เสียงเชียร์ดังสนั่นในร้านอาหารขนาดเล็กที่ดูภายนอกคล้ายค็อฟฟี่ช็อปเพราะกระจกสีชาด้านในค่อนข้างสลัวทำให้ภูบดีเกือบเดินผ่านไปไม่สนใจ แต่เสียงผู้หญิงร้องเพลงสำเนียงคุ้นหูทำให้ภูบดีหยุดยืนมองดวงตาคมชะเง้อมองเข้าไปภายในแล้วตัดสินใจถอยกลับเข้าไปภายใน
ภูบดีแหวกวงล้อมเข้าไปหาต้นเสียงใจก็ฉุกคิด เพราะทำนองเพลงคุ้นเคยเหมือนเคยได้ยินบ่อย ๆ มันบังเอิญเกินไปที่เป็นเสียงรอสายเพลงฝรั่งเพลงเดียวกับที่เขาใช้อยู่แถมเสียงคนร้องยิ่งคุ้นหนักกว่า
เฮ้ย! ยายบ้าเอ้ย!
นึกไว้ไม่มีผิด!
ภูบดีถึงกับสบถ แหวกวงล้อมเข้าไปตะลึงยืนจังก้า ผิดจากที่คิดเสียที่ไหนเสียงที่ได้ยินจะเป็นใครไปได้นอกจากยายตัวยุ่งที่ทำให้เขาหัวปั่นเขาตะคอกทันทีที่เข้าประชิดเค้นเสียงรอดไรฟันถามคนทำท่าประหลาดยกสองมือทำท่าจีบค้างเหมือนนางรำแต่หาได้มีความอ่อนช้อยสักนิด
มาแล้วหรือ... นายพี ธารวารียิ้มกว้างตาปรอย เสียงยานคาง ฉันรอตั้งนานแล้ว
มาทำท่าบ้าบออะไรตรงนี้!
ภูบดีคว้าแขนหล่อนเข้าใกล้แล้วกระซิบเมื่อเห็นหนุ่มผิวเข้มหลายคนลุกยืนคุมเชิงแต่ยังรีรออยู่
ฉันกำลังสนุกอยู่ไงหล่อนตอบคลายมือจากท่าจีบมาหยิกแก้มเขาเบาๆ
จะทำบ้าอะไรของคุณ!
ฉันกำลังเผยแพร่วัฒนธรรมไทย
แล้วมาหยิกแก้มผม ภูบดีเค้นเสียง สีหน้าหงุดหงิด เสียภาพพจน์คนไทยหมด
ก็นายออกจะน่ารัก แก้มก็น่าหยิกขนาดนี้
เสียงหล่อนยานคางโดยเฉพาะคำสุดท้ายทั้งเขย่งกระซิบตอบยืนตัวแทบไม่ตรงเอนหัวซบไหล่เขาแล้วหัวเราะตาปรือเหมือนคนเมาแต่กลับไม่มีกลิ่นเหล้า
ทำแบบนี้มิน่า...
มิน่าอะไรค้า หล่อนถามกลับลากเสียงสูงหัวเราะร่วน
ภูบดีขยับถอยห่างแต่ยังประคองหล่อนเริ่มสงสัยท่าทีที่ดูแปลกไป
มิน่าวัฒนธรรมไทยถึงได้วิบัตินะสิ ไปได้แล้วเราต้องกลับไปพัก พรุ่งนี้เราต้องออกเดินทางแต่เช้าผมหารถพร้อมไกด์ท้องถิ่นได้แล้ว เราจะไปชายแดนจิบูติกัน
จริงนะ! เก่งมากเลยนายภู
ธารวารีตั้งท่าจะเข้ามากอด ภูบดีถึงกับผงะก่อนจะลากแขนหญิงสาวถูลู่ถูกังจะพาไปให้พ้นจากกลุ่มชายหญิงที่กรูกันเข้ามารุมล้อมดูหล่อนสะบัดข้อมือพรืด พร้อมกับยิ้มกว้าง
กำลังสนุกอยู่เลยขออีกแป๊บนึงนะ
ไม่ได้! นี่ใครเอาแชตให้คุณกินใช่ไหม ธารวารี!
ชายหนุ่มตะคอกเรียกชื่อเต็มหล่อนเหมือนเรียกสติ ดวงตาคมจ้องเหมือนต้องการคำตอบเดี๋ยวนี้ แต่หญิงสาวยังคงหัวเราะสนุกสนาน ผิดปกติจริง ๆ อย่างที่คิด แล้วก็มีเสียงตอบรับจากด้านหลังเป็นชายหนุ่มผิวเข้มร่างสูง
ขอโทษทีดูเหมือนเธอจะอยากลองรสชาติของแชต ผมเลยให้เธอเคี้ยวแค่สองใบผลออกมาเป็นอย่างที่เห็น ดูท่าทางเธอจะแพ้ ผมก็เลยรออยู่ว่าถ้าฤทธิ์แชตหมดเมื่อไหร่จะพาเธอส่งที่พัก
ชายหนุ่มผิวเข้มรูปร่างกำยำแต่ท่าทางดูเป็นมิตรทำให้ภูบดีประเมินรูปการณ์แล้วลอบถอนใจ แต่ไม่วายส่งสายตาตำหนิเปิดเผย
คุณก็เลยให้เธอทำท่าทางเหมือนตัวตลกให้พวกคุณหัวเราะเยาะเล่นสินะ
เปล่า ผมจะไปส่งเธอที่พักแต่เธอไม่ยอมท่าเดียวบอกนัดเพื่อนไว้ที่นี่ เธอจะต้องรอตรงนี้เดี๋ยวเพื่อนจะตามหาเธอไม่เจอ
เขายักไหล่ดูธรรมดาไม่มีท่าทีหาเรื่องหรือจงใจยียวน ภูบดีถึงกับอึ้งเสียงอ่อนลง เพราะเขาเองก็ผิดที่ทำให้หล่อนต้องรอตั้งแต่แรก
ผมคือเพื่อนของเธองั้นผมขอพาเธอกลับเลย ขอบคุณมากๆ นะครับ
หนุ่มผิวเข้มพยักหน้ายิ้มบางเปิดทางให้ภูบดีหิ้วปีกคนเมาออกไปหล่อนหันไปโบกไม้โบกมือร่ำลาให้หนุ่มเลี้ยงไฮยีนาก่อนจะเดินคอพับคออ่อนไป
ภูบดีโอบรอบเอวธารวารีอีกมือประคองแขนหล่อนให้พาดบ่าท่าทางทุลักทุเล กลัวหล่อนจะหกล้มหกลุกตามถนนลาดเอียงขรุขระและค่อนข้างมืด แต่พอพ้นโค้งถนนตกที่เป็นทางลาดเอียงไปสู่หมู่บ้านล่างก่อนถึงที่พัก ภูบดีถึงกับสะดุ้งเมื่อโดนศอกแหลมซัดเข้าที่ท้อง
ปล่อยได้แล้ว หล่อนเด้งตัวออกห่าง รัดซะแน่นเลย หายใจแทบไม่ออก
ชายหนุ่มถึงกับงงผละออกห่างร่างบอบบางที่ยืนหน้าง้ำกอดอก
อ้าว! นี่ไม่ได้เมาหรอกหรือ ภูบดียื่นหน้าเข้าหามองอย่างพินิจ ออกร้านมาปุ๊บเหมือนปิดสวิตช์ หายเป็นนางรำเลย
หายตั้งนานแล้ว เพราะนายคนเดียวเลยให้ฉันรอไม่บอกกันสักคำว่าจะไปที่ไหนฉันรอนายจนเกือบมีเรื่องดีที่คนเลี้ยงไฮยีนาช่วยไว้
แล้วทำไมคุณไม่กลับโรงแรมไปก่อนล่ะผมก็ตามหาคุณซะทั่ว แต่หาไม่เจอ
ก็ฉันลืมว่าโรงแรมชื่ออะไร จะกลับก็บอกคนส่งไม่ถูกว่าอยู่ที่ไหน
หล่อนตอบหน้าเบ้หนุ่มเซอร์ถึงกับถอนหายใจส่ายหน้าหมดคำพูดได้แต่เดินนำไปปล่อยให้หล่อนเดิมตามบ่นกระปอดกระแปดไปตลอดทาง
อย่าโกรธเลยน่าเรื่องนิดเดียวเอง
นิดเดียวบ้านคุณสิ ภูบดีเสียงเขียว คราวหน้าหัดจดจำรายละเอียดบ้างอย่าให้ต้องเป็นห่วงมากได้ไหม ถ้าผมไม่มาด้วยจะทำยังไง
ก็... ฉัน หล่อนเงียบไปแล้วเงยหน้ามอง เพราะฉันรู้ว่ามีนายมาด้วยไงยังไงนายก็ต้องหาฉันเจอ นายไม่ทิ้งฉันหรอก
พูดจบหล่อนก็หลบตาท่าทางประดักประเดิดเดินนำไปก่อน ภูบดียิ้มกว้างความเคืองขุ่นหายไปแทบปลิดทิ้งเมื่อเจอยาหอมของหล่อนเข้าไป
เขาควรจะดีใจใช่ไหมที่ได้รับความสำคัญมีตัวตนไม่เหมือนเมื่อก่อนที่ไม่ว่าเมื่อไหร่สายตาของหล่อนจะมีไว้เพื่อรุจิภพพี่ชายคนเดียวของเขา คนที่ดีพร้อมทุกอย่างและแสนดีเกินกว่าที่เขาจะเป็นได้
ภูบดีมองตามร่างบอบบางที่นำไปเกือบช่วงตึกแล้วยิ้มบางๆ แต่ก็ต้องชะงักเมื่อสังเกตเห็นเงาทอดยาวของใครบางคนแวบผ่านเข้ามาที่ปลายหางตาแล้ววูบหายไปอย่างรวดเร็ว พอหันไปมองกลับพบเพียงความว่างเปล่า สังหรณ์ใจแปลกๆ รีบวิ่งขึ้นไปเดินเคียงคู่ธารวารี ที่โวยวายทันทีที่เขาแกล้งโอบเอวหล่อนท่าทางสนิทสนมหนุ่มสาวเดินเคียงกันไป ทั้งคุย ทะเลาะและบางครั้งเหมือนดูสนิทสนมกันมากกว่าความเป็นเพื่อนร่วมทาง
เขาไม่ได้บอกหล่อนว่าเห็นชายชุดดำเดินตามมาตลอดทาง ทีแรกแค่ความรู้สึกบ่งบอก แต่เมื่อสังเกตดูดีๆ จากที่ทำเป็นไม่สนใจคิดว่าไม่มีอะไรคงไม่ใช่เสียแล้ว เพราะก่อนเข้าห้องพักเขายังเห็นชายคนนั้นตามมาแต่พอเหลียวไปมองกลับไม่พบ
ร่างสูงใหญ่ในชุดคลุมยาวสีดำโพกผ้าคลุมหน้ามิดชิดโผล่ออกจากมุมมืด มองตามสองหนุ่มสาวลับหายเข้าไปในห้องด้วยกัน
ดวงหน้าเริ่มครึ้มไรหนวดดูเคร่งเครียดจนธารวารีแปลกใจตั้งแต่เข้าห้องพักมาเขาไม่พูดไม่จาแถมมองออกไปนอกหน้าต่างดูระแวงระวังจนหล่อนอดคิดไม่ได้ว่านายพีคนจรดูแปลกไป
มีอะไรรึเปล่านายดูเครียดๆ นะ
ภูบดีรู้สึกตัวรีบปิดผ้าม่านสนิทแล้วหันมาสบตาหล่อน ไม่มีอะไรผมคงคิดไปเอง
ไม่ได้คลายความสงสัยให้หล่อนสักนิดเพราะคำพูดกำกวมแบบนั้น
ธารวารีนั่งลงบนเตียงรื้อกระเป๋าเป้เตรียมอาบน้ำล้างเนื้อตัวหล่อนไม่ค่อยสบายใจเท่าไหร่ที่ต้องมาพักห้องเดียวกับเขา แต่ยังดีที่มีสองเตียง ถ้าเกิดชายหนุ่มคิดจะทำรุ่มร่ามหล่อนก็ยังมีบางสิ่งที่พกติดตัวมาด้วยระหว่างรอเมื่อตอนค่ำ
มีดพับได้ขนาดสั้นถึงจะไม่ได้ช่วยอะไรมากแต่คงพอขู่ให้กลัวได้ คิดแล้วหล่อนก็พรูลมหายใจอึดอัดเกินบรรยาย
มีอะไรรึเปล่าทำไมทำหน้าตาน่ากลัว มีเลศนัยแปลก ๆ
เปล่านี่ นายไปอาบน้ำสิฉันเหนื่อยอยากพักแล้วเหมือนกัน
หล่อนเฉไฉไปอีกเรื่องเก็บมีดพับใส่กระเป๋ากางเกงยีนส์ตัวเก่งก่อนจะแกล้งทำเป็นหยิบกล้องถ่ายรูปมาเช็คดูแต่แอบเหลือบมองคู่หูจำเป็นอยู่ในที
ผมว่าเรามีเรื่องต้องคุยกันหน่อยนะธารวารี
เขาไม่ไป!หนำซ้ำยังเดินเข้ามาใกล้หล่อนทั้งที่พาดผ้าเช็ดตัวไว้บนไหล่จะเข้าห้องน้ำอยู่แล้ว ธารวารีโยนกล้องลงบนเตียงถอยกรูดไปชิดริมหน้าต่างแต่ไม่ทันเมื่อชายหนุ่มพุ่งลงมาทาบมือแข็งแรงสองข้างบนเตียงค้อมตัวหล่อนไว้
จะ... จะ ทำอะไร!
หล่อนระล่ำระลักถามเงยหน้าสบตา ดวงหน้ากลมซีดเผือดแต่ทำเสียงเข้มไม่กลัวเกรงทั้งที่รู้ตัวว่ามือกำลังสั่น จะล้วงมีดพับด้านหลังก็ไม่ทันเสียแล้วนึกแล้วโมโหตัวเองที่เอาไปไว้กระเป๋ากางเกงด้านหลังซึ่งมันล้วงยากชะมัดในสถานการณ์แบบนี้
คิดว่าผมจะทำอะไรคุณหรือไง
ปละ... เปล่า!หล่อนเสียงสั่น นายไม่ใช่พวกฉวยโอกาสหรอกฉันรู้
ภูบดียื่นหน้าเข้ามาใกล้ใกล้มากจนหล่อนเอี้ยวตัวหลบหลับตาปี๋แต่ยังได้ยินเสียงหายใจ
แน่นอนว่าผมไม่ใช่ และก็ไม่ใช่พระเอกนิยายด้วยจะได้ฉวยโอกาสกับนางเอก เขาตอบเสียงกลั้วหัวเราะถ้ากำลังฝันก็ตื่นซะ ผมจะไปอาบน้ำ เสร็จแล้วคุณก็อาบต่อ เหม็นมาก ซกมกจะตายไปทำอะไรมา
เขาทำจมูกฟุดฟิดหน้ามุ่ยเหมือนหล่อนเป็นของเหม็นเน่าที่แค่ได้กลิ่นก็ระคายจมูก
ธารวารีค้อนขวับก่อนตอบเสียงเข้มชัดถ้อยชัดคำ ไปให้อาหารไฮยีนามาหล่อนก้มดมเสื้อตัวเอง ไม่เห็นเหม็นซะหน่อยนายมีปัญหารึไง
ก็เปล๊า เขาตอบแล้วลุกขึ้นยืนเหมือนชอบใจที่ได้เห็นหล่อนกลัว ยิ่งเห็นคนปากดีเมื่อครู่ทำคิ้วขมวดเสียงอ่อย
ถามจริงๆ นี่ฉันเหม็นขนาดนั้นเลยหรือ
อืม...ไม่งั้นผมจะได้กลิ่นลอยลมมาหรือไง
แต่กล้ามาว่าผู้หญิงซกมกยังกับนายดีตายแหละ ไอ้หนวดเอ้ย!
เอ๊า! แล้วมาขึ้นเสียงใส่กันทำไม คุณถามผมก็ตอบนะภูบดีหัวเราะในลำคอ
หล่อนค้อนแรงรอบสองก่อนจะลุกหนีไปยืนหน้าประตูแล้วไล่ชายหนุ่มให้ไปจากที่นอน ภูบดีลูบคางตัวเองรู้สึกถึงไรหนวดเริ่มขึ้นเป็นแนวจนโดนว่าแล้วก็นึกขำ อดที่จะต่อล้อต่อเถียงกับหล่อนไม่ได้ กว่าจะตกลงกันได้ แยกย้ายกันไปอาบน้ำจนถึงเข้านอนก็เกือบตีสองของเช้าวันใหม่...
ธารวารีหาวหวอดตลอดทางที่รถขับเคลื่อนสี่ล้อสภาพกลางเก่ากลางใหม่แล่นออกจากฮาร์รา แม้ถนนจะขรุขระ คดเคี้ยวเป็นหลุมบ่อแต่หล่อนยังหลับ ๆ ตื่น ๆ อยู่ที่นั่งเบาะหลัง มีภูบดีนั่งคู่คนขับด้านหน้าเหลือบมองหล่อนผ่านทางกระจกมองหลังตลอดทางตั้งแต่ออกมา
เห็นหล่อนได้พักบ้างเขาก็หันไปสนใจคุยกับไกด์หนุ่มล่ำผิวเข้มชื่ออาชะเป็นชาวเมืองใกล้เคียงฮาร์รา พูดอังกฤษเก่งมาก เพราะเคยเรียนหนังสือที่แอดดิส-อบาบาที่เน้นสอนอังกฤษเป็นภาษาที่สองรองจากภาษาอัมฮาริค ภูบดีจึงคุยกับชายหนุ่มได้อย่างคล่องแคล่ว
ใช้เวลากี่ชั่วโมงกว่าจะถึงชายแดนครับ
ถ้าไม่มีอะไรเกิดขึ้นเราก็จะถึงที่หมายในเวลาไม่เกินหกชั่วโมง น่าจะไม่เกินบ่ายสามโมงเย็นครับ
ไกด์หนุ่มตอบฉะฉานหลังจากคำนวณเวลาครู่ใหญ่คนฟังพยักหน้ารับรู้แต่อดสะกิดใจไม่ได้กับประโยคแรกที่อาชะบอก
ไม่มีอะไรเกิดขึ้นหมายความว่ายังไง ที่เราไปมันอันตรายหรือครับ
อาชะส่ายหน้าหัวเราะเบาๆ ตอบ ทุกที่ในประเทศนี้มีทั้งอันตรายและไม่อันตรายครับ อะไรย่อมเกิดขึ้นได้เสมอ เพราะเรามีคนหลายเชื้อชาติเผ่าพันธุ์
เหมือนเมืองไทย ถึงเราจะเชื้อชาติเผ่าพันธุ์เดียวกันแต่มักขัดแย้งกัน ภูบดียักไหล่ก่อนจะถอนหายใจ
คนมาก เรื่องมากสังคมอยู่ยาก เพราะคนเอาแต่ชนะระรานกัน เป็นธรรมดาโลกครับ
อาชะพูดเป็นปริศนาจบภูบดีถึงกับคิ้วขมวด รู้สึกทึ่งกับแนวคิดและขัดหูกับน้ำเสียงแปร่งของไกด์หนุ่มอย่างไรพิกล แต่ก็ต้องหยุดคิดเพราะได้ยินเสียงลั่นชัตเตอร์รัวจากด้านหลัง
นิ่งเป็นหลับตื่นมาก็จับกล้องเลยนะคุณ
เขาไม่วายแซวหล่อนเมื่อมองจากกระจกหลังเห็นธารวารีขะมักเขม้นถ่ายภาพโดยไม่สนใจจะฟังหรือร่วมวงสนทนา
ฉันก็ฟังอยู่แต่นายดูสิวิวสวยมากเลย ตรงโน้นเขาเรียกว่าอะไรคะคุณ
หล่อนชักชวนให้เขามองตามแล้วหันไปถามไกด์หนุ่ม อาชะยิ้มกว้างเหลือบมองวิวด้านข้างแล้วตอบอย่างภูมิใจ
อาเล็มมายาบ้านเกิดผมเอง ส่วนนั่นคือทะเลสาปฮารามายา หรือเรียกอีกชื่อว่าทะเลสาปอารามีครับ
วิวสวยมากเลยค่ะไม่น่าเชื่อนะคะว่าเอธิโอเปียจะมีวิวที่มองจากมุมสูงสวยสุดลูกหูลูกตาขนาดนี้
เพราะเรากำลังลงจากฮาร์ราที่สูงกว่าระดับน้ำทะเลมากต่างหากครับถ้าเดินทางต่อไปใกล้จิบูติ คุณจะเห็นความเปลี่ยนแปลงชนิดหน้ามือเป็นหลังมือทีเดียว
ขาดคำของไกด์หนุ่ม ภูบดีก็มองสบตาหญิงสาวผ่านกระจกมองหลังด้วยดวงตาหวั่นวิตก เพียงไม่กี่ชั่วโมงถัดมาจากพื้นที่เขียวชอุ่มของต้นไม้ภูเขาสูง อากาศเริ่มเพิ่มอุณหภูมิขึ้นเรื่อย ๆ ตามภูมิประเทศที่เปลี่ยนไป
หลังออกจากดิเรดาวาสีเขียวที่เห็นสุดลูกหูลูกตาเริ่มหายไปทีละน้อย จนเหลือต้นไม้เป็นหย่อม ๆและในที่สุดก็เหลือแต่ทะเลทรายและหุบเขาสีน้ำตาลกว้างไกลสุดสายตา
อีกไกลไหมอาชะ ภูบดีเหลือบมองหญิงสาวผ่านกระจกมองหลังด้วยสีหน้าวิตก หวังว่าจะไม่ค่ำเกินนะ เรายังไม่มีที่พักคืนนี้เลย
ไม่ถึงสองชั่วโมงเราก็จะถึงดีเวลเมืองที่ติดชายแดนจิบูติที่สุดครับ ถ้าเจอคนที่คุณตามหาก็คงมีที่นอน
ภูบดีขมวดคิ้วที่ได้ยินอาชะพูดแปลก แต่เขาไม่มีเวลาใส่ใจนักเพราะมัวแต่ดูแผนที่แต่ไอร้อนอบอ้าวทำให้สมาธิกระเจิงจนต้องเพ่งมองไปหน้ารถถนนดินแดงยาวไกลชนิดมองไม่เห็นปลายทางแล้วได้แต่ทอดถอนใจ
รู้สึกเหมือนเคว้งคว้างหาจุดบรรจบไม่เจอ
พวกเราที่นี่ชินซะแล้วครับ วันดีคืนดีก็จะมีชาวเผ่าที่ย้ายถิ่นฐานไปเรื่อยๆ มาปิดกั้นถนนเพราะทับเส้นทางอพยพกันบ้างบางทีก็แย่งที่กันเลี้ยงสัตว์บ้าง เป็นเรื่องปกติมากครับ
แล้วทำไมต้องปิดถนนผมนึกว่ามีแต่เมืองไทยซะอีก ภูบดีพูดกลั้วหัวเราะแต่เมื่ออาชะทำหน้างงจึงปฏิเสธ ผมพูดเล่นครับ
อาชะพลอยหัวเราะไปด้วย บรรยากาศยังดีต่างจากอากาศร้อนด้านนอก รถยิ่งเก่า แอร์เริ่มรับกระแสความร้อนไม่อยู่ภูบดีรู้สึกเหมือนกับว่าไอร้อนระอุออกจากเนื้อตัว พอๆ กับแอร์ที่โอบอุ้มความเย็นเริ่มเบาบางลงเรื่อยๆ
ธารวารีถึงกับเอาเศษกระดาษพัดไล่ความร้อนพร้อมปาดเหงื่อที่ไหลเป็นทางอดใจไม่ไหวถามไกด์หนุ่มอีก
ถนนจะเป็นแบบนี้ไปตลอดเลยหรือคะฉันไม่เห็นบ้านคนเลย ดีนะที่ได้คุณนำทาง ไม่งั้นพวกเราแย่แน่ ๆ ค่ะ
เส้นทางนี้ส่วนมากรัฐบาลจะใช้ขนส่งสินค้าทางรถไฟไปออกทะเลที่จิบูติครับ ไม่ค่อยมีใครมาหรอก มันแห้งแล้ง เลี่ยงได้เป็นเลี่ยงยิ่งตอนนี้ภัยแล้งมาเร็วกว่าที่คิด ชาวบ้านแถบนั้นอพยพขึ้นเหนือกันหมดบางแห่งแทบจะเป็นเมืองร้างเลยครับ
อาชะเล่าสีหน้าเรียบเฉยแต่สองหนุ่มสาวมองหน้ากันใจคอไม่ค่อยดี คำพูดของไกด์หนุ่มทำให้ธารวารีนึกเป็นห่วงคนรักจับใจ
เพราะอย่างนี้หรือไม่นะ ทำให้รุจิภพไม่ติดต่อหล่อนอาจเพราะการคมนาคมไม่สะดวก หรือไม่ก็อาจจะไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ก็เป็นได้ คิดแล้วก็สลดใจจนคนมองสงสัย
คุณ... คุณ! ภูบดีเรียก
อะไร
นึกว่านั่งทางในเห็นเงียบไปเลย" เขาไม่วายค่อนขอด
หญิงสาวสะบัดหน้าพรืดลืมความร้อนไปชั่วขณะ เพราะใจที่ร้อนกว่าเป็นเหตุ ร่างบอบบางในชุดทะมัดทะแมงขยับถอดแจ็กเกตออกเหลือเพียงเสื้อยืดแขนกุดธรรมดาก่อนจะเอาเสื้อที่ถอดออกบังแดดริมกระจกที่แสงส่องหล่อนตะครั่นตะครอแปลก ๆ เหมือนจะจับไข้ จนภูบดีต้องถามซ้ำ
ไม่สบายรึเปล่าคุณหน้าแดงมาก
ฉันไม่เป็นไร คงเพราะเหงื่อออกเยอะก็เลยสะบัดร้อนสะบัดหนาวแปลกๆ
หล่อนส่ายหน้าแล้วมองออกไปนอกหน้าต่างเหมือนเหนื่อยหรือไม่อยากพูดต่อภูบดีหันกลับไปมองหนทางข้างหน้าไม่ได้ถามอะไรให้มากความ ธารวารีได้แต่ถอนใจเริ่มรู้สึกอย่างที่เขาถามได้สักครู่ใหญ่ อยู่ดี ๆอาการไข้มันก็มาเยี่ยมกรายทั้งที่หล่อนไม่ต้องการ
นอนพักเอาแรงก่อนถึงแล้วผมจะบอก
เขาหันมองด้วยความกังวลหล่อนพยักหน้าแล้วหลับตา
ครู่ใหญ่หลังจากที่เผลอหลับไปภูบดีตกใจตื่นเมื่ออาชะเบรครถกระทันหันเสียงดังจนเขาสะดุ้ง หันไปมองไกด์หนุ่มเห็นสีหน้าเข้มออกอาการแปลกๆ จึงหันมองตามสายตาแล้วถึงกับตาเบิกโพลง
ภาพชายผิวดำสามคนในชุดนุ่งน้อยห่มน้อยใบหน้าแต้มสีขาวเป็นจุดใหญ่ ๆ เต็มหน้าซีกซ้ายเหมือนกับลายอะไรสักอย่างทรงผมสีน้ำตาลแดงขอดหยิกติดหนังหัวมันลื่นคล้ายฉาบน้ำมัน หูยาวเกินปกติถ่วงด้วยหินสีดำก้อนเท่านิ้วหัวแม่มือ คอประดับตกแต่งด้วยลูกปัดหอยและกระดูกสัตว์นับสิบเส้น ยาวเกือบถึงเอวในมือถือหอกยืนจังก้าอยู่หน้ารถ หน้าตาขึงขังเสียจนน่าตกใจ
มีอะไรหรืออาชะ
ไม่แน่ใจ อาชะตอบสีหน้าไม่ค่อยดี แต่คงไม่มาร้าย
จะรู้ได้ยังไงภูบดีหน้าเครียดเหลือบมองธารวารีที่ยังหลับ เป็นห่วงหล่อนจับใจ
ถ้ามาร้ายเราคงไม่ได้มานั่งคุยกันแบบนี้พวกเขาจะจู่โจมไม่ให้ตั้งตัว
อาชะเปิดประตูจะลงไปภูบดีคว้าแขนหนุ่มเข้มไว้ สีหน้าหวั่นวิตก
เดี๋ยว แน่ใจนะว่าจะลงไป
อาชะพยักหน้าคว้าเป้สัมภาระของตัวเองลงจากรถคุยท่าทางพินอบพิเทาในขณะที่ชายสามคนผู้มาใหม่ล้อมหน้าล้อมหลัง
ท่ามกลางถนนเป็นหลุมเป็นบ่อเลียบทางรถไฟไปจิบูติ สองข้างทางเต็มไปด้วยเนินดินแดงสูงต่ำไร้ต้นไม้ไกลสุดตาไม่ใช่ทะเลทรายก็เหมือนทะเลทรายหากเกิดอะไรขึ้นใครจะรู้เห็น
ภูบดีนึกเป็นห่วงเปิดประตูลงไปสมทบแต่ฟังไม่รู้เรื่องและสามหนุ่มดูระแวงระวังมองเขาแบบไม่ไว้ใจ ไม่นานอาชะก็หันมาคุยหลังจากสามหนุ่มปีนขึ้นเนินดินแดงจากไป
ผมจะเอารถเข้าจอดข้างทางก่อนคุณสองคนรอตรงนี้สักครู่ใหญ่ ๆ นะครับ
ทำไม มีอะไรงั้นหรือภูบดีถาม สีหน้าไม่ค่อยดี
มีปัญหานิดหน่อยพวกเขาต้องการคนท้องถิ่นที่พูดอังกฤษสื่อสารกับอีกเผ่าได้ ผมคงต้องไปดูไม่งั้นไม่เผ่าใดก็เผ่าหนึ่งมีหวัง
เดี๋ยว! คนละเผ่าคุยกันคนละภาษาหรือไง ทำไมต้องมีล่าม
พวกลุ่มน้ำโอโมกับพวกทางเหนือน่ะครับ ต่างคนต่างภาษา
อาชะทิ้งท้ายไว้แค่นั้นแล้วผลุนผลันปีนขึ้นเนินดินแดงฝั่งเดียวกับชาวเผ่าทั้งสามไปภูบดีมองตามหน้าตื่นสงสัยที่ไกด์หนุ่มเอากระเป๋าเดินทางของตัวเองไปด้วย แต่เขาก็ได้แต่สงสัย
เกิดอะไรขึ้น
ภูบดีหันขวับมาทางต้นเสียงธารวารีในชุดเสื้อยืดแขนกุดกางเกงสี่ส่วนสีน้ำตาลผ้านิ่มลงยืนข้างตัวรถพร้อมกระเป๋ากล้องคู่ใจเขาพยักเพยิดไปทางที่ไกด์หนุ่มจากไปก่อนจะเดินมาหาหล่อน
อาชะขอไปธุระตรงโน้นให้เรารอที่นี่
ขอโทษนะ ฉันเผลอหลับไป
หล่อนหน้าเครียดมองไปทางเนินดินที่อาชะข้ามไปแล้วป้องมือบังแดดมองตามถนนไปสุดลูกหูลูกตา
อีกไกลไหมจะถึงดีเวล
ไม่น่าจะไกลแล้วนะอาชะบอกว่าพ้นเนินตรงโน้นไปนิดหนึ่งก็จะถึง
ธารวารีถอนใจหน้าเครียด ที่ผ่านมาถนนยังลาดยางดี ๆ แต่พอยิ่งใกล้ถึงชายแดนกลับเป็นดินแดงขรุขระมากขึ้นเรื่อยๆ และแคบลงเรื่อย ๆ เช่นกัน
แล้วเราต้องรออีกนานแค่ไหนกว่าอาชะจะกลับมา ฉันร้อนใจกลัวจะมืดซะก่อน
ตอบไม่ได้เดี๋ยวผมปีนขึ้นไปดู คุณรอในรถก่อนก็แล้วกัน ชายหนุ่มตอบแล้วเอาหลังมือแตะหน้าผาก
ทะ... ทำอะไร! หล่อนอุทานแล้วผงะออกห่าง
ไข้ขึ้นจริงๆ ด้วยถึงว่าตาลอยๆ มียาแก้ไข้ติดมารึเปล่าเขาถาม
หล่อนส่ายหน้าทันทีแทบไม่ต้องคิดชายหนุ่มเหลียวซ้ายแลขวาแล้วนึกได้ เอื้อมหยิบกระเป๋าเดินทางเปิดหยิบเอาผ้าขนหนูผืนเล็กและยาแก้ไข้หวัดยื่นให้หล่อนพร้อมขวดน้ำที่พร่องไปกว่าครึ่ง
กินขนมปังที่เหลือซะจะได้กินยาแล้วก็นั่งรอในนี้แหละ ถ้าร้อนมากเอาผ้าขนหนูชุบน้ำเช็ดลดไข้ไปก่อน
ธารวารีมองตามหลังร่างสูงปราดเปรียวปีนเนินดินแดงข้ามไปอีกฝั่งจนลับสายตา ถนนโล่งจนน่าใจหายไม่มีรถแล่นผ่านมาแม้สักคัน หยิบขนมปังฉีกกินสองสามคำตามด้วยยาและน้ำหวังให้ดีขึ้น หล่อนต้องแข็งแรงเพื่อจะได้ตามรุจิภพได้ตลอดรอดฝั่ง
นึกสงสัยคู่หูจำเป็นที่เขาช่างรู้มากรู้ได้อย่างไรว่าหล่อนซ่อนอาการเจ็บไข้เอาไว้ หรือมันบ่งบอกทางสีหน้า ได้แต่คิดสงสัยไม่ทันดูว่าภูบดีกลับมาและส่งเสียงเรียกหล่อนจนสะดุ้ง
คุณ! แย่แล้วละ
เกิดอะไรขึ้น
อาชะไปแล้ว! เขาฝากจดหมายนี้ให้คนเอามาให้
ขาดคำของชายหนุ่มที่ยืนโบกแผ่นกระดาษไหวๆอยู่นอกหน้าต่าง หล่อนถึงกับพรวดลงจากรถวิ่งขึ้นเนินดินไปดูให้เห็นกับตา
ภาพที่เห็นคือทุ่งดินแดงเต็มไปด้วยหินก้อนเล็กก้อนน้อยแห้งแล้งแทบไม่มีต้นไม้ มีเพียงบึงน้ำเล็ก ๆดสีขุ่นใช้ดื่มกินหรือแม้แต่อาบก็ไม่ได้ดกลุ่มชนเผ่าสองกลุ่มแยกย้ายกันไปคนละทางด้วยพาหนะอูฐและลาเทียมสิ่งของหล่อนไม่เห็นอาชะอยู่ในขบวนใด หรือเพราะมันไกลเกินไปจนมองแทบแยกแยะไม่ออกว่าใครเป็นใคร
เป็นไปได้ยังไง!ทำไมทิ้งกันแบบนี้
ผมจะไปตาม ภูบดีตั้งท่าวิ่ง คุณรอตรงนี้นะ
ธารวารีคว้ามือชายหนุ่มไว้มือของหล่อนเย็นเฉียบจนภูบดีหันกลับมามอง
อย่าไป หล่อนค้าน อันตราย
แต่ผม
ภูบดีแย้งแต่เมื่อเห็นท่าทางหล่อนดูแย่กว่าที่คิด ชายหนุ่มตรงเข้าโอบไหล่ปลอบเมื่อเห็นธารวารียืนโงนเงน
คุณจะไหวไหม
ฉันยังไหว แต่ทำไมเขาทิ้งเราได้ ธารวารี ถามหน้าเครียด ไม่ห่วงเรา ฉันยังเข้าใจ แต่นี้เขาไม่ห่วงรถเลยหรือไงถึงทิ้งไปเฉยๆ แบบนี้
ผมก็ไม่รู้ เขาอาจจะมีเรื่องจำเป็นถึงบอกที่อยู่ที่จะให้เราเอารถไปคืนตอนขากลับไว้ในจดหมายด้วย ภูบดีก็หน้าเครียดไม่ต่างกัน
เราสองคนต้องไปดีเวลกันเองแล้วละ
ธารวารีคว้าจดหมายแผ่นเล็กตัวหนังสืออังกฤษหวัดอ่านแทบไม่ออกแล้วหันมามองชายหนุ่ม สีหน้าเหมือนจะร้องไห้แล้วทรุดนั่งกับพื้นดินหมดแรง...
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
เลือกโจทย์ลุยล่าท้าเขียน โจทย์ที่สองไว้แล้วแต่ยังขี้เกียจเขียนอยู่เลย
ขอลงนิยายก่อนแล้วค่อยลุยต่อโจทย์สองหลังงานตะพาบค่ะ
หมู่นี้อินดี้ผิดปกติ อิอิ เขียนไม่ค่อยออกเลยค่ะ
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ขอบคุณของแต่งบล็อกจากคุณยายเก๋าและคุณญามี่ค่ะ
ขอบคุณที่ติดตามอ่านค่ะ
บล็อกนิยายขอปิดคอมเมนต์ก่อนนะคะ
ค่อยมาใหม่งานตะพาบค่า
^______^