Group Blog
All Blog
|
ทนายอ้วนชวนเที่ยวอยุธยา - พระที่นั่งเวหาสน์จำรูญ พระราชวังบางปะอิน อยุธยา สถานที่ท่องเที่ยว : พระที่นั่งเวหาสน์จำรูญ พระราชวังบางปะอิน อยุธยา, อยุธยา Thailand พิกัด GPS : 14° 14' 2.83" N 100° 34' 50.45" E ช่วงนี้ไม่ได้ออกไปเที่ยวที่ไหนเลยตั้งแต่ปลายเดือนมีนาคม อยู่บ้านตลอดครับ ออกไปหน้ารั้วบ้านยังไม่ค่อยออกไปเพราะก่อนเข้าประตูบ้านจะต้องพ่นแอลกอฮอร์ทั้งตัว ถูเจลทีมือถึงข้อศอก แล้วก็รีบเข้าไปล้างมือด้วยสบู่พร้อมกับร้องเพลง “ช้าง ช้าง ช้าง” 2 รอบ อิอิอิ ช่วงนี้เลยเป็นการเคลียร์คลังรูปสถานที่ท่องเที่ยวที่เคยไปมา (นาน) แล้ว แต่ยังไม่ได้เอามาโพสครับ บล็อก “ท่องเที่ยวไทย” ในซีรี่ย์นี้เราจะพาไปเที่ยวพระราชวังบางปะอินกันครับ .... อย่าเพิ่งเบื่อนะครับที่พาเที่ยวทีละสถานที่ อยากให้ทราบประวัติความเป็นมาให้ละเอียดครับ หรือถ้าใครขี้เกียจอ่านก็เลื่อนเร็วๆ ดูรูปไปอย่างเดียวก็ได้ครับ บล็อกที่แล้วเจ้าของบล็อกได้พาเที่ยวชมพระที่นั่งอุทยานภูมิเสถียร อันเป็นพระที่นั่งประธานในพระราชวังบางปะอิน สถานที่ท่องเที่ยวในบล็อกนี้ก็อยู่ติดๆกับพระที่นั่งอุทยาภูมิเสถียรครับ พระที่นั่งเวหาศน์จำรูญ พระราชวังบางปะอิน ในพระราชวังแห่งนี้มีพระที่นั่งองค์หนึ่งเป็นที่รู้จักกันดี ด้วยเพราะรูปแบบสถาปัตยกรรมที่แปลกออกไป ทำให้ พระที่นั่งเวหาศน์จำรูญ หรือที่เรียกกันเล่นๆ ว่า พระที่นั่งเก๋งจีน กลายเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ของพระราชวังบางปะอินไปโดยปริยาย พระที่นั่งองค์นี้มีนามในภาษาจีนว่า เทียน เม่ง เต้ย (天明殿 อ่านแบบจีนกลางว่า เทียน หมิง เตี้ยน) แปลเป็นไทยว่า พระที่นั่งฟ้าสว่าง (เทียน แปลว่า เวหา , เม่ง แปลว่า จำรูญ , เตี้ยน แปลว่า พระที่นั่ง) ใช้เวลาในการสร้างประมาณ 10 ปี และเป็นพระที่นั่งองค์สุดท้ายที่สร้างขึ้นในรัชกาลที่ 5 พระที่นั่งเวหาศน์จำรูญ สร้างเมื่อ พ.ศ. 2432 ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เพื่อใช้เป็นพระที่นั่งสำหรับประทับในฤดูหนาว พระที่นั่งนี้เคยใช้เป็นที่รับรองเจ้านายต่างประเทศหลายคราวในสมัยรัชกาลที่ 5 พระที่นั่งเวหาศน์จำรูญ เป็นของถวายของข้าราชการกรมท่าซ้าย คือ พ่อค้าใหญ่ชาวจีน โดยมีพระยาโชฎึกราชเศรษฐี (ฟัก โชติกสวัสดิ์) เป็นนายงาน หลวงสาทรราชายุตก์ (ยม พิศลยบุตร) หลวงโภคานุกุล (จื๋ว) เป็นผู้ควบคุมในการก่อสร้าง และสมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ พระองค์เจ้าทองแถม กรมหมื่นสรรพศาสตร์ศุภกิจ เป็นผู้ควบคุมดูแล เมื่อพระที่นั่งสร้างเสร็จ รัชกาลที่ 5 โปรดเกล้าฯ จัดให้มีพระราชพิธีเฉลิมขึ้นพระที่นั่งตามแบบจีน เมื่อวันที่ 27 - 31 ธันวาคม พ.ศ. 2432 พระที่นั่งเวหาศน์จำรูญ มีรูปแบบสถาปัตยกรรมเป็นแบบจีน เป็นอาคาร 2 ชั้น พระที่นั่งก่อด้วยอิฐฉาบปูน หลังคาทรงอ่อนโค้ง มุงกระเบื้องลอนเคลือบสีเหลือง และประดับสัญลักษณ์มงคลแบบจีน กลางสันหลังคาประดับรูปมังกรดั้นเมฆ ชั้นล่างของพระที่นั่งเวหาศน์จำรูญนั้น ใช้เป็นห้องพระบรรทมพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งจะอยู่ทางทิศตะวันออกของพระที่นั่ง และใช้เป็นท้องพระโรง สามารถแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ ท้องพระโรงล่าง และท้องพระโรงบน บริเวณทางขึ้นท้องพระโรงบนนั้นมีแผ่นหินอ่อนเป็นตราสัญลักษณ์ลัทธิเต๋าของจีนรูปหยินหยางประดับไว้ พระราชอาสน์ของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวตั้งอยู่ตรงกลาง ท้องพระโรงล่างปูกระเบื้องเคลือบจากจีน มีลายรูปสัตว์ ต้นไม้และบุคคลจากเทพปกรณัมจีน คานด้านบนท้องพระโรงติดป้ายอักษรไทยเลียนแบบอักษรจีนว่า เทียนเม่งเต้ย ประดับโดยรอบอาคารด้วยไม้แกะสลักเป็นเรื่องราวจากวรรณคดีเรื่องสามก๊ก พระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัวยังโปรดเกล้าฯ ให้คัดลอกแผ่นป้ายคำโคลงสรรเสริญข้าราชการที่ทำคุณความดี 9 บท 17 แผ่นป้าย มาประดับไว้ด้วย ส่วนท้องพระโรงบน เป็นห้องประชุมเสนาบดี และใช้เป็นที่ประทับของรัชกาลที่ 5 โดยมีการตั้งป้าย 8 เหลี่ยมซึ่งเขียนเป็นภาษาจีนว่า "เทียน เหมง เต้ย" และ "ว่าน ว่าน ซุย" ซึ่งแปลว่า ทรงพระเจริญหมื่น ๆ ปี และที่เพดานท้องพระโรงมีอักษรไทยที่เขียนเลียนแบบอักษรจีนเป็นคำว่า "กิม หลวน เต้ย" ซึ่งแปลว่า โอรสจากสวรรค์ ห้องชั้นบนของพระที่นั่งเวหาศน์จำรูญ ประกอบด้วย 4 ห้องใหญ่ ได้แก่ ห้องบรรทมสมเด็จพระบรมราชินีนาถ ห้องบรรทมพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ห้องทรงพระอักษร และห้องพระป้าย (ครั้งล่าสุดที่เจ้าของบล็อกไปเที่ยวบางปะอิน ชั้นบนพระที่นั่งห้ามขึ้นครับ แต่ตอนเด็กๆจำได้ว่าขึ้นไปชมข้างบนได้ครับ) ห้องทรงพระอักษรตั้งอยู่ในทางทิศใต้ของพระที่นั่ง ภายในห้องมีโต๊ะทรงพระอักษรของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวตั้งอยู่ ปัจจุบันใช้เป็นที่เก็บหนังสือภาษาจีนในรัชสมัยรัชกาลที่ 5 ห้องพระป้าย อยู่ติดกับห้องทรงพระอักษรเป็นที่ประดิษฐานพระวิมาน 3 องค์ติดต่อกัน เรียงจากทิศตะวันตกไปตะวันออก ทำด้วยไม้แกะสลักลวดลายต่าง ๆ ลงรักปิดสีทอง ช่องตะวันตกเป็นสถานที่ประดิษฐานพระป้ายจารึก (อักษรจีน) พระปรมาภิไธยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และ พระนามาภิไธย สมเด็จพระเทพศิรินทราบรมราชินี สมเด็จพระอัครมเหสีในรัชกาลที่ 4 ซึ่งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นเมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2433 ช่องกลางเป็นสถานที่ประดิษฐานพระพุทธรูปในการประกอบพระราชพิธีสังเวยพระป้าย ช่องตะวันออกเป็นสถานที่ประดิษฐานพระป้ายจารึก (อักษรจีน) พระปรมาภิไธย พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และ พระนามาภิไธย สมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ ซึ่ง พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2470 นอกจากนี้เสาด้านหน้าพระวิมานได้แขวนป้ายสุภาษิตจีนได้ ด้ายซ้ายแปลว่า "ในหมู่ชนจะหาความสามัคคีธรรมเสมอพี่น้องได้ยาก" และด้านขวาแปลได้ว่า "ในใต้หล้าจะหาความผิดในพ่อแม่ไม่มี" นอกจากนี้ยังมีห้องอีก 2 ห้อง ได้แก่ ห้องบรรทมพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และห้องบรรทมสมเด็จพระบรมราชินีนาถ โดยห้องบรรทมสมเด็จพระบรมราชินีนาถนั้น ตั้งอยู่ด้านทิศตะวันออกของพระที่นั่ง ภายในมีพระแท่นบรรทม 2 องค์ สำหรับทรงใช้ในฤดูร้อนและฤดูหนาว เพดานเหนือพระแท่นมีการแกะสลักลายมังกรดั้นเมฆ ซึ่งหมายถึงพระมหากษัตริย์ที่คอยปกป้องคุ้มครองพระมเหสี ปัจจุบัน พระที่นั่งเวหาศน์จำรูญ ใช้เป็นสถานที่ประกอบพระราชพิธีสังเวยพระป้ายเป็นประจำทุกปี เกร็ดความรู้เกี่ยวกับพระราชพิธีสังเวยพระป้าย พระป้ายหรือที่ชาวจีนเรียกว่า เกสิน หมายถึง ป้ายชื่อของบรรพบุรุษ บุพการีที่ตั้งไว้สำหรับบูชาประจำบ้าน เพราะธรรมเนียมจีนเคารพนับถือความกตัญญูกตเวทีต่อบรรพบุรุษ การบูชาเซ่นสรวงแสดงว่าเป็นคนดีมีความกตัญญูกตเวทีต่อบรรพบุรุษ ซึ่งจะส่งผลให้เกิดความเจริญรุ่งเรืองแก่ผู้ปฏิบัติ พระป้ายดังกล่าวมีอยู่ 2 ที่ พระป้ายแรกคือพระป้ายที่เป็นพระปรมาภิไธยของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว กับพระนามาภิไธยสมเด็จพระเทพศิรินทราบรมราชินี และพระป้ายที่สองเป็นพระปรมาธิไธยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว กับพระนามาภิไธยสมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ จารึกไว้เป็นภาษาจีนบนแผ่นไม้จันทน์ปิดทอง ขอบไม้จันทน์จำหลักลายจีน พระป้ายทั้ง 2 คู่ ประดิษฐานอยู่ในซุ้มเรือนแก้วแบบเก๋งจีน ทำด้วยไม้จันทน์จำหลักลายลงรักปิดทอง ตั้งอยู่ ณ ชั้นสองของพระที่นั่งเวหาศน์จำรูญ พระราชวังบางปะอิน ส่วนอีกแห่งนั้นเป็นพระป้ายที่พระที่นั่งอัมพรสถานพระราชวังดุสิต มีลักษณะเป็นเทวรูปหล่อทรงเครื่องกษัตริยาธิราช พระหัตถ์ขวาทรงพระแสงขรรค์ พระหัตถ์ซ้ายจีบเสมอพระอุระ เหมือนกับองค์พระสยามเทวาธิราช แต่พระพักตร์ลักษณะเหมือนพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ประดิษฐานในซุ้มเรือนแก้วแบบเก๋งจีน ทำด้วยไม้จันทน์จำหลักลงรักปิดทองมีฉัตรทอง 4 ชั้น ตั้งอยู่ 2 ข้าง จารึกพระปรมาภิไธย ด้านหลังซุ้มเรือนแก้วเป็นภาษาจีน ส่วนพระราชพิธีสังเวยพระป้ายนั้นเริ่มมีมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 กำหนดการแต่เดิมจะสังเวยที่พระที่นั่งเวหาศน์จำรูญก่อน 1 วัน ซึ่งตรงกับวันไหว้ของจีน ส่วนที่พระที่นั่งอัมพรสถานจะสังเวยในวันขึ้น 1 ค่ำ เดือน 1 ของจีน ซึ่งเป็นวันตรุษจีน เครื่องสังเวยจะเป็นเครื่องคู่ประกอบด้วย หัวหมู เป็ด ไก่ ขนมเข่ง ขนมเปี๊ยะ ซาลาเปา ผลไม้ กระดาษเงิน กระดาษทอง วิมานเทวดาทำด้วยกระดาษผ้าสีชมพู ประทัด ดอกไม้ ธูป เทียนเงิน เทียนทอง กำหนดการพระราชพิธีนั้น เมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินถึง จะทรงจุดธูปเทียน เครื่องราชสักการะ และธูปหางปักที่เครื่องสังเวย พนักงานประโคมฆ้องชัย สังข์ แตร ดุริยางค์ ก่อนเสด็จพระราชดำเนินกลับจะทรงเผากระดาษเงิน กระดาษทอง เมื่อธูปที่เครื่องสังเวยหมดดอก เจ้าหน้าที่จึงถอนเครื่องสังเวยและนำวิมานเทวดาไปปักในแจกันที่ใต้เครื่องบูชาพร้อมทั้งผูกผ้าสีชมพู เป็นเสร็จพิธี สำหรับความสำคัญของห้องทรงพระอักษรนี้ พระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่6 ทรงใช้เป็นที่ทรงพระอักษร พระราชนิพนธ์บทละครคำฉันท์เรื่องที่เยี่ยมที่สุดในประเทศไทยเรื่องหนึ่งคือ “มัทนะพาธา” หรือที่ถูกเรียกขานกันว่า “ตำนานรักดอกกุหลาบ” นั่นเอง พระที่นั่งเวหาศน์จำรูญ ได้เริ่มดำเนินการซ่อมแซมในปีพ.ศ. 2534 แล้วเสร็จในปีพ.ศ. 2536 หลังคาพระที่นั่งได้เปลี่ยนกระเบื้องเป็นสีเดียวกันคือสีเหลือง โดยสั่งทำขึ้นใหม่และคงรูปแบบเดิมไว้ พื้นรองรับหลังคาดำเนินการเทปูนทับแผ่นไม้ ฝ้าเพดานรื้อลงมาซ่อมและเปลี่ยนในส่วนที่ชำรุดทั้งหมด ดำเนินการปั้นปูนประดับหลังคาและเขียนสีขึ้นใหม่ตามแบบเดิม ส่วนพื้นห้องทรงพระอักษรชั้นบน เดิมเป็นปูนและปูพื้นด้วยกระเบื้องกังไสเขียนลายรองรับด้วยไม้แกะสลักลาย ได้ทำการรื้อกระเบื้อง เนื้อปูนและแผ่นไม้ออก ให้ชักร่องหลังไม้ให้ลึกพอประมาณและใช้เหล็กรูป T ฝังลงไปในร่องไม้ให้แข็งแรง จากนั้นจึงปูพื้นกลับไปตามเดิม ใต้ชั้นต่ำของพระที่นั่งส่วนทางเดินด้านในกะเทาะปูนที่หมดอายุออกและทำการฉาบปูนใหม่ทั้งหมด ห้องเล็กได้ทำชั้นเหล็กปูพื้นไม้ไว้จัดของและเก็บกระถางและกี๋สำหรับตั้งต้นไม้ นอกจากนี้ก็ยังเสริมคานรองรับพื้นระเบียงและขัดพื้นทาน้ำมันใหม่ เครื่องเรือนภายในพระที่นั่งได้นำมาทำความสะอาด กรมศิลปากรได้ประกาศขึ้นทะเบียนโบราณสถานในราชกิจจานุเบกษาเล่ม 98 ตอนที่ 177 วันที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2524 ขแบคุณที่พาไปเที่ยวจ้าคุณบอล
โดย: หอมกร วันที่: 18 ตุลาคม 2564 เวลา:14:07:02 น.
เพิ่งรู้เลยครับว่าพระราชวังบางปะอินมาศิลปะจีนแบบนี้ด้วย
ถึงว่าตอนทำรายงานส่งอาจารย์ถึงได้เกรด 3 เพราะไม่รู้อะไรเลยนี่เอง 5555555 สงสัยโควิดซา ต้องหาเวลาไปเที่ยวใหม่ซักรอบ 2 รอบครับ โตแล้วน่าจะดูรู้เรื่องขึ้นมาก โดย: จันทราน็อคเทิร์น วันที่: 18 ตุลาคม 2564 เวลา:15:02:10 น.
ว้าวๆๆๆ
สวยงามมากๆเลยครับคุณบอล เพิ่งเคยทราบและเคยเห็นภาพเป็นครั้งแรกเลย โดย: กะว่าก๋า วันที่: 18 ตุลาคม 2564 เวลา:15:10:28 น.
วันที่ไปคนเยอะเหมือนกันนะครับ ตอนผมไปคนไม่เยอะเท่าไหร่
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 18 ตุลาคม 2564 เวลา:16:09:03 น.
พระราชวังบางประอินนี่
ไปที ได้ครบเลยนะคะ จีนก็ได้ ฝรั่งก็ได้ บ้านแบบไทยๆก็มี อยากไปอีกจัง ปล ขอบคุณสำหรับคำอวยพรนะคะ เวเลซไปนวดมา ตอนนี้ดีขึ้นมานิดนึงแล้วค่ะ โดย: VELEZ วันที่: 18 ตุลาคม 2564 เวลา:23:00:23 น.
น่าจะมีให้ยืมชุดจีน
แต่งเดินถ่ายภาพ อยากแปลงร่างเป็นนางในวังหลวง คริ คริ โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 19 ตุลาคม 2564 เวลา:6:35:17 น.
เมื่อก่อนตอนเรียนจบใหม่ๆผมขี้อายมาก
ไม่ค่อยพูด แต่พอทำงานที่ร้านต้องเจอคนเยอะมาก ก็เลยฝึกพูดบ่อยครับ โควิดสองปีนี้ ทำให้ปิดร้านไป ไม่ได้พูดกับใครเลยนอกจากคนในครอบครัวครับ 555 โดย: กะว่าก๋า วันที่: 19 ตุลาคม 2564 เวลา:13:09:56 น.
จากบล๊อก
กับ ยอด ให้ตามหามาคุยกัน คงไม่อ่ะครับพี่ 5555 แต่ถ้าบังเอิญเจอก็พยักหน้าให้ได้ครับ เหอะๆ โดย: จันทราน็อคเทิร์น วันที่: 19 ตุลาคม 2564 เวลา:14:39:25 น.
พระที่นั่งเวหาศน์จำรูญสวยสดใสสไตล์จีนนะคะ
รายละเอียดแต่ละส่วนก็งดงามน่าชมมากค่ะคุณบอล ขอบคุณคุณบอลที่พาเที่ยว ขอบคุณที่แวะชมเมนูที่บ้านนะคะ โดย: Sweet_pills วันที่: 19 ตุลาคม 2564 เวลา:22:53:52 น.
|
BlogGang Popular Award#20
ทนายอ้วน
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 156 คน [?] Friends Blog
|