Bloggang.com : weblog for you and your gang
Air SurOundinG mE liKe mY besT frIendS !
Group Blog
พีรดลย์ หนึ่งเดียวคนนี้ !!!
เมื่อพีร์เดินทาง
ธรรมะนอกหน้าต่าง
มุมที่ไม่สว่าง
ผู้ด้อยโอกาสทางความรัก
บ้านนาจอก ณ นครพนม
หนังสือคือมิตรสนิทยิ่ง
<<
มกราคม 2555
>>
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
28 มกราคม 2555
ไหว้ 100 วัน (วันออก-ช่วงไหว้ออกทุกข์)
All Blogs
แกงผักกาดดองแบบเวียดนาม (canh dưa)
แกงไข่มะเขือเทศ (Cách làm món Canh mây)
ยำหัวปลีหมูสามชั้น - nộm hoa chuối thịt ba chỉ
แกงผักโขมกุ้งแห้งแบบเวียดนาม
ยำวุ้นเส้นผักบุ้งสด (แบบเวียดนามบ้านนาจอก)
หมี่กะทิบ้านนาจอก (สูตรเวียดนาม+อีสาน)
ถั่วเขียวต้มน้ำตาลขิง (chè đậu xanh gừng)
Thịt ba chỉ rang - หมูสามชั้นคั่วหวาน (สูตรเวียดนาม)
พิธีกงเต็กเวียดนาม (Lễ Trung Nguyên หรือ Lễ Đốt Mã) ตอนที่ 3 จบ
พิธีกงเต็กเวียดนาม (Lễ Trung Nguyên หรือ Lễ Đốt Mã) ตอนที่ 2
พิธีกงเต็กเวียดนาม (Lễ Trung Nguyên หรือ Lễ Đốt Mã) ตอนที่ 1
หมื่นมนัสประชากับบ้านนาจอก :บันทึกสุดท้ายก่อนลับเลือนหายตอนที่ 3 ครอบครัวของหมื่นมนัสประชา
หมื่นมนัสประชากับบ้านนาจอก :บันทึกสุดท้ายก่อนลับเลือนหายตอนที่ 2 อนุสรณ์สืบเนื่องจากหมื่นมนัสประชา
หมื่นมนัสประชากับบ้านนาจอก : บันทึกสุดท้ายก่อนลับเลือนหาย ตอนที่ 1 ภูมิหลังการก่อตั้งบ้านนาจอก
ต้มเค็มปลาทูแบบเวียตนาม - Cách kho cá thu nhật ngon
ชาเขียวบ้านนาจอก - Chè Xanh Bạn Mạy
วิธีทำขาหมูอบสมุนไพร cách nấu giả cầy
แบบแผนการคารวะศพของบ้านต้นผึ้ง (หมู่บ้านนาจอก)
ความเกี่ยวข้องกันของบ้านนาจอก บ้านต้นผึ้ง และบ้านดอนโมง
หมูต้มเค็มบ้านนาจอก (Thịt kho)
เมนูแกงเ้ส้นเวียดนาม ( canh miến )
เทศกาลตรุษเวียตนาม - Tết Nguyên Đán ตอนที่ 3 (จบ)
เทศกาลตรุษเวียตนาม - Tết Nguyên Đán ตอนที่ 2
เทศกาลตรุษเวียตนาม - Tết Nguyên Đán ตอนที่ 1
Cuộc đời không như là mơ : ชีวิตไม่เหมือนความฝัน - บ่าเยี่ยนแห่งบ้านนาจอก ตอนจบ
Cuộc đời không như là mơ : ชีวิตไม่เหมือนความฝัน - บ่าเยี่ยนแห่งบ้านนาจอก ตอนที่1
ต้มเส้นของแม่ : Cháo canh của mẹ
แกงขนุนอ่อน (mít non ) แบบนาจอก
เล่าเรื่องเกิ่วโด๋ย (câu đối) งานศพ
แกงหน่อไม้ส้ม (Canh Măng Chua)
ขนมจีนน้ำใสสูตรคุณยาย
ศาลเจ้าพ่อด่ายเวือง ( Đền thờ Đức Đại Vương-Làng Bạn Mạy ) : ตอน 2 - บูรณะปฎิสังขรณ์
วิธีการทำไก่ไหว้ที่บ้านนาจอก : Cách làm gà cúng (gà cánh tiên)
ผักโขมต้ม-น้ำปลาพริก (Luộc rau dền -Nước mắm Tỏi )
วิธีมวนพลูสำหรับไหว้ ( trầu mếng) แบบเวียดนาม
ข้าวเหนียวนึ่ง - งาคั่ว (มื้อเช้าที่นาจอก)
ศาลเจ้าพ่อด่ายเวือง ( Đại Vương) : ตอน 1 - ภูมิหลังและความเชื่อ
โรงเรียนบ้านนาจอก (แรงประชาชน)
ศิลปะการพับ-ตัด กระดาษไหว้
Lá Triệu - หลาเจี่ยว เอกสารการเดินทางสู่ปรโลก
การจัดสำรับอาหารไหว้ที่นาจอก
ศาลเจ้าดึ๊กแท่งฮว่าง (ต้นผึ้ง-ดอนโมง)
บ้านไม้เก่า-เก่าที่นาจอก
ซุ้มทางเข้าหมู่บ้านมิตรภาพไทย-เวียตนาม (บ้านนาจอก)
หมูหวาน (Thịt Rang : ถิดราง) สูตรนาจอก
หมาก-พลู (Trầu Cau) คู่นาจอก
Hồn và vía - โห่นหว่าเวี๋ย เรื่องที่ลูกหลานเวียดนามรุ่นใหม่ไม่เข้าใจ
Cơm úp - เกิม อุ๊บ ข้าวถ้วยสุดท้ายของชีวิต
ไหว้ 100 วัน (วันออก-ช่วงไหว้ออกทุกข์)
ไหว้ 100 วัน (วันออก-ช่วงไหว้บรรพบุรุษ)
ไหว้ 100 วัน (รอบค่ำ-วันเข้า)
ไหว้ 100 วัน (รอบเย็น-วันเข้า)
ยำหัวปลีสด (สูตรเวียตนาม)
น้ำปลากับไข่ไก่เกี่ยวอะไรกับหญิงคลอด ???
ไข่เจียวหมูสับ-วุ้นเส้น (จ๋า เตริ๋ง)
เมนูหมูหนาว (Thịt Đông : ถิดดง) ที่นาจอก
ยำวุ้นเส้นแบบเวียตนาม
ไหว้ 3 วัน (พิธี เหม่อ เกื่อ มา - Mở Cửa Ma)
พาวิญญาณกลับบ้าน
แผ่นดินกลบหน้า (การฝังศพแบบเวียตนาม)
ธรรมเนียมการเคลื่อนศพ (เดือ มา - đưa ma หรือ đưa tang )
ก่อนเคลื่อนศพ
แซ ดอน รอง (Xe đòn rồng) ส่งศพ
เตรียมสุสาน
คืนสุดท้าย
โบกพริ้วทิวธงส่งศพ
ธรรมเนียมการคารวะศพ@บ้านนาจอก
ผ้าขาวไว้ทุกข์แบบเวียตนาม
กลอง และฆ้องในงานศพ
การตั้งแต่งศพแบบเวียตนาม
ดอกไม้ในสวน
ผัดมะเขือถ้วยใบชะพลู
Cà bát (กา บ๋าต) : มะเขือลูกเท่าถ้วย ตามไปดูกัน
Cá um nhệ ( ก๋า อุม เหง่) - ปลาต้มเค็มขมิ้น
แก๋งฮวาจ๋วย-ล๋าโรส (แกงหัวปลีใบชะพลู)
ธรรมเนียมการไหว้แบบเวียตนาม
มรดก : ด้อยราคา แต่มากคุณค่าทางจิตใจ
บ้านเคยอยู่
nói chuyễn nghi'a trang : เรื่องเล่าจากสุสาน
พิธีเคลื่อนศพ-ฝังศพ ของชาวไทยเชื้อสายเวียตนาม
ความเชื่อหลังความตายของชาวเวียตนาม ที่บ้านนาจอก
ข้าวเหนียวนึ่งถั่วเขียวแบบเวียตนาม (cờm sôi dố)
ศาลเจ้าเวียตนามในไทย
เมนูอาหาร (món ăn) เวียตนาม ที่บ้านนาจอก
หมื่นมนัสประชา ที่มา "นาจอก"
ภาษาเวียตนามที่บ้านนาจอก
เกริ่น....
ไหว้ 100 วัน (วันออก-ช่วงไหว้ออกทุกข์)
ที่สุดแล้วผมก็เขียนมาถึงตอนสุดท้ายของชุดเรื่องราว
ธรรมเนียมเกี่ยวกับการตาย ตอนนี้จะเป็นการไหว้ 100 วัน
โดยหลังจากไหว้บรรพบุรุษเพื่อขออนุญาตรวมวิญญาณผู้ตาย
เข้าทำเนียบแล้วก็จะย้ายไปไหว้
ที่โต๊ะไหว้วิญญาณใหม่ (บ่าน เถ่อ ตาง) เพื่อคารวะระลึกถึงพระคุณ
รวมทั้งขอออกทุกข์ (ปลดผ้าขาว)
โต๊ะไหว้วิญญาณใหม่วันนี้จะต้องมีการเตรียมของไหว้หลักดังต่อไปนี้
- ไก่ต้ม 1 ตัว พร้อมข้าวเหนียว 1 จาน
- เกิมอุ๊บ (ข้าวจ้าวถ้วยพูน วางไข่ต้มแล้วปักตรึงด้วยตะเกียบ)
- สำรับอาหารคาว 1 สำหรับ พร้อมข้าวสวย 4 ถ้วย
- น้ำชา 1 กา
- เหล้าขาว
- เบียร์
- กล้วยน้ำว้า 1 หวี
- ผลไม้ และขนม รวมทั้งของบริวารอื่น ๆ
- พลู-หมาก (แบบจีบเป็นคำ)
- กระดาษเงิน-กระดาษทอง + กระดาษที่ญาติ ๆนำมาฝากไหว้
ขั้นตอนการไหว้ทำพิธีนั้นมากเอาการอยู่ขอสรุปเป็นข้อ ๆ ดังนี้ครับ
1. ลูกชายล้างมือด้วยเหล้าขาวก่อนเริ่มพิธี
(โดยการจุ่มนิ้วให้โดนเหล้าขาวในแก้วแล้วแตะที่กระดาษทองหน้าโต๊ะไหว้)
2. ลูกชาย และผู้ร่วมพิธี จุดธูปไหว้
3. คารวะแบบเวียตนาม
4. ลูกสะใภ้เดินยกถาดข้าว (เกิมอุ๊บ)
เป็นแสดงความกตัญญู และถือเป็นการปรนนิบัติเป็นครั้งสุดท้าย
ขออธิบายแทรกหน่อยว่า ที่ใช้เกิมอุ๊บนี้ แท้จริงแล้วมีนัยคือข้าวสวยที่พูนล้นจากอีกถ้วยหนึ่งขึ้นมาจะคล้ายกับโหม่ (ฮวงซุ้ย) หรือกองดินบนหลุมฝังศพในสมัยก่อนที่เป็นกองหรือมีลักษณะพูนขึ้น ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของจุดสิ้นสุด
หรือจุดสุดท้ายแห่งชีวิตในโลกนี้ ส่วนไข่ต้มที่ปักอยู่มีนัยว่าเป็นการเดินทางเริ่มต้นใหม่หรือเกิดใหม่ในโลกอันเป็นภพภูมิหลังความตายนั้นเอง
ดังนั้นการใช้เกิมอุ๊บในงานศพหรือพิธีทีเกี่ยวเนื่องจากงานศพก็เป็นนัยที่แสดงว่าการตายเป็นจุดสิ้นสุดของชีวิตในขณะเดียวกันก็เป็นการเริ่มต้นใหม่ในอีกภพภูมิหนึ่ง
5. คารวะแบบเวียตนาม
6. ลูกชายรินเหล้าครั้งที่ 1
(รินลง ส่อมาว เล็กน้อย แล้วค่อยยกขึ้นจบก่อนวางบนโต๊ะ)
7. คารวะแบบเวียตนาม
8. ซินแส (เถ่ย) อ่านบทไหว้ 100 วัน
9. คารวะแบบเวียตนาม
10. ลูกชายรินเหล้าครั้งที่ 2
(รินแบบเดียวครั้งแรก แต่จะเปลี่ยนคนริน)
11. คารวะแบบเวียตนาม
12. ลูกชายรินเหล้า (เบียร์) ครั้งที่ 3
(รินแบบเดียวกับครั้งแรก แต่จะเปลี่ยนคนริน)
13. คารวะแบบเวียตนาม
14. ลูกสาว เดินยกน้ำชา ถือเป็นปรนนิบัติพ่อเป็นครั้งสุดท้ายเช่นกัน
15. คาราวะแบบเวียตนาม
16. กั้นผ้าที่โต๊ะไหว้ เพื่อเรียกวิญญาณมาทานอาหาร-น้ำ
โดยขั้นตอนนี้ทุกคนจะต้องหันหลังให้โต๊ะไหว้ห้ามหันมามอง
มีเพียงซินแซผู้ทำพิธีเท่านั้นที่จะหันหน้าไปที่โต๊ะไหว้วิญญาณ
ตรงนี้น่าจะมีนัยเปรียบเสมือนว่าตอนนี้อยู่กันคนละโลกแล้ว
แม้แต่การกินข้าวก็ต้องแยกจากกันไม่มองไม่รู้ไม่เห็น
17. ซินแสอ่านบทไหว้ระลึกถึงวิญญาณ
และขออนุญาตออกทุกข์ (ปลดผ้าขาวไว้ทุกข์)
18. โยนเหรียญเสี่ยงทายการขอออกทุกข์
(ซึ่งต้องเสี่ยงให้ได้ เหรียญจีนที่ใช้เสี่ยงทายต้องขึ้น หัว-ก้อย)
19. ถอดชุดขาวไว้ทุกข์ และปลดผ้าขาวโพกศีรษะออกทุกคน
20. เผากระดาษเงินกระดาษทอง และป้ายวิญญาณที่ใช้มาตลอด 100 วัน
21. ลูกหลานไหว้คารวะในชุดออกทุกข์
++++++++++++++ เสร็จพิธี ++++++++++++++++
ธรรมเนียมแต่เดิมมานั้น จะจัดให้ไหว้ 100 วันเพียงอย่างเดียว
แต่ต้องรอถึง 2 ปีเต็ม กว่าจะยอมทำพิธีไหว้ขอ ออกทุกข์ได้
แต่ในยุคสมัยใหม่เห็นว่าการไว้ทุกข์ 2 ปีออกจะมากไป
เพราะลูกหลานสมัยนี้ต้องไปทำมาหากินต่างถิ่นฐานบ้านเกิด
หาได้ใช้ชีวิตตามท้องไร่ท้องนาเรือกสวนเรียบง่ายอย่างแต่ก่อนมา
ดังนั้นการจะไว้ทุกข์ซึ่งมีข้อห้ามข้อปฎิบัติอย่างโบราณมากมายนั้น
ก็เป็นการยากที่จะรักษาไว้ได้อย่างบริบูรณ์ ถึง 2 ปี
สมัยนี้ส่วนใหญ่จึงเลือกไว้ทุกข์แค่ 100 วันเท่านั้น
แต่ก็ยังพอมีบ้างบางครอบครัวหรือชุมชนที่ยังรักษาธรรมเนียมไว้ทุกข์
2 ปีบริบูรณ์ไว้ได้อย่างน่าชื่นชมมาก
ยกตัวอย่างข้อห้ามของการไว้ทุกข์แบบโบราณเท่าที่นึกออก
1.ชั้นลูก รวมถึงสะใภ้ต้องผูกผ้าขาวไว้ทุกข์ 100 วัน
2.ลูกหลานสายตรงต้องแต่งการด้วยชุดดำ 100 วัน
3.ห้ามไปงานมงคลทุกประเภทมีกำหนด 2 ปี (ยุคนี้แค่ 100 วันยังเลี่ยงยาก)
4.วิญญานใหม่ต้องไหว้แยกจากบรรพบุรุษในทุกเทศกาล (ตั้งโต๊ะแยก)
5.ห้ามเช็คถู ทาสี แตะต้อง/ปรับแต่ง โหม่ หรือฮวงซุย 2 ปี
6.ห้ามจัดงานมงคล งานแต่ง งานขึ้นบ้านใหม่ของลูกหลานสายตรง 2 ปี
(ข้อนี้เป็นปัญหาใหญ่มาก ก็อย่างว่าคนจะเบียด ฝนจะตก พระจะสึก...)
7. จัดพิธีไหว้ใหญ่คล้ายกับ 100 วันอีก 2 ครั้งคือเมื่อครบ 1 และ 2 ปี
ฯลฯ
++++++++++++++++++++++++++++++++++
คลิปช่วงทำพิธีสำหรับผู้สนใจ...
Create Date : 28 มกราคม 2555
Last Update : 13 มิถุนายน 2555 7:33:33 น.
15 comments
Counter : 19576 Pageviews.
Share
Tweet
ข้าวน้ำที่ยกที่บ้านผมจะห่อด้วยกระดาษเงินกระดาษทองก่อน พอวางลงถึงจะแกะกระดาษออกแล้วค่อยปักตะเกียบ รายละเอียดหลักใหญ่เหมือนกัน แต่ต่างก่อนตรงความนิยมของแต่ละที่ ทุกพิธีกรรมสวยงามเสมอ
โดย: พัชรพงษ์ ภูเบศรพีรวัส IP: 113.22.68.158 วันที่: 1 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:12:42:22 น.
น่าชมนะครับไว้มีภาพหามาฝากบ้าง
การแกะทีหลังก็ดูเหมือนข้าวหรืออาหารสมัยนี้ที่มักจะ
แรฟด้วยฟิล์มบาง ๆ ก่อนถึงมือผู้ทาน
แสดงออกถึงความปราณีตบรรจงดีนะครับครับ
ปล.จะถามว่าหลังจากครบสองปีแล้ว เวลางานไหว้ประจำปีจะยังมีเกิมอุ๊บมั้ยครับ ไปไหว้บ้างบ้านก็มีพอถามเค้าว่าทำไม่ต้องมีเค้าก็ตอบว่าไม่รู้ มันสวยดี ????
โดย:
peeradol33189
วันที่: 1 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:12:46:13 น.
ที่มีก็เพราะ ข้าวถ้วยนั้นจะเป็นของผุ้ตายใช้กิน เพราะในการไหว้ครบรอบวันตายไม่ได้เชิญเฉพาะคนตายเพียงอย่างเดียว แต่จะเชิญญาติพี่น้องของผุ้ตายที่ล่วงลับไปแล้วมาร่วมด้วย ดังนั้นเพื่อให้พิเศษขึ้นมาหน่อยและเพื่อให้เกียรติแก่ผุ้ตายจึงต้องมีข้าวให้กับผุ้ตายต่างหาก จึงต้องมีเกิมอุ๊บครับ เอาง่ายๆ ปู่ผมบอกว่าเกิมอุ๊บก็เหมือนเค้กอ่ะครับ วันเกิดคนเป็นมีเค้ก วันตายมีเกิมอุ๊บ อ่ะครับ
โดย: พัชรพงษ์ ภูเบศรพีรวัส IP: 113.22.68.158 วันที่: 1 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:12:53:22 น.
สงสัยว่าทำไมถึงสองปีค่ะ
มาหัดแปะหัวใจให้บ่าวคนนี้คนแรกค่ะ
โดย:
tuk-tuk@korat
วันที่: 1 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:14:41:15 น.
เหตุที่คนเวียดนามต้องไว้ทุกข์ยาวนานยาวถึง 2 ปีนั้นก็เพราะถือว่าเป็นการแสดงความกตัญญูต่อพ่อแม่ เพราะคนเวียดนามเค้าให้ความสำคัญกับคนที่ตายจากไป เพื่อแสดงถึงความเศร้าโศกเลยต้องไว้ทุกขืนานถึง 2 ปี แต่ก็ใช่ว่าทุกคนจะไว้ทุกยาวนานเท่ากันหมด เฉพาะลูกชายคนโตที่จะไว้ทุกข์นานกว่าคนอื่นคือ 2 ปีกับ อีก 100 วัน(หรือ 3 เดือน) เพื่อแสดงความกตัญญูต่อพ่อแม่ และที่สำคัญคนเวียดนามเชื่อกันว่า คนเราเมื่อตายไปใหม่ๆ วิญญาณยังไม่บริสุทธิ์พอที่จะไปอยู่รวมกับบรรพบุรุษ จึงต้องอยู่แยกต่างหากนานถึง 2 ปี โดยใช่วงนี้ปู่บอกว่าวิญญาณคนตายจะยังมีผุ้คุมวิญญาณคอยดูแล 2 คน พอพ้นทุกข์ไปแล้วจึงจะสามารถเข้าอยู่ร่วมกับบรรพบุรุษได้ แต่โบราณจริงๆ เค้าไว้ทุกขืกันยาวนานถึง 3 ปี ส่วนหนึ่งคงเป็นเพราะได้รับอิทธิพลจากจีนด้วยครับ
โดย: พัชรพงษ์ ภูเบศรพีรวัส IP: 69.22.174.177 วันที่: 1 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:17:21:55 น.
มาเรียนรู้และทำความเข้าใจกับประเพณีของชาวเวียตนามครับ
โดย:
Insignia_Museum
วันที่: 1 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:22:50:59 น.
ขอบคุณค่ะ
โดย:
tuk-tuk@korat
วันที่: 2 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:10:30:53 น.
ลืมตอบเลย
ตอนที่เล่าเรื่องก๋วยเตี๋ยว ก่อนปี 2511 ตอนนั้นเรียนประมาณ ป. 4-5 จำราคาก๋วยเตี๋ยวไม่ได้แต่อาหารถาดที่โรงเรียนว่าน่าจะ 1.50 บาทค่ะ ราคาก๋วยเตี๋ยวน่าจะประมาณนั้น
โดย:
tuk-tuk@korat
วันที่: 2 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:10:35:11 น.
เรื่องราวที่คุณพีร์เล่าเอาไปออกรายการ"พันแสงรุ้ง"ได้เลย
นะคะ
เมื่อวานดูเรื่อง"อิ้วเมี่ยน" ก็ชอบเหมือนกันค่ะ ที่ครอบครัวปัจจุบันก็ยังรักษาประเพณีเดิมของเผ่าพันธุ์น่ะค่ะ
โดย: รัชชี่่ (
รัชชี่
) วันที่: 5 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:14:48:45 น.
อรุณสวัสดิ์ครับพี่พีร์
โดย:
กะว่าก๋า
วันที่: 6 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:5:24:22 น.
ผมก็ชอบดอยมากกว่าทะเลอีกครับ
โดย:
กะว่าก๋า
วันที่: 6 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:14:41:03 น.
ถ้าคุณพีร์เคยดู "กวนมึนโฮ "สิ่งเล็ก ๆ ที่เรียกว่ารัก""โหมโรง" แล้วชอบ ก็คิดว่า" 30 กำลังแจ๋ว" ก็น่าจะชอบค่ะ
โดย: รัชชี่่ (
รัชชี่
) วันที่: 6 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:20:47:55 น.
อรุณสวัสดิ์ครับพี่พีร์
โดย:
กะว่าก๋า
วันที่: 7 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:6:02:30 น.
อรุณสวัสดิ์ครับพี่
โดย:
กะว่าก๋า
วันที่: 8 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:5:55:57 น.
อรุณสวัสดิ์ครับพี่
โดย:
กะว่าก๋า
วันที่: 9 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:5:46:15 น.
ชื่อ :
Comment :
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
Gia Huy - Peeradol
Location :
นนทบุรี Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 13 คน [
?
]
Air SurOundinG mE liKe mY besT frIendS !
Friends' blogs
i_am_np
นายแว่นธรรมดา
qu-up
กุมภีน
ไกลนั้น
กิ่งไม้ไทย
lazymetal
kruaun
รัชชี่
บ้าได้ถ้วย
ถั่วงอกน้อยค่ะ
มิสเตอร์ฮอง
ผู้หญิงชื่อส้ม
zerxiustor
อุ้มสี
กะว่าก๋า
tiensongsang
fondakelly
ชีวิตจริง
anchesa
เอื้องสามปอย
kun_isara
soponkub
สุริยาอัสดง
aoigata
nakornthong
วรบรรณ
may_intania
โนโบะ
mungkood
atomdekzaa
ziinnuf
SawasdeeKrab
p_tham
พ่อระนาด
Dr.Manta
วันที่ท้องฟ้าแจ่มใส
Pheam
มัยดีนาห์
สีฟ้าใส
tuk-tuk@korat
Mega-Batt
ร่มไม้เย็น
สกุลเพชร
ไลเดเลีย
sdayoo
aston27
kimmybangkok
ppth
glindoy
mambococonut
iammac
Insignia_Museum
aimanun
newenter
hs2zfo
Webmaster - BlogGang
[Add Gia Huy - Peeradol's blog to your web]
Links
BlogGang.com
MY VIP Friend
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.