No. 251 ฟ้าสว่าง @ บางจาก
บล๊อกอันดับ 251 ประจำวัน ศุกร์ / จันทร์วันก่อนเข้าดูเฟซบุค ก็เข้าดูทุกวันแหละ เห็นเพื่อนที่เรียนเป็นครูสมาธิด้วยกัน ไปอยู่ที่อังกฤษ ยังปฏิบัติ ตัวเองด้วยการ เดินจงกรมนั่งสมาธิเป็นประจำทุกวัน วันที่พวกเรา ไปบวชและสวดงาน ลักขี 10 - 13 มค 57 เพื่อน หญิงคนนี้ อยู่ที่โน่นก็สวดด้วย แล้วก็กันลืมเลยทำ เครื่องหมายไว้ ซึ่งผิดกับผมมากมายที่ ปฏิบัติแบบนั้นอาทิตย์ละไม่กี่วัน อย่างผมต้องไปปั่นจักรยาน แล้วแวะเข้าเกาะกลางน้ำไกลจาก ผู้คนมันสงบดี จึงจะเข้าสมาธิได้ แต่แบบผมไม่ดีนะครับ คือนั่งสมาธิแล้วต้องการเข้าสมาธิ พระอาจารย์หลวงพ่อวิริยังค์ และ อาจารย์ที่สอนสมาธิให้ผม ท่านบอกพวกเราว่า นั่งสมาธิไม่จำเป็นต้องเข้าสมาธิก็ได้ ขอเพียงทำจิตให้สงบ ไม่คิดอะไรคือการเข้าสมาธิแล้ว ถ้าทำ บ่อย จะเป็นการดีสำหรับตัวเอง จิตจะเข้มแข็ง หลวงพ่อเล่าให้ฟังว่า เมื่อตอนท่านอายุได้ 14 ปี ถูกเพื่อน รุ่นพี่หญิง ช่วยไปวัดเพื่อ สวดมนต์ ท่านก็ขัดไม่ได้ ก็ไปงั้นแหละ คงเห็นใจว่าเพื่อนเป็นหญิง จะเดินกลับบ้านตอนกลางคืนไม่ได้ ภิกษุที่ต่อหรือนำสวดมนต์ให้แก่เพื่อน คือ พระอาจารย์กงมา ท่านนำสวด และสอนสมาธิ อย่างที่รู้ ๆ กันว่า การสวดมนต์ใช้เวลานานมาก แม้แต่ผมเอง เมื่อก่อนก็บ่นในใจ แหะ ๆ สวดไปทำไมไม่รู้ นานเกิน เหน็บกินขา ฟังก็ไม่ออก.... หลวงพ่อก็คงคิดตอนนั้นเช่นเดียวกับผม 555 อันนี้ผมคาดคะเนเองนะ หลวงพ่อไม่ได้บอกผมหรอก หลวงพ่อตอนนั้นยังไม่ได้บวชนะ เป็นเด็กหนุ่มคงนั่ง ๆ นอน ๆ อยู่ที่ศาลา จนเบื่อ มองไปข้างนอกก็มืดสนิท เพื่อนยังต่อมนต์ ไม่เสร็จ จะหนีกลับก่อนก็ไม่ได้ นึกเข็ด เลยบ่น ทั้งในใจ กับบ่น ๆ พึมพำ นั่งหลับตากูไม่มาอีกแล้ว ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ และแล้วจิตก็นิ่ง ปิ๊ง......เข้าสมาธิ ไปเลย ผมจะยังไม่บอกว่า การเข้าสมาธิเป็นยังไง แหะ ๆ อธิบายไม่ถูก รู้ทั้งรู้แต่ไม่บอกหรอก พระอาจารย์กงมา ท่านทราบในเวลาต่อมา และเด็กหนุ่มคนนี้ มีอะไรพิเศษ เข้าสมาธิโดยที่ยังไม่เคยสอน เพื่อน ๆ เห็นผมเล่าข้างบนว่า เพียงคำบ่น ก็เข้าสมาธิได้ งั้น ถ้าท่องในใจหรือว่า ทนต์ ๆ ๆ ๆ ๆ หรือ โลมา ๆ ๆ ๆ ก็ทำสมาธิได้ซิ ใช่เลยครับ บางคนเขาใช้คำว่า พุธโธ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ตลอดเวลา แต่มีเคล็ดไม่ลับอยู่อย่าง ทำใจว่า ใจจรดจ่ออยู่ที่ หน้าผาก ไม่ต้องย้ายที่นะ ต่อมาท่านได้บวชเณร เป็นลูกศิษย์พระอาจารย์กงมา อยู่ 8 ปี โดยติดสร้อยห้อยตาม เอ้ยเดินธุดงค์ไปในป่า จนกระทั่งสุดท้ายพากันเดินธุดงค์จาก จันทบุรีไปสกลนคร ไปฝากตัวเป็นลูกศิษย์ หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต หลวงพ่อวิริยังค์ ได้อยู่รับใช้หรือภาษาพระว่า ผู้อุปัฏฐาก ได้เดินธุดงค์และศึกษา ด้านสมาธิควบคู่ไปด้วย หลวงพ่อวิริยังค์ยังเป็นพระหนุ่ม มีความเจริญก้าวหน้าความรู้ เพิ่มขึ้น และคงเห็นการเปลี่ยนแปลงด้วยตนเอง มีอยู่วันหนึ่ง ท่านได้เข้าไป ฐาน คือเข้าส้วม คงนั่งนานไป หน่อย ใจของท่านก็คิด เลยเถิดไปโน่นดีนะที่เราได้มาเรียนกับหลวงปู่มั่นได้รู้อะไรเยอะ อยู่กับ พระอาจารย์กงมายังไม่ค่อยรู้อะไร นั่งไม่นาน ได้ยินเสียงหลวงปู่มั่น เองคิดแบบนั้นได้ไง หลวงพ่อก็พระหนุ่ม สะดุ้งสุดตัว หลวงปู่มั่นอยู่บนศาลาห่างจาก ฐาน(ส้วม) ตั้งไกล หลวงปู่มั่น รู้ความคิดของท่าน อุตส่าห์ เดินมาตำหนิ....... ตั้งแต่นั้นมา ท่านเลยสนใจ ตั้งใจปฏิบัติตามที่หลวงปู่มั่น สอนอย่างจริงจัง นั่นเป็นส่วนหนึ่งของ การทำสมาธิ ถ้าคนใดทำสมาธิบ่อย สม่ำเสมอ จิตจะนิ่ง บางคนถึงกับ นึกรู้ความคิดคนอื่นได้ การทำสมาธิทำให้เกิดอะไรหลายอย่าง ไว้วันหลังผมจะเล่าให้ฟัง หลวงพ่อวิริยังค์ ได้รับคำสั่งจากหลวงปู่มั่น ให้ไปสั่งสอน คนทั่วไป แรก ๆ ให้เข้ากรุงเทพ เป็นหลัก หลวงพ่อเลยมาปักหลัก ดงป่าจาก แถวบางจาก ก็วัดธรรมมงคล ในปัจจุบันนี่แหละ ตอนนั้นยุงชุม อยู่สอนคน ด้านสมาธิ และสร้างวัดธรรมมงคลจนใหญ่โต มี ลูกศิษย์เยอะมาก และก็มีหลายปีที่มี การบวชลักขี เพื่อปฏิบัติธรรม และที่เป็นหลัก ตั้งเป้าไว้จะมีคน เข้าบวช นุ่งห่มสีขาว 10,000 คน ผมไปที่วัดเมื่อตอนต้นเดือน ธันวาคม เห็นคนเขียนจองพื้นที่ นั่ง โดยแปะกระดาษไว้ เต็มไปหมด เช่น รุ่น 29 จอง 10 ที่ คือ เขารู้ว่าคนไปเยอะ ขนาดผมขึ้นไป ดูที่เก็บอัฐิ เป็น ห้องใหญ่ ไม่สว่าง แต่ป้ายจองไว้เต็มเหมือนกัน ข้างล่างนี้ ก็เพื่อนครูสมาธิ ไปร่วมพิธีครั้งนี้ด้วย แต่ละคน ทำอาชีพต่างกันเลย... ยกเว้น เพื่อนหญิงที่ยืนคู่กับ ผม ทำอาชีพเดียวกันครับ ส่วนผมกับเพื่อน ๆ ครูสมาธิรุ่น 29 ก็เตรียมทำโรงทาน คือ ทำอาหารเลี้ยงแก่ ผู้มาบวชลักขี 6 มื้อ เพื่อนบางคนเข้าบวชด้วย ใช้เงินเยอะครับ มีเพื่อนคือ ม.ล.กุลรัตน์ คุณอภิสิทธิ์ และ สวนสิทธิธรรม มอบเงินผ่านผม 25,000 บาทเป็นก้อนแรก พวกเรา เบี้ยน้อยหอยน้อย ก็ร่วมทำบุญด้วย ผมเดินนับเต็นท์โรงทาน ได้ 15 เต็นท์เป็นเต็นท์ใหญ่ครับ เต็นท์ละ 20 ร้าน แถมข้างทางยาวเหยียด ก็มีร้านบริการฟรี ด้วย ผมว่า กว่า 300 ร้านแน่ คนถือบวชเยอะ สังเกตจะเห็น กระเป๋าเสื้อผ้ามา นอนวัดกันทุกคน บางคน ก็นำเต็นท์กันยุงมาด้วย แหะ ๆ เขาไม่ตบยุงกันนะครับ ............ ข้างล่างนี้ เป็นเพื่อน ที่อยู่ในชมรม ดนตรีร่มไม้ในสวน ที่ผม ดำเนินการอยู่ มาพบกันที่นี่โดยไม่ได้นัดหมาย แต่ ชุดนี้เป็นเพื่อนที่เรียนเป็นครูสมาธิ ด้วยกัน ผมเดินไป ดู เห็นเขาเข้าคิว กันยาวชโงกดู โห ของกินเยอะ มาก ผมเข้าคิวร้านแรก ก็ร้านของกลุ่ม 29 เพื่อน ๆ ตักเกี้ยวหมู ให้ชาม อร่อย ยังไม่พอ เดินกินน้ำ 3 ข้าวมันไก่ ข้าวหอม สุดยอด ยังไม่พอ เดินเหร่ คิวยาว เขากำลังย่างสเต็กหมู ควันลอยคลุ้ง หอม... แหะ ๆ เข้าคิวเอามั่ง อร่อยจริง ๆ ไม่พอ เห็นกล้วยไข่ กล้วยน้ำว้า วางเรียงเป็นตับ ไอติม....แต่นะครับ.... คนบวชลักขี ถือศิลแปดครับ เที่ยงเป๋ง ไม่กินอะไรแล้ว คือกินมื้อเช้า กับกลางวัน ส่วนตอนเย็น ดื่มน้ำปานะเท่านั้น นม เนย ของเคี้ยวไม่เลย เพื่อนคนที่ปฏิบัติธรรมทั้งที่อยู่อังกฤษผมนับถือเพื่อนคนนี้จริง ๆก็คือ คุณยี่หวา ยังหาภาพไม่เจอครับ การบวช สวดลักขีคราวนี้ คนเยอะตั้งเป้าไว้หมื่นคน เกรงว่าจะ ขลุกขลัก เลยใช้ลงทะเบียนด้วย การสแกนนิ้วมือแทน ไว้เป็นฐาน ข้อมูล ในปีหน้าเพื่อน ๆ สนใจจะไปร่วม ลองติดตามข่าวนะครับ แต่ถ้า สนใจเรียนสมาธิ ใช้เวลาเพียง 6 เดือนเรียนทุกวันตอนเย็น เว้น เสาร์อาทิตย์ก็ได้นะครับ ไม่ยาก แต่ก็ไม่ง่าย รุ่นผมเข้าเรียน 400 คนสำเร็จ 200 กว่าคนครับ 555 อย่างที่บอก ว่าเรียนไม่ยาก แต่จะยากอยู่ที่ความตั้งใจ ตอนผมเรียนก็เรียนแค่ วันละ 2 ชม.ครึ่ง ทั้งเรียนทฤษฏี กับปฏิบัติครับ st.100602 / 132294
Create Date : 17 มกราคม 2557
Last Update : 6 มกราคม 2562 7:53:56 น.
19 comments
Counter : 3637 Pageviews.
เพิ่งได้ความรู้ใหม่จากพี่ไวน์อีกแล้ว
มดค่ะ