิดแล้วสมน้ำหน้าเจ้าจรูญตั๋น ที่มันบอกว่าเจ็บ แถมอายเพื่อน
ส่วนผมเหรอ อุ้ย...เจ็บจริง ๆ ให้ดิ้นตาย
อ้อ บอกก่อนนะตอน เสรี เรียนนะ โรลออนยังไม่มี ส่วนผม
กับ แป้ง ก็ ไม่มีอะไร เธอยอมรับเป็นแฟนด้วยหละ
โรงเรียนที่ว่า มี คนชื่อปู เรียนด้วยนะแหละ 555
ever 1220
ก๊กกิ๊กน่ารักเนอะ
สมุดแบบนั้นเค้าเรียก เฟรนชิพค่ะ
พี่จบมงฟอร์ตเหรอคะ ใช่รึป่าว
เอาอีกๆ
เล่าแบบนี้อีกนะ ชอบๆ