Group Blog
All Blog
|
ทนายอ้วนชวนเที่ยวอยุธยา - พระราชวังบางปะอิน อยุธยา สถานที่ท่องเที่ยว : พระราชวังบางปะอิน อยุธยา, อยุธยา Thailand พิกัด GPS : 14° 13' 58.04" N 100° 34' 44.62" E ช่วงนี้ไม่ได้ออกไปเที่ยวที่ไหนเลยตั้งแต่ปลายเดือนมีนาคม อยู่บ้านตลอดครับ ออกไปหน้ารั้วบ้านยังไม่ค่อยออกไปเพราะก่อนเข้าประตูบ้านจะต้องพ่นแอลกอฮอร์ทั้งตัว ถูเจลทีมือถึงข้อศอก แล้วก็รีบเข้าไปล้างมือด้วยสบู่พร้อมกับร้องเพลง “ช้าง ช้าง ช้าง” 2 รอบ อิอิอิ ช่วงนี้เลยเป็นการเคลียร์คลังรูปสถานที่ท่องเที่ยวที่เคยไปมา (นาน) แล้ว แต่ยังไม่ได้เอามาโพสครับ บล็อก “เที่ยวทั่วไทย” ในซีรีย์ต่อไปนี้เราจะไปเที่ยวพระราชวังบางปะอินกันครับ ถ้ามีคนพูดถึงพระราชวังบางปะอิน เจ้าของบล็อกมักจะนึกถึงนวนิยายเรื่อง “สี่แผ่นดิน” นึกถึงคำบรรยายถึงบางปะอินในหนังสือที่ว่า ... “บางปะอิน หมายถึง ท้องทุ่งอันกว้างใหญ่ที่มีน้ำเจิ่งนองและมีดอกบัวงามสล้าง เป็นที่มีอากาศโปร่งสบาย ร่มรื่นด้วยพันธุ์พฤกษชาติ มีสระและคลองเต็มไปด้วยน้ำใสสะอาด มีลมบริสุทธิ์พัดพามามิได้ขาด” ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช และนึกถึงภาพจำจากละคร “สี่แผ่นดิน” ตอนที่คุณเปรมนำเอาเรือขนมจีนไปให้คุณอาสาย พลอย และช้อย กินกลางลำคลอง บางปะอินยังมีความผูกพันกับเจ้าของบล็อกมากขึ้นไปอีกเมื่อพ่อของเจ้าของบล็อกได้เป็นโยมอุปัฎฐาก บวชพระรูปหนึ่งแล้วมาจำวัดเรียนหนังสืออยู่ที่วัดนิเวศธรรมประวัติ ที่ต้องนั่งกระเช้าข้ามน้ำไปตรงหน้าพระราชวังบางปะอิน พ่อจะมาเยี่ยมเยียนพระรูปนี้บ่อยๆ แล้วเลยมาเที่ยวพระราชวังบางปะอินทุกครั้ง จนกระทั่งเจ้าของบล็อกไปเรียนต่อต่างประเทศ ก็ได้ข่าวว่าพระรูปที่พ่อเป็นโยมอุปัฎฐากได้ลาสิขาไปแต่งงาน .... แม่เล่าว่าพ่อโกรธน่าดู ไม่ไปงานแต่งงาน ไม่ยอมลงมารับไหว้อีกด้วย ถือได้ว่าเจ้าของบล็อกโตมาแบบที่มีพระราชวังบางปะอินเป็นภาพข้างหลังจางๆ ....... มาร่วมย้อมรำลึกถึงความหลังวัยเด็กของเจ้าของบล็อกกันนะครับ พระราชวังบางปะอิน อยุธยา พระราชวังบางปะอิน ตั้งอยู่ในตำบลบ้านเลน อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา อยู่ห่างจากเกาะเมือง (อำเภอเมืองพระนครศรีอยุธยา) ลงมาทางทิศใต้ประมาณ 18 กิโลเมตร เป็นพระราชวังโบราณตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาที่สร้างขึ้นโดยสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง ด้วยเชื่อกันว่าเป็นที่ประสูติของพระองค์ พระราชวังบางปะอินได้ใช้เป็นสถานที่ที่ประทับแรมของพระมหากษัตริย์แห่งกรุงศรีอยุธยามาตลอดจนเสียกรุง มีเรื่องเล่าว่า เมื่อครั้งที่สมเด็จพระเอกาทศรถ ยังทรงดำรงพระยศพระมหาอุปราช วันหนึ่งพระองค์ได้เสด็จประพาสทางชลมารค เมื่อถึงบริเวณเกาะบางปะอินเรือพระที่นั่งถูกพายุใหญ่พัด ทำให้เรือพระที่นั่งล่มลง สมเด็จพระเอกาทศรถทรงว่ายน้ำขึ้นไปบนเกาะ เดิมชื่อว่า "เกาะบ้านเลน" และประทับอยู่กับชาวบ้าน ในระหว่างประทับ สมเด็จพระเอกาทศรถได้หญิงชาวเกาะเป็นบาทบริจาริกา มีนามว่า "อิน" จึงเป็นเหตุให้คนทั่วไปเรียกเกาะนี้ต่อมาว่า "เกาะบางปะอิน" (เป็นที่ที่ได้พบ (ปะ) กับ นางอิน) พระองค์ก็ทรงพานางอินนี้กลับไปกรุงศรีอยุธยาด้วย นางอินผู้นี้จึงเป็นพระสนมในเวลาต่อมา และมีพระราชโอรสด้วยกัน เล่ากันว่าพระราชโอรสพระองค์นั้น คือ สมเด็จพระเจ้าปราสาททอง เมื่อปี พ.ศ. 2175 หลังจากที่สมเด็จพระเจ้าปราสาททองทรงขึ้นครองราชย์แล้ว พระองค์ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างวัดขึ้นตรงบริเวณนิวาสสถานเดิมของพระมารดา และได้พระราชทานนามว่า "วัดชุมพลนิกายาราม" และได้สร้างพระที่นั่งองค์หนึ่งเพื่อฉลองการที่พระราชเทวีประสูติสมเด็จพระเจ้าลูกเธอพระนารายณ์ราชกุมาร (สมเด็จพระนารายณ์มหาราช) พระราชทานนามว่า "พระที่นั่งไอศวรรย์ทิพยอาสน์" พระราชวังบางปะอินจึงเป็นสถานที่ประทับของพระมหากษัตริย์ในฤดูร้อนสืบเนื่องกันมาจนกระทั่งกรุงศรีอยุธยาได้เสียแก่พม่าเมื่อปี พ.ศ. 2310 ซึ่งพระราชวังบางปะอินจึงได้ถูกปล่อยให้รกร้างไป พระราชวังบางปะอินกลับมาเป็นที่รู้จักอีกครั้งโดยสุนทรภู่ กวีเอกสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น ซึ่งได้ตามเสด็จพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชไปนมัสการพระพุทธบาทสระบุรี ได้เขียนบทประพันธ์ถึงพระราชวังบางปะอินไว้ในนิราศพระบาท รำพึงพายตามสายกระแสเชี่ยว ยิ่งแสนเปลี่ยวเปล่าในฤทัยถวิล สักครู่หนึ่งก็มาถึงบางเกาะอิน กระแสสินธุ์สายชลเป็นวนวัง อันเท็จจริงสิ่งนี้ไม่รู้แน่ ได้ยินแต่ยุบลในหนหลัง ว่าที่เกาะบางอออินเป็นถิ่นวัง กษัตริย์ครั้งครองกรุงศรีอยุธยา ครั้นมาถึงรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 พระองค์ได้เสด็จพระราชดำเนินผ่านพระราชวังบางปะอิน ทอดพระเนตรเห็นความร่มรื่นโดยรอบเป็นที่ต้องพระราชหฤทัย อีกทั้งยังเป็นเขตพระราชวังเก่าในสมัยกรุงศรีอยุธยา จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้บูรณะพระราชวังบางปะอิน โดยสร้างพระที่นั่งองค์หนึ่งเป็นที่ประทับ เรือนแถวสำหรับเจ้านายฝ่ายในหนึ่งหลัง พลับพลาริมน้ำ และพลับพลากลางเกาะ พร้อมทั้งปฏิสังขรณ์วัดชุมพลนิกายารามขึ้นใหม่ ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระวิสัยทัศน์ที่ยาวไกล โปรดการท่องเที่ยว พักผ่อนพระอิริยาบถ ซึ่งเป็นแนวความคิดของทางตะวันตก พระองค์ทรงพิจารณาเห็นว่าบางปะอินเป็นเกาะกลางน้ำ มึความเงียบสงบ มีเส้นทางการเดินเรือได้หลายทาง สมบูรณ์ด้วยพืชพันธุ์ธัญญาหาร และเป็นสถานที่เสด็จประพาสของพระบรมชนกนาถ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้มีการบูรณะพระราชวังบางปะอินครั้งใหญ่ เพื่อเป็นพระราชวังสำหรับเสด็จแปรพระราชฐานแห่งแรกของพระองค์ โดยการสร้างพระราชวังบางปะอินมีรูปแบบที่ผิดไปจากพระราชวังแบบจารีตเดิมมาก เช่น การผันน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาเข้ามาในพระราชวัง ทำให้พระราชวังบางปะอินมีลักษณะเป็นเกาะเล็กเกาะน้อย อยู่กลางทะเลสาบขนาดย่อมๆ (ซึ่งตรงกับรูปแบบการสร้างสิ่งก่อสร้างแบบโรแมนติคที่กำลังเป็นที่นิยมในยุโรปในขณะนั้น) โดยมี มิเตอร์โยอาคิม แกรซี่ (Mr. Jaochim Grassi) เป็นนายสถาปนิกหลักในช่วงปี พ.ศ. 2415 – 2420 มีการสร้างพระที่นั่ง พระตำหนัก และตำหนักต่าง ๆ ขึ้นมากมาย เพื่อใช้สำหรับแปรพระราชฐาน เป็นที่ประทับรับรองพระราชอาคันตุกะ และพระราชทานเลี้ยงในโอกาสต่าง ๆ ดังที่ปรากฏให้เห็นอยู่ในปัจจุบันนี้ การก่อสร้างพระราชวังบางปะอินแบ่งออกเป็น 3 ช่วงคือ ช่วงที่ 1 ปี พ.ศ. 2415 – 2419 ช่วงที่สอง ในปี พ.ศ. 2420 – 2426 และช่วงที่สาม ในปี พ.ศ. 2429 – 2432 ช่วงแรก ในปี พ.ศ. 2415 – 2419 มีการขุดขยายขนาดสระน้ำกลางพระราชวังให้มีขนาดใหญ่กว่าเดิม และโปรดฯให้จำลองแบบพระที่นั่งอาภรณ์พิโมกข์ปราสาทภายในพระบรมมหาราชวังมาสร้างพระที่นั่งไอศวรรย์ทิพยอาสน์ตั้งกลางน้ำที่สระน้ำใหญ่ จากนั้นจึงโปรดฯให้สร้างพระที่นั่งวโรภาษพิมาน เป็นอาคารท้องพระโรงที่มีรูปแบบสถาปัตยกรรมตะวันตก สร้างตำหนักวรนาฎเกษมสานต์ สภาคารราชประยูร ในช่วงที่ 2 ในปี พ.ศ. 2420 – 2426 ทรงโปรดฯ ให้สร้างพระที่นั่งอุทยานภูมิเสถียร เป็นที่ประทับส่วนพระองค์ โปรดฯให้สร้างหอสูงพระราชทานชื่อว่า หอวิทูรทัศนา เก๋งไม้ขนาดเล็ก พระราชทานชื่อว่า เก๋งบุปผาประพาส และก่อสร้างอาคารอื่นๆอยู่ด้วย ช่วงที่สาม ในปี พ.ศ. 2429 – 2432 โปรดฯให้สร้างพระที่นั่งรูปแบบสถาปัตยกรรมจีน พระราชทานชื่อว่า พระที่นั่งเวหาศจำรูญ บริเวณโดยรอบของพระราชวังบางปะอิน ประกอบไปด้วยเขตพระราชฐานชั้นนอก เขตพระราชฐานชั้นกลาง และเขตพระราชฐานชั้นใน เขตพระราชฐานชั้นนอก เป็นบริเวณด้านหน้าสุดของพระราชวัง ตั้งอยู่ทางด้านทิศใต้ เป็นพื้นที่ที่ติดกับแม่น้ำเจ้าพระยา มีลักษณะเป็นพื้นที่หวงห้ามน้อยซึ่งบุรุษเพศได้รับอนุญาตให้เข้าถึงได้โดยมีการรักษาความปลอดภัยน้อยกว่าเมื่อเทียบกับพื้นที่ส่วนอื่น ประกอบด้วย หอเหมมณเฑียรเทวราช หรือ ศาลพระเจ้าปราสาททอง มีลักษณะเป็นปรางค์ศิลาจำลองแบบจากปรางค์ขอม ภายในประดิษฐานเทวรูปพระเจ้าปราสาททอง ตั้งอยู่ ณ ริมสระน้ำใต้ต้นโพธิ์ พระที่นั่งไอศวรรย์ทิพยอาสน์ เป็นพระที่นั่งทรงปราสาท จำลองมาจากพระที่นั่งอาภรณ์ภิโมกข์ปราสาทในพระบรมมหาราชวัง รัชกาลที่ ๖ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระบรมรูปหล่อสำริดของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวขนาดเท่าพระองค์จริงในฉลองพระองค์เต็มยศจอมพลทหารบก เพื่อนำมาประดิษฐาน ณ พระที่นั่งองค์นี้จนถึงปัจจุบัน สภาคารราชประยูร เป็นตึก ๒ ชั้น ตั้งอยู่ริมน้ำ ใช้เป็นที่ประทับของสมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอฯ ในรัชกาลที่ ๕สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอเจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ และเจ้านายฝ่ายหน้า ปัจจุบันใช้เป็นที่แสดงนิทรรศการเกี่ยวกับพระราชวังบางปะอิน กระโจมแตร เป็นกระโจมขนาดกลางแบบ Gazebo สร้างในสมัยรัชกาลที่ ๖ ตั้งอยู่เยื้องกับพระที่นั่งไอศวรรย์ทิพยอาสน์ เรือนแพพระที่นั่ง เป็นเรือนแพแบบไทยสร้างด้วยไม้สักทอง หลังคามุงด้วยจาก ภายในจัดแบ่งห้องเป็นสัดส่วนรัชกาลที่ ๕ ทรงใช้เป็นที่ประทับในการเสด็จประพาสต้นและทรงสำราญพระอิริยาบถทางน้ำ โดยพระองค์เคยประทับเรือนแพพระที่นั่ง ไปทรงรับพระราชชายาเจ้าดารารัศมีจากเมืองเชียงใหม่ด้วย เขตพระราชฐานชั้นกลาง เป็นหัวใจสำคัญของพระราชวังบางปะอิน เป็นพื้นที่ที่อยู่บริเวณตอนกลางค่อนเข้าไปภายในของพระราชวัง มีลักษณะเป็นเกาะขนาดเล็กและขนาดใหญ่ถูกล้อมรอบด้วยผืนน้ำ มีลักษณะเป็นพื้นที่หวงห้ามปานกลาง จำเป็นต้องมีการอารักขาความปลอดภัย โดยบุรุษเพศที่สามารถเข้าไปในพื้นที่ได้นั้นต้องเป็นพระบรมวงศานุวงศ์ที่ใกล้ชิดเท่านั้น เพราะใช้เป็นที่ตั้งของอาคารที่ประทับของพระมหากษัตริยประกอบด้วย พระที่นั่งวโรภาษพิมาน เป็นอาคาร ๒ ชั้น ศิลปะแบบคอรินเทียนออร์เดอร์ รัชกาลที่ ๕ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นที่เสด็จออกว่าราชการและใช้เป็นที่ประทับ ปัจจุบันพระที่นั่งองค์นี้ยังใช้เป็นที่ประทับแรมของพระบรมวงศ์เมื่อเสด็จแปรพระราชฐานมาประทับ ณ พระราชวังบางปะอิน พระที่นั่งอุทยานภูมิเสถียร เป็นพระที่นั่งองค์ประธานของพระราชวังบางปะอิน เดิมเป็นเรือนไม้ ๒ ชั้น ทาสีเขียวอ่อนและเขียวแก่สลับกัน เมื่อปี พ.ศ.๒๔๘๑ เกิดไฟไหม้พระที่นั่ง และในปี พ.ศ.๒๕๓๗ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถในรัชกาลที่ ๙ จึงได้ขอพระบรมราชานุญาตให้สร้างพระที่นั่งองค์นี้ขึ้นมาใหม่ เพื่อเป็นที่ประทับในการเสด็จแปรพระราชฐานและรับรองพระราชอาคันตุกะ หอวิฑูรทัศนา ใช้เป็นที่ทอดพระเนตรโขลงช้างป่า และภูมิประเทศโดยรอบพระราชวัง เป็นหอสูง ๓ ชั้น ทาสีเหลืองสลับแดง เก๋งบุปผาประพาส สร้างขึ้นในรัชกาลที่ ๕ ทรงใช้เป็นที่พักผ่อนพระราชอิริยาบถภายในพระราชอุทยาน พระที่นั่งเวหาศน์จำรูญ เป็นพระที่นั่งองค์สุดท้ายที่สร้างขึ้น มีรูปแบบสถาปัตยกรรมจีน เป็นพระที่นั่งที่สร้างขึ้นโดยชาวสยามเชื้อสายจีนฮากกาเพื่อถวายแด่รัชกาลที่ ๕ และพระที่นั่งองค์นี้ยังใช้ประกอบพระราชพิธีสังเวยพระป้ายจนถึงปัจจุบัน ประตูเทวราชครรไล ปัจจุบันใช้เป็นพิพิธภัณฑ์รถม้าพระที่นั่ง รถม้าในประเทศไทยเริ่มใช้กันตั้งแต่สมัยต้นรัตนโกสินทร์ และแพร่หลายในสมัยรัชกาลที่ ๕ หลังจากที่พระองค์เสด็จกลับมาจากการประพาสยุโรป ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ ๖ ได้โปรดเกล้าให้จัดตั้งกรมพระอัศวราชขึ้น โดยให้มีหน้าที่จัดหารถม้าและม้าเพื่อใช้ในราชการ เขตพระราชฐานชั้นใน ตั้งอยู่ด้านในสุดของพระราชวัง ติดกับกำแพงพระราชวัง มีลักษณะเป็นพื้นที่หวงห้ามเด็ดขาด (restricted zone) เพราะเป็นพื้นที่ส่วนพระองค์ อาคารที่ตั้งในเขตพระราชฐานชั้นนี้มีเฉพาะกลุ่มพระตำหนักของพระบรมวงศานุวงศ์ฝ่ายใน และเรือนเจ้าจอมต่างๆ เท่านั้น ซึ่งบริเวณดังกล่าวจะเป็นเขตหวงห้ามสำหรับบุรุษเพศ ยกเว้นเฉพาะพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวและพระราชโอรสที่ยังไม่ได้โสกันต์ อนุสาวรีย์สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ เป็นอนุสาวรีย์ที่รัชกาลที่ ๕ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นเพื่อระลึกถึงสมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ ซึ่งสวรรคตในระหว่างการเสด็จแปรพระราชฐานมายังพระราชวังบางปะอิน อนุสาวรีย์ราชานุสรณ์ เป็นอนุสาวรีย์ที่รัชกาลที่ ๕ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นเพื่อระลึกถึงพระอรรคชายาเธอพระองค์เจ้าเสาวภาคย์นารีรัตน์ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอเจ้าฟ้าศิริราชกกุธภัณฑ์ , สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอเจ้าฟ้าพาหุรัดมณีมัย และสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอเจ้าฟ้าตรีเพ็ชรุตม์ธำรง ซึ่งสิ้นพระชนม์ภายในปีเดียวกัน ปัจจุบันพระราชวังบางปะอินอยู่ในความดูแลของสำนักพระราชวัง และยังใช้เป็นสถานที่แปรพระราชฐานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและพระบรมวงศานุวงศ์ รวมถึงประกอบพระราชพิธีสังเวยพระป้าย แต่ได้เปิดให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวเข้าชมได้ โดยต้องแต่งกายให้สุภาพ ในบล็อกต่อๆไปจะพาเที่ยวสถานที่ต่างๆในพระราชวังบางปะอินแบบเจาะลึกกันเลยทีเดียวครับ แวะมาเยี่ยมและส่งกำลังใจครับ
โดย: **mp5** วันที่: 16 สิงหาคม 2564 เวลา:11:23:01 น.
อาคารเก่าๆ
มีเสน่ห์ สวยงามมากเลยนะครับคุณบอล น่าไปเที่ยวครับ โดย: กะว่าก๋า วันที่: 16 สิงหาคม 2564 เวลา:11:29:27 น.
ไม่ได้ไปเที่ยวที่นี่หลายสิบปี ยังสวยและสวยกว่าเดิมครับ 555
โดย: ไวน์กับสายน้ำ วันที่: 16 สิงหาคม 2564 เวลา:12:28:59 น.
เห็นรูปแล้วคิดถึงพระราชวังบางประอินขึ้นมาเลยค่ะ เมื่อไรโควิดจะหมดไปเสียที อยากไปเที่ยวแล้ว
โดย: Emmy Journey พากิน พาเที่ยว วันที่: 16 สิงหาคม 2564 เวลา:13:41:01 น.
ได้ไปเหมือนกันครับ พักใหญ่ๆ แล้วเหมือนกัน^^
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 16 สิงหาคม 2564 เวลา:16:10:51 น.
ภาพสวยมาก
งดงามน่าเที่ยวมากค่ะคุณบอล ขอบคุณกำลังใจนะคะ โดย: Sweet_pills วันที่: 17 สิงหาคม 2564 เวลา:0:16:19 น.
ยังไม่เคยไปที่นี่เลยค่ะ ไปทีไรแวะแต่วัด ต้องไปสักครั้ง
โดย: kae+aoe วันที่: 17 สิงหาคม 2564 เวลา:8:14:01 น.
โควิดจาง..
ครอบครัว ตัว อ จะแต่งไทยย้อนยุค ไปเที่ยวนะคะ โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 17 สิงหาคม 2564 เวลา:11:20:07 น.
เหมือนจะยังไม่เคยไปเลยอ่า เหยยยยย เคยไปแต่ตลาดน้ำ
วัด กินกุ้ง ไม่ก็ไม่ศุนย์ศิลฯ เห็นรูปแล้วต้องแวะไปสักครั้ง วันหลังเอาวาซาบิมาอวดบ้างสิ ซนๆ เนี่ยะ น่ารักขนาดไหน โดย: nonnoiGiwGiw วันที่: 17 สิงหาคม 2564 เวลา:11:45:17 น.
ที่เห็นเขียวเป็นแถบยาวจากเบรืดอายวิว
เป็นต้นไม้จริงๆ เหรอคุณบอล โดย: หอมกร วันที่: 17 สิงหาคม 2564 เวลา:12:23:09 น.
เชียงใหม่แดดจ้าเช่นกันครับ
แต่เดี๋ยวฝนก็น่าจะตก ฟ้าครึ้มๆครับ โดย: กะว่าก๋า วันที่: 17 สิงหาคม 2564 เวลา:12:42:33 น.
ไม่ได้ไปแถวนี้นานมากเลยค่ะ
ทั้งที่ผ่านไปใกล้ทุกเดือน สงสารเฟิร์นก้านดำของคุณทนายจังนะคะ โดย: ภาวิดา คนบ้านป่า วันที่: 17 สิงหาคม 2564 เวลา:15:43:28 น.
ขอบคุณมากนะคะ พระราชวังบางปะอิน เราไปบ่อยเช่นกัน
ชอบมากๆ แต่ละสถานที่น่าสนใจที่สุด ถ่ายรูปเพลินจริงๆค่ะ ปล.ที่แซวๆไว้มีคลิปนะคะ แต่ยังตัดต่อไม่เสร็จคร้า คริ คริ โดย: Tui Laksi วันที่: 17 สิงหาคม 2564 เวลา:17:20:51 น.
สวัสดีมีสุขค่ะ
ไปสถานที่โบราณทีไร อิ่งอ้อยตลอดๆไม่อยากกลับค่ะ นั่งลูบนั่งคลำกระเบื้อผนัง พื้น ประจำ ชอบระเบียงทางเดินริมสระ ไม้ลายโปร่งงดงามค่ะ เคยไปมา2ครั้งยังอยากไปอีก โดย: ตะลีกีปัส วันที่: 17 สิงหาคม 2564 เวลา:18:12:06 น.
สวัสดีครับคุณบอล
เป็นพระราชวังที่สวยมากๆ เลย มีความ east meet west ครับ คุณบอลดีจังได้ไปชมที่จริงแล้ว ผมยังดูแต่รูปอยู่เลย สำหรับสี่แผ่นดิน ผมชอบเวอร์ชั่นละครของหม่อมน้อยนะครับ ได้ดูซ้ำยังประทับใจ ขอบคุณสำหรับกำลังใจนะครับ จากบล็อก อาจารย์ท่านี้วาดลายเส้นเป็นสไตล์นี้แต่เดิมน่ะครับ บวกกับพล็อตเรื่องและโลเกชั่นเรืองนี้เป็นโซนตะวันตกเลยยิ่งดูสมู้ทมากๆ โดย: มาช้ายังดีกว่าไม่มา วันที่: 17 สิงหาคม 2564 เวลา:23:16:01 น.
มาเที่ยวด้วยค่ะ เคยไปนานแล้ว ไว้กลับมาเมืองไทย จะไปเที่ยวอีกค่ะ โดย: newyorknurse วันที่: 18 สิงหาคม 2564 เวลา:5:14:43 น.
พระราชวังบางปะอินนี่ไปทัศนศึกษาตอน ม. ต้น กับ ม. ปลายครับ
ความจำได้คือร้อนมากกกกกก ด้วยความเด็กผู้ชายน่ะครับ ผมไม่ได้อะไรกลับมาเลย ได้มาอ่านบล๊อกพี่บอลนี่แหละครับว่าแต่ละสถานที่เรียกว่าอะไร มีความสำคัญมีความเป็นมายังไง จากบล๊อก ได้รับอนุมัติซื้อตู้แช่แล้วเยี่ยมยอดเลยครับ 2 ยี่ห้อ มิตชู กับแฮริเออร์ ผมว่าดีทั้งคู่นะครับ ที่บ้านเคยมีแฮริเออร์ ก็เย็นดีไม่มีแรงตก ผมเอาไอติมไปแช่ได้ 6 ควอท สบายเลย พี่บ๊อลลลลค้าบบบบบ อย่าชี้ช่องสิครับ เดี๋ยวนี้ SA บริการออนไลน์กันแล้ว แค่บอก แล้วโอนไว ได้ของแน่นอน ผมนี่มือสั่นเลย กลัวใจบอส.... โดย: จันทราน็อคเทิร์น วันที่: 18 สิงหาคม 2564 เวลา:11:03:36 น.
|
BlogGang Popular Award#20
ทนายอ้วน
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 156 คน [?] Friends Blog
|