เดินทัพวันที่ 38 สงครามไขมัน (FAT WAR # 5) กินให้เหมาะสมกับร่างกาย
วันอาทิตย์ที่ 7 พ.ย. 53
วันนี้วันหยุดค่ะ หลาย ๆ คนเริ่มระวังการทานมากเกินไป จนอาจเข้าสู่โหมดประหยัดพลังงานได้ จึงเอาบทความที่เขียนเอาไว้มาให้อ่านกันอีกรอบค่ะมาทบทวนพร้อมกันนะจ้ะ
บทเรียนที่ 8 กินให้เหมาะสมกับร่างกาย
น้อง ๆ หลาย ๆ คนคงเคยสงสัยว่า เราจะต้องกินอาหารปริมาณเท่าไรน๊า จึงจะพอดีกับความต้องการของร่างกาย (ขอขีดเส้นใต้ คำว่า พอดีต่อร่างกายค่ะ) และจะต้องให้พลังงานกี่แคลอรี่ การที่เราจะคิดคำนวณตัวเลขเหล่านี้อาจจะดูวุ่นวายนิดหน่อย แต่สำคัญมากในการดำดงชีวิตร่วมกับหุ่นสวยของเราค่ะ พี่ปลาจะแนะนำเป็นตัวเลขพอประมาณได้ดังนี้คือ ความต้องการในวัยผู้ใหญ่ที่นั่งทำงานในที่ทำงานทั่วไป 30 กิโลแคลอรี่ ต่อน้ำหนักตัว 1 กก. ต่อวัน เช่น หนัก 65 กก. ก็ต้องการพลังงานวันละ 1950 กิโลแคลอรี่ และอาจปรับเพิ่มมากขึ้นตามกิจกรรมที่ทำ
ถ้าอยากจะคำนวณให้ละเอียดก็อาจจะลองใช้สมการพื้นฐานอันนี้ก็ได้ สำหรับวัยผู้ใหญ่ (อิอิ ห้องลดน้ำหนักเราคงไม่ค่อยมีวัยเด็กเนอะ ) เช่น
* ผู้ชาย มีความต้องการพลังงานพื้นฐานสำหรับการทำงานของร่างกาย = 879 + (10.2 x น้ำหนักตัว (กก))
เช่น ผู้ชายหนัก 70 กก. มีความต้องการพลังงานพื้นฐานเท่ากับ 879 + (10.2 x 70) = 1,593 กิโลแคลอรี่ แล้วต้องคูณด้วยค่าคงที่ ประมาณ 1.4 เพื่อเพิ่มพลังงานสำหรับการทำงานประจำวันของเรา ดังนั้นใน 1 วัน ผู้ชาย น้ำหนัก 70 กิโลกรัม ที่ทำงานออฟฟิตต้องการพลังงานจากอาหาร
= 1,593 x 1.4 = 2,230 กิโลแคลอรี่ต่อวัน
* ผู้หญิง มีความต้องการพลังงานพื้นฐานสำหรับการทำงานของร่างกาย = 795 +( 7.18 x น้ำหนักตัว (กก))
เช่น ผู้หญิงหนัก 65 กก. มีความต้องการพลังงานพื้นฐานเท่ากับ 795 + (7.18 x 65) = 1,262 กิโลแคลอรี่ แล้วต้องคูณด้วยค่าคงที่ ประมาณ 1.4 เพื่อเพิ่มพลังงานสำหรับการทำงานประจำวันของเรา ดังนั้นใน 1 วัน ผู้หญิง น้ำหนัก 65 กิโลกรัม ที่ทำงานออฟฟิตต้องการพลังงานจากอาหาร
= 1,262 x 1.4 = 1,766 กิโลแคลอรี่ ต่อวัน
น้องหลายคนอาจรู้สึกว่าค่อนข้างยุ่งยาก คำนวณได้แล้วว่าต้องการวันละเท่าไหร่แล้ว ยังต้องมาคำนวณอีกว่า ปริมาณอาหารเท่าไหร่จึงจะให้พลังงานเท่านี้
พี่ปลาอยากจะเสนอแนะว่า ให้เราลองมาคิดว่าตัวเราเอง เป็นอย่างไร น้ำหนักปกติ น้ำหนักเกิน หรืออ้วนระดับไหน ต้องการอะไร เพิ่มหรือลดน้ำหนัก ถ้าต้องการเพิ่มก็กินให้มากขึ้น ถ้าต้องการลดก็ทำแบบที่บอกให้
เท่านี้ก็สามารถเพิ่มหรือลดควบคุมตัวเองได้สบาย ๆ (ก็เข้าห้องเรียนมาสักระยะนึง ในการควบคุม และมีวินัยแล้วนี่คะ ต่อไปนี้ก็สบายล่ะ ) ที่สำคัญมาก ๆคือ จดทุกสิ่งทุกอย่างที่กินเข้าปาก แล้วเราก็นำมาปรับให้เข้ากับตัวเรา ไม่มากไม่น้อย (ซึ่งเราทำอยู่แล้ว) แค่นี้เราก็ชนะสงครามนี้สบาย ๆ แน่นอนจ้ะ
มาดูวิธีการเลือกกินอย่างมีสติกันดีกว่าค่ะ พี่ปลาจะเปรียบเทียบให้ดูนะคะ ระหว่าง อาหารปกติ ที่ให้พลังงานสูง โปรตีนสูง และปรับเป็นอาหารปกติ ที่ให้พลังงานปานกลาง โปรตีนสูง
เช่น อาหารเช้า
อาหารปกติ ที่ให้พลังงานสูง โปรตีนสูง คือ กาแฟ + น้ำตาลเทียม + นมพร่องมันเนย ไข่ดาว ไส้กรอก ขนมปังทาเนย Whole Wheat ปรับเป็นอาหารพลังงานปานกลาง
อาหารปกติ ที่ให้พลังงานปานกลาง โปรตีนสูง คือ กาแฟ + น้ำตาลเทียม + นมพร่องมันเนย ไข่ดาว แฮม ขนมปัง Whole Wheat
ปรับเป็นอาหารพลังงานต่ำ
อาหารปกติ ที่ให้พลังงานต่ำ โปรตีนสูง คือ กาแฟดำเปล่า ๆ นมพร่องมันเนย ไข่ดาวทอดกับน้ำ ไก่อบไม่หนัง 1 ชิ้น ขนมปัง Whole Wheat
หรือ
อาหารปกติ ที่ให้พลังงานสูง โปรตีนสูง คือ ข้าวต้ม กุนเชียงทอด หมูสับปลาเค็ม ยำผักกาดดอง
ปรับเป็นอาหารพลังงานปานกลาง
อาหารปกติ ที่ให้พลังงานปานกลาง โปรตีนสูง คือ ข้าวต้ม หมูหยอง ปลานึ่ง ผักบุ้งผัด
ปรับเป็นอาหารพลังงานต่ำ
อาหารปกติ ที่ให้พลังงานต่ำ โปรตีนสูง ข้าวต้ม หมูอบ ปลานึ่ง ผักบุ้งผัดไม่น้ำมัน
ลองมาทำกันดูนะ พี่ปลาหวังว่า สาว ๆ ที่น่ารักของพี่ปลาจะมีความสุขกับการลดน้ำหนักมากขึ้น (อ๋อ อันนี้สำหรับช่วง 3-4 นะจ้ะ)
ข้อมูลอ้างอิงในการเขียนบทความ : หนังสือ อร่อยได้ อร่อยดี ไม่มีอ้วน โดย รศ.ดร.ปรียา ลีฬหกุล
Create Date : 07 พฤศจิกายน 2553 |
|
41 comments |
Last Update : 13 เมษายน 2554 11:47:51 น. |
Counter : 404 Pageviews. |
|
|
|
อิอิ ได้เจิมมมม.... ร่วย