Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2552
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
 
15 กุมภาพันธ์ 2552
 
All Blogs
 
ล่อง " คลองมหาสวัสดิ์ " สัมผัสเสน่ห์วิถีชุมชน


คลองมหาสวัสดิ์ คลองประวัติศาสตร์เส้นเลือดใหญ่แห่งพุทธมณฑล
ในปีฉลูที่เศรษฐกิจโลกทรุด เศรษฐกิจไทยซบ การเดินทางท่องเที่ยวในประเทศถือเป็นช่อง
ทางการกระตุ้นเศรษฐกิจและการช่วยกระจายรายได้อีกทางหนึ่ง
โดยเฉพาะการท่องเที่ยวชุมชนที่เม็ดเงินส่วนใหญ่ตกถึงชาวบ้านโดยตรง

และนั่นจึงทำให้ทริปนี้"ตะลอนเที่ยว"เปลี่ยนบรรยากาศจากการขึ้นเขา ขึ้นดอย เที่ยวป่า
เที่ยวไพร ที่มาท่องเที่ยวชุมชนในจังหวัดปริมณฑลติดกรุงอย่างนครปฐมที่"คลองมหาสวัสดิ์"
สถานที่ท่องเที่ยวชุมชนที่มีรางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย ปี 2550
(Thailand Tourism Awards 2007)การันตีในคุณภาพ

คลองมหาสวัสดิ์ เปรียบเสมือนเส้นเลือดใหญ่ของ อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม เป็นคลอง
ประวัติศาสตร์ที่ขุดขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 3 เพื่อย่นระการเดินทางไปนมัสการพระปฐมเจดีย์
คลองมหาสวัสดิ์เปรียบเสมือนน้ำหล่อเลี้ยงชุมชนมาเป็นเวลาร้อยกว่าปี
โดยวิถีชีวิตของคนในชุมชนมีความเรียบง่าย ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพการเกษตร ทำสวนผลไม้



ล่องเรือสัมผัสนาบัวอย่างใกล้ชิด
ชาวบ้านในชุมชนคลองมหาสวัสดิ์ส่วนใหญ่จะเป็นคนไทยเชื้อสายจีน มีบ้านเรือนอยู่ริมน้ำหรือ
อยู่ตามเรือกสวนไร่นา ซึ่งแม้วันนี้จะมีถนนตัดผ่านในชุมชน แต่ชาวบ้านก็ยังไม่ทิ้งการเดินทาง
โดยทางเรือ ในทริปนี้เราก็เลือกใช้การเดินทางด้วยเรือเป็นหลัก โดยคณะของ"ตะลอนเที่ยว"
เริ่มต้นที่กลุ่มการท่องเที่ยวเชิงเกษตร บริเวณวัดสุวรรณารามที่เป็นท่าเทียบเรือมาตรฐานเรือที่นี่
1 ลำ สามารถนั่งได้ 6 คนมีบริการเสื้อชูชีพและมีหน่วยกู้ภัยคอยดูแลให้คำแนะนำ
เพื่อความปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยว

ก่อนออกล่องเรือ เราถือโอกาสทำบุญด้วยการซื้ออาหารมาเลี้ยงปลาตัวโตที่
แหวกว่ายอย่างชุกชุมในแม่น้ำบริเวณท่าเรือ เนื่องจากบริเวณนี้เป็นเขตอภัยทานของวัด

จากนั้นเรือก็ค่อยๆแล่นออกจากท่า ผ่านบ้านเรือนของคนในชุมชนคลองมหาสวัสดิ์สองข้างทาง
เราจะเพลิดเพลินไปกับการมองบ้านริมน้ำบ้างเป็นบ้านไม้เก่า บ้างเป็นบ้านปูนสมัยใหม่
บนฝั่งบางช่วงมีเด็กๆวิ่งเล่นสนุกสนานเนื้อตัวมอมแมม นับเป็นสีสันริมคลองที่น่ายลไม่น้อย

สำหรับจุดแรกที่"ลุงอู๋"คนขับเรือพาแวะก็คือ "นาบัว"และจุดสาธิตการทำนาบัวประจำตำบล
ที่ได้รับการสนับสนุนจาก องค์การบริหารตำบลมหาสวัสดิ์



นักท่องเที่ยวเพลิดเพลินกับการล่องเรือชมคลองมหาสวัสดิ์
เมื่อเราไปถึงก็ได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดี ลุงอู๋พาเราไปที่ศาลากลางบ่อปลูกบัว
ตามทางเดินที่เป็นคันดินที่ถมสูงมีความกว้างพอที่จะสามารถเดินสวนทางกันได้
ข้างทางมีต้นผลไม้ เช่นมะม่วง ขนุน ทำให้ทางเดินมีความร่มรื่น

ลุงอู๋ได้เล่าให้ฟังว่า ชาวบ้านที่นี่จะเก็บบัวกันในช่วงเช้าเพราะแดดไม่ร้อน
ที่หากใครมาในช่วงนั้นจะได้เห็นถึงวิธีการต่างๆเกี่ยวกับการทำบัวของชาวบ้าน
ไม่ว่าจะเป็น การเก็บบัว คัดบัว หรือลงบัว ขึ้นอยู่กับจังหวะเวลาที่มา

"บัวส่วนใหญ่ที่ชาวบ้านปลูกเป็นพันธุ์ฉัตรบุศย์หรือฉัตรขาวที่ใช้เฉพาะไหว้พระ ไม่มีเมล็ดบัว
ให้กินเหมือนบัวหลวง บัวที่เก็บแล้วต้องพรมน้ำตลอดเพื่อไม่ให้กลีบบัวเป็นสีดำ"ลุงอู๋อธิบาย

ที่นี่เรารู้สึกว่าน่านอนไม่น้อย เพราะบรรยากาศค่อนข้างเป็นใจ เพราะบนศาลามีลมเย็นสบาย
พัดผ่านตลอด สำหรับนาบัวแห่งนี้นักท่องเที่ยวสามารถลงไปพายเรือชมบรรยากาศได้
แต่ห้ามเด็ดดอกบัวเล่นเด็ดขาด เพราะถือเป็นการทำลายสินทรัพย์ของชาวบ้านที่อุตส่าห์เฝ้า
เพียรทะนุถนอมปลูกมา โดยช่วงเวลาที่น่าพายเรือก็คือช่วงเช้า เพราะอากาศดี แดดไม่ร้อน
แถมบรรยากาศยามเช้าก็ดูโรแมนติกไม่เบา



บ้านเรือนริมคลองมหาสวัสดิ์
หลังเราและชาวคณะพายเรือล่องชมนาบัวแล้ว ลุงอู๋พาเที่ยวต่อไปยังจุด 2 ที่"กลุ่มแม่บ้าน
เกษตรกรมหาสวัสดิ์" เมื่อมาถึงที่นี่ กลุ่มแม่บ้านต่างมาต้อนรับด้วยรอยยิ้มอันอบอุ่น
พร้อมกับหาน้ำเย็นให้ดื่ม

สำหรับกลุ่มแม่บ้านฯมหาสวัสดิ์ เป็นศูนย์จำหน่ายสินค้าโอท็อปชุมชน มีโรงอบกล้วยที่สะอาด
ปราศจากแมลงวัน มีขนมของดี ของดังของจังหวัดนครปฐม เช่นข้าวตังที่ทำจากข้าวกล้อง
ข่าเค็มเสริมไอโอดีน กล้วยอบน้ำผึ้ง มะม่วงปรุงรสและอื่นๆอีกมากมาย ให้นักท่องเที่ยวได้ซื้อ
ติดไม้ติดมือกันเป็นของฝาก พร้อมมีตัวอย่างให้ชิมเพื่อเป็นตัวช่วยในการตัดสินใจในการเลือก
ซื้อเลือกหา นอกจากนี้ยังมีข้าวตังที่ยังไม่ได้ทอดให้นักท่องเที่ยวได้มาลองทอดรับประทานเอง
ตามใจชอบโดยมีกลุ่มแม่บ้านคอยให้คำแนะนำ



ศาลาศูนย์ศึกษานาบัว
เราใช้เวลาในการเดินเลือกซื้อเลือกชมผลิตภัณฑ์และได้รับความรู้จากกลุ่มแม่บ้านและลุงอู๋จน
พอใจ คงเริ่มหิวกันแล้ว เดินกลับมาทางท่าเรือ มีร้านอาหารตามสั่งขอบอกว่ารสชาติใช้ได้เลย
ทีเดียว โดยเฉพาะหอยทอด หรือจะรับประทานอาหารอีสานเช่นส้มตำ น้ำตก ลาบ
ไก่ย่างเฮลส์บลูบอย(ชาวบ้านเรียกกันเองเพราะว่ามีสีแดงอมชมพู)
ไม่ต้องกังวลเรื่องท้องไส้ เพราะมีห้องน้ำสะอาดไว้ให้ใช้บริการ

หลังจากรับประทานอาหารกันอิ่มหนำสำราญแล้ว พวกเราชาวคณะเดินกลับมาลงเรือที่เดิม
ระหว่างนั่งเรือ สามารถสัมผัสได้ถึงความชุ่มชื่นและความอุดมสมบูรณ์ของคลองมหาสวัสดิ์
ถึงแม้แดดจะแรง แต่อากาศกลับเย็นสบายมีลมพัดตลอด



บรรยากาศในสวนกล้วยไม้
ลุงอู๋บอกพวกเราว่าจะพาไปชมจุดต่อไปที่ "สวนกล้วยไม้" ที่มีการตกแต่งพันธุ์กล้วยไม้
โดยเกษตรกรในชุมชน โดยจุดนี้ต้องขึ้นจากเรือแล้วเดินไปบนถนนดินแดงอีกประมาณ 200
เมตรก็จะถึง

สวนกล้วยไม้ ที่นี่มีพื้นที่กว่า 12 ไร่ กล้วยไม้ในนี้แม้ดูเหมือนสวนกล้วยไม้ธรรมดาๆทั่วไป
แต่ว่าความจริงแล้วเป็นกล้วยไม้ที่ไม่ธรรมดาเอาเสียเลย เพราะกล้วยไม้ทั้งหมดของที่นี่ล้วน
ต่างมีการตัดต่อพันธุ์ใหม่ เกิดเป็นพันธุ์ "ทัศนีย์" ที่มีเพียงแห่งเดียวในประเทศไทย
เป็นกล้วยไม้ที่ผิวกลีบดูคล้ายกำมะหยี่ยามสะท้อนแสงดูสวยงาม

นอกจากนี้หากใครสงสัยอะไรเกี่ยวกับกล้วยไม้ก็สามารถขอคำแนะนำจากเจ้าของสวนได้
ไม่ว่าจะเป็น เรื่องวิธีการเลี้ยงกล้วยไม้ วิธีการดูพันธุ์กล้วยไม้
ส่วนใครที่ต้องการต้นกล้วยไม้กลับไปปลูกที่บ้านก็สามารถซื้อได้ที่สวนนี้เลย
รับรองว่าของดี ของแท้ และราคาไม่แพง

จากสวนกล้วยไม้เรามาถึง จุดสุดท้ายของการออกทัวร์คลองมหาสวัสดิ์ ซึ่งลุงอู๋พานั่งเรือย้อน
กลับมาใกล้ๆท่าเทียบเรือวัดสุวรรณาราม เพื่อมาแวะ ชม ชิม ช้อป ผลไม้หลากหลายชนิดจาก
"สวนเกษตรผสมผสาน"บนเนื้อที่กว่า 40 ไร่



ศูนย์โอท็อปชุมชน
ที่นี่มีผลไม้หลากหลายชนิดวางขาย อาทิ ส้มโอขาวทองดีและขาวน้ำผึ้งที่ถือเป็นผลไม้ขึ้นชื่อ
ของจังหวัดนครปฐม กล้วยปลอดสารพิษ 100 เปอร์เซ็นต์ นอกจากนั้นยังมีผลไม้ที่แปรรูป
แล้วมาวางขายเพื่อซื้อกลับไปเป็นของฝากได้อีกด้วย ไม่เพียงแค่นั้นเจ้าของสวนยังเตรียมผล
ไม้ใส่จานจัดเป็นโต๊ะไว้ให้นักท่องเที่ยวรับประทานกันอย่างจุใจ ทั้ง ขนุน มะม่วงแช่อิ่ม
มะกอกแช่อิ่ม ส้มโอ แรกทุกคนดูเหมือนจะเขินๆจน เจ้าของสวนต้องแกล้งขู่ว่าถ้าใครไม่ไป
นั่งกินจะตีให้ขาหัก ซึ่งนับว่าเป็นลูกเล่นพื้นบ้านชวนกินของเจ้าของสวน ที่ทำให้นักท่องเที่ยว
ประทับใจไปตามๆกัน

ความน่าสนใจในจุดสุดท้ายยังไม่หมดเท่านี้ เพราะที่นี่ยังมีกิจกรรมนั่งรถอีแต๋นชมสวนเป็นการ
ปิดท้าย หลายคนอาจมองว่าแค่นั่งรถอีแต๋น ไม่เห็นจะมีอะไรแปลกเลย แต่เมื่อได้ลองนั่งชม
สวนดูก็จะรู้ว่ามันสนุกไม่หยอก เพราะนอกจากบรรยากาศอันน่ารื่นรมย์ของสวนผลไม้ที่นี่แล้ว
เรายังได้พบกับความตื่นเต้นบวกกับลีลาท่าทางของคนขับ ที่ชวนให้ตื่นเต้นกันหลายต่อหลาย
ครั้ง โดยเฉพาะช่วงทางโค้งและช่วงที่ 2 ข้างทางเป็นล่องน้ำ
ดูเหมือนว่าทุกคนในรถจะลุ้นระทึกกันไม่น้อย



ส้มโอใหม่ๆสดๆจากสวน
สำหรับช่วงสุดท้าย ถือเป็นทีเด็ดอีกอย่างหนึ่งของคนขับ คือเขาจะกระโดดลงจากรถแล้วปล่อย
ให้รถวิ่งไปโดยไร้คนควบคุมแบบให้เราใจหายใจคว่ำเล่น ก่อนจะวิ่งบรื๋อกลับมากระโดดขึ้นรถอีก
ครั้ง ซึ่งก็สามารถสร้างความฮือฮาจากผู้โดยสารบนอีแต๋นได้เป็นอย่างดี ก่อนที่อีแต๋นคันเก่งจะ
พากลับมาส่งที่เดิมอย่างสวัสดิภาพ นับเป็นการปิดทริปเที่ยวคลองมหาสวัสดิ์
ทริปใกล้กรุงที่สร้างความประทับใจให้กับผู้มาเยือนได้มาน้อยเลย


ระทึกใจไปกับการนั่งรถอีแต๋นชมสวน

* * * * * * * *

การท่องเที่ยวคลองมหาสวัสดิ์ เพื่อความสะดวกควรติดต่อ"กลุ่มการท่องเที่ยวเชิงเกษตร
ชุมชนคลองมหาสวัสดิ์" หมู่ที่ 1 บ้านสุวรรณาราม ต.ศาลายา อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม
การเดินทางจากกรุงเทพฯ ใช้ทางหลวงหมายเลข 4(เพชรเกษม)วิ่งไปจนถึงแยกพุทธมณฑล
สาย 4 ให้แยกเข้าไปทางศาลายา ผ่านมหาวิทยาลัยมหิดลเข้าสู่ถนนศาลายา-นครชัยศรี
ให้สังเกตป้ายวัดสุวรรณาราม และตามป้ายบอกทางไปเรื่อยๆก็จะถึงยังวัดสุวรรณาราม
จุดล่องเรือและที่ตั้งของกลุ่มการท่องเที่ยวฯคลองมหาสวัสดิ์ ซึ่งผู้สนใจสามารถสอบถาม
ข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่กลุ่มฯ โทร.0-3429-7152,08-1495-9091

สำหรับแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจใกล้เคียงคลองมหาสวัสดิ์ก็มี พิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งไทย
ตลาดน้ำดอนหวาย ซึ่งผู้สนใจสามารถสอบถามข้อมูลแหล่งท่องเที่ยวใกล้เคียงคลองมหาสวัสดิ์
และแหล่งท่องเที่ยวใน จ.นครปฐม ได้ที่ ททท.สำนักงานสมุทรสงคราม
(สมุทรสงคราม,สมุทรสาคร,นครปฐม) โทร.0-3475-2847 - 8

ที่มา GM online


Create Date : 15 กุมภาพันธ์ 2552
Last Update : 15 กุมภาพันธ์ 2552 13:02:26 น. 1 comments
Counter : 1258 Pageviews.

 
น่าสนใจค่ะ
ราคาต่อคนประมาณเท่าไหร่คะ
เจ้าของบล็อกไม่ได้ไปเอง????


โดย: แม่หนูออม IP: 124.121.46.57 วันที่: 15 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:17:40:44 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 200 คน [?]




Friends' blogs
[Add ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.