หวานกรอบ ครับ หวานกรอบ พี่รับหวานกรอบไหมครับ
ไม่เอา คนจะนอน
หวานกรอบครับ หนมปัง ซาลาเปาก็มี หวานกรอบครับ
ตู้รถชั้นสามบางตู้ว่าง คนก็นอนลงบนเบาะน้ำลายไหลยืด
อากาศก็ร้อน ฝุ่นฟุ้งใส่เนื้อตัว เหนียวเหนอะ
พอได้ยินว่า "หวานกรอบ" คงนึกถึง พุทราหวานกรอบ ลุก
ขึ้นมาควักตังค์จะจ่าย เจอโอเลี้ยงสีดำอัดน้ำแข็งเพียบ เฮ้ย
น้องจะเอาพุทรา ไม่ใช่โอเลี้ยง
พี่นี่แหละหวานกรอบไง 555 น้ำโอเลี้ยงหวาน พอเคี้ยว
น้ำแข็งก็ กรอบ เอาไหมพี่...
เออ.. เอาก็เอาวะ ทุเรศฉิบ
ชีวิตของกระผมเอง วนเวียนอยู่บนรถตู้สะเบียง รถไฟมา
หลายปี พอเลี้ยงชีพได้ โธ่ มีข้าวกินทุกมื้อ สาว ๆ ก็เยอะ
แหะ ๆ ใครบ้างไม่ชอบ
ที่นี่สถานีหนองตม ๆ ท่านผู้โดยสารจะลงโปรดตรวจดูของ
ถ้าท่านลืมแล้วจะหายหมดในพริบตา ติ้งต่อง
รถจอดสถานีไหน ไม่ต้องขายของบนรถหรอกครับ มัน
ขายไม่ได้ มีแต่ข้าวผัดแข็งเป๊ก โอเลี้ยงน้ำแข็งเยอะ ชงสี
ดำเข็ม หวานเจี๊ยบแหะ ๆ ไม่หวานได้ไงใส่สารขันทศกรด้วย
ตกดึกกลางคืน ก็ยัง งง เหมือนกันว่า ทำไมใช้คำว่า "ตก"
ปิดประตูห้องครัว ถอดกางเกงเสื้อ
ตักน้ำในถังราดตัว ถูขี้ใคไปมา ราดอีกสามสี่ขัน ก็
เย็นสบายหายเหนียวตัว เอาผ้าขนหนูโชคดี เคยเห็นเปล่า เช็ด
หน้าก่อน แล้วค่อยลงล่างตามลำดับ บิดปึ๊ด นุ่งกุงเกงใส่
เสื้อตัวเก่านะแหละ ก่อนเปิดประตู มองเห็นหยดน้ำติด
ถังโอเลี้ยงที่วางข้างล่าง กับ หม้อข้าว แถมกระเด็นติดใข่..
ดาว เอาผ้าขนหนูผืน เช็ดปัด ๆ ให้แห้งหน่อยใช้ได้แล้ว 55
ล้วงไปใต้โต๊ะนั่งที่แขกนั่งกิน เอาไม้สักกว้างฟุต ยาวสอง
เมตร พาดบนพนักพิงสองตัว 2 แผ่น เอาผ้าขาวม้าปู หยิบ
หมอนอิฐบล๊อกหมอนดำ ๆ หน่อย วางไปทางด้านหัวรถไฟ
ปีนขึ้นไปนอนสบายสุขโข
ลูกพี่ใหญ่ ไปอยู่โน่นตู้การ์ด ไปเขย่ากระดูกดิ้นได้กับใคร
ไม่บอกหรอก รู้ ๆ กันอยู่
พี่มุ้ย กุ๊กครัวรถสะเบียง คนนี้ใจดี ไว้หนวดเฟิ้ม เอาผ้าขน
หนูพาดบ่า นั่งกินเบียร์ อ่านหนังสือ ล่องป่า เป็นประจำ ไม่รู้
ชอบอะไรนักหนา เดี๋ยวคงขึ้นนอนแบบผมนะแหละ ชีวิต
พวกเรา
ตีสี่กว่า ม้นรู้สึกตัวโดยอัตโนมัติก็ปวดฉี่ เดินไปอีกโบกี้จัด
การธุระส่วนตัว เอามือซ้ายกดน้ำแช่ มือขวารองน้ำล้างขี้
ตา อมน้ำบ้านปากขลุกขลัก นิ้วมือถู ๆ บ้วนทิ้ง ใช้ได้แล้ว
จัดการเก็บไม้สักทอง สองแผ่นกลับไปเก็บไว้ใต้
ม้านั่งในตู้สะเบียง
ติดเตาไฟ เอาข้าวสารเทใส่หม้อ ตักน้ำที่เคยจ้วงอาบ
อย่าแหวะเลย แหะ ๆ ที่ภัตราคารชาวต่างชาติหลายที่ก็ทำ
ใส่น้ำให้ท่วมข้าว สูงกว่าหลังมือนิด ตั้งเตาปิดฝารอให้
ข้าวมันสุก คงสงสัยว่าทำไมถึงไม่ซาวข้าวใช่เปล่า ไม่
ต้องหรอกครับของอร่อยอยู่ตรงฝุ่นข้าว 555 อีกอย่างพี่มุ้ย
กุ๊กไม่เห็นหรอก ถ้าเห็นเหรอตบกระโหลก
หลังจากนั้นเหรอ ล้างจาน แก้วน้ำที่ค้างทิ้งเมื่อคืน
ด้วยน้ำแฟ๊บ จนเกือบสอาดแล้ว จ้วงน้ำราดพรวดลงไป ยก
จานไปวางบนตะแกรงจนหมด ส่วนแก้วไม่ยากจับ
ตรงตูดแก้วที่หนาขึ้น ไปคว่ำตรงแล๊ค กะบะพูดเสียโก้ก็ที่
วางแก้ว คว่ำแก้วลง รถไฟเลื่อนไปมามันก็ไม่ไหลกระทบกัน
เช็ดโต๊ะ ปลุกขี้เมานั่งหลับให้กลับไปนั่งที่ ก่อนปลุก
ดูก่อนว่าเขาทำตังค์ตกไว้เป่า ถ้าตกก็อิ๊บไว้ซะ เพราะ
ไม่รู้ใครทำตก คิดว่าเป็นค่าติ๊บค่าปลุกก็แล้วกัน
พี่มุ้ย เข้าห้องทำกับข้าว หั่นหมูลงผัด ใส่เครื่องปรุง
เคาะกะทะดัง ไฟลุกฟู่ ทำไว้เป็นหม้อเลยแหละ ไข่เจียว
ทำทีเยอะมาก ของที่เหลือจากเมื่อคืน เอาวางไว้บนไข่ดาว
ที่ใหม่แล้วเอา ใบร้อน ๆ วางทับอีกที ใข่ดาวก็ร้อนเหมือน
ใหม่แล้ว เวลาลูกค้าสั่งประเดิมก็ได้ใข่ร้อน ๆ แต่เก่าหน่อย
ส่วนผมก็มีหน้าที่ต้มกาแฟเป็นหม้อใหญ่ เดือดคลั๊ก ๆ สีดำ
กรองด้วยกระชอนอลูมีเนียมเอาผ้าเกือบ ขาววางรอง เทใส่
หม้อกาแฟใหญ่ เทน้ำตาลทรายแดง ลงไปคน ๆ ๆ จนได้ที่
เอานมข้น พวกตรา ปีกนกนะแหละ เทใส่หลายกระป๋อง
คนจนได้ที่ เทใส่ถ้วยแก้วตูดหนา วางเรียงบนถาดแล้วก็
ออกเดินไปตามโบกี้รถ แฟร้อน ๆ ครับ แฟร้อน ๆ ครับ
อ้อลืมไป เฮียหมานเจ้าของสัมปทาน ตู้สะเบียง เขานับดู
ว่าเอาไปกี่แก้ว ขากลับจะได้คิดตังค์ผมถูก
ไม่งั้นเหรอ ก็มีบ้างแหละ เลี้ยงช้างไม่กินขี้ช้าง(ขออภัย
ที่ใช้คำไม่สุภาพแหะ ๆ) แล้วผมจะเอาเงินไหนไปเที่ยว
กับสาว ๆ เนาะ
แต่ละเที่ยวขาย ข้าวผัด ข้าวราดหน้า โอเลี้ยง น้ำสีดำเยอะ
เดินส่งข้าวแต่ละขา ต้องใส่จานบนแขนมากจานหน่อย ขี้
เกียจเดิน จานหนักมากเพราะเวลาวางให้ลูกค้า ถ้าจานเบา
รถไฟเบรค จานก็เลื่อนปรู๊ด ไม่ได้ครับต้องหนักไว้ก่อน
ก่อนสว่าง รถจากเมืองเหนือ จะเข้าจอดเมืองพิด ผมเตรียม
การไว้ก่อนละ ไม่ขายของ
เอาไม้สักทองหนา 1 นิ้วกว้างฟุต ยาวสองเมตรหลายแผ่น
ออกมา พอรถจอดใกล้ดงกล้วย โยนไม้ลง ข้าง ๆ รถ
พรรคพวก รอขนเข้าไปเก็บไว้ในดงกล้วย เที่ยว ๆ เยอะ
เหมือนกัน บางทีก็เป็นบานหน้าต่าง ประตูไม้สัก
เห็นลูกพี่เขาว่า ไม้มันสด ถูกแดดไม่ได้ ต้องขนลงก่อนถึง
สถานี แดดมันร้อน เอาไปหลบใต้กอ กล้วยก่อน ไอ้
ผมก็ซื่อ ไม่ค่อยรู้เรื่องหรอก คิดว่าไม้จะบิดงอ แหะ ๆ
พูดแบบนี้ มีคนเชื่อไหมเนี๊ยะ เชื่อหน่อยนะ...
กรุณาอ่านต่อตอนที่ 2 ที่คอมเม้นท์อันดับ 12
ตอนที่ 2 เป็นผู้เชี่ยวชาญงานไม้ โดยตรง
เอ ผมว่าจะเล่าชีวิตในป่าดงดิบ ไม่ใช่ดงสุก ไหง มาเล่า
ชีวิตบนรถไฟก็ไม่รู้ กลัวท่านผู้อ่านจะไม่รู้จัก กระผมชื่อ
เสรี นามสกุลขอสงวนไว้ ตามจรรยาบรรณ คนตู้สะเบียง
เกี่ยวข้องกับไม้ตลอดเวลา เวลาร้องอุแว้แรก หมอตำแย
ก็วางไว้บนแคร่ไม้ไผ่ อยู่บ้านไม้ บนรถไฟก็ที่นั่งเป็น
ไม้ มีงานพิเศษขนไม้สักทอง เกี่ยวกับ ทอง ๆ ทั้งนั้น
บนรถไฟ เราจะขายสุราได้มาก โซดานิดหน่อย ลูกค้านั่ง
รถพอห่างเมีย ก็ต้องดื่มแก้เซ็ง คงจะเหงาหู
ไม่ได้ยินเมียบ่น ขอประทานโทษไม่ได้ค่าโฆษณา
นะ ขายแต่แม่โขง นับว่าเป็นสุราชั้นดีทีเดียว
น้อง ๆ โขงกลม โซดา 2
ครับท่าน รับยำเนื้อแซบ ๆ สักจานดีไหมครับ
เออ ดีเอามาเลยไว ๆ นะเปรี้ยวปาก
บรรดาคอสุราทั้งหลายจะชอบ แหนมสด ยำ ถั่วลิสงคั่ว
ยำเนื้อ กุนเชียง นั่งจนรากงอก คองอกแงก ไปตามเรื่อง
มีอยู่วัน เกิดขายดีแม่โขงหมด
น้อง โขงแบน เร็ว ๆ นะ
ครับรอซักครู่ครับท่าน
รถจอดสถานีรอสับหลีก รีบวิ่งไปซื้อที่ร้านค้ามา
ได้แต่ เหล้ากวางทอง เห็นไหม ผมมันถูกโฉลก สักทอง
สาลิกาลิ้นทอง บานประตูไม้สักทอง ฟันท้อง เอ้ยทอง
เพื่อนทำนะครับ ไม่ใช่ เส...หรอกเค้าเด็กดีจะตายไป
เฮียหมาน มีแต่กวางทองได้มา 3 ขวดทำไงดี
เมิ ง เปิดขวดเทใส่ขวดแม่โขงแบน แล้วไปเซิร์ฟเลย
เฮ้ยน้อง แม่โขงแบนนี้ทำไมเปิดขวดมาละ ปลอมเปล่า
เปล่า ปลอมครับท่าน แหะ ๆ เล่นคำหน่อยไม่งั้น มุสา
มีแต่กลม ผมเลยเทใส่ขวดแบนมาให้ ท่านลองชิม
ดูซิครับ อย่างท่านนี่ ชิมนิด รู้เลยว่าโขง
หรือ ฮันเดรด.
อีตา จ.ส.อ.ผู้นี้ คองอกแงก เทใส่ฝาจิบนิด ยังไม่แน่ใจ
พอจิบที่สอง
เออ ใช่แม่โขงจริง ลิ้นพี่นะไม่ใช่คุย แน่นอนที่สุด
เอ็งไปเอาเนื้อน้ำตกมาอีกจาน
ครับท่าน
ผมรีบเดินไปที่ห้องครัว เลื่อนประตูปิดแล้วก็
เอามือกดท้อง ปิดปาก ให้เสียงหัวเราะ 555 ดังออกมา
นิดนับถือ เฮียหมาน ซะจริง ๆ คอยสอนทริค เอ้ยแนะนำ
ในสิ่งที่ดีสำหรับตัวเอง คนอื่นไม่รู้ก็ไม่บาป อย่าถามนะ
ครับว่าเฮียหมานชื่อจริงอะไร โดยจรรยาบรรณ
ผมบอกไม่ได้จริง ๆ 555
อย่างที่บอกไว้ว่า ชีวิตวนเวียนไปกับ สุรา ไม้ อาหารที่
เกือบอร่อย ความโกหก แต่ไม่สะตอเบอรี่ มีเงินใช้แต่ไม่
มากมันก็ดีไปอย่าง อยู่มาวันดีคืนไม่ดี เฮียหมานบอก
ว่า"ประมูลตู้สะเบียง" ต่อไม่ได้ เอ็งไปหางานใหม่ทำก็แล้ว
กันยัดเงินใส่มือให้ เป็นแบงค์ร้อยกับแบงค์ยี่สิบ คงจะ
สองพันกว่าบาทได้มั้ง
เดินงง ๆ ออกมาจากบ้านลูกพี่ ที่อยู่บนแพ ในแม่น้ำน่าน
หน้า โรงเรียนเฉลิมขวัญ เมืองพิด ตลิ่งสูงชันรู้สึกหมดแรง
มองไปข้างบน ต้นพยอมที่สูงใหญ่ มีลมพัด ใบไม้ค่อย ๆ
ล่วง ปลิวสู่ดิน เฮ้อขนาดไม้สูงใหญ่ ยามถูกลมพัดดูซึม
เศร้าพิกล
แล้วผมละ ตัวผอมสูงผิวคล้ำ
หรี่ตาพอดูได้ จบแค่ปวส.เรียนต่อเกือบจบ จะไปสมัครที่
ไหนดีนะที่เพิ่งไปชำระค่าหน่วยกิตมา ไม่งั้นจะหาตังค์ไหนไปลง
กำลังเดินคอตก ผ่านไปทางวัดใหญ่ เจอพี่มุ้ย กุ๊กใหญ่
นั่งเล่นบน เบาะเวสป้า
เฮ้ย เส....มานี่หน่อย เราตกงานด้วยกัน จะกลับบ้าน
เพชรบูรณ์หรือไปไหน
ยังไม่รู้เลยพี่มุ้ย งง ๆ อยู่
เอางี้ ไปอยู่กับพี่ที่บางระกำก่อน
ไม่เอามั้งพี่ เดี๋ยวมันจะ ระกำ ยิ่งกว่าบางซะอีก
จะไปหรือไม่ไป
ไปครับพี่มุ้ย แหม บ่นหน่อย
พี่มุ้ยสูงหกฟุต ผิวดำแดง ไว้หนวดหนา เคราเขียว ข้อล่ำ
บึกพาผมเดินอย่างสง่า เข้าบ้าน ที่ อ.บางระกำ พอเจอแม่
แม่ หนู ตกงานอีกแล้ว
ดูพี่มุ้ย พูดจากับแม่ แทนตัวว่า "หนู"น่ารักซะไม่มี 555
เอ้านั่นตาเส ตกงานเหมือนกันเหรอ เออ มาอยู่บ้านแม่
ก่อน แล้วค่อยคิดกัน
แต่ก็แปลก พี่มุ้ยกับผมตกงานไม่นาน ไม่รู้ใคร
ไปบอกว่า สองคนนี้ถนัดงานไม้กับ เรื่องสีเทา ๆ ดี เลยถูก
เรียกตัวไปทำงาน แถวบ้านกร่าง ดงกระแช่ ที่รสชาดสุด
แสนจะดี ยามเคี้ยวเนื้อควายทอดเหนียว อร่อย จิบกระ
แช่นุ่มนวล ยังกะดื่มไวน์แดง กับอาหารเนื้อนะจะบอกให้
งานที่ว่าไม่ใช่อะไรหรอก งานแบกไม้แปรรูป ขึ้นรถ
ให้ลูกค้า ขนไม้ลงจากรถสิบล้อ เก็บเข้าโรงไม้ งานหนัก
ไม่หนักลองคิดดู บ่าที่รองด้วยผ้าขาวม้า กับใบหูขวา มี
เลือดซึมออกมา ซิบ ๆ นี่แหละเสี่ยเขาตาถึง
ทำไม่ถึงเดือนมั้ง พี่มุ้ยไปช่วย เสมียนสาว ไม่รู้ไปกินอะไร
มาถึงท้องโต เขียนบิล เจ้านายคือ เสี่ย
ซักประวัติเลยรู้ว่าพี่มุ้ยจบปริญญาตรี เลยให้ทำหน้าที่
แทนจนกว่าเสมียนที่ไม่สาวแล้วกลับมา ทำงานต่อ
ส่วนตัวกระผมเหรอ ยังทำหน้าที่แบกไม้ ไหล่ไม่แตก แต่
หนังหนาทุกที ทำไมหนอ เสี่ยถึงไม่ถามว่าผมเรียนอะไร
รูปร่างผม ผอม หุ่นดี้ดี ขากางหน่อยเดียว
แล้วก็ จบจากวัดลิงขบเชียวนา คิดหน้าไม้เกือบเป็น 555
วันดีคืนดี เสี่ยเรียกไปพบ
สองคนนี้แข็งแรง รับผิดชอบดี ไปทำงานในป่า นครไทย
เอาเปล่า
ไปครับเสี่ย ตอบพร้อมกันเดี๊ยะเลย
กรุณาตามตอนต่อ ครับ ผม......