Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2552
 
8 กรกฏาคม 2552
 
All Blogs
 
ยลเจดีย์สูงสุดในไทย ไหว้พระบรมสารีริกธาตุ “วัดธรรมมงคลฯ”

ท่องเที่ยว,วัดธรรมมงคล

ใครที่เคยผ่านไปผ่านมาในย่านพระโขนง คงจะเคยเห็นเจดีย์รูปทรงสี่เหลี่ยมสีทองตั้งตระหง่านอยู่ท่ามกลางตึกสูง
และอาจทำให้เกิดความสงสัยขึ้นมาว่า เจดีย์องค์นั้นเป็นเจดีย์ของวัดอะไร
และภายในเจดีย์นั้นมีสิ่งที่น่าสนใจอะไรบ้าง

ฉันเองก็เป็นคนหนึ่งที่เคยสงสัยเช่นกัน แต่มาวันนี้ได้รับคำตอบแล้ว
เมื่อได้เดินทางมาที่ “วัดธรรมมงคล เถาบุญญนนท์วิหาร”
และได้มีโอกาสขึ้นไปสำรวจบนเจดีย์องค์นี้มาแล้วเช่นกัน จึงอยากนำมาเล่าสู่กันฟังในวันนี้

ท่องเที่ยว,วัดธรรมมงคล

วัดธรรมมงคลฯนี้แต่เดิมเป็นป่าสะแกมาก่อน แต่เมื่อพระเทพเจติยาจารย์ (หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินธโร )
เจ้าอาวาสวัดได้ธุดงค์ผ่านมาและใช้เป็นที่พักในระหว่างเดินทางเข้ากรุงเทพฯ นายเถา-นางบุญมา อยู่ประเทศ
เจ้าของที่ดินมีจิตศรัทธาจึงถวายที่ให้ จากนั้นจึงได้สร้างเป็นวัดขึ้นเมื่อ พ.ศ.2506

ท่องเที่ยว,วัดธรรมมงคล

จุดเด่นของวัดแห่งนี้ที่ทำให้หลายคนสังเกตเห็นนั้น ก็คือ
เจดีย์องค์สูงใหญ่ หรือ “พระวิริยะมงคลมหาเจดีย์” ซึ่งถือเป็นเจดีย์ที่สูงสุดในประเทศไทยเลยทีเดียว
โดยเหตุของการก่อสร้างนั้นก็เริ่มจากการตั้งสัจจยาธิษฐานของหลวงพ่อวิริ ยังค์ต่อหน้าพระบรมสารีริกธาตุ
ณ วัดโคตะมะวิหาร จังหวัดจิตตกอง ประเทศบังกาลาเทศว่า หากได้รับพระบรมสารีริกธาตุครบ 5 องค์
จะสร้างพระมหาเจดีย์ให้ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยเพื่อประดิษฐานพระพระบรม สารีริกธาตุนั้น
ซึ่งเจตนาเดิมทางบังกาลาเทศจะมอบให้เพียง 1 องค์เท่านั้น แต่แล้วก็กลับตกลงยินยอมมอบให้ 5 องค์ตามประสงค์
หลวงพ่อจึงกลับมาสร้างพระวิริยะมงคลมหาเจดีย์ฯ ตามที่ได้ตั้งใจไว้ โดยใช้เวลา 9 ปีด้วยกันในการสร้างจนสำเร็จ

รูปทรงขององค์เจดีย์นั้นเป็นสี่เหลี่ยม จำลองแบบมาจากพุทธคยา ยอดฉัตรทำด้วยทองคำแท้ประดับเพชร
ภายในแบ่งเป็น 14 ชั้นด้วยกัน ในแต่ละชั้นจะมีอะไรบ้างนั้น ขอเชิญไปชมพร้อมฉันเลยดีกว่า

ท่องเที่ยว,วัดธรรมมงคล

บริเวณชั้น 1 หรือฐานของเจดีย์ มีป้ายติดไว้ว่า “นครธรรม”
เพราะบริเวณนี้เป็นที่ตั้งของ “สถาบันพลังจิตตานุภาพ” หรือโรงเรียนครูสอนสมาธิ
โดยหลวงพ่อวิริยังค์นั้นเคยเป็นลูกศิษย์ของอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ได้เรียนรู้วิชาจากปรมาจารย์ด้านสมาธิ
ท่านจึงต้องการสอนวิชาสมาธิ และสร้างสถานที่ศึกษาและปฏิบัติธรรมให้แก่คนทั่วไป
จึงได้เกิดเป็นสถาบันฯแห่งนี้ขึ้น

เราเริ่มต้นเดินขึ้นไปชมกันที่ชั้น 2 ซึ่งเป็นชั้นของ “วิหารหลวงพ่อองค์ดำ” หรือ “พระพุทธรูป ภ.ป.ร.”
พระพุทธรูปที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วย สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา
สยามบรมราชกุมารี และสมเด็จเจ้าฟ้าจุฬาภรณ์วลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี มาเททองหล่อ
เพื่อเป็นพระประธานในวิหารของพระมหาเจดีย์
พร้อมกับทรงวางศิลาฤกษ์พระวิริยะมงคลมหาเจดีย์ศรีรัตนโกสินทร์ด้วยในคราว เดียวกัน

ท่องเที่ยว,วัดธรรมมงคล

และบริเวณระเบียงรอบวิหารนี้ก็ยังมีพระพุทธรูปสำคัญอีกหลายองค์ เช่น พระอัฎฐาฬส
พระพุทธรูปยืนปางประทานพร สูง 18 ศอก ที่สร้างขึ้นพร้อมกับหลวงพ่อพระองค์ดำ
พระอโศกพญา (หลวงพ่อพันปี) พระพุทธรูปแกะสลักด้วยหินทรายอายุกว่าพันสองร้อยปี
อัญเชิญมาจากบังคลาเทศ รูปหล่อพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต พระสุโขทัยและพระเชียงแสน เป็นต้น

ท่องเที่ยว,วัดธรรมมงคล

ไหว้พระกันเรียบร้อยแล้ว ทีนี้ขึ้นไปเยี่ยมชม “พิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นกรุงเทพมหานคร เขตพระโขนง” กันบนชั้น 3
กันต่อ พิพิธภัณฑ์แห่งนี้แม้มีขนาดเล็ก แต่ก็ทำให้เราทราบถึงประวัติความเป็นมาของเขตพระโขนงได้เป็นอย่างดี
โดยแต่เดิมนั้นพระโขนงเป็นอำเภอหนึ่งขึ้นอยู่กับนครเขื่อนขันธ์ หรือเมืองพระประแดงมาก่อน
แต่ปัจจุบันนี้เป็นส่วนหนึ่งของกรุงเทพมหานคร อีกทั้งยังบอกเล่าถึงเรื่องราววิถีชีวิตชาวบ้านสมัยก่อน
ที่ยังมีพื้นที่ทำ การเกษตร มีการไปมาหาสู่กันโดยทางเรือ และมีข้าวของเครื่องใช้เก่าๆในอดีตจัดแสดงไว้ให้ชมกัน
ทั้งเครื่องมือเกษตร รวมทั้งข้าวของจากสงครามโลกครั้งที่สองเมื่อญี่ปุ่นมาตั้งค่ายอยู่ที่ พระโขนงแห่งนี้ด้วย
และยังมีการแนะนำสถานที่ท่องเที่ยว เช่น วัดวาอารามต่างๆในเขตพระโขนง
และเรื่องราวของแม่นาคพระโขนงก็ถูกพูดถึงในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ด้วยเช่นกัน

ท่องเที่ยว,วัดธรรมมงคล

จากนั้นบนชั้น 4-8 นั้นจะเป็นห้องเรียนปริยัติธรรม ฆราวาสอย่างฉันไม่อยากไปรบกวนการเรียนการสอน
จึงขอขึ้นลิฟท์ข้ามไปรวดเดียวถึงชั้น 9 ซึ่งจัดเป็นพิพิธภัณฑ์ของวัด
เป็นที่รวบรวมข้าวของประเภทพระพุทธรูปเก่าแก่ของวัด เช่น
พระพุทธรูปเชียงแสนหลวง 5 องค์ที่มีความเก่าแก่นับร้อยปี และเครื่องปั้นดินเผาต่างๆ ที่ขุดค้นพบ
ตำราใบลาน รวมไปถึงใบโพธิ์จากต้นพระศรีมหาโพธิ์ พุทธคยา ประเทศอินเดีย
ที่หลวงพ่อวิริยังค์ได้เก็บมาเป็นที่ระลึก เมื่อท่านได้ไปปฏิบัติธรรมที่นั่น อีกด้วย

ท่องเที่ยว,วัดธรรมมงคล

เดินชมข้าวของต่างๆ ในพิพิธภัณฑ์ของวัดตั้งแต่ชั้น 9 จนถึงชั้น 11 แล้ว
เดินขึ้นบันไดถัดมายังชั้น 12 ซึ่งเป็นชั้นที่ไว้ใช้นั่งสมาธิกรรมฐาน
มีรูปวาดอยู่บนผนังแสดงให้เห็นถึงปฏิจจสมุปบาท หรือหลักธรรมที่แสดงให้เห็นถึงกระบวนการเกิด
การดำเนินไป และการดับไปของชีวิต รวมถึงการเกิด การดับแห่งทุกข์ด้วย
อีกทั้งยังมีคำอธิบายเกี่ยวกับอริยสัจ 4 ความจริงอันประเสริฐ 4 ประการ ให้เราได้ทำความเข้าใจกัน

และแล้วเราก็ขึ้นมาถึงชั้นบนสุดขององค์เจดีย์บนชั้น 14 ซึ่งเป็นยอดสุดของเจดีย์และมีความสำคัญที่สุด
เพราะเป็นที่ประดิษฐานพระเกศา พระอุรังคธาตุ และพระบรมสารีริกธาตุที่ได้อัญเชิญมาจากประเทศบังคลาเทศ
ควรขึ้นมากราบไหว้ให้ได้ เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ตัวเอง

ท่องเที่ยว,วัดธรรมมงคล

เมื่อฉันได้ไหว้บูชาพระบรมสารีริกธาตุ และชมวิวทิวทัศน์จากมุมสูงของกรุงเทพฯในย่านพระโขนง
จากชั้นบนสุดของเจดีย์เรียบร้อยแล้วก็กลับลงมาด้าน ล่าง แต่ยังไม่บอกลาวัดธรรมมงคล
เพราะของดียังไม่หมดเพียงเท่านี้ ที่วัดแห่งนี้ยังมีพระหยกเขียวที่ใหญ่ที่สุดในโลกประดิษฐานอยู่ใน
“ศาลาพระหยก” ศาลาหลังคาแบบโดมแก้ว เป็นพระพุทธรูปปางสมาธิ มีความสูง 2 เมตรด้วยกัน
มีนามซึ่งได้รับพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวว่า “พระพุทธมงคลธรรมศรีไทย”
เป็นพระพุทธรูปที่สลักจากหยกชิ้นใหญ่ที่ถูกพบใต้ทะเลสาบน้ำแข็งในประเทศแคนาดา
มีความงดงามมากเลยทีเดียว และบริเวณด้านหลังพระพุทธรูปองค์นี้
ก็ยังมี “พระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์กวนอิมหยก” ประดิษฐานอยู่ในลักษณะทรงยืน มีความงดงามเช่นเดียวกัน

ท่องเที่ยว,วัดธรรมมงคล

วัดธรรมมงคลนี้มีบรรยากาศสงบเงียบเหมาะแก่การมาปฏิบัติธรรม
โดยทางด้านหลังวัด ยังได้จัดทำเป็น “ถ้ำวิปัสสนา” จำลองบรรยากาศการปฎิบัติธรรมในป่าในถ้ำ
มีต้นไม้ล้อมรอบบริเวณที่ให้คนเข้าไปนั่งสมาธิ และฟังธรรมในถ้ำได้อย่างสงบ

สำหรับผู้ที่มีความสับสนวุ่นวายใจ อยากได้ที่สงบๆสำหรับทบทวนความคิดตัวเอง
หรืออยากได้สถานที่ปฏิบัติธรรมดีๆสักแห่ง
เชื่อว่าที่ “วัดธรรมมงคลฯ” นี้คงจะเป็นแหล่งธรรมะที่เหมาะสมเป็นอย่างยิ่ง

* * * * * * * *

วัดธรรมมงคล เถาบุญญนนทวิหาร
ตั้งอยู่ที่ 132 ถนนสุขุมวิท 101 ซอยปุณณวิถี 20 แขวงบางจาก เขตพระโขนง กรุงเทพฯ
สอบถามรายละเอียดโทร.0-2332-4145

โดย : หนุ่มลูกทุ่ง
ที่มา : ผู้จัดการออนไลน์


Create Date : 08 กรกฎาคม 2552
Last Update : 8 กรกฎาคม 2552 20:02:05 น. 2 comments
Counter : 3630 Pageviews.

 
ขอแปะ link ท่องเที่ยวของเราไว้หน่อยนะคับ

เทศกาลปีใหม่โล้ชิงช้า ปีใหม่ของชนเผ่าอาข่า ทัวร์3วัน2คืน เริ่ม 2,3,4,กันยายน52

https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=khundoi&group=3


//www.hilltribeguide.com/autopage/show_page.php?h=1&s_id=3&d_id=4




โดย: guide doi วันที่: 9 กรกฎาคม 2552 เวลา:12:31:00 น.  

 
รัก


โดย: ริน IP: 118.173.242.224 วันที่: 27 พฤศจิกายน 2552 เวลา:14:42:35 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 200 คน [?]




Friends' blogs
[Add ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.