No. 300 กระท่อมน้อย บนเนินดิน
บล๊อกอันดับ 300 ประจำวัน จันทร์ /ศุกร์เขียนบล๊อกมา ส่วนใหญ่ เล่าเรื่องธรรรมชาติสวยงาม สายลม แสงแดด กีฬาต่าง ๆ บางทีก็เข้าป่า บางเรื่องก็ มีเรื่อง หวาน... จนเพื่อนแซวว่า เอง หวานแหวว เป็นด้วยเหรอ มันก็ไม่แน่เนาะ ต้องมีบ้างแหละจำได้ว่าตอนเด็ก อยู่ อ.ปาย พ่อกับแม่ปลูกบ้าน หลังโตอยู่ชิดถนน มุมบ้านเป็นสี่แยก มีต้นลำใยใหญ่ปกคลุมร่มครึ้ม ริมถนน มีร่องน้ำเล็ก ๆ ไหลผ่านตลอดเวลา น้ำใส ปลาตัวเล็ก ๆ ว่ายไปมา บริเวนบ้านจะมีต้นตะใคร้ มะม่วงตลับนาก มะม่วงแก้ว ฝรั่งลูกสุกแดง ต้นดอกอูนสีขาว กลิ่นหอมยามขึ้นบันใดบ้าน ด้านหลัง เราใช้ชานโล่งกว้าง นั่งกินอาหารเย็นเป็นประจำพ่อจะพาไปดูคนงาน ตำข้าวด้วย ครกน้ำ ที่ใช้น้ำไหล ฉุดหลุก ก็กังหันหมุน ตักน้ำไปใส่กระบวยของ ครกน้ำ น้ำเต็มกด คันกระดกขึ้น น้ำไหลออก สากไม้ใหญ่ตกใส่เม็ดข้าวเปลือก ดูเพลินดี พ่อกับคนงานทำงาน ไวน์ก็เดินไปจับตักกระแตน จับปู จับปลา ในนาข้าว สนุกมากมาย ในฤดูหนาว หนาวจัดข้าวในนาเหลืองอร่าม นั่นเป็น ความทรงจำที่ดีมาก ๆ ติดใจ....พอเป็นวัยรุ่น เข้าเรียนต่อในกรุงเทพ พักอยู่ตรอกแม้นศรี แถวนั้น อึหมาเยอะมาก รอบ ๆ บ้านเสียงดัง ตรอกแคบ แทบจะไม่ เห็นตะวัน รถก็ติดแน่น ไปทำงานที่ต่าง ๆ มันก็ไม่สวยงามเท่าใด ทำให้อยากมีชีวิตอยู่ท่าม กลางธรรมชาติแบบเดิม ตอนเป็นเด็ก และแล้วได้ย้ายไปทำงาน ประจำที่ พิษณุโลก พักบนบริษัท กับเพื่อน ๆ อากาศร้อน พอ 3 ทุ่มความร้อนจากตึกที่อมความร้อน ตอนกลางวัน เริ่มคลายความร้อนออก โห..ทารุณมาก แต่...ที่พิษณุโลก มีป่าเยอะ หลายอำเภอ เลยได้กินเนื้อสัตว์ป่าประจำ เพื่อน ๆ ไปล่ามา แต่จะแอบล่าหรือเปล่า ไม่ได้ถาม แหะ ๆ กลัวจะ ไม่ได้กินเนื้อหมูป่า เนื้อกวาง เก้ง แต่เก้งเอ๋ง ไม่นะครับ ไม่อาว... อยู่ไปอยู่มาติดใจ กะจะปักหลักที่พิษณุโลกนี่ เลยไปหาที่ดิน ตั้งเป้าไว้ ที่ดินเป็นเนินสูง ข้างหน้าเป็นท้องนา หรือข้างหลัง เป็นชายป่าหรือมีต้นไม้เยอะ ๆ เป็นใช้ได้ ปลูกบ้านหลังเล็ก ๆสักหลังใช่แล้วครับ เริ่มปิ๊งสาวพิษณุโลก และแน่ใจว่าใช่ เลยให้แม่ไป สู่ขอ ต้องไปขอโน่นครับ ลำปางคือ คุณพ่อเขาทำงาน ที่ธนาคาร ต้องย้ายไปประจำสาขา แต่เราทั้งสองก็ได้แต่งงานกันที่นั่น แล้วกลับมาพิษณุโลกก็มาทำงาน ไปเช่าบ้านเก่ามาก ๆ อยู่ เป็นบ้านไม้ทรงสูง น่ากลัวผีเหมือนกัน ดีนะ ที่มีคนอยู่ด้วย ถ้าคนเดียว ไม่เอาหรอก กลัว... บรรยากาศในเมืองมันไม่ดีเริ่มเขียนแปลนบ้าน วางรูปแบบต้นไม้ดอก ไม้สวนครัว ให้เห็น ทุ่งนาสีเขียว ตอนนั้นแต่งงานได้ 2 เดือนได้มั้ง เงินมีนิดหน่อย แต่ไม่เป็นไร ค่อยหาทางหาเงินมาปลูกบ้าน ผู้ใหญ่ที่รู้จัก เขาห้าม... อะไรกันทำงาน 3 ปี เพิ่งแต่งงานจะปลูกบ้าน ได้ไง มันลำบากนา... คุณต้องเก็บเงินไว้เยอะมาก ๆ หรือไม่งั้นต้องซื้อไม้มากองสูงท่วมหัว จึงจะสำเร็จ ไวน์ก็รับฟังไว้ แล้วก็ใตร่ตรองดู ถ้าทำตามที่เขาแนะนำ คงจะไม่มีบ้าน ต้องตัดสินใจ.... นึกได้ว่า เราซื้อที่ดิน ซื้อบ้านไม้ ยอมเป็นหนี้เขา หากเกิดพลาดพลั้ง ก็ขายบ้านขายที่ ราคาที่ดินเพิ่ม ขึ้นทุกปี ใช้หนี้เขา ขาดทุนไม่มาก.... เจ้าหนี้ยึดไม่ได้ง่าย ๆ เป็นคดีแพ่ง เรียกว่า ยื้อ ได้นาน...หลายปี แต่ไม่มีทางหรอก เพราะไม่ได้ทำ ขายฝากนี่นาไปซื้อที่ดิน ข้างหน้าเป็นท้องนา เขียวขจี มีน้ำเยอะมาก ถนนเข้าที่ดินเป็น ดินลูกรัง มีร่องน้ำเล็ก ๆ ไหลตลอดเวลา มีต้นตาลสูงใหญ่อยู่ต้น อยู่บนเนิน เป็นอุปสรรคทำไงดี มีต้นมะพร้าว มะม่วง มะเกี๋ยงร่มครึ้ม ดีตรงนี้แหละ วันเสาร์อาทิตย์ ปั่นจักรยาน ไปตัดหญ้า ปลูกต้นไม้ตัดสินใจ โค่นต้นตาลด้วยตนเอง จะได้ไม่เสียเงิน. เงินมีน้อย ไปยืม ขวานใหญ่ จาก จสต.ดำ เพื่อนรุ่นพี่มาก ๆ มา ชาวบ้านเรียกว่า ขวานโยน... ใช้นั่นแหละสับ โยนรอบต้นตาล มันแข็ง จริง ๆ เวลาโยนใส่ คมขวานกระทบเปลือกตาล กระเด้งกลับคืน ฟันรอบต้นตาลสูงแค่เอว กว่าเปลือกมันจะลืกเกือบนิ้วเกือบสองวัน เห็นเนื้อในสีขาวข้างใน ค่อย ๆ สับบากให้เว้าไปอีกด้าน และวันที่ สาม ต้นตาล เอนล้มฟาด ลงดินสู่ท้องนาดังสนั่นเห็นยอดตาลแช่อยู่ในนาข้าว อยากจะกินคอตาล แต่หมดแรง อีกอย่างฝ่ามือทั้งสองแตก เลือดออกตั้งแต่วันแรกที่ฟัน เจ็บเลยต้อง ปล่อยไปอย่างนั้นก่อน รอให้มือหายเจ็บ ค่อยเลื่อยลำต้นเป็นท่อนกลิ้ง ไปไว้แนวที่ดิน ระหว่างนั้น ก็ติดต่อ ซื้อไม้บ้านเก่า แต่จะเก่าจริงหรือไม่ ๆ รู้นะครับ แต่บอกว่า ให้มีรอยตาปูน้อยเท่าจะน้อยได้ 555 แถวนั้นหาง่ายหน่อย พอซื้อได้ แต่มีข้อแม้ว่า จะต้องขนส่งถึงที่ บานหน้าต่าง ประตูไม้สักทอง เพื่อนมาขายให้ เขานำมาจากเมืองแพร่ เขาโป้งมาบนรถไฟ เสียค่าธรรมเนียมรถไฟสบายหน่อย ราคาถูกว่าในเมืองครึ่งต่อครึ่ง บานค่อนข้างสด ต้องนำมาตั้งตากลม ไว้ในร่มเป็นเดือน ให้มันแห้ง สเก็ตภาพกระท่อมให้ช่าง ที่เป็นเพื่อนดู โอเค รับจ้างปลูกให้ทุกวัน ปั่นจักรยานไปดูกระท่อมชั้นเดียว เห็นแล้วชื่นใจ ยัง งง ๆ ว่าไม้เก่าไง เวลาช่างตอกตาปู มีน้ำซึมตามรอยตาปูด้วย ไม้ฝาสั่งซื้อไม้จากโรงไม้มาเพิ่มอีกเยอะ ช่างใจเย็นมากหลังนิดเดียว ใช้เวลาปลูกเกือบเดือน พอ 4 โมงช่างเป็นครูชื่อครูออง จะรีบกลับบ้านทุกวันก็ว่าได้ ไวน์ก็เร่งให้เสร็จไว ๆ แต่ช่างไม่ยอม ครูรีบกลับบ้านทำไม ก็ ๆ ไปหุงข้าวให้เมียกิน อ้าวเมีย ไปทำงานไกลเหรอ ถึงรีบกลับไปหุงข้าว เปล่า มันอยู่บ้านเฉย ๆ เวร...รักเมียซะ.... เพื่อนปลูกบ้าน แต่ไม่ยอมทำให้เสร็จซะที บอกว่า รอให้ประตูหน้าต่าง แห้งก่อน ว่าเข้านั่น ดูเวลา น่าจะครบกำหนดเช่าบ้านหลังเดิมต้องเร่งสร้างห้องน้ำ ไวน์เลย ขุดหลุมทำส้วมเอง มีคนห้ามอย่าทำส้วมไว้ติดบ้าน มันจะเหม็น ไวน์ไม่ยอมหรอก ห้องน้ำห้องส้วมต้องอยู่ในตัวบ้านซิ ชาวบ้าน เขาไม่เคยเห็น แล้วไม่เคยทำ ขุดหลุมวาง วงคอนกรีต อยู่ 3 วัน เนื้อตัวมอมแมม ส่วนพื้นเทปูนเรียบ ปนหยาบครูออง จัดการ ฝาห้องน้ำใช้ไม้สักแผ่นกว้างขนาดฟุต สูงสอง เมตรราคาไม่แพงหรอก แหะ ๆ ซื้อจากที่แห่งหนึ่งในราคาพิเศษอีกวันเดียวต้องย้ายออกจากบ้านเช่า แถววัดอภัยแล้ว เพื่อนกับญาติ ลูกสาวแม่ยาย มาช่วยขนย้ายให้ ท่ามกลางฝนตกพรำ ๆ ทีแรกคิดในทางที่ไม่ดี แฉะจัง น้าหญิงเขาบอกว่า ดีแล้วอยู่เย็นเป็นสุข น้าเอาครกหินมาให้ ให้ไวน์ตักน้ำใส่ตุ่มให้เต็มด้วยนะ จะเป็นฤกษ์ดี น้าหญิงก็ใช้ ครกเปล่า ตำด้วยสากหิน ดังโป๊กๆ หลายสิบครั้ง เป็นเคล็ดนะครับ 555วันนั้นกว่าจะปูเตียงเสร็จก็ เย็นมาก ๆ ประตูหน้าต่างก็ยังไม่ติดตั้ง ฝนก็ตกได้ตกดี จุดตะเกียงรั้ว ใช้น้ำมันก๊าด แสงไฟวอบแวม เดินออกนอกชายคา อาบน้ำฝนเย็นมาก ๆ กลับเข้าบ้านเช็ดตัว หัวจนแห้ง ใส่ชุดอยู่บ้าน ให้อบอุ่นเราสองคน นั่งกินข้าวนัยตาเชื่อมกันทั้งคู่ ไม่ได้ โรแมนซ์กัน นั่งกินข้าวเย็น ใต้แสงตะเกียง ฝนตกปรอย ๆ เหนื่อยและง่วงทั้งสอง อาหารอร่อยมีเพียงไข่เจียว กับผัดถั่ว ข้าวสวยร้อน ๆ เพียงแค่นี้ก็อิ่ม สบายตัว..เราทั้งสองต่างช่วยกัน เช็ดเตียง นำผ้านวมผืนโตปู แล้วกางมุ้งสีขาว แกะของใช้ที่ห่อหลายห่อ วางไว้ตามจุด แต่ไม่สดวก แสงไฟน้อยมาก ๆ เลยเข้าไปนอนฟังเสียงฝนตกใส่หลังคา ไม่นาน ไวน์ก็หลับ ผล็อย ไปง่าย ๆ แต่ต้องสะดุ้งตื่น....เสียงดังลั่น ไวน์ลุกพรวดพราด ชนฝา กระเด็นตกเตียง..... ขอบคุณเพื่อนผู้เอื้อเฟื้อภาพภาพข้างบนเป็นภาพแทนที่เหมือนมาก st. 135066 / 172950 visit 795 เคาเตอร์ขวามือบนงานเขียนประเภท Diarist
Create Date : 07 กรกฎาคม 2557
29 comments
Last Update : 3 มีนาคม 2565 20:32:45 น.
Counter : 4360 Pageviews.
เจอกันผ่านไปมาทาง FB วันนี้แวะเข้ามาในบล็อก
เข้ามาก็ได้สัมผัสธรรมชาติด้วยกันไปเลยค่ะ แบบว่า
ช่วงนี้โหยหาธรรมชาติสดชื่นค่ะ ดื่มด่ำไปแล้ว
ก็รู้สึกดีจัง ยิ่งได้คิดถึงสมัยก่อนด้วยแล้ว บอกไม่ถูก
โหยและอยากหายตัวไปหาค่ะ