ทะเลบัวแดง หนองหานกุมภวาปี
มารู้จักหนองหาน
หลายท่านคงเคยได้ยินชื่อหนองหาน อาจเคยนึกว่าเป็นเพียงหนองน้ำธรรมดา หนองหาน อำเภอกุมภวาปี จังหวัดอุดรธานี เป็นหนองน้ำขนาดใหญ่ มีพื้นที่ถึง 22,500 ไร่ อยู่ทางตอนเหนือของอำเภอกุมภวาปี มีลำห้วยไหลลงสู่หนองหาน 6 สาย
และหนองหาน ยังเป็นต้นกำเนิดสำคัญของลำน้ำปาว ไหลผ่านอำเภอกุมภวาปีไปทางทิศใต้แล้วผ่านจังหวัดกาฬสินธุ์ เลยไปลงแม่น้ำชี
ปัจจุบันหนองหานได้รับการพัฒนาเป็นแหล่งน้ำขนาดใหญ่ โดยมีการทำคันดิน ขนาดกว้าง 10 เมตร ยาว 80 กิโลเมตร ล้อมรอบหนองหานและสร้างฝายกั้นลำปาว บริเวณบ้านท่าม่วง ตำบลเวียงคำ อำเภอกุมภวาปี แต่หนองหานยังคงความยิ่งใหญ่ จนถูกประกาศให้เป็นพื้นที่ชุ่มน้ำที่สำคัญแห่งหนึ่งของประเทศไทย
ตำนานรักพญานาค เมืองล่มจมบาดาลที่หนองหาน
มีหมู่บ้านที่อยู่ติดริมหนองหานและอยู่ในอาณาบริเวณรวมแล้วประมาณ 60 หมู่บ้าน จึงไม่ต้องสงสัยเลยว่าหนองหาน มีความกว้างใหญ่เพียงใด และมีตำนานเรื่องราวเกี่ยวกับพญานาคที่มีชื่อเสียงว่า ตำนานผาแดงนางไอ่ ซึ่งคนในชุมชนยังมีความเชื่อในตำนานเรื่องนี้สืบต่อกันมายาวนาน ตำนานโบราณเกี่ยวกับหนองหานที่เล่าขานกันมาตั้งแต่โบราณ กล่าวไว้ว่า นางไอ่เป็นธิดาของพระราชาเมืองขอม ซึ่งมีสิริโฉมงดงาม เป็นที่หมายปองของเจ้าชายเมืองต่าง ๆ มีอยู่ปีหนึ่ง เมืองขอมประสบปัญหาฝนแล้ง เจ้าเมืองขอมจัดการแข่งขันบั้งไฟ และมีการจุดบั้งไฟเพื่อเสี่ยงทายขอฝน และหากบั้งไฟของใครขึ้นสูงที่สุด จะยอมยกธิดา คือนางไอ่คำ ให้เป็นภรรยา มีเจ้าชายจากนครต่าง ๆ เข้าแข่งขัน รวมทั้งท้าวผาแดงแห่งเมืองผาโพง
ฝ่าย ท้าวภังคี โอรสของพญานาค ในนครบาลดาล ทราบข่าว ก็ยกพลพญานาคปลอมตัวเป็นคนเข้ามา เข้าแข่งขันด้วย บั้งไฟของพญานาคภังคีไม่ชนะ แต่เมื่อภังคีได้ยลโฉมนางไอ่คำก็ไม่สามารถจะถอนใจรักได้ จึงปลอมตัวเป็นกระรอกเผือกมาในสวนดอกไม้ของนางไอ่คำ
ด้วยเคราะห์แต่ชาติปางก่อน นางไอ่คำเกิดคิดวิปริต ต้องการบริโภคเนื้อกระรอกเผือก จึงสั่งให้นายพรานตามล่ามาปรุงอาหาร และนายพรานก็ยิงกระรอกเผือกได้ ก่อนตาย กระรอกเผือก(พญานาคภังคี)ได้อธิษฐานว่า ใครก็ตามที่ได้บริโภคเนื้อของตนจงจมน้ำตายในบาดาล
นางไอ่คำได้นำเนื้อกระรอกมาปรุงอาหาร และแจกจ่ายเนื้อกระรอกไปทั้งเมือง ในคืนนั้นเองเกิดพายุฝนแผ่นดินไหว น้ำท่วมพัดพาผู้คนลงสู่หนองหานและท้องบาดาล
ฝ่าย ท้าวนาคราชบิดาของภังคี โกรธที่โอรสถูกฆ่า จึงพานาคจากเมืองบาดาลมาอาละวาดถล่มเมืองขอมจนสิ้น
ส่วนท้าวผาแดง เมื่อเห็นเมืองขอมถล่ม ได้พานางไอ่คำขึ้นม้าควบหนีไปทางทิศเหนือ หนีน้ำและบรรดาพญานาคที่ตามพ่นไฟไล่หลังมา วิญญาณแค้นของภังคีได้วนเวียนมาทวงความแค้น กับผาแดงนางไอ่ตลอดมาทุกชาติ
บริเวณที่พวกนาคถล่มจมพื้นบาดาล ได้กลายเป็นหนองหาน ณ ปัจจุบัน อยู่ในจังหวัดอุดรธานี เป็นต้นลำน้ำปาว มีเกาะต่าง ๆที่เหลือจากการล่ม คือ เกาะเกษ ดอนสวน ดอนเตา ดอนดินจี่ ดอนแอ่น และดอนหลวง มีสถานที่เป็นทางผ่านของผาแดง นางไอ่ เช่น ห้วยพ่นไฟ ห้วยสามพาด ห้วยน้ำฆ้อง ห้วยกองสี ฯลฯ ประชาชนรอบ ๆ หนองหาน ได้สร้างเจดีย์ วัด และสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ เพื่อเป็นที่สิงสถิตของวิญญาณ ผู้ที่ประสบเคราะห์กรรมจมน้ำตายในครั้งนี้ ได้แก่ พระธาตุจอมศรี ศาลท้าวผาแดง พระธาตุดอยหลวง พระธาตุบ้านเดียม พระธาตุเชียงแก้ว พระมหาธาตุเจดีย์(พระธาตุดอนแก้ว) เป็นต้น
ทะเลบัวแดง หนองหานกุมภวาปี หนองหาน นอกจากจะเป็นแหล่งน้ำธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยพันธุ์ปลา พันธุ์นก และพืชน้ำจำนวนมาก ซึ่งชาวบ้านที่อาศัยอยู่โดยรอบหนองหานได้พึ่งพา เป็นแหล่งอาหารแล้วนั้น
ยังมีระบบนิเวศน์ที่เป็นเอกลักษณ์ ซึ่งเป็นที่สนใจของนักวิชาการ จากมหาวิทยาลัยทั้งในประเทศและต่างประเทศ ได้มา ศึกษาค้นคว้าอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้แล้ว ธรรมชาติของหนองหาน ยังได้บรรจงสร้างทะเลบัวแดง สร้างความงดงามให้แก่หนองหานมากยิ่งขึ้น กล่าวคือ ในช่วงเดือนตุลาคมถึงเดือนมีนาคมของทุกปี ดอกบัวแดงในหนองหานซึ่งมีจำนวนมากจะงอกงามโผล่จากน้ำขึ้นมา
โดย เริ่มจากเดือนตุลาคม บัวเริ่มแตกใบและเริ่มออกดอกตูมและบานเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ บัวจะออกดอกมีปริมาณมากที่สุดในช่วงเดือนธันวาคม – กุมภาพันธ์และค่อย ๆ ลดปริมาณลงในเดือนมีนาคม ดอกบัวส่วนใหญ่จะบานในช่วงเช้าตรู่ถึงเที่ยง นักท่องเที่ยวจะมองเห็นบัวแดงบานเต็มท้องน้ำ สุดลูกหูลูกตางดงามอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ จึงเป็นที่มาของคำว่าทะเลบัวแดง
สืบสานวัฒนธรรมและส่งเสริมการท่องเที่ยว
จากจุดเด่นของหนองหานและตำนานเก่าแก่ ได้หล่อหลอมเป็นวัฒนธรรม และวิถีชีวิตของชาวบ้านที่อาศัยอยู่บริเวณรอบหนองหาน ให้เกิดความหวงแหน อนุรักษ์และพึ่งพาธรรมชาติจากหนองหานได้อย่างสมดุลและ ยั่งยืนมาจวบเท่าทุกวันนี้
อำเภอ กุมภวาปีร่วมกับเทศบาลตำบลเชียงแหว ตลอดจนกลุ่มองค์กร และภาคเอกชนในพื้นที่ โดยได้รับการสนับสนุนจากองค์การบริหารส่วนจังหวัด อุดรธานี จึงได้กำหนดจัดงานเทศกาลทะเลบัวแดงบาน หนองหานกุมภวาปี ประจำปี 2553 ในวันที่ 15-17 มกราคม 2553 รวม 3 วัน 2 คืน ณ วัดบ้านเดียม หมู่ที่ 5 ตำบลเชียงแหว อำเภอกุมภวาปี จังหวัดอุดรธานี
โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่ออนุรักษ์ และสืบสานวัฒนธรรมประเพณีของท้องถิ่นและเพื่อส่งเสริมให้หนองหาน เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดอุดรธานี
กิจกรรมในงานประกอบด้วยการสักการะพระมหาธาตุ เทพจินดา (พระธาตุบ้านเดียม) ล่องเรือชมธรรมชาติหนองหาน และทะเลบัวแดงชมการประกวดศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้าน การแข่งขันกีฬาหลายประเภท การแสดงของนักเรียน นักศึกษาและกิจกรรมอื่น ๆ อีกมากมาย
การเดินทางไปบ้านเดียม จาก เมืองอุดรธานีใช้ทางหลวงหมายเลข 2 (อุดรธานี-กุมภวาปี) ถึงกิโลเมตรที่ 26 เลี้ยวซ้ายไปตามเส้นทางห้วยสามพาด-อำเภอประจักษ์ศิลปาคม ประมาณ 18 กิโลเมตร นอกจากนี้นักท่องเที่ยวยังสามารถเที่ยวชมสถานที่ท่องเที่ยวอื่น ๆ ในอำเภอกุมภวาปี ได้แก่
- พระมหาธาตุเจดีย์ หรือพระธาตุดอนแก้ว นักโบราณคดีสันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในราวพุทธศตวรรษที่ 11-13 หรือ ประมาณพุทธศักราช 1100-1300 ตั้งอยู่ในวัดมหาธาตุเจดีย์ บ้านดอนแก้ว หมู่ที่ 5 ตำบลกุมภวาปี อำเภอกุมภวาปี จังหวัดอุดรธานี
- พระพุทธบารมีโลกาธิบดีดำรง (พระเจ้าใหญ่) เป็นพระพุทธรูปปางขอฝนภายในบรรจุพระบรม สารีริกธาตุ องค์พระรวมฐานสูง 30 เมตร ประดิษฐานอยู่ที่วัดโพธิ์ชัย บ้านพันดอน ตำบลพันดอน อำเภอกุมภวาปี จังหวัดอุดรธานี - พระมหาธาตุเทพจินดาหรือพระธาตุบ้านเดียม สร้างขึ้นในยุคใดไม่ปรากฏหลักฐาน ตั้งอยู่ในวัดบ้านเดียม ตำบลเชียงแหว อำเภอกุมภวาปี จังหวัดอุดรธานี
- พระธาตุจอมศรี หรือ พระธาตุแชแล ก่อสร้างเมื่อไรไม่ปรากฏหลักฐาน ตั้งอยู่ในวัดพระธาตุจอมศรี บ้านแชแล ตำบลแชแล อำเภอกุมภวาปี จังหวัดอุดรธานี
- สวนธรรมชาติ (สวนลิง) ตั้งอยู่บ้านดงเมือง ตำบลกุมภวาปี อำเภอกุมภวาปี จังหวัดอุดรธานี มีลิงอาศัยอยู่ประมาณ 300-400 ตัว เป็นแหล่งพักผ่อนและท่องเที่ยวในเขตชุมชนเทศบาลตำบลกุมภวาปี
ขอเชิญนักท่องเที่ยวได้มาเที่ยวชมความงดงามของหนองหาน ได้ตั้งแต่เดือนตุลาคม จนถึงเดือนมีนาคมของทุกปี และที่ไม่ควรพลาด คือ เทศกาล ทะเลบัวแดงบาน หนองหานกุมภวาปี ประจำปี 2553 ในวันที่ 15-17 มกราคม 2553 ณ วัดบ้านเดียม ตำบลเชียงแหว อำเภอกุมภวาปี จังหวัดอุดรธานี “ไผว่าบึงหนองหานฮ้าง ให้จูงแขนเพิ่นมาเบิ่ง แนเด้อ ธรรมชาติงามล้นขอบฟ้า ฟังได้บ่ทอเห็น....พี่น้องเอ้ย”
ขอทราบรายละเอียดและข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ - ที่ทำการปกครองอำเภอกุมภวาปี โทรศัพท์ 0-4233-4446 - สำนักงานเทศบาลตำบลเชียงแหว โทรศัพท์ 0-4223-6022 - นายรักเกียรติ ศรีลาวงศ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านเดียม โทรศัพท์ 08-4798-9016 - นางขันแก้ว แสนนางชน ประธานกลุ่มโฮมสเตย์บ้านเดียม โทรศัพท์ 08-6222-2486 - นางพวงทอง อุดชาชน ประธานกลุ่มโฮมสเตย์บ้านเชียงแหว โทรศัพท์ 08-5458-1075 , 0-4214-3070 - สำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานอุดรธานี โทรศัพท์ 0-4232-5406-7,0-4232-6436
ที่มา ://www.tsdmag.com/forum/index.php?topic=4369.0
Create Date : 07 ธันวาคม 2552 |
|
6 comments |
Last Update : 7 ธันวาคม 2552 15:09:06 น. |
Counter : 1161 Pageviews. |
|
|
|